ชายชราผู้ขายราดหน้ามาชั่วชีวิตกับเธอพาทเนอร์เบอร์ห้าผู้ปรารถนาจะเก็บเงินไปทำนมกับดึงหน้า.............ความรักบางทีอาจต้องรอจนสิ้นชาตินี้
ลื้อไม่รู้หรอกว่า การทำอาหารให้อร่อย ๆ นั้น ต้องใช้สิ่งสำคัญๆ อะไรบ้าง ไก่ เป็ด หมู เนื้อ ปลา ผัก เห็ด แป้งมันชั้นหนึ่ง ซอส เต้าเจี้ยว เกลือ น้ำตาล เหล้าฉุนๆ เตาที่สะอาด จานชาม ช้อนที่สะอาดหรือหัวใจที่สะอาด
ลื้อก็แค่แต่งตัวสวย ทาปากแดง ทาแก้มนวล ๆ แล้วก็ใส่น้ำหอมจากตลาดนัดเปิดท้ายที่ขายอยู่ทุกวันเสาร์ลงไปตามซอกกายอับทับกลิ่นไม่น่าพิสมัย ปลีน่องลื้อไม่สวยนัก แต่มันก็กลมกลืนไปรับกับก้นใหญ่และสะโพกผายที่ยักย้ายและยั่วยวน
นาน ๆ ครั้ง ไม่สิอาทิตย์ละสองครั้งเห็นจะได้ที่ลื้อจะแวะเวียนมาเป็นลูกค้า ร้านราดหน้าในตรอกเล็กแห่งนี้มันกลับสว่างโพลงราวสวรรค์ชั้นเง็กเซียนฮ่องเต้ ไม่หรอก ลื้อไม่รู้จักแน่ ๆ เง็กเซียนฮ่องเต้ ลื้อคงรู้จักแต่พ่อหมอที่ทำเสน่ห์ลงนะหน้าทอง สาลิกาลิ้นทองเสียมากกว่า
“แปะหมี่หมูหมัก”
ลื้อพูดเป็นแค่นี้แล้วก็ควานพริกเหลืองในถ้วยน้ำส้ม เพื่อรอใส่มันแทนน้ำส้มในชามหมี่หมูหมักของลื้อ
มีไม่กี่คนที่ทำแบบนี้ คนหนึ่งจากโลกนี้ไปสามสิบปีแล้ว ชอบกินหมี่ราดหน้าใส่พริกน้ำส้มเหมือนกัน คนนั้นไม่เหมือนลื้อเลย การพูด กริยาท่าทาง อุปนิสัยหรืออะไรทั้งหลาย แต่มนุษย์สองคนที่เหมือนกันสักสิ่งเดียวอาจเพียงพอที่จะทำให้มนุษย์อีกผู้หนึ่งจดจำความหมายที่ไม่สลักสำคัญต่อการรับรู้ของคนอื่นก็ได้
ลื้อรู้ไหมพริกเหลืองมันแพง แต่มันหอม ลื้อไม่เคยเห็นตอนที่มันเปื่อยอยู่ในแก้ว สีมันสดน้อยกว่าต่างหูของลื้อนิดเดียวเท่านั้น
“โลกมันมีอะไรมากมาย แต่ชีวิตเดียวมันไม่มีอะไรมากมายเท่าไรนักหรอก”
ลื้อพูดแบบนี้บ่อย หากแต่น้ำเสียงมันเย้ยหยัน ยิ่งตอนลื้อเมา ในดึกที่ข้ามวันเวลาของปฏิทิน ร้านไร้ลูกค้าราดหน้า เสียงร้องไห้ด่าทอชีวิตและโชคชะตาบางครั้งสะอื้นอยู่ในลำคอระหง บางครั้งก็แผดเสียงดังก่อนที่ความเมามายจะเพิ่มดีกรีขึ้น เหล้าแบนเล็กในกระเป๋าสีดำใบใหญ่และโซดาเย็นเจี๊ยบที่ร้านแช่ไว้สำหรับลื้อคนเดียว ต่างเห็นพร้องกันว่าเรื่องไม่พอใจที่มีอะไรน้อยเกินไป น้อยเกินไปกว่าคนอื่นนั้นเป็นทุกข์แสนสาหัส
เบอร์ห้า ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นหมายเลขของหญิงกลางคืนวัยสามสิบหก ที่มีหน้าที่นั่งคุยและนั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกในไนท์คลับใหญ่ฝั่งตรงข้าม บางคนอาจอายที่จะเปิดเผยตัวตนว่าทำงานที่ไม่มีคนนับว่ามีเกียรติยศแม้แต่ปลายก้อย แต่ลื้อไม่ เข็มกลัดเล็ก ๆ ติดหมายเลขมักจะติดกับอกเสื้อยามกลับมาห้องเช่าทุกคืน ลื้อเคยบอกกับคนช่างซักไปว่า ติดแล้วมันจะทำให้นมดูใหญ่ขึ้น
