เรื่องมีอยู่ว่า ผมกับอดีตภรรยาแต่งงานกันมา7ปี ผมก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ผมรักอิสระ ผมชอบความสนุกสนาน และผมก็เป็นความหวังเป็นหัวหน้าครอบครัว
เราสร้างอะไรมาด้วยกันมากมายทำให้ภาระเรามากขึ้น ผมคิดว่าผมทำงานหนักเพื่อครอบครัวเรา
แต่ผมก็ลืมครอบครัวด้วยเช่นกัน
1 "การสื่อสาร" เราคุยกันน้อยลง ผมตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดน้อยลง
พอผมเลิกงานกลับมาถึงบ้านผมเลือกที่จะจับมือถือ เล่นเกม ดูซีรี่ส์ แทนที่จะสนใจ
ครอบครัวพูดคุยกับภรรยาเพราะผมคิดว่าตัวเองเหนื่อยล่ะอยากพักผ่อน
2 "รู้สึกเบื่อหน่าย" ไม่ตื่นเต้นหรือความสนุกในความสัมพันธ์
ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นแบบผม เมื่อเราคบหรืออยู่กับใคร
นานเกินไป เราจะมองอีกฝ่ายเป็นของตาย
3 "ขาดความเอาใจใส่" ไม่ได้ใส่ใจเธอเหมือนสมัยก่อน
เช่น ผมลืมสิ่งสำคัญของเธอ ผมลืมวันสำคัญของเธอ
4 "ความใกล้ชิดลดลง" ความอยากที่จะสัมผัสอีกฝ่ายเริ่มลดลง
ผมไม่กอดเธอ ไม่หอมเธอ ทั้งที่เธอกอดหอมผมปกตินะ เห้อคิดแล้วเศร้าใจ
5 "เราเริ่มทะเลาะกันบ่อย" ปัญหาเล็กๆน้อยๆกลายเป็นปัญหาใหญ่
ทั้งที่ปกติไม่เคยเป็นมาก่อน อยู่ด้วยกันมา 7 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย
6 "รู้สึกสนใจคนอื่นมากกว่าคู่ครองตัวเอง" ผมอยู่กับเพื่อนมากกว่า
ภรรยา ผมกดไลต์กดหัวใจผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอ ผมชอบมองสาวสวย
แล้วอยากให้เธอเป็นแบบนั้นบ้าง อยากให้เธอแต่งตัวสวยๆ
มีวันหนึ่งเราทะเลาะกันหนักมาก ทะเลาะกันเรื่องที่ผมโกหก
ผมได้พาลูกค้าไปเอ็นเตอร์เทนพร้อมมีน้องๆเด็กเอ็น(V)
ซึ่งผมเลือกที่โกหกภรรยาว่าทำโอทีทั้งๆที่โลเคชั้นผม
(ผมแชร์ไอคราวล์กับภรรยาไว้)โชว์ในร้านอาหารแต่ผมก็เลือกที่จะโกหกต่อ
จนเราทะเลาะกันหนักมากบวกกับภรรยาผมเห็นรูปผู้หญิงในโทรศัพท์ผม
(รูปลิสต์เด็กเอ็นผมเชฟไว้เพื่อให้ลูกค้าเลือกแต่ดันลบไม่เหลืออยู่1คน)
ภรรยาผมก็รู้ใจผิดว่ารูปผู้หญิงในโทรศัพท์ผมเป็นกิ๊กผม แถมผมดันไปเห็น
แชทที่เพื่อนภรรยาพยายามแนะนำผู้ชายให้ภรรยาผมโดยมีการพากันไป
ทานอาหารกันและพยายามเชียร์ให้ภรรยาลองคุยกับผู้ชาย ผมเองก็โกรธมาก
เลือกไม่อธิบายเรื่องผู้หญิงในโทรศัพท์แล้วงอนภรรยาเรื่องผู้ชายอื่น
ผมเลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนๆไม่กลับบ้าน ภรรยาก็อยากจะเคลียร์
อยากนั่งเปิดอกคุยกันรอผมตั้งแต่เลิกงานจนถึงตี3 แต่ผมเลือกที่ไม่คุย
