ดูก่อนอานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “นามรูปมี เพราะปัจจัยคือวิญญาณ” ดังนี้,
เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว. ดูก่อนอานนท์ ! ความข้อนี้
เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า “
นามรูปมี เพราะปัจจัยคือวิญญาณ” : ความยังเกิดขึ้นนั่นแหละ
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณ จักไม่ก้าวลงในท้องแห่งมารดา แล้วไซร้;
นามรูปจักปรุงตัวขึ้นมาในท้องแห่งมารดาได้ไหม ? (ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้ว*
จักสลายลงเสียแล้วไซร้; นามรูป จักบังเกิดขึ้น เพื่อความเป็นอย่างนี้ได้ไหม ?
(“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณของเด็กอ่อน ที่เป็นชายก็ตาม เป็นหญิงก็ตาม
จักขาดลงเสียแล้วไซร้; นามรูป จักถึงซึ่งความเจริญ ความงอกงาม ความไพบูลย์บ้างหรือ ?
(“ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้, นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละ
คือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัย ของนามรูป; นั้นคือพระ (the Spirits) วิญญาณ
ดูก่อนอานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป” ดังนี้,
เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว. ดูก่อนอานนท์ ! ความข้อนี้
เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า
“วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูปนั้น” :
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญาณ จักไม่ได้มีที่ตั้งที่อาศัยในนามรูป แล้วไซร้;
ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งทุกข์ คือชาติชรามรณะต่อไป จะมีขึ้นมาให้เห็นได้ไหม ?
(“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”)
ดูก่อนอานนท์ ! เพราะเหตุนั้นแหละ ในเรื่องนี้, นั่นแหละคือเหตุ
นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัย ของวิญญาณ; นั่นคือ นามรูป.
ดูก่อนอานนท์ ! ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลก จึงเกิดบ้าง จึงแก่บ้าง จึงตายบ้าง
จึงจุติบ้าง จึงอุบัติบ้าง : คลองแห่งการเรียก (อธิวจน) ก็มีเพียงเท่านี้,
คลองแห่งการพูดจา (นิรุตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้, คลองแห่งการบัญญัติ (ปญฺญตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้,
เรื่องที่จะต้องรู้ด้วยปัญญา (ปญฺญาวจร) ก็มีเพียงเท่านี้,
ความเวียนว่ายในวัฏฏะ ก็มีเพียงเท่านี้ : นามรูปพร้อมทั้งวิญญาณตั้งอยู่
เพื่อการบัญญัติซึ่งความเป็นอย่างนี้ (ของนามรูปกับวิญญาณ นั่นเอง).
ว่าด้วยเหตุแห่งวิญญาณ.......
เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว. ดูก่อนอานนท์ ! ความข้อนี้
เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า “
นามรูปมี เพราะปัจจัยคือวิญญาณ” : ความยังเกิดขึ้นนั่นแหละ
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณ จักไม่ก้าวลงในท้องแห่งมารดา แล้วไซร้;
นามรูปจักปรุงตัวขึ้นมาในท้องแห่งมารดาได้ไหม ? (ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้ว*
จักสลายลงเสียแล้วไซร้; นามรูป จักบังเกิดขึ้น เพื่อความเป็นอย่างนี้ได้ไหม ?
(“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณของเด็กอ่อน ที่เป็นชายก็ตาม เป็นหญิงก็ตาม
จักขาดลงเสียแล้วไซร้; นามรูป จักถึงซึ่งความเจริญ ความงอกงาม ความไพบูลย์บ้างหรือ ?
(“ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !”);
ดูก่อนอานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้, นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละ
คือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัย ของนามรูป; นั้นคือพระ (the Spirits) วิญญาณ
ดูก่อนอานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป” ดังนี้,
เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว. ดูก่อนอานนท์ ! ความข้อนี้
เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า
“วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูปนั้น” :
ดูก่อนอานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญาณ จักไม่ได้มีที่ตั้งที่อาศัยในนามรูป แล้วไซร้;
ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งทุกข์ คือชาติชรามรณะต่อไป จะมีขึ้นมาให้เห็นได้ไหม ?
(“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”)
ดูก่อนอานนท์ ! เพราะเหตุนั้นแหละ ในเรื่องนี้, นั่นแหละคือเหตุ
นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัย ของวิญญาณ; นั่นคือ นามรูป.
ดูก่อนอานนท์ ! ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลก จึงเกิดบ้าง จึงแก่บ้าง จึงตายบ้าง
จึงจุติบ้าง จึงอุบัติบ้าง : คลองแห่งการเรียก (อธิวจน) ก็มีเพียงเท่านี้,
คลองแห่งการพูดจา (นิรุตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้, คลองแห่งการบัญญัติ (ปญฺญตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้,
เรื่องที่จะต้องรู้ด้วยปัญญา (ปญฺญาวจร) ก็มีเพียงเท่านี้,
ความเวียนว่ายในวัฏฏะ ก็มีเพียงเท่านี้ : นามรูปพร้อมทั้งวิญญาณตั้งอยู่
เพื่อการบัญญัติซึ่งความเป็นอย่างนี้ (ของนามรูปกับวิญญาณ นั่นเอง).