“เก็บเงินได้พอเมื่อไร นมหนูจะใหญ่เท่าเหมยฟ้า”
น้ำเสียงมันดูเย้ยหยันเหลือเกิน ยิ่งเสียงหัวเราะครืนตอบจากคนถาม ยิ่งทำให้ลื้อดูน่าสงสารจับใจ
ป้ายที่มีข้อความว่าขายเส้นใหญ่ราดหน้า ตัวหนังสือโย้เย้เก่าคร่ำมีสีหลุดร่อนและติดอยู่ตรงชายคามาหลายปี มันเหมือนทำหน้าที่ประกาศให้คนรู้ว่า ที่นี่ขายอะไรมานานแต่ไหน ลูกค้ามีหลากหลายระดับ ตั้งแต่กุลีแบกข้าวสาร ข้าราชการกระทรวงเกษตรโก้เก๋ เสี่ยโรงงานแป้งมัน พระเอกลิเกเงินล้าน ยันรัฐมนตรีผู้กักขฬะหยาบคาย ต่างร้องหาเส้นหมี่ แต่มันมีเส้นหมี่ไว้รอให้ลื้อสั่งเท่านั้น เผื่อหากวันไหนลื้อมา ที่นี่จะไม่ทำให้ลื้อผิดหวัง
“เราต่างทำงานบริการเหมือนกัน”
ลื้อได้ยินแล้วก็หัวเราะ อาจคิดไปถึงเรื่องเส้นสาย การโกงบ้านกินเมืองที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้ แต่ช่างเถอะลำพังลื้อหัวเราะและยิ้มได้นั่นก็เป็นเรื่องดีงามในน้อยครั้งที่เราได้พูดกันแล้ว
ลื้อเหมือนเป็นดอกไม้ในร้านราดหน้าที่มีสีสัน ดอกคะน้าเขียว ๆ มันแค่ต่อชีวิตให้พ่อค้าราดหน้าคนหนึ่งอยู่ต่อไป แต่ลื้อเป็นดอกไม้ที่ทำให้หัวใจเหี่ยว ๆ ดวงเดียวกันนั้นกลับมาเต้นแรง
คืนวันศุกร์ปลายเดือน ฝนตกเหมือนฟ้าถล่ม ที่ร้านเงียบเหงา มีแต่แมงเม่าที่บินมาตอมหลอดไฟสีส้มอยู่นับพัน หลายสิบตัวตอมผมเกล้ามวยสูง ที่ตั้งใจโชว์ลำคอขาวของลื้อ ขณะนั่งมองราดหน้าอยู่เงียบ ๆ เหล้าหมดแบน โซดาผุดพรายฟองช้า ๆ เหมือนความผิดหวังจะถาโถมเข้าหาหญิงเจ้าของหมายเลขห้าอีกครั้ง หากแต่วันนี้ลื้อเงียบจนน่าใจหาย
ประโยคยาว ๆ ที่เราสื่อสารกันในคืนนั้น มันทำให้เราต่างประหม่าและตกใจ ลื้อไม่รู้หรอกกว่าแต่ละคำจะออกไปมันยากเย็นเหลือเกิน เหมือนฝนฟ้าก็ดูจะตกใจไปกับเรื่องของหญิงร่างอวบกับหนุ่มวัยดึกในร้านราดหน้าไปด้วย หลังจากเวลานั้น ลื้อก็ยืนมองท้องฟ้าหน้าร้าน เอามือทาบอกเล็กๆ ของตัวเองอยู่ในห้องหลังตู้เย็นใบใหญ่ จนกระทั่งประตูเหล็กถูกดึงประกบเข้าหากันเสียงดังกึกและไฟหน้าร้านก็ดับลง สายฟ้าสั้นบ้าง ยาวบ้าง ยังคงแผดเสียงคำราม วาบแสงในม่านฝนอยู่จนเช้า
สองอาทิตย์แล้ว ลืมมันไปเสียเถอะกับความหยาบคายที่ลื้อได้พบเจอ แม้ไม่ยิ้ม แต่ลื้อสมควรจะดีใจที่ได้ทิปมากโขกว่าทุกคืนในคลับ ได้เงินไปทำนมให้ใหญ่อย่างที่ต้องการ
ลื้อไม่ได้โง่ แต่ลื้อจะรับรู้ไหมว่าสิ่งที่ได้ยินในคืนนั้นเป็นเรื่องจริง การรอคอยมันทรมานหัวใจแค่ไหน การรอคอยที่จะดื่มกินอาหารที่ปรารถนามาแสนนาน อีกครั้ง อีกครั้ง
ลื้อไปไหน อยากได้ยินคำขอโทษของคนที่หลงรักลื้อไหม...
ดอกไม้
ลื้อไม่รู้หรอกว่า การทำอาหารให้อร่อย ๆ นั้น ต้องใช้สิ่งสำคัญๆ อะไรบ้าง ไก่ เป็ด หมู เนื้อ ปลา ผัก เห็ด แป้งมันชั้นหนึ่ง ซอส เต้าเจี้ยว เกลือ น้ำตาล เหล้าฉุนๆ เตาที่สะอาด จานชาม ช้อนที่สะอาดหรือหัวใจที่สะอาด
ลื้อก็แค่แต่งตัวสวย ทาปากแดง ทาแก้มนวล ๆ แล้วก็ใส่น้ำหอมจากตลาดนัดเปิดท้ายที่ขายอยู่ทุกวันเสาร์ลงไปตามซอกกายอับทับกลิ่นไม่น่าพิสมัย ปลีน่องลื้อไม่สวยนัก แต่มันก็กลมกลืนไปรับกับก้นใหญ่และสะโพกผายที่ยักย้ายและยั่วยวน
นาน ๆ ครั้ง ไม่สิอาทิตย์ละสองครั้งเห็นจะได้ที่ลื้อจะแวะเวียนมาเป็นลูกค้า ร้านราดหน้าในตรอกเล็กแห่งนี้มันกลับสว่างโพลงราวสวรรค์ชั้นเง็กเซียนฮ่องเต้ ไม่หรอก ลื้อไม่รู้จักแน่ ๆ เง็กเซียนฮ่องเต้ ลื้อคงรู้จักแต่พ่อหมอที่ทำเสน่ห์ลงนะหน้าทอง สาลิกาลิ้นทองเสียมากกว่า
“แปะหมี่หมูหมัก”
ลื้อพูดเป็นแค่นี้แล้วก็ควานพริกเหลืองในถ้วยน้ำส้ม เพื่อรอใส่มันแทนน้ำส้มในชามหมี่หมูหมักของลื้อ
มีไม่กี่คนที่ทำแบบนี้ คนหนึ่งจากโลกนี้ไปสามสิบปีแล้ว ชอบกินหมี่ราดหน้าใส่พริกน้ำส้มเหมือนกัน คนนั้นไม่เหมือนลื้อเลย การพูด กริยาท่าทาง อุปนิสัยหรืออะไรทั้งหลาย แต่มนุษย์สองคนที่เหมือนกันสักสิ่งเดียวอาจเพียงพอที่จะทำให้มนุษย์อีกผู้หนึ่งจดจำความหมายที่ไม่สลักสำคัญต่อการรับรู้ของคนอื่นก็ได้
ลื้อรู้ไหมพริกเหลืองมันแพง แต่มันหอม ลื้อไม่เคยเห็นตอนที่มันเปื่อยอยู่ในแก้ว สีมันสดน้อยกว่าต่างหูของลื้อนิดเดียวเท่านั้น
“โลกมันมีอะไรมากมาย แต่ชีวิตเดียวมันไม่มีอะไรมากมายเท่าไรนักหรอก”
ลื้อพูดแบบนี้บ่อย หากแต่น้ำเสียงมันเย้ยหยัน ยิ่งตอนลื้อเมา ในดึกที่ข้ามวันเวลาของปฏิทิน ร้านไร้ลูกค้าราดหน้า เสียงร้องไห้ด่าทอชีวิตและโชคชะตาบางครั้งสะอื้นอยู่ในลำคอระหง บางครั้งก็แผดเสียงดังก่อนที่ความเมามายจะเพิ่มดีกรีขึ้น เหล้าแบนเล็กในกระเป๋าสีดำใบใหญ่และโซดาเย็นเจี๊ยบที่ร้านแช่ไว้สำหรับลื้อคนเดียว ต่างเห็นพร้องกันว่าเรื่องไม่พอใจที่มีอะไรน้อยเกินไป น้อยเกินไปกว่าคนอื่นนั้นเป็นทุกข์แสนสาหัส
เบอร์ห้า ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นหมายเลขของหญิงกลางคืนวัยสามสิบหก ที่มีหน้าที่นั่งคุยและนั่งดื่มเป็นเพื่อนแขกในไนท์คลับใหญ่ฝั่งตรงข้าม บางคนอาจอายที่จะเปิดเผยตัวตนว่าทำงานที่ไม่มีคนนับว่ามีเกียรติยศแม้แต่ปลายก้อย แต่ลื้อไม่ เข็มกลัดเล็ก ๆ ติดหมายเลขมักจะติดกับอกเสื้อยามกลับมาห้องเช่าทุกคืน ลื้อเคยบอกกับคนช่างซักไปว่า ติดแล้วมันจะทำให้นมดูใหญ่ขึ้น
“เก็บเงินได้พอเมื่อไร นมหนูจะใหญ่เท่าเหมยฟ้า”
น้ำเสียงมันดูเย้ยหยันเหลือเกิน ยิ่งเสียงหัวเราะครืนตอบจากคนถาม ยิ่งทำให้ลื้อดูน่าสงสารจับใจ
ป้ายที่มีข้อความว่าขายเส้นใหญ่ราดหน้า ตัวหนังสือโย้เย้เก่าคร่ำมีสีหลุดร่อนและติดอยู่ตรงชายคามาหลายปี มันเหมือนทำหน้าที่ประกาศให้คนรู้ว่า ที่นี่ขายอะไรมานานแต่ไหน ลูกค้ามีหลากหลายระดับ ตั้งแต่กุลีแบกข้าวสาร ข้าราชการกระทรวงเกษตรโก้เก๋ เสี่ยโรงงานแป้งมัน พระเอกลิเกเงินล้าน ยันรัฐมนตรีผู้กักขฬะหยาบคาย ต่างร้องหาเส้นหมี่ แต่มันมีเส้นหมี่ไว้รอให้ลื้อสั่งเท่านั้น เผื่อหากวันไหนลื้อมา ที่นี่จะไม่ทำให้ลื้อผิดหวัง
“เราต่างทำงานบริการเหมือนกัน”
ลื้อได้ยินแล้วก็หัวเราะ อาจคิดไปถึงเรื่องเส้นสาย การโกงบ้านกินเมืองที่กำลังเป็นข่าวใหญ่อยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้ แต่ช่างเถอะลำพังลื้อหัวเราะและยิ้มได้นั่นก็เป็นเรื่องดีงามในน้อยครั้งที่เราได้พูดกันแล้ว
ลื้อเหมือนเป็นดอกไม้ในร้านราดหน้าที่มีสีสัน ดอกคะน้าเขียว ๆ มันแค่ต่อชีวิตให้พ่อค้าราดหน้าคนหนึ่งอยู่ต่อไป แต่ลื้อเป็นดอกไม้ที่ทำให้หัวใจเหี่ยว ๆ ดวงเดียวกันนั้นกลับมาเต้นแรง
คืนวันศุกร์ปลายเดือน ฝนตกเหมือนฟ้าถล่ม ที่ร้านเงียบเหงา มีแต่แมงเม่าที่บินมาตอมหลอดไฟสีส้มอยู่นับพัน หลายสิบตัวตอมผมเกล้ามวยสูง ที่ตั้งใจโชว์ลำคอขาวของลื้อ ขณะนั่งมองราดหน้าอยู่เงียบ ๆ เหล้าหมดแบน โซดาผุดพรายฟองช้า ๆ เหมือนความผิดหวังจะถาโถมเข้าหาหญิงเจ้าของหมายเลขห้าอีกครั้ง หากแต่วันนี้ลื้อเงียบจนน่าใจหาย
ประโยคยาว ๆ ที่เราสื่อสารกันในคืนนั้น มันทำให้เราต่างประหม่าและตกใจ ลื้อไม่รู้หรอกกว่าแต่ละคำจะออกไปมันยากเย็นเหลือเกิน เหมือนฝนฟ้าก็ดูจะตกใจไปกับเรื่องของหญิงร่างอวบกับหนุ่มวัยดึกในร้านราดหน้าไปด้วย หลังจากเวลานั้น ลื้อก็ยืนมองท้องฟ้าหน้าร้าน เอามือทาบอกเล็กๆ ของตัวเองอยู่ในห้องหลังตู้เย็นใบใหญ่ จนกระทั่งประตูเหล็กถูกดึงประกบเข้าหากันเสียงดังกึกและไฟหน้าร้านก็ดับลง สายฟ้าสั้นบ้าง ยาวบ้าง ยังคงแผดเสียงคำราม วาบแสงในม่านฝนอยู่จนเช้า
สองอาทิตย์แล้ว ลืมมันไปเสียเถอะกับความหยาบคายที่ลื้อได้พบเจอ แม้ไม่ยิ้ม แต่ลื้อสมควรจะดีใจที่ได้ทิปมากโขกว่าทุกคืนในคลับ ได้เงินไปทำนมให้ใหญ่อย่างที่ต้องการ
ลื้อไม่ได้โง่ แต่ลื้อจะรับรู้ไหมว่าสิ่งที่ได้ยินในคืนนั้นเป็นเรื่องจริง การรอคอยมันทรมานหัวใจแค่ไหน การรอคอยที่จะดื่มกินอาหารที่ปรารถนามาแสนนาน อีกครั้ง อีกครั้ง
ลื้อไปไหน อยากได้ยินคำขอโทษของคนที่หลงรักลื้อไหม...