สวัสดีค่ะ เราเป็นพนักงงานออฟฟิศ ปัจจุบันอายุ 29 ปี สูง 158 น้ำหนัก 52 กก. (เดิม 62 กก. ในปี 2559) คนไม่สูงถ้านน. 62 กก. นี้ถือว่าอ้วนนะคะ
เมื่อ 8 ปีก่อน อายุ 21 น้ำหนัก 49 กก. ไปมาน้ำหนักขึ้นเพราะด้วยทำงานออฟฟิศ และนอนดึก แถมไม่ออกกำลังกายเลย เคยซื้ออาหารเสริมมากินนะคะ ก็ลดฮวบ พองบหมดก็ไม่ไดกินอีก ผลที่ได้ก็อวบขึ้น พอเปลี่ยนงานสังคมเปลี่ยน เห็นคนแต่งตัวสวย หุ่นดี หน้าเป๊ะ แล้วย้อนมามองตัวเอง....เอิ่มมมมม 5555 ก็เลยมองหาแรงบันดาลใจ พยายามดูยูทูปออกกำลังกาย ก็ยังขี้เกียจอยู่ดี
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงนี้ มีแฟนเป็นนักฟุตบอลค่ะ แล้วเขาหุ่นนักกีฬามาก กล้ามล่ำ เราเลยต้องพัฒนาบุคลิกภาพตัวเอง พยายามลดละเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน ออกกำลังกายบ้าง และซื้ออาหารเสริมเร่งการเผาผลาญมากิน ก็ได้ผลค่ะ ลดลงมาจาก 62 กก. เหลือ 58 กก. ภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่ยังไงก็ต้องออกกำลังกายควบคู่กันไป มาดูรีวิวนะคะ (ตามภาพ ขออนุญาตไม่เปิดเผยใบหน้าค่ะ)
เริ่มออกกำลังกายในปี 2556 น้ำหนัก 58 ค่ะ กล้ามขาเริ่มมา บวกกับลดละเลิกอาหารที่มีไขมัน ทอด แป้ง แคลอรี่สูง
ในปี 2557 มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอมาก 6 วัน/สัปดาห์ วันเสาร์อาทิตย์เช้า-เย็น ลดลงมาเหลือ 54 กก.
ปัจจุบัน น้ำหนัก 52 กก. ไม่อวบมาก มีกล้ามเนื้อ สำหรับเรากำลังพอดี
กล้ามแขน ยกดรัมเบล มีหลากหลายท่า ทำเองที่บ้านได้ค่ะ
กล้ามขา ยกกระชับก้นให้ท่าสควอต ลองทำติดต่อกัน 1 อาทิตย์ เห็นผลแน่นอน
ความฝันของสาวๆ อยากใส่บิกินี่ใช่มั้ย เราทำได้นะ แค่อย่าบ่ายบี่ยง ลงมือทำเลยยยย
คราวนี้มาดูอาหารค่ะ สำหรับสาวออฟฟิศอย่างเรา ไม่มีเวลาทำกินเอง ทุกวันนี้ร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีอาหารที่มีประโยชน์ ราคาไม่แพง แต่ละมื้อก็ทานแต่พอดี ให้ถือคติที่ว่า "เช้ากินอย่างพระราชา เย็นมากินอย่างยาจก" แต่อย่าลืมว่าร่างกายเราขาดโปรตีนไม่ได้!
1. มื้อเช้า โจ๊ก/ไข่/น้ำเต้าหู้
2. มื้อกลางวัน อกไก่/น้ำผลไม้/ผลไม้
3. มื้อเย็น โยเกิร์ต และกล้วย 1 ผล ตามด้วยออกกำลังกาย 30 นาที (กินก่อนเวลานอน 4 ชม. เช่น นอน 23.00 น. ต้องกินไม่เกิน 19.00 น.)
