ริษยาซ่อนร่าง ตอนที่ 13

กระทู้สนทนา




ริษยาซ่อนร่าง ตอนที่ 13


ทางรักหลอนสยองของลักขณา


ระหว่างนั่งรถกลับบ้านด้วยกันกับบุรินทร์ พาฝันนั่งนิ่งเงียบ หญิงสาวครุ่นคิดคำนึงถึงหลายเรื่องราวของบรรดาผองเพื่อน ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ขณะยังใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลาย จวบจนตอนนี้ต่างมีงานทำและมีครอบครัว บุรินทร์รักเธอดีและทำทุกอย่างให้เธอมีความสุข ชายหนุ่มทุ่มเทเอาใจภรรยาเพราะรู้ดีว่า ซอกหลืบในใจลึก ๆ ของพาฝันแอบซ่อนใครอยู่

บริรักษ์หรือไบร้ท์ลูกชายคนเดียวของทั้งคู่กำลังแตกเนื้อหนุ่มย่างสู่วัยรุ่น น่าแปลกที่เด็กหนุ่มสนใจความเร็วของเครื่องยนต์และการตกแต่งรถมากกว่าสิ่งอื่น มากยิ่งกว่าดนตรีและกีฬาอย่างที่บุตรหลานของเหล่าเพื่อนร่วมอาชีพนิยม ทั้งที่ครอบครัวตลอดจนบริบทแวดล้อมไม่เกี่ยวข้องอะไรกับด้านนี้เลย บริรักษ์มีหัวทางดัดแปลงตกแต่งรถจักรยานยนต์และรถยนต์เกินกว่าเด็กอายุสิบห้าปีจะทำได้ ซึ่งทั้งบุรินทร์และพาฝันก็ไม่ได้ขัดขวางพรสวรรค์ด้านนี้ของลูกชาย แต่ไม่สนับสนุนให้แข่งความเร็วเด็ดขาด นอกจากชอบแต่งรถแล้วบริรักษ์ตั้งใจเรียนดีไม่มีเกเร เด็กหนุ่มมุ่งมั่นอยากเป็นวิศวกรเครื่องกลเพราะรักชอบทางนี้
นับได้ว่าครอบครัวของเธอไม่มีปัญหา แต่ครอบครัวของลักขณานั้นยังน่ากังวล คิดแล้วพาฝันก็ทอดถอนใจออกมาเฮือกใหญ่

"ถอนใจทำไม" บุรินทร์ละสายตาจากถนนหันมามองภรรยาแล้วถามอย่างห่วงใย

"เรื่องร้าย ๆ ของสามคนนั่นจบไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเรื่องนังอุ้ม แล้วนี่เราจะทำยังไงดี ที่ไปเจอผัวมันพาเมียน้อยไปฝากท้อง แพมบอกอุ้มดีไหม"

ใบหน้าของพยาบาลสาวยังไม่คลายเคร่งเครียด เรื่องราวร้ายแรงของเหล่าเพื่อนสนิทยังไม่หมดลงแค่นี้ ก่อนหน้าจะมาหาเอกกวีและแสงสินีจนพบเรื่องผีปีศาจ ตกอยู่ในสถานการณ์สยดสยองแทบเอาชีวิตไม่รอด พาฝันมีอาการปวดท้องน้อยและประจำเดือนมามากผิดปกติ แต่เพราะมีความรู้ด้านโรคภัยไข้เจ็บ เธอแน่ใจว่าตัวเองมีความผิดปกติทางนรีเวช ดังนั้นจึงเข้ารับการตรวจภายในสตรีที่โรงพยาบาลเฉพาะทางชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่น พาฝันพบกับเรื่องไม่คาดฝัน ผู้ชายคนหนึ่งพาภรรยามาฝากครรภ์โดยไม่ทันสังเกตว่าเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย สามีพาภรรยาสาวสวยมารับการตรวจครรภ์ไม่ใช่เรื่องแปลก...ถ้าผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่พิภพ สามีสุดที่รักของลักขณา

