ชีวิตปกติเดินดิน กินข้าวแกงจานละ 30 - 50 บาท  วันดีคืนดี มีคนชวนไปกินหรูๆ แบบเป็นเจ้ามือให้ ก็ดีใจมากมายหนักหนา คนเชิญก็ใจดีเหลือหลาย ชวนไปกินอาหารไทย บอกว่า ต้องกินคู่กับค็อกเทล เป็นศาสตร์ในการกินดื่มอย่างมีความสุข จะยิ่งชูรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น เหมือนพวกฝรั่ง กินปลา กับไวน์ขาว กินเนื้อกัน ไวน์แดง กินสปาเกตตี้ กับ ไอ้นั่น ไอนี่ เยอะแยะไปหมด  ตอนนี้ อาหารไทยๆ เรา กินให้อร่อย ก็จับคู่กับค็อกเทล มีส่วนผสมของเหล้ารัมอย่าง "แม่โขง"  ซึ่งได้ไปพิสูจน์มาแล้วเห็นจริงดังนั้น



ร้านที่ได้มีโอกาสได้ไปกินหรู ชื่อร้าน บูลเอเลเฟ่นท์ สาธร เป็นร้านอาหารไทยชื่อดัง เป็นที่รู้จักอย่างดีของชาวต่างๆ ชาติ เพราะมีเปิดในหลายประเทศ มีเชฟ มาดามนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ เป็นผู้ดูแล ร้านนี้ มีลูกค้ามากินอย่างเนืองแน่นทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยก็มีจำนวนไม่น้อย ในโอกาสพิเศษนี้  เชฟ มาดามนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ได้รับการทาบทามจาก "แม่โขง" ให้ช่วยเลือกและทำอาหาร ที่จะมาจับคู่กับค็อกเทลไทย ที่มีส่วนผสมของแม่โขง ซี่งก็ได้คัดเลือกเมนูมา 3 อย่าง จับคู่กับ ค็อกเทลแม่โขง อันเป็นที่มาของโอกาสทีได้รับเชิญมาชิม



วันนี้ เชฟ มาดามนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ได้จัดอาหารไทยเสิร์ฟเป็นเซ็ทเมนู คล้ายของฝรั่ง เสิร์ฟมาทีละรายการ เริ่มจาก ปอเปี้ยะฮกเกี้ยน ไก่แช่แม่โขง ต้มยำเยื้อไผ่กับไก่ดำเป๋าฮื้อ ปลาหิมะราดซอสพริกแอลมอน หมูฮ้อง และ ขนม ตูโบ้



ปอเปี้ยะฮกเกี้ยน จานนี้ กินคู่กับค็อกเทล แม่โขง สปาร์คกลิ้ง ก็เข้ากันได้อย่างดี ไส้ปอเปี๊ยะ จะมีกากหมู หอมเจียว หมูแดง ตอนกินราดซอสรสหวานเผ็ด พอได้ค็อกเทล ที่มีความซาบซ่า หอมๆ ก็รู้สึกว่าอร่อยมากๆ กลิ่นหอมของค็อกเทล คือ กลิ่นน้ำลิ้นจี่ ที่เขานำมาใช้เป็นส่วนผสม นั่นเอง




ไก่แช่แม่โขง จานนี้ กินคู่กับค็อกเทล แม่โขงมันตรา ตัวไก่ใช้เนื้อส่วนสะโพกมานึ่งกับสมุนไพร เชฟเล่าวิธีการให้ฟัง ไม่น่าเชื่อเมนูดูง่าย แต่ขั้นตอนจะให้อร่อยช่างเยอะแยะมากมาย เนื้อไก่นุ่มชุ่มดี ไม่เปื่อย ไม่แข็ง เนื้อกำลังพอดี เคี้ยวๆ แล้วยก แม่โขงมันตรามาจิบ โอ้โห กรุ่นๆ กลิ่นเหล้าจากไก่อ่อนๆ ตัดกับ กลิ่นจิงเจอร์เอล หรือน้ำขิง ช่างอร่อยถูกใจคนชิมเหลือเกิน มองไปดูคนข้างๆ ดูแค่สีหน้า ไม่ต้องบอก ก็รู้ว่าเขาอร่อยกันแน่ๆ



ต้มยำเยื้อไผ่กับไก่ดำเป๋าฮื้อ เป็นต้มยำที่ซดน้ำได้คล่องคอ ความเปรี้ยวพอดี มีพริกขี้หนูตำโรยใส่มาด้วย ก่อนเสิร์ฟจะถามว่ากินเผ็ดไหม ถ้าชอบเผ็ดๆ เชฟจะเติมพริกเพิ่มให้ น้ำต้มยำดูใสๆ ไม่มีกากของเครื่องต้มยำให้ดูรกตา ถ้วยนี้ ยกขึ้นซด ไม่เหลือติดก้นถ้วยเลยขอบอก เป็นการ กินต้มยำขั้น ก่อนจะไปกินอาหารจานหลัก ที่ถึงตรงนี้ ก็อิ่มแล้ว





ปลาหิมะราดซอสพริกแอลมอน อยากบอกว่า เนื้อปลาหิมะ ทอดได้ดีเหลือเกิน กรอบนอกนุ่มใน ตัวซอสเสริมรสได้ดี มีเนื้ออัลมอนด์ให้เดี้ยวพอกรึบๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวไรเบอร์รี่ ที่หุงด้วยน้ำมะพร้าวอ่อน แม่เจ้า กินด้วยกันแล้วเห็นน้ำตาจิไหล มันอร่อยแบบไม่ต้องอาศัยฆ้อนสวรรค์เลยล่ะ จากนี้ กินคู่กับค็อกเทล แม่โขง ไทยสบาย มีรสชาติสดชื่น อมเปรี้ยว อมหวาน มีกลิ่นใบโหระพาอ่อนๆ เสริมรสชาติได้ดี โดยเฉพาะรสชาติของเนื้อปลาหิมะที่ออกมันๆ



หมูฮ้อง จานนี้ ทำใจอยู่พักใหญ่ ว่าจะกินดีไหม เพราะว่าตอนนี้ น้ำหนักตัวมันชักพุ่งไปกันใหญ่ แต่ก็นะ เข้าเชิญมากินของอร่อย จะปล่อยไว้ก็กระไร จัดไปหมดจาน เขาเสิร์ฟมาพร้อมกับ ซาลาเปา เห็นบอกว่าตัวแป้ง มีรสลาบ ไส้เป็นผักกาดดองผัดไข่ กินคู่กันแล้ว เข้ากัน เหมือนเรากินข้าวขาหมูแล้วแกล้มผักกาดดอง  กินขาหมู กับหมั่นโถว อะไรประมาณนั้น แต่อันนี้ เป็นซาลาเปาสูตรพิเศษ หากินที่ไหนไม่ได้ เพราะถ้าหากินได้ทั่วไป ก็จะไม่ใช่อาหารจานพิเศษของที่นี่



ปิดท้ายกันต้องขนมชื่อแปลกๆ "ตูโบ้"  เชฟบอกว่าเป็นขนมของคนภูเก็ต มีส่วนผสมของ ฟักทอง ถั่วแดง เนื้อมะพร้าวอ่อน และอะไรอีกหลายอย่าง รสชาติเหมือนกิน บัวลอย หรือ ขนมแกงบวช แต่รสชาติไม่หวานจัด หวานเพียงอ่อนๆ  ถึงตรงนี้ พุงแน่นไปหมด มีโอกาสก็อยากไปกินอีก ...

#กินแก้มตุ่ย ตะลุยเที่ยว