**รู้อย่างนี้ สาวๆที่อ้างว่าไม่มีเวลา หรือรอทำพรุ่งนี้ก็ได้ ต้องเริ่มทำวันนี้ และมีวินัยค่ะ สู้ๆ!**
[CR][SR] สูตรลดอ้วนสำหรับสาวออฟฟิศ ทำ 1 อาทิตย์ลดเลย 2 กิโล ไม่พึ่งยา, เทรนเนอร์ฟิตเนส
เมื่อ 8 ปีก่อน อายุ 21 น้ำหนัก 49 กก. ไปมาน้ำหนักขึ้นเพราะด้วยทำงานออฟฟิศ และนอนดึก แถมไม่ออกกำลังกายเลย เคยซื้ออาหารเสริมมากินนะคะ ก็ลดฮวบ พองบหมดก็ไม่ไดกินอีก ผลที่ได้ก็อวบขึ้น พอเปลี่ยนงานสังคมเปลี่ยน เห็นคนแต่งตัวสวย หุ่นดี หน้าเป๊ะ แล้วย้อนมามองตัวเอง....เอิ่มมมมม 5555 ก็เลยมองหาแรงบันดาลใจ พยายามดูยูทูปออกกำลังกาย ก็ยังขี้เกียจอยู่ดี
จุดเปลี่ยนอยู่ตรงนี้ มีแฟนเป็นนักฟุตบอลค่ะ แล้วเขาหุ่นนักกีฬามาก กล้ามล่ำ เราเลยต้องพัฒนาบุคลิกภาพตัวเอง พยายามลดละเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน ออกกำลังกายบ้าง และซื้ออาหารเสริมเร่งการเผาผลาญมากิน ก็ได้ผลค่ะ ลดลงมาจาก 62 กก. เหลือ 58 กก. ภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่ยังไงก็ต้องออกกำลังกายควบคู่กันไป มาดูรีวิวนะคะ (ตามภาพ ขออนุญาตไม่เปิดเผยใบหน้าค่ะ)
เริ่มออกกำลังกายในปี 2556 น้ำหนัก 58 ค่ะ กล้ามขาเริ่มมา บวกกับลดละเลิกอาหารที่มีไขมัน ทอด แป้ง แคลอรี่สูง
ในปี 2557 มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอมาก 6 วัน/สัปดาห์ วันเสาร์อาทิตย์เช้า-เย็น ลดลงมาเหลือ 54 กก.
ปัจจุบัน น้ำหนัก 52 กก. ไม่อวบมาก มีกล้ามเนื้อ สำหรับเรากำลังพอดี
กล้ามแขน ยกดรัมเบล มีหลากหลายท่า ทำเองที่บ้านได้ค่ะ
กล้ามขา ยกกระชับก้นให้ท่าสควอต ลองทำติดต่อกัน 1 อาทิตย์ เห็นผลแน่นอน
ความฝันของสาวๆ อยากใส่บิกินี่ใช่มั้ย เราทำได้นะ แค่อย่าบ่ายบี่ยง ลงมือทำเลยยยย
คราวนี้มาดูอาหารค่ะ สำหรับสาวออฟฟิศอย่างเรา ไม่มีเวลาทำกินเอง ทุกวันนี้ร้านสะดวกซื้อ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีอาหารที่มีประโยชน์ ราคาไม่แพง แต่ละมื้อก็ทานแต่พอดี ให้ถือคติที่ว่า "เช้ากินอย่างพระราชา เย็นมากินอย่างยาจก" แต่อย่าลืมว่าร่างกายเราขาดโปรตีนไม่ได้!
1. มื้อเช้า โจ๊ก/ไข่/น้ำเต้าหู้
2. มื้อกลางวัน อกไก่/น้ำผลไม้/ผลไม้
3. มื้อเย็น โยเกิร์ต และกล้วย 1 ผล ตามด้วยออกกำลังกาย 30 นาที (กินก่อนเวลานอน 4 ชม. เช่น นอน 23.00 น. ต้องกินไม่เกิน 19.00 น.)
**รู้อย่างนี้ สาวๆที่อ้างว่าไม่มีเวลา หรือรอทำพรุ่งนี้ก็ได้ ต้องเริ่มทำวันนี้ และมีวินัยค่ะ สู้ๆ!**
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว