ริษยาซ่อนร่าง ตอนที่ 18

กระทู้สนทนา
ริษยาซ่อนร่าง


ตอนที่ 18
รักแท้ไม่มีวันตาย


โดย...ล. วิลิศมาหรา


ลักขณาและสามีของเธอปิดฉากชีวิตลงอย่างเหลือเชื่อ พาฝันแทบช็อคเมื่อทราบข่าวร้ายจากบิดาของเพื่อนรัก เธอกับบุรินทร์รีบเดินทางออกจากเมืองกรุงมุ่งสู่โคราชทันที ขณะขับรถตรงไปร่วมงานศพเพื่อนสาว พาฝันได้รับสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หมายเลขที่โทรเข้าโชว์ว่าเป็นเบอร์ของลักขณา ทีแรกเธอคิดว่ามีใครใช้โทรศัพท์ของลักขณาโทรมาหาเธอ แต่แล้วพาฝันต้องช็อคเป็นครั้งที่สองเมื่อกรอกเสียงถามลงไป เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาเป็นเสียงของลักขณา!

เพื่อนรักคงติดต่อมาหาด้วยความผูกพัน หญิงสาวร่ำไห้อาลัยเพื่อนตั้งแต่วินาทีนั้นเรื่อยมา

ส่วนศพของอรวีนั้น หลังการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดต่อหาญาติมารับศพกลับไปได้ ญาติห่าง ๆ ของหญิงเคราะห์ร้ายได้นำไปบำเพ็ญกุศลยังบ้านเกิดแถวสระบุรี ซึ่งพอดีว่าไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก

พาฝันกับบุรินทร์ลางานมาร่วมพิธีศพของลักขณาและพิภพตั้งแต่วันแรกจนถึงวันฌาปนกิจศพ นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอจะสามารถทำให้เพื่อนรักได้ หลังเสร็จสิ้นพิธีทั้งคู่จึงขับรถกลับเข้ากรุงเทพ

พยาบาลสาวนึกเสียใจที่ตัวเองมีส่วนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมร้ายแรงครั้งนี้ขึ้น นี่ถ้าเธอไม่เข้าไปจุ้นจ้านกับครอบครัวเพื่อนรัก บางทีลักขณากับสามีอาจมีทางออกจากปัญหาทางอื่น ที่ไม่ใช่มาพบจุดจบจากอุบัติเหตุแบบนี้ หญิงสาวเสียใจอย่างหนักจนทานข้าวปลาไม่ลงตลอดพิธีทำศพของเพื่อน เธอพยายามกล้ำกลืนน้ำตาช่วยบิดาของเพื่อนรักจัดการงานศพจนเสร็จเรียบร้อยด้วยดี

ตลอดทางที่ขับรถกลับบ้านหญิงสาวเอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญกับสามี  

“ระงับอกระงับใจเสียบ้างเถอะแพม พวกเขาตายจากรถชนกันนะ ไม่ใช่ฆ่ากันตาย โทษตัวเองแบบนี้ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก ถ้าอยากชดเชยว่ามีส่วนทำให้อุ้มตายก็หมั่นทำบุญให้อุ้มสิ คนตายไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ เอาประสบการณ์ครั้งนี้ไว้คอยเตือนใจตัวเองก็พอ ทีหน้าทีหลังจะทำอะไรต้องใคร่ครวญให้รอบคอบ อย่าทำซ้ำรอยเดิมอีกก็แล้วกัน”

บุรินทร์สั่งสอนภรรยา หลังเพื่อนรักตาย เขากับเธอเศร้าโศกมาก แต่ก็เข้าใจดีว่าสิ่งที่พาฝันทำลงไปนั้นเป็นเพราะหวังดีต่อเพื่อน บุรินทร์จึงไม่ได้ซ้ำเติมเธออีก แค่พูดเตือนสติสั้น ๆ ก่อนปล่อยให้ภรรยาร่ำไห้ต่อไปจนเงียบเสียงลง

เมื่อมาถึงบ้านกลางดึก ชายหนุ่มคนขับเหน็ดเหนื่อยจากการขับรถระยะทางไกล บุรินทร์จึงแยกตัวไปอาบน้ำแล้วเตรียมตัวเข้านอนทันที ส่วนพาฝันพาร่างอันอ่อนระโหยโรยแรงจากการเป็นแม่งานจัดงานศพให้เพื่อนรัก มาล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้ยาวในห้องรับแขก ไม่มีแก่ใจขึ้นไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า แทบไม่อยากเชื่อเลยว่า ขณะนี้เธอได้สูญเสียเพื่อนรักไปอีกคนแล้วพร้อมทั้งสามีของเพื่อน หญิงสาวนอนเหยียดยาวอยู่ที่เก้าอี้ยาวตัวเดิม เธอวนเวียนครุ่นคิด จมปลักอยู่กับความเศร้า

แวบหนึ่งของความคิดหมกมุ่น พาฝันนึกถึงยามโศกเมื่อครั้งอดีตนานมาแล้ว...ถ้าเขาคนนั้นยังอยู่เคียงข้าง เธอคงได้ซบซุกอกอุ่น มือแข็งกระด้างสาบกลิ่นน้ำมันรถเหม็น ๆ ลูบไล้ศีรษะอ่อนโยน...หญิงสาวสะอื้นไห้ ทำไมตอนนี้เธอเกิดคิดถึงเรื่องราวสมัยวัยรุ่นขึ้นมาติดหมัด อาจเพราะในครั้งนั้น เธอมีความสุขอยู่กับผองเพื่อนทั้งห้าและเขา...เกรียน

พาฝันนอนร้องไห้จนกระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย



ที่นี่คือที่ไหนกัน...

พาฝันหันมองรอบตัวอย่างงุนงง สายตากวาดมองรอบข้าง หญิงสาวนึกประหลาดใจที่จู่ ๆ เธอก็มายืนอยู่ลำพังบนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่นี้ พื้นหญ้าสีเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ประดับไปด้วยมวลดอกหญ้าดอกเล็ก ๆ สีสวยอ่อนหวาน มีทั้งสีขาวบริสุทธิ์ สีม่วงและชมพู สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง โอ้...ที่นี่ช่างงดงามราวภาพนิรมิต

เธอแหงนหน้ามองท้องฟ้าสีคราม มันแต่งแต้มด้วยปุยขาวของก้อนเมฆลอยเลื่อน แสงแดดยามเช้าสาดส่องอบอุ่นกระทบผิวกาย พอก้มลงมองตัวเอง รอยยิ้มอิ่มเอมปรากฏบนใบหน้า เธออยู่ในชุดกระโปรงย้วยบานสีสวยราวขนมหวาน สองมือลูบเรือนผมก็เจอหางเปียสองข้าง แว่นสายตาสั้นยังอยู่ที่ดั้งจมูก...นี่เธอกลับมาเป็นเด็กสาวพาฝันอีกครั้งหรืออย่างไร หญิงสาวจับชายกระโปรงเหวี่ยงตัวหมุนไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น

“แพม...”

ฉับพลันได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้น เสียงนั้นพาฝันจำได้ขึ้นใจ หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกในทันใด

“เกรียน...”

เธอยืนตะลึง สายตาจับจ้องมองภาพชายหนุ่มผมเกรียนข้างหน้า เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนส์เปื้อนคราบน้ำมันเครื่องรถ ใบหน้าคมสันพร้อมรอยยิ้มมุมปากข้างเดียว เป็นเขาจริง ๆ ชายเดียวในดวงใจเธอเสมอมา...ปวุฒิ

ชายหนุ่มก้าวเข้ามาหาเธอทีละก้าว...ทีละก้าว เขาเดินใกล้เข้ามาแล้ว แต่พาฝันกลับยืนขาแข็ง นิ่งงันอยู่ที่เดิม ในอกอุธัจไปด้วยความรู้สึกตื้นตัน ในที่สุดเขาก็กลับมาหาเธอแล้ว...

พึมพำเรียกชื่อเขาแผ่วเบาซ้ำ ๆ ชื่อนี้ที่ใจเธอร่ำร้องโหยหามานาน

จนกระทั่งเขามาหยุดยืนตรงหน้า ในมือถือดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่งมาด้วย เขายื่นมันส่งให้เธอด้วยดวงตาคมเป็นประกายกล้า  

“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะแพม ฉันรักเธอ”

น้ำใสรื้นขอบตาก่อนหยาดรินร่วงพรู ริมฝีปากหนักอึ้งเกินกว่าจะขยับพูดจาสิ่งใด ได้แต่รับเอาดอกกุหลาบดอกนั้นมาจากเขา...

แต่ทันใดนั้น ปวุฒิส่งเสียงร้องดังลั่น ร่างกายของเขาราวถูกมือลึกลับดึงกระชากให้ลอยคว้างขึ้นไปกลางอากาศ ชายหนุ่มอ้าปากร้องโหยหวน สองมือไขว่คว้า สองขาเตะถีบดิ้นรน ก่อนร่างของเขาวูบหายวับไปจากสายตา

กรี๊ดดดด อย่านะ อย่าเอาเขาไป....

พาฝันตกใจสุดขีดต่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด เธอวิ่งไล่ตามร่างชายคนรักที่ลอยหาย หญิงสาวล้มลุกคลุกคลาน สองแขนชูขึ้นพยายามคว้าตัวของเขาเอาไว้ แต่ไม่ทันการณ์ ร่างของปวุฒิลอยคว้าง ก่อนสูญสลายหายไปในอากาศธาตุ ไม่เหลือให้เห็นแม้เงา

“เกรียน อย่าทิ้งฉันไป”

ในที่สุดเธอก็หมดแรงทรุดลงกองกับพื้น ทำได้เพียงแหงนเงยแลหาร่างชายคนรัก ครั้นหาไม่พบ หญิงสาวร่ำไห้โฮคร่ำครวญออกมาดัง ๆ เกรียน...ทำไมเราถึงพลัดพรากจากกันอีกแล้ว ฟ้าท่านกลั่นแกล้งเราอยู่หรืออย่างไร