สุดเธอขนข้าวของออกจากบ้านวันนั้นเลย ด้วยความที่ผมมันอีโก้สูงคิดว่า
ตัวเองไม่ผิดเลือดที่จะไม่ง้อภรรยา จนผ่านไปหลายวันถึงวาเลนไทน์ผม
สั่งดอกไม้ไปง้อแต่เธอดีใจนะแต่ตัทำฟอร์มไม่สนใจผม ผมก็โกรธมาก
จนประชดเธอด้วยการแชทคุยกับสาวๆเจนตนาให้เธอ แต่ผมกลับไม่รู้เลย
ว่าเหตุการณ์มันจะรุนแรงขึ้น เธอโกรธมากเสียใจมากร้องไห้หนักมาก(ผมเองไม่รู้เย)
จนเป็นเหตุให้เราแยกกันอยู่ด้วยที่ผมเองก็เลือกที่จะไม่ง้อเธอเพราะยังคิดว่าตัวเองถูก
จนเวลาผ่านไปเกือบปี ภรรยาเลิกเสียใจและเริ่มเปิดใจให้คนใหม่ได้เข้ามา
และเมื่อสิ้นเดือนพ.ย ที่ผ่านภรรยาผมโทรมาขอให้ผมหย่าให้เธอ เพราะเธอไม่อยาก
คบซ้อนในทะเบียนสมรส เธอบอกว่าลองเปิดใจคุยกับคนได้เดือนหนึ่งแล้ว อยากเคลียร์กับผม
ให้จบแบบไม่ค้างคา เราได้นัดเจอกันก่อนไปเซ็นใบหย่าแล้วเปิดใจคุยกัน
ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอรักผมมาก เธอเสียใจร้องไห้เพราะผมเยอะมาก และให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงแล้ว
แล้วผมดันทิ้งโอกาสที่เธอให้เพราะอัตตาตัวทำเท่าบ้าน อี้โก้สูง ไม่ยอมลด
พอเราได้เปิดใจคุยกันทำให้รู้เลยว่าแค่ข้อ1-6 ที่ผมปฏิบัติต่อเธอ เธอก็เสียใจมากแล้ว
ผมเองยังเพิ่มปัญหาผู้กญิงเข้ามาอีก เรื่องนี้สอนผมให้รู้เลยว่าความเอาใจใส่ครอบครัวให้ความสำคัญครอบครัว
นั้นมันสำคัญมาก และครอบครัวไม่จำเป็นต้องเอาชนะกัน เรื่องบางเรื่องยอมได้ยอมเพื่อรักษารักเราไว้
เราอยู่ด้วยกันร้องไห้ด้วยกันสองคืน สุดท้ายผมเลือกที่จะไปหย่าให้เธอ เธอจะได้ลองใช้ชีวิตในแบบของเธอ
หลังจากที่ผมหย่าให้เธอ เธอตกลงเป็นแฟนกับคนใหม่ซึ่งหลังจากที่เราหย่าแล้วเรามีโอกาสเจอกันบ่อยมาก
คุยกันเกือบทุกวัน(คุยแบบแอบคุย)ทำตัวแบบแอบคบกัน ซึ่งผมได้มีโอกาสไปค้างกับเธอหลายครั้งและมีอะไรกันปกติ
ผมขอโอกาสเริ่มต้นกันใหม่ แต่เธอบอกว่าเธอให้โอกาสคนใหม่ไปแล้วเธอจะไม่เป็นฝ่ายทิ้งคนใหม่นอกเสียจากคนใหม่ทิ้ง
เธอ เธอถึงจะให้โอกาสผมเริ่มต้นใหม่ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมเริ่มต้นใหม่ตอนนี้ไม่ได้ ทั้งที่เราคุยยังรักกันห่วงใยกัน
หวังดีต่อกันทำทุกอย่างเหมือนเดิมแบบที่เธอเคยปฏิบัติต่อผมก่อนหย้าซึ่งหลายๆครั้งผมเองก็แอบคิดไปเอง
ว่าเรายังไม่ได้หย่าใช่ไหม เรามีโอกาสเริ่มต้นใหม่ใช่ไหม ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมเหมือนมือที่สามเลย ต้องแอบคบแอบคุย