"อย่าพึ่งดีกว่า" นายแพทย์บุรินทร์บอกภรรยา

"เราไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยัน เดี๋ยวอุ้มมันก็หาว่าเราใส่ความผัวมันเอาหรอก"

"แล้วจะปล่อยให้อุ้มมันโดนผัวหลอกอยู่แบบนี้เหรอ ฝ่ายนั้นเขากำลังมีลูกด้วยกันนะบอม อุ้มมันเป็นหมันมีลูกให้พิภพไม่ได้ ต่อไปคงแย่ เพราะทางนั้นเขามีโซ่ทองคล้องใจ"

"มันเรื่องของครอบครัวเขาน่า เราเป็นคนนอก ปล่อยให้เขาจัดการกันเองเถอะ" คำพูดของสามีทำเอาพาฝันตาขวาง ไม่น่าเชื่อว่าบุรินทร์จะเฉยเมยกับเรื่องเลวร้ายของเพื่อนสนิทได้ลงคอ

"แต่อุ้มเป็นเพื่อนเรานะ บอมทนเห็นเพื่อนถูกหักหลังได้เหรอ ผัวมันมีเมียน้อย และกำลังจะมีลูกด้วยกันอีกด้วย ปิดบังมันไว้ อีกหน่อยอุ้มโดนผัวทิ้งแน่ ถึงตอนนั้นมันคงโกรธเราที่ไม่ยอมบอกความจริง อ้อ หรือว่าบอมเลือกเข้าข้างผู้ชายด้วยกัน"

"อ้าว ไหงมาลงที่บอมล่ะ แค่เตือนว่าเรื่องของผัวเมีย เราเข้าไปยุ่งมากมันไม่ดี ตอนทะเลาะกันก็ฟังเรา แต่พอคืนดีกันได้ คนนอกกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลยทั้งนั้น แต่ถ้าแพมเป็นห่วง จะบอกเรื่องนี้ให้อุ้มรู้ก็ตามใจเถอะ แล้วอย่าลืมเผื่อใจรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดไว้ด้วย ถ้าอุ้มมันเกิดสติแตกขึ้นมาแล้วทำอะไรรุนแรงลงไป"

คำเตือนของสามีนับว่าเป็นเหตุเป็นผล พยาบาลสาวครุ่นคิดอย่างหนัก เธอควรบอกเรื่องนี้กับเพื่อนดีหรือไม่ แต่ภาพโอบประคองกันอย่างทะนุถนอมของชายหญิงคู่นั้นมันช่างขัดใจ ยิ่งนึกยิ่งให้แค้นเคืองแทนเพื่อนสนิท ในที่สุดพาฝันก็โพล่งขึ้นว่า

"แพมจะจ้างนักสืบเอกชนสืบเรื่องนี้ เอาหลักฐานให้อุ้มมันดู แพมต้องช่วยเพื่อนจนถึงที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม"



อีกด้านหนึ่ง ลักขณาและพิภพสามีรูปหล่อของเธอกำลังขับรถเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทาง ผู้จัดการหนุ่มของห้างสรรพสินค้าชื่อดังพาลักขณาแวะทานอาหารในร้านซีฟู้ดเจ้าอร่อย เพราะภรรยาของเขาเปรยว่าอยากทานอาหารทะเลและน้ำจิ้มรสแซ่บ บอกด้วยว่าอาการอยากของทะเลรสจัดเกิดขึ้นกะทันหันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลักขณาเล่าด้วยดวงตาเป็นประกายเจิดจรัสและรอยยิ้มเปรมปริ่ม ประโยคปิดท้ายของเธอทำเอาสามีรูปหล่อเบิกหน่วยตากว้าง

"ประจำเดือนอุ้มขาดไปเดือนกว่าแล้ว เราอาจจะมีลูกด้วยกันเสียทีก็ได้"

