ริษยาซ่อนร่าง ตอนที่ 14

กระทู้สนทนา




ริษยาซ่อนร่าง


ตอนที่ 14


หายนะรัก


โดย...ล. วิลิศมาหรา


“แกมีอะไรกับฉันเหรอแพม เรื่องดีหรือร้าย ทำไมถึงกำชับให้ออกมาพบให้ได้”

ในร้านกาแฟหรูติดกับสำนักงานของลักขณา ประชาสัมพันธ์สาวถามทันทีที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเพื่อนรัก พาฝันโทรศัพท์ไปหาและขอร้องแกมบังคับให้เพื่อนสาวสละเวลาออกมาพบ เธอบอกลักขณาว่ามีเรื่องสำคัญจะเล่าให้ฟัง น้ำเสียงจริงจังของเพื่อนทำให้หญิงสาว ต้องยอมปลีกตัวออกจากที่ทำงานมาพบตามนัด

พาฝันไม่ตอบคำถามเพื่อนรัก แต่กลับวางซองกระดาษสีน้ำตาลขนาดบรรจุกระดาษ A4 ได้ไว้ให้บนโต๊ะ ลักขณามองหน้าเพื่อนอย่างงุนงง พาฝันพยักพเยิดให้เธอเปิดดู หญิงสาวจึงหยิบซองนั้นขึ้นมาเปิดออก

ภายในซองบรรจุภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดหลายภาพ ลักขณาเทรูปภาพทั้งหมดออกจากในซองลงกองบนโต๊ะ ก่อนหยิบภาพหนึ่งในนั้นขึ้นมาดู ทันที่ที่เห็นบุคคลในภาพ หญิงสาวเกิดอาการหัวใจสะดุดไปชั่วขณะ เลือดในตัวเย็นเฉียบ ตาทั้งคู่เบิกโตจ้องเขม็งไปยังภาพถ่ายในมือ...ชูภาพเข้าใกล้แล้วเขม้นมองชัด ๆ อย่างให้แน่ใจ...นั่นมัน พิภพกับเลขานุการของเขานี่ ลักขณาร่ำร้องในใจ ในภาพคนทั้งคู่กำลังโอบประคองกันลงจากรถด้านนั่งข้างคนขับ กิริยาท่าทางไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องสักนิด แต่เป็นคนรักหรือสามีภรรยาปฏิบัติต่อกันมากกว่า

“นี่มันอะไรกัน แพม”

ลักขณาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ตาโตจ้องมาอย่างแตกตื่น พร้อมกับคำถามร้อนรนดังออกจากปาก พาฝันซึ่งรอทีอยู่แล้วพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนตอบเสียงเรียบ

“ผัวแกมีเมียน้อย” คำบอกเล่าประโยคนั้นของเพื่อนสนิททำหัวใจลักขณาหล่นวูบ ก่อนเจ็บจี๊ด แสบร้อนไปทั้งทรวงในราวถูกน้ำมันร้อน ๆ ราดรด เกิดอาการหายใจหอบเร็วจนหน้าอกกระเพื่อม เธอถามเพื่อนซ้ำเสียงสูง

“แกว่าไงนะแพม พูดใหม่อีกทีสิ” พาฝันสบตาเพื่อนอย่างเห็นใจ

“แกฟังไม่ผิดหรอกอุ้ม ดูรูปให้หมดก่อนสิ ยังมีเรื่องที่แกต้องรู้อีกเยอะ”

มือสั่น ๆ ของลักขณาหยิบรูปอุบาทว์เหล่านั้นขึ้นมาดูทีละใบ ๆ ยิ่งได้ดู หญิงสาวยิ่งมือไม้สั่นเทา กระทั่งสั่นระริกไปทั้งตัว น้ำตาร่วงหยดแหมะ รูปถ่ายทั้งหลายบนโต๊ะกำลังประจานสามีคนดีของเธอ บางภาพเขาบรรจงหอมแก้มแม่เลขาคนโปรด ตามมาด้วยภาพกอดรัดกันอยู่ตรงหน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมันคงเป็นวิมานแอบซ่อนของคนทั้งคู่

“แพม แกเอารูปพวกนี้มาจากไหน”

“ฉันจ้างนักสืบเอกชนให้ช่วยสืบ ได้มาหมดทั้งรูปทั้งที่อยู่ของเมียน้อยผัวแก กับโรงพยาบาลที่แม่นี่ไปฝากท้อง”

“ฝากท้อง...” ลักขณาอุทานเสียงดังใบหน้าซีดเผือด ฉับพลันหญิงสาวก็กรีดร้องเสียงดังลั่นร้านกาแฟ

กรี๊ดดดดดดดด



มันเป็นเรื่องเกินจะรับไหวของผู้หญิงที่ถูกยัดเยียดตำแหน่งเมียหลวงให้ วันนี้ราวเป็นวันนรกแตก ลักขณาพึ่งรับรู้ว่าสามีคนดีที่หนึ่งของเธอทรยศ วิมานรักกำลังจะพังทลายลงเพราะเขามีผู้หญิงอีกคน

หญิงสาวผลุนผลันลุกขึ้นยืน ขยับจะเข้าไปในสำนักงานของสามี พาฝันดึงตัวเพื่อนให้นั่งลง เธอพยายามทัดทานเต็มที่ ให้เหตุผลว่าหากลักขณาเข้าไปเอะอะอาละวาดเอากับสามีตอนนี้ นอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่ยังจะยิ่งซ้ำเติมความร้าวฉานให้เหตุการณ์มันบานปลายออกไป และเข้าทางผู้หญิงคนนั้น ซึ่งหล่อนคงต้องการให้ลักขณาแตกหักกับสามีอย่างแน่นอน พยาบาลสาวลากตัวเพื่อนออกจากร้านกาแฟ ขึ้นรถกลับไปปรึกษากันต่อที่บ้านของลักขณา

เมื่อมาถึงบ้าน ลักขณาปล่อยโฮ ตีอกชกหัวกรีดร้องราวคนเสียสติ พาฝันปล่อยให้เพื่อนระบายความคับแค้นออกมาเต็มที่ จนหญิงสาวผู้น่าสงสารเริ่มสงบลง จึงเอ่ยถามขึ้นว่า

“รู้อย่างนี้แล้ว แกอยากเลิกกับผัวแกมั้ย”

คำถามของเพื่อนทำให้ลักขณาซึ่งกำลังฟูมฟายด้วยความเสียใจหยุดชะงักทันที เธอส่ายหน้าทั้งน้ำตานอง กัดเม้มริมฝีปากแน่น...ไม่มีวันเสียหรอก เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครแน่ ๆ พาฝันเห็นท่าทางเพื่อนก็รู้ว่าลักขณาไม่คิดเลิกกับสามี จึงถามต่อ

“ในเมื่อแกไม่อยากเลิกกับเขา แต่ตอนนี้ผัวแกมีเมียสองคน แกยอมมีผัวร่วมกับคนอื่นไหมล่ะ”

“ไม่มีทาง” ลักขณาตวัดเสียงตอบทันทีอย่างไม่ต้องหยุดคิด

“แต่แม่นั่นกำลังตั้งท้องลูกผัวแกอยู่นะ คุณภพคงต้องแอ่นอกรับผิดชอบ ทีนี้แกจะทำยังไงต่อ” พาฝันหยั่งเชิง อยากรู้ว่าเพื่อนรักของเธอคิดจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร

“เรื่องภพเอาไว้เฉ่งทีหลัง ตอนนี้ฉันอยากไปดูหน้านังคนหน้าด้าน ชอบแย่งผัวชาวบ้านเสียก่อน แพม ฉันอยากฆ่ามันสองคนทิ้งจริง ๆ เจ็บใจนัก ดูพวกมันทำกับฉันสิ อุตส่าห์ไว้ใจมันสองคน นังนี่มันเป็นเลขาของภพ ทำทีเป็นเรียบร้อยไร้เดียงสาทำงานงก ๆ ไม่มีเรื่องผู้ชาย ที่แท้มันเล็งผัวฉันนี่เอง ฉันมันโง่ น่าจะคิดทันว่าคนมันทำงานใกล้ชิดกันทุกวัน ฉันฝากปลาย่างไว้กับนางแมวดี ๆ นี่เอง ภพนะภพ ในที่สุดเขาก็มีผู้หญิงอื่นเพราะอยากมีลูก”