“อย่าเสียใจไปเลยแพม” เสียงคุ้นหูของผู้หญิงดังขึ้นข้างหลัง พาฝันหันมามองต้นเสียง นาทีนั้นเธอต้องเบิกตาโต ประหลาดใจต่อภาพตรงหน้า

“ฝน แก้ม อุ้ม พวกเธอยังไม่ตายหรือนี่”

เธอเห็นเพื่อนรักทั้งสามยืนมองเธออยู่ไม่ไกล แสงสินีส่งรอยยิ้มคมขำมาให้ กวินตามองมาด้วยดวงตาคู่สวยหวานซึ้งของเธอ ส่วนลักขณาซึ่งยังคงเป็นเด็กสาวร่างอวบก็กำลังกอดเอวกวินตามองมาเช่นกัน

“พวกเราตายไปแล้วแพม” เสียงใสของแสงสินีตอบกลับ ร่างเปรียวขยับเข้ามาใกล้

“แต่แกอย่ากลัวพวกเราเลย เรามาดี”

เพราะกิริยาท่าทาง ตลอดจนรูปร่างหน้าตาที่เหมือนคนปกติทุกอย่างของเพื่อนสนิททั้งสามจึงทำให้พาฝันไม่รู้สึกหวาดกลัวเพื่อนรัก ทั้งที่ภายใต้จิตสำนึก ของเธอรับรู้ว่าบรรดาเพื่อนสาวได้ตายไปแล้ว

“พวกเราเป็นห่วงแก แก๊งค์เราเหลือแค่แกกับเต้ย”

“ฝน แกพูดถึงเรื่องอะไรกัน”

พาฝันค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แต่ทันใดนั้นเธอก็ต้องแปลกใจมากขึ้นไปอีก ด้วยความรู้สึกวิงเวียนมึนงง หญิงสาวพบว่าทุ่งหญ้าที่เธอยืนอยู่กำลังเปลี่ยนไป บรรยากาศรอบข้างกลับกลายเป็นห้องเรียนสมัยมัธยมปลาย หญิงสาวรู้สึกตัวว่าพวกเธอกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะเรียน ขณะนี้ลักขณานั่งคู่กับกวินตา โดยมีแสงสินียืนอยู่ข้าง ๆ ส่วนเธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ เบื้องหน้าของลักขณา

“แกดูนี่นะแพม” ครั้นแล้วลักขณาชูไพ่สำรับหนึ่งในมือขึ้นให้เธอดู พึ่งสังเกตเห็นว่า นาทีนี้ช่างคล้ายกันกับตอนที่ลักขณาชวนเล่นทำนายไพ่ก่อนสอบเข้ามหาวิทยาลัย

“พวกแกจับได้ไพ่คนละใบ” ลักขณาเท้าความ

“แกจับได้ไพ่เทพแห่งความรัก THE LOVERS ฉันทำนายว่าแกกำลังมีความรัก แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ต้องระวังเรื่องชิงสุกก่อนห่ามน่ะ จำได้ไหม เต้ยได้ไพ่เทพแห่งการบูชายัญ THE HANGED MAN หมายถึงตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก เต้ยต้องเสียสละซึ่งเขาได้ทำแบบนั้นไปแล้ว เต้ยเสียสละให้ฝนไปสู่ภพใหม่ ส่วนฝนได้ไพ่ หญิงสาวผู้แข่งแกร่ง THE STRENGTH เพื่อเอาชนะอุปสรรค ต่าง ๆ อาจต้องเจ็บปวดใจหรือลำบากเสียก่อน ซึ่งฝนกำลังต่อสู้ พยายามช่วยแกอยู่ นังแก้มได้ไพ่ เทพีแห่งพรหมลิขิต WHEEL OF FORTUNE โชคชะตาอาจเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ แต่แก้มมันหยิบไพ่ซ้อนกันสองใบ ไพ่อีกใบคือ เทพแห่งความตาย DEATH แก้มเลยต้องตายก่อน

ส่วนฉัน...หลังจากที่พวกแกกลับบ้านไปแล้วฉันก็เลือกไพ่มาใบหนึ่งแกรู้ไหมแพม ไพ่ใบสุดท้ายที่ฉันเลือกจะเป็นไพ่กำหนดโชคชะตาของคนที่ฉันดูไพ่ให้ทั้งหมด ฉันเลือกได้ไพ่เทพแห่งความตาย DEATH อีกครั้ง แพม แกฟังให้ดีนะ บอมได้ไพ่เทพจักรพรรดิ THE EMPERROR ที่จริงเขาจับได้ไพ่ที่มีความหมายดีมาก แต่อิทธิฤทธิ์ของไพ่ใบสุดท้ายที่ฉันจับได้มีพลังเหนือกว่า ดังนั้นแกต้องระวังตัวให้ดี”

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่