ความจริงพิภพควรยินดีที่จะมีทายาทไว้สืบสกุลเสียที หลังเฝ้ารอจนแทบถอดใจ สองสามีภรรยาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลักขณาตั้งครรภ์ ทั้งทางวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ นาทีนี้เมื่อได้ยินข่าวดีจากปากภรรยา ที่ถูกต้องเขาควรดีใจมากกว่านี้ ถ้าเพียงแต่เขาจะไม่มีผู้หญิงอีกคน...พิภพกำลังนึกถึงผู้หญิงน่าสงสารคนนั้น...อรวี

หลังแต่งงานกับลักขณา ดาวมหาวิทยาลัยแสนสวย ซึ่งเขาพึงใจที่สุดเมื่อสิบห้าปีก่อน ตอนนั้นพิภพคิดว่าเขาช่างเป็นผู้ชายโชคดี ภรรยาของเขาทั้งสวยทั้งเก่งแถมพ่อตารวย ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ ทั้งคู่มีหน้าที่การงานดี ๆ ทำ โดยเฉพาะพิภพ ชายหนุ่มก้าวหน้าในสายอาชีพอย่างน่าอิจฉา เพราะมีเส้นสายจากญาติซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของศูนย์การค้าชื่อดัง เพียงทำงานไม่ถึงสิบปี พิภพก็สามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสถานที่ได้ ซึ่งคงเพราะชายหนุ่มมีฝีมือด้วย มิเช่นนั้น บอร์ดบริหารคงไม่เสี่ยงอนุมัติตำแหน่งนี้ให้เขาง่าย ๆ

ในความเพียบพร้อมทุกด้าน ใครเลยจะนึกว่า ชายหนุ่มรูปหล่อฐานะดีและมีภรรยาสาวสวยจะมีวันนี้ วันที่เขาเข้าตาจนและแทบหมดหนทางไป

เรื่องราวยุ่งเหยิงในชีวิตเริ่มต้นขึ้น เมื่อตำแหน่งเลขานุการที่ว่างลงของเขามีอรวีก้าวเข้ามารับทำหน้าที่นี้ ความยุ่งยากเริ่มก่อตัวขึ้นในวันที่สิบสี่ เดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา...วันนั้นมันคือวันวาเลนไทน์  

เลขานุการคนใหม่ของพิภพเข้ามาทำงานกับเขาได้เกือบสองปี เธอเป็นหญิงสาวแสนสวยและเซ็กซี่ แต่งตัวดี มีบุคลิกภาพอบอุ่น เป็นมิตร และยังคล่องแคล่วว่องไว สิ่งไหนที่เจ้านายสั่งหญิงสาวจัดการได้อย่างรวดเร็วทันใจ อีกทั้งไม่เคยผิดพลาด ที่สำคัญเธอเป็นคนช่างสังเกต ปากหวานแถมเอาใจเก่ง

วันนั้นอรวีหอบเอกสารมาให้เขาเซ็นที่โต๊ะทำงานเหมือนทุกวัน

เลขาคนสวยพบเจ้านายหนุ่มกำลังนั่งหลับตาพริ้ม ศีรษะเงยพักอยู่กับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ เธอเดินเข้าไปใกล้เพราะนึกห่วงใยในท่าทีอ่อนล้าของเขา แต่ยังไม่กล้ารบกวน เพียงยืนสังเกตเงียบ ๆ

จนกระทั่งผู้จัดการรูปหล่อรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมอง ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้น ทั้งสองประสานสายตากัน พิภพเห็นแววอาทรเปี่ยมล้นในดวงตาคู่นั้นก็ยิ้มให้

“บอสคงเหนื่อยมาก” อรวียิ้มตอบ ถามอย่างใส่ใจในความลำบากของเขา

“อืม ก็มีล้าบ้าง ทุกงานดูเหมือนต้องเร่งมือเพราะล่าช้ามานาน ปล่อยให้แผนกดูแลกันเองไม่ได้เสียแล้ว ผมต้องลงไปสั่งการเอง”

“อรทราบค่ะ เอ้อ เรื่องการประชุมพรุ่งนี้ อรจัดการเรื่องเอกสาร ติดต่อห้องประชุม ประสานงานหัวหน้าแผนกทุกแผนกที่จะประชุมพรุ่งนี้หมดแล้วนะคะ”    

ชายหนุ่มผงกศีรษะอย่างพอใจ อรวีทำงานเก่ง มีความเสียสละและรู้ใจเจ้านายไปเสียทุกอย่าง เพียงเวลาไม่นานที่ได้ร่วมงานกัน ก็ทำให้เขานึกชอบใจเธอเป็นอันมาก

“ดีแล้ว เดี๋ยวผมขอพักสายตาสักครู่ก่อน คุณเอาแฟ้มมาวางแล้วไปทำงานต่อเถอะ” หญิงสาวรับคำเบา ๆ ก้าวเข้ามาจัดเรียงแฟ้มเอกสารเพื่อง่ายต่อการเซ็นชื่อให้เจ้านายด้วยท่าทางซึมเซา

พิภพมองหน้าเลขาคนโปรดพลางนึกแปลกใจ ปกติอรวีจะกระฉับกระเฉง ใบหน้าสวยคมแย้มยิ้มเป็นนิจ แต่วันนี้เธอเข้ามาด้วยท่าทางหงอย ๆ ไม่สดชื่นเหมือนเคย ทุกครั้งเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มมีท่าทางเหนื่อยล้า เลขาสาวมักยิ้มแย้มแจ่มใส ชักชวนพูดคุยให้เขาขำขัน และมีถ้อยคำให้กำลังใจเป็นประจำ แต่วันนี้เธอเงียบขรึมลงราวมีเรื่องไม่สบายใจ

ความใกล้ชิดบวกกับความสวยและกิริยาอ่อนหวาน ช่างเอาอกเอาใจของอรวี ทำให้ผู้จัดการหนุ่มวัยสามสิบเก้าปีรู้สึกประทับใจ พิภพผูกพันกับเธออย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นความผิดปกติก็อดนึกเป็นห่วงไม่ได้ จึงถามน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่สบายหรือเปล่า ถ้ารู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องหอบงานไปทำต่อที่บ้านนะ พักผ่อนให้เต็มที่เถอะ”คำถามบอกถึงความห่วงใย

“ปวดหัวนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ อรไม่ได้เป็นอะไรมาก” ปากบอกปฏิเสธแต่แววตาแห้งแล้งขณะมองมา ทำให้พิภพรู้สึกว่าอรวีกำลังปิดบังความทุกข์เอาไว้ข้างใน

“หรือว่ามีเรื่องไม่สบายใจ อรเล่าให้ผมฟังก็ได้นะ”

น้ำเสียงอ่อนโยนของเจ้านายที่แสดงถึงความสนใจใยดี ทำให้ทันใดนั้น อรวีปล่อยร่ำไห้โฮออกมา พลางยกมือเรียวงามขึ้นพนมไหว้ขอบคุณเขา

“ขอบคุณค่ะบอส...แต่บอสขา อย่าทำอย่างนี้เลย...” เธอบอกเสียงสะอื้น ริมฝีปากงามสั่นระริก

“หืม...ผมทำอะไร แล้วอรร้องไห้ทำไม” พิภพตกใจต่อท่าทีของเลขาสาว เขาผงกตัวขึ้นจากท่านั่งเอนหลังแล้วถามอย่างแปลกใจ        
  
“อย่าดีกับอรให้มากนักเลย อย่าพูดอ่อนโยนแบบนี้ อย่ามาห่วงใย อร...อรทรมานเหลือเกินกับท่าทางแบบนี้ คำพูดแบบนี้ของบอสค่ะ”

“อรหมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มมึนงงที่จู่ ๆ อรวีก็ร่ำไห้ ซึ่งสิ่งที่หญิงสาวคร่ำครวญนั้นเขาไม่เข้าใจสักนิด    

“พี่ภพขา” สาวสวยตรงหน้าเรียกชื่อเขาแทนสรรพนามที่เคยเรียกพลางสะอื้นฮัก

“เพราะพี่เป็นคนดี พี่ดีกับอร จนอร...รักพี่ค่ะ อร...ขอโทษ”

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่