หญิงสาวหัวใจสลายเริ่มต้นร้องไห้คร่ำครวญออกมาอีก พาฝันระบายลมหายใจอย่างอ่อนระอา เรื่องแบบนี้จบลงด้วยดีลำบาก เธอเห็นมานักต่อนักแล้ว นอกจากแม่เพื่อนสาวของเธอจะใจกว้างเป็นแม่น้ำ หรือไม่ก็เป็นแม่พระ แต่ลักขณาไม่ใช่สักอย่าง

พาฝันนิ่งคิดตรึกตรองหาทางช่วยเพื่อน สุดท้ายก็ลองเสนอทางออกที่คิดว่าดีที่สุด

“ลองให้เงินมันดีไหม ส่วนมากผู้หญิงที่ยอมเป็นเมียน้อยคนอื่นมักหิวเงิน พูดกับมันดี ๆ ขอให้เห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน แล้วบอกว่าจะให้เงินสักก้อน มากพอที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่เขายังโสด”

ลักขณาไม่ตอบ ตอนนี้สมองของเธออึงอนไปด้วยคำว่าผัวมีเมียน้อย และนังเมียน้อยกำลังตั้งท้อง หัวอกหัวใจของเธอตีบตัน คับแค้นแน่นอกไปหมด หญิงสาวเอาแต่สะอึกสะอื้นร้องไห้จนตัวโยน พาฝันแสนสังเวชสภาพเพื่อนรัก ในที่สุดจึงถามขึ้นว่า

“เอาอย่างที่ฉันบอกนะอุ้ม ฉันจะพาแกไปหามันที่บ้านก็ได้ ลองไปเจรจากับมันดู โยนเงินให้มันจนหนำใจ ส่วนลูกแกรับมาเลี้ยงดูเสียเองดีไหม ถ้ามันไม่ยอมก็เสียบประจาน ฉันจะช่วยแกแฉมันเอง แต่เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ผัวแกรู้ ไปกันวันนี้เลย ฉันรู้จักบ้านมัน”



บ้านหลังเล็กของอรวีตั้งอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมือง ซึ่งขณะนี้เจ้าของบ้านสาวกำลังแพ้ท้องอย่างหนัก หลังอาเจียนโอ้กอ้ากหลายครั้งจนหมดไส้หมดพุง เธอก็ทรุดตัวลงนอนบนเก้าอี้ยาวในห้องรับแขกอย่างหมดเรี่ยวแรง รู้สึกขมในปากและผะอืดผะอม พอนอนไปสักพักก็ต้องรีบลุกพรวดขึ้นมาโก่งคออาเจียนลงกระโถนข้างเก้าอี้อีก

โอย...ไอ้การมีลูกนี่ทำไมมันทรมานนัก นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยากผูกมัดตัวชายผู้ซึ่งเป็นสามีหญิงอื่น จ้างให้เธอก็ไม่ยอมตั้งท้อง

ทำไมผู้หญิงสาวสวย ทั้งเก่งทั้งฉลาดอย่างอรวีถึงได้มาเป็นเมียรองของคนอื่นเช่นนี้ คำตอบอยู่ในใจของสตรีผู้ทะเยอทะยาน จากเด็กหญิงกำพร้าเติบโตมาในสถานสงเคราะห์ อาศัยสมองดีเรียนเก่ง อรวีจึงได้รับการสนับสนุนให้เรียนจนจบพาณิชยการสาขางานการเลขานุการ จากผู้ใจบุญหลายคนหลายมูลนิธิ เธอไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ไหนอีก แต่ด้วยบุคลิกอันโดดเด่นทางด้านมนุษย์สัมพันธ์ดีเป็นเลิศและความขยันขันแข็ง ทำให้หญิงสาวขับเคลื่อนตัวเองขึ้นมาเรื่อย ๆ ไต่เต้าจากโคลนตม จนเจิดจ้าเปล่งประกายสาวสวย ผู้มีดีกรีปริญญาตรีพ่วงท้ายจากคณะบริหารธุรกิจในมหาวิทยาลัยจนได้

ขณะนี้อรวีอายุยี่สิบหกปี เธออาจเคยมีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้าง มีแฟนมาแล้วบ้าง แต่คนพวกนั้นกำลังสร้างตัว รวยช้าไม่ทันใจ เมื่อได้งานทำเป็นเลขานุการของพิภพ ผู้หญิงฉลาดอย่างเธอจึงพบว่า ผู้จัดการหนุ่มรูปหล่อ นิสัยดี ไม่เจ้าชู้ และแสนร่ำรวยคนนี้มีเมียแก่และเป็นหมัน เพราะฉะนั้น ขาเตียงของเจ้านายเธอย่อมโดนเลื่อยได้ไม่ยาก อรวีคิดรวยทางลัด เพราะถือไพ่เหนือกว่าภรรยาเบอร์หนึ่งของเขาทุกทาง  

