เหตุแห่งการดำรงอยู่ของชีวิต
-บาลี มหา. ที. ๑๐/๗๔/๖๐.
อานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “นามรูปมี เพราะปัจจัย คือวิญญาณ” ดังนี้ เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว.
อานนท์ ! ความข้อนี้ เธอต้องทราบอธิบาย โดยปริยายดังต่อไปนี้ ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า :- “นามรูปมี เพราะปัจจัยคือวิญญาณ”.
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณจักไม่ก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้วไซร้ นามรูปจักปรุงตัวขึ้นมาในท้องแห่งมารดาได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้ว จักสลายลงเสียแล้วไซร้ นามรูปจักบังเกิดขึ้น เพื่อความเป็นอย่างนี้ได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณของเด็กอ่อน ที่เป็นชายก็ตาม เป็นหญิงก็ตาม จักขาดลงเสียแล้วไซร้ นามรูป จักถึงซึ่งความเจริญ งอกงาม ความไพบูลย์บ้างหรือ ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัยของนามรูป นั้นคือวิญญาณ.
อานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป” ดังนี้ เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว.
อานนท์ ! ความข้อนี้ เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า :- “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป”.
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณ จักไม่ได้มีที่ตั้งที่อาศัยในนามรูปแล้วไซร้ ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งทุกข์ คือ ชาติ ชรา มรณะ ต่อไป จะมีขึ้นมาให้เห็นได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัยของวิญญาณ นั้นคือนามรูป.
อานนท์ ! ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลก จึงเกิดบ้าง จึงแก่บ้าง จึงตายบ้าง จึงจุติบ้าง จึงอุบัติบ้าง คลองแห่งการเรียก (อธิวจน) ก็มีเพียงเท่านี้
คลองแห่งการพูดจา (นิรุตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้ คลองแห่งการบัญญัติ (ปญฺญตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้ เรื่องที่จะต้องรู้ด้วยปัญญา (ปญฺญาวจร) ก็มีเพียงเท่านี้
ความเวียนว่ายในวัฏฏะ ก็มีเพียงเท่านี้ นามรูปพร้อมทั้งวิญญาณตั้งอยู่ เพื่อการบัญญัติซึ่งความเป็นอย่างนี้ (ของนามรูปกับวิญญาณ นั่นเอง).
https://etipitaka.com/read/thaipb/11/177/
เหตุแห่งการดำรงอยู่ของชีวิต | พุทธวจน
เหตุแห่งการดำรงอยู่ของชีวิต
-บาลี มหา. ที. ๑๐/๗๔/๖๐.
อานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “นามรูปมี เพราะปัจจัย คือวิญญาณ” ดังนี้ เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว.
อานนท์ ! ความข้อนี้ เธอต้องทราบอธิบาย โดยปริยายดังต่อไปนี้ ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า :- “นามรูปมี เพราะปัจจัยคือวิญญาณ”.
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณจักไม่ก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้วไซร้ นามรูปจักปรุงตัวขึ้นมาในท้องแห่งมารดาได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณก้าวลงในท้องแห่งมารดาแล้ว จักสลายลงเสียแล้วไซร้ นามรูปจักบังเกิดขึ้น เพื่อความเป็นอย่างนี้ได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณของเด็กอ่อน ที่เป็นชายก็ตาม เป็นหญิงก็ตาม จักขาดลงเสียแล้วไซร้ นามรูป จักถึงซึ่งความเจริญ งอกงาม ความไพบูลย์บ้างหรือ ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัยของนามรูป นั้นคือวิญญาณ.
อานนท์ ! ก็คำนี้ว่า “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป” ดังนี้ เช่นนี้แล เป็นคำที่เรากล่าวแล้ว.
อานนท์ ! ความข้อนี้ เธอต้องทราบอธิบายโดยปริยายดังต่อไปนี้ที่ตรงกับหัวข้อที่เรากล่าวไว้แล้วว่า :- “วิญญาณมี เพราะปัจจัยคือนามรูป”.
อานนท์ ! ถ้าหากว่าวิญญาณ จักไม่ได้มีที่ตั้งที่อาศัยในนามรูปแล้วไซร้ ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งทุกข์ คือ ชาติ ชรา มรณะ ต่อไป จะมีขึ้นมาให้เห็นได้ไหม ?
ข้อนั้น หามิได้พระเจ้าข้า !
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ นั่นแหละคือเหตุ นั่นแหละคือนิทาน นั่นแหละคือสมุทัย นั่นแหละคือปัจจัยของวิญญาณ นั้นคือนามรูป.
อานนท์ ! ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลก จึงเกิดบ้าง จึงแก่บ้าง จึงตายบ้าง จึงจุติบ้าง จึงอุบัติบ้าง คลองแห่งการเรียก (อธิวจน) ก็มีเพียงเท่านี้
คลองแห่งการพูดจา (นิรุตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้ คลองแห่งการบัญญัติ (ปญฺญตฺติ) ก็มีเพียงเท่านี้ เรื่องที่จะต้องรู้ด้วยปัญญา (ปญฺญาวจร) ก็มีเพียงเท่านี้
ความเวียนว่ายในวัฏฏะ ก็มีเพียงเท่านี้ นามรูปพร้อมทั้งวิญญาณตั้งอยู่ เพื่อการบัญญัติซึ่งความเป็นอย่างนี้ (ของนามรูปกับวิญญาณ นั่นเอง).
https://etipitaka.com/read/thaipb/11/177/