แอบมีไรกัน แต่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาแล้ว
ผมมีโอกาสรีเทิร์นกับรักเก่าไหมครับ
ผมรักอิสระ ผมชอบความสนุกสนาน และผมก็เป็นความหวังเป็นหัวหน้าครอบครัว
เราสร้างอะไรมาด้วยกันมากมายทำให้ภาระเรามากขึ้น ผมคิดว่าผมทำงานหนักเพื่อครอบครัวเรา
แต่ผมก็ลืมครอบครัวด้วยเช่นกัน
1 "การสื่อสาร" เราคุยกันน้อยลง ผมตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดน้อยลง
พอผมเลิกงานกลับมาถึงบ้านผมเลือกที่จะจับมือถือ เล่นเกม ดูซีรี่ส์ แทนที่จะสนใจ
ครอบครัวพูดคุยกับภรรยาเพราะผมคิดว่าตัวเองเหนื่อยล่ะอยากพักผ่อน
2 "รู้สึกเบื่อหน่าย" ไม่ตื่นเต้นหรือความสนุกในความสัมพันธ์
ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นแบบผม เมื่อเราคบหรืออยู่กับใคร
นานเกินไป เราจะมองอีกฝ่ายเป็นของตาย
3 "ขาดความเอาใจใส่" ไม่ได้ใส่ใจเธอเหมือนสมัยก่อน
เช่น ผมลืมสิ่งสำคัญของเธอ ผมลืมวันสำคัญของเธอ
4 "ความใกล้ชิดลดลง" ความอยากที่จะสัมผัสอีกฝ่ายเริ่มลดลง
ผมไม่กอดเธอ ไม่หอมเธอ ทั้งที่เธอกอดหอมผมปกตินะ เห้อคิดแล้วเศร้าใจ
5 "เราเริ่มทะเลาะกันบ่อย" ปัญหาเล็กๆน้อยๆกลายเป็นปัญหาใหญ่
ทั้งที่ปกติไม่เคยเป็นมาก่อน อยู่ด้วยกันมา 7 ปี ไม่เคยทะเลาะกันเลย
6 "รู้สึกสนใจคนอื่นมากกว่าคู่ครองตัวเอง" ผมอยู่กับเพื่อนมากกว่า
ภรรยา ผมกดไลต์กดหัวใจผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอ ผมชอบมองสาวสวย
แล้วอยากให้เธอเป็นแบบนั้นบ้าง อยากให้เธอแต่งตัวสวยๆ
มีวันหนึ่งเราทะเลาะกันหนักมาก ทะเลาะกันเรื่องที่ผมโกหก
ผมได้พาลูกค้าไปเอ็นเตอร์เทนพร้อมมีน้องๆเด็กเอ็น(V)
ซึ่งผมเลือกที่โกหกภรรยาว่าทำโอทีทั้งๆที่โลเคชั้นผม
(ผมแชร์ไอคราวล์กับภรรยาไว้)โชว์ในร้านอาหารแต่ผมก็เลือกที่จะโกหกต่อ
จนเราทะเลาะกันหนักมากบวกกับภรรยาผมเห็นรูปผู้หญิงในโทรศัพท์ผม
(รูปลิสต์เด็กเอ็นผมเชฟไว้เพื่อให้ลูกค้าเลือกแต่ดันลบไม่เหลืออยู่1คน)
ภรรยาผมก็รู้ใจผิดว่ารูปผู้หญิงในโทรศัพท์ผมเป็นกิ๊กผม แถมผมดันไปเห็น
แชทที่เพื่อนภรรยาพยายามแนะนำผู้ชายให้ภรรยาผมโดยมีการพากันไป
ทานอาหารกันและพยายามเชียร์ให้ภรรยาลองคุยกับผู้ชาย ผมเองก็โกรธมาก
เลือกไม่อธิบายเรื่องผู้หญิงในโทรศัพท์แล้วงอนภรรยาเรื่องผู้ชายอื่น
ผมเลือกที่จะไปอยู่กับเพื่อนๆไม่กลับบ้าน ภรรยาก็อยากจะเคลียร์
อยากนั่งเปิดอกคุยกันรอผมตั้งแต่เลิกงานจนถึงตี3 แต่ผมเลือกที่ไม่คุย
สุดเธอขนข้าวของออกจากบ้านวันนั้นเลย ด้วยความที่ผมมันอีโก้สูงคิดว่า