พิภพไม่ได้ทำให้อรวีผิดหวัง ในฐานะสามี เขาพาเธอไปฝากครรภ์ในโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่ง หมอที่นั่นบอกว่าเธอมีอาการแพ้ท้องรุนแรงและเสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ

“ภรรยาคุณมีอาการโรคลิ้นหัวใจรั่วอยู่ด้วย คงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษครับ กรุณามาตามนัดและทานยาตามที่จัดให้ ระวังอย่าทำงานหนักและอย่าเครียด เพราะคุณแม่มีอาการความดันโลหิตสูงร่วมด้วย”

“ครับคุณหมอ”

ชายหนุ่มรับคำนายแพทย์ พิภพรู้สึกเห่อที่จะมีลูกกับเขาเสียที อรวีแอบปลื้มเมื่อเห็นท่าทียินดีของสามี โดยเฉพาะเมื่อผลการตรวจออกมาพบว่า สุขภาพของทารกในครรภ์สี่เดือนของเธอแข็งแรงดี คำสั่งนายแพทย์สูตินรีเวชถูกใจหญิงสาวอย่างยิ่ง อาการแพ้ท้องของเธอทำให้พิภพละล้าละลัง ไม่อาจหักหาญน้ำใจภรรยาลับแม้คิดอยากทำ ชายหนุ่มต้องการมีทายาทมานาน แต่ช่างโชคร้ายจริง ๆ ที่ภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเขาไม่สามารถตั้งครรภ์ให้ได้ ส่วนไอ้พวกเพื่อน ๆ เวลาเจอกัน พวกมันยังชอบเย้าว่า...เขาเป็นคนไม่มีน้ำยา

“อรเขียนใบลาออกเลยนะ พี่ให้ลลนาทำงานแทนแล้ว”

พิภพทำตามที่นายแพทย์สั่งเรื่องไม่ให้อรวีเครียดและห้ามทำงานหนัก ดังนั้นเลขาสาวผู้ผันตัวเองมาเป็นภรรยาน้อยของผู้จัดการศูนย์การค้าฝ่ายสถานที่ จึงยื่นใบลาออกและอยู่ในอุปการะของสามีโดยพฤตินัยได้หลายวันแล้ว

“พี่ภพจะจัดการเรื่องอรกับลูกยังไงคะ” หลังมาเยี่ยมเยียนเธอที่บ้านในวันหนึ่ง คำถามของอรวีทำความหนักใจให้พิภพอย่างยิ่ง

“เรื่องนี้เอาไว้พี่จะหาทางคุยกับอุ้ม บางทีเรื่องอาจง่ายกว่าที่คิด เพราะอุ้มเขาก็อยากมีลูกมาก” พอได้ยินสิ่งที่สามีพูด อรวีก็ทำตาแดง ๆ เสียงเครือลงทันที

“พี่พูดเหมือนต้องการแค่เด็ก แล้วแม่เด็กล่ะคะพี่จะเอาไปไว้ที่ไหน”

“อร...ฟังพี่นะ อรอยู่ของอรเงียบ ๆ ตรงนี้ก่อน อุ้มเขาก็เป็นเมียพี่ ทำอะไรควรแคร์เขาบ้าง พี่ยังตอบอะไรอรตอนนี้ไม่ได้ แต่พี่สัญญาว่าจะจัดการเรื่องของเราให้ดีสุด ไม่ให้อรกับลูกลำบากแน่ ๆ”

แม้ยังขัดเคืองในคำตอบคลุมเครือ แต่อรวีก็ฉลาดพอที่จะพยักหน้ารับอย่างยอมจำนน น้ำใสไหลเปื้อนสองแก้ม หล่อนปาดมันทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มให้สามีทางพฤตินัย

“แล้วแต่พี่เถอะค่ะ ชีวิตของอรขอฝากเอาไว้ที่พี่ จะจัดการยังไงก็ได้ ขอเพียงอย่าทิ้งอรไปนะคะ”

เธอกล่าวอ้อนวอนเสียงเครือสะท้าน ก่อนโผเข้าซบอกสามี

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่