ตัวเองไม่ผิดเลือดที่จะไม่ง้อภรรยา จนผ่านไปหลายวันถึงวาเลนไทน์ผม
สั่งดอกไม้ไปง้อแต่เธอดีใจนะแต่ตัทำฟอร์มไม่สนใจผม ผมก็โกรธมาก
จนประชดเธอด้วยการแชทคุยกับสาวๆเจนตนาให้เธอ แต่ผมกลับไม่รู้เลย
ว่าเหตุการณ์มันจะรุนแรงขึ้น เธอโกรธมากเสียใจมากร้องไห้หนักมาก(ผมเองไม่รู้เย)
จนเป็นเหตุให้เราแยกกันอยู่ด้วยที่ผมเองก็เลือกที่จะไม่ง้อเธอเพราะยังคิดว่าตัวเองถูก
จนเวลาผ่านไปเกือบปี ภรรยาเลิกเสียใจและเริ่มเปิดใจให้คนใหม่ได้เข้ามา
และเมื่อสิ้นเดือนพ.ย ที่ผ่านภรรยาผมโทรมาขอให้ผมหย่าให้เธอ เพราะเธอไม่อยาก
คบซ้อนในทะเบียนสมรส เธอบอกว่าลองเปิดใจคุยกับคนได้เดือนหนึ่งแล้ว อยากเคลียร์กับผม
ให้จบแบบไม่ค้างคา เราได้นัดเจอกันก่อนไปเซ็นใบหย่าแล้วเปิดใจคุยกัน
ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเธอรักผมมาก เธอเสียใจร้องไห้เพราะผมเยอะมาก และให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงแล้ว
แล้วผมดันทิ้งโอกาสที่เธอให้เพราะอัตตาตัวทำเท่าบ้าน อี้โก้สูง ไม่ยอมลด
พอเราได้เปิดใจคุยกันทำให้รู้เลยว่าแค่ข้อ1-6 ที่ผมปฏิบัติต่อเธอ เธอก็เสียใจมากแล้ว
ผมเองยังเพิ่มปัญหาผู้กญิงเข้ามาอีก เรื่องนี้สอนผมให้รู้เลยว่าความเอาใจใส่ครอบครัวให้ความสำคัญครอบครัว
นั้นมันสำคัญมาก และครอบครัวไม่จำเป็นต้องเอาชนะกัน เรื่องบางเรื่องยอมได้ยอมเพื่อรักษารักเราไว้
เราอยู่ด้วยกันร้องไห้ด้วยกันสองคืน สุดท้ายผมเลือกที่จะไปหย่าให้เธอ เธอจะได้ลองใช้ชีวิตในแบบของเธอ
หลังจากที่ผมหย่าให้เธอ เธอตกลงเป็นแฟนกับคนใหม่ซึ่งหลังจากที่เราหย่าแล้วเรามีโอกาสเจอกันบ่อยมาก
คุยกันเกือบทุกวัน(คุยแบบแอบคุย)ทำตัวแบบแอบคบกัน ซึ่งผมได้มีโอกาสไปค้างกับเธอหลายครั้งและมีอะไรกันปกติ
ผมขอโอกาสเริ่มต้นกันใหม่ แต่เธอบอกว่าเธอให้โอกาสคนใหม่ไปแล้วเธอจะไม่เป็นฝ่ายทิ้งคนใหม่นอกเสียจากคนใหม่ทิ้ง
เธอ เธอถึงจะให้โอกาสผมเริ่มต้นใหม่ ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมเริ่มต้นใหม่ตอนนี้ไม่ได้ ทั้งที่เราคุยยังรักกันห่วงใยกัน
หวังดีต่อกันทำทุกอย่างเหมือนเดิมแบบที่เธอเคยปฏิบัติต่อผมก่อนหย้าซึ่งหลายๆครั้งผมเองก็แอบคิดไปเอง
ว่าเรายังไม่ได้หย่าใช่ไหม เรามีโอกาสเริ่มต้นใหม่ใช่ไหม ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าผมเหมือนมือที่สามเลย ต้องแอบคบแอบคุย
แอบมีไรกัน แต่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาแล้ว