กระทู้นี้ ไม่ได้มีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงแต่อย่างใด แต่แค่อยากแชร์สิ่งที่เจอมา ซึ่งค่อนข้างรู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่
และไม่อยากให้เพื่อนๆต้องมาเจอ เหมือนกับที่เจ้าของกระทู้เจอค่ะ และก็อยากรู้ด้วยว่ามีใครเจอเหมือนกันบ้าง
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันเนอะ
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา เรากับพี่ๆที่ออฟฟิศ ก็ได้จัดไปเที่ยวกัน เลยเลือกไปเขื่อนเชี่ยวหลานและลงเอยที่แพคีรีวาริน
ซึ่งทริปนี้ มีผู้ใหญ่ประมาณ 40 คนและเด็กๆอีก 10 กว่าคน เราวางแผนกันตั้งแต่ต้นปี ให้ทางแพเสนอราคามา 3 วัน 2 คืน
ได้ราคาอยู่ที่ 5,190 บาทต่อคนนะคะ เด็กเล็กไม่เสีย เด็กโตครึ่งราคา รวมๆแล้วที่เสียไปก็จะประมาณ สองแสนกว่าบาท !
มาถึงวันเดินทาง
ทุกคนมุ่งหน้าสู่ท่าเรือ รอขึ้นเรือ ตอนเที่ยง คนเยอะมาก และมีหลายกลุ่ม ซึ่งเรือแทบจะไม่พอด้วย
อากาศก็ร้อนมาก จนเรือมา บ่ายโมง ถึงได้ขึ้นเรือไปที่พักกัน ...
เนื่องจากที่พักค่อนข้างไกล จึงใช้เวลาอยู่บนเรือประมาณเกือบชั่วโมงนึงได้
เรือก็แวะพาไปชม เขาสามเกลอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกุ้ยหลินเมืองไทย ละก็พาไปที่พัก ซึ่งมีอาหารรอไว้อยู่แล้ว
ที่นั่งทานอาหารจะจัดไว้เป็นโต๊ะ และมีชื่อลูกค้าติดอยู่ ได้เวลาก็เริ่มทานข้าวกัน อาหารก็เป็นเมนูบ้านๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่
ซึ่งมื้อแรกในวันนั้น เป็นต้มจืด (ที่จืดมาก) ผัดผัก (ซึ่งรสชาดไม่ต่างจากต้มจืด) แกงใต้ (ที่เผ็ดอย่างเดียว ไม่มีรสชาดอื่นเลย)
และอะไรอีกเราจำไม่ได้ ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์ด้วย มีแต่ผัก นึกว่ากินมังสวิรัติอยู่ Y_Y
กินข้าวไปก็ร้อนไป เพราะไม่มีพัดลมเลย และบวกกับอากาศที่ร้อนมากๆด้วย เหงื่อแตกไปตามๆกัน
พอกินเสร็จ ก็แยกย้ายเข้าที่พัก ซึ่งที่พักได้จัดบ้านให้เรา 7 หลัง มีสองชั้น
ชั้นล่างห้องน้ำและห้องอาบน้ำอยู่ในตัว ส่วนชั้นสอง ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ข้างล่างด้านนอก
ซึ่งห้องน้ำและห้องอาบน้ำแคบมากๆ
ที่กล่าวมานี้ ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ยังรับได้อยู่ แต่เรื่องการบริการนี่สิ .....
เริ่มที่
1.เริ่มเข้าที่พัก เนื่องจากอากาศร้อนมาก พวกเราจึงเปิดพัดลมกันทุกห้อง สักพักพนักงานมาบอกว่าระวังไม่มีไฟใช้ตอนนอน
เพราะแพใช้ระบบ Solar cell แบตหมดแล้วหมดเลย แล้วจะให้ทำยังไงคร้าา ต้องลงไปแช่น้ำดับร้อนทั้งวันเลยใช่มั้ย ??
2.ในแพคเกจจะมีการนั่งเรือไปชมหมอก ส่องสัตว์ ตอนเช้า 6 โมง
แต่กลุ่มเราไม่มีใครได้ไป เนื่องจากตื่นกันไม่ทัน อันนี้ความผิดพวกเราเอง (ดื่มหนักไปหน่อย 555)
แต่ 7 โมงเราก็ตื่นกัน และเดินออกไปถามทางแพดู ก็บอกว่า ไม่ทันแล้ว เรือไปกลับมาแล้ว
ก็เลยถามว่า งั้นไปพรุ่งนี้เช้าอีกวันแทนได้มั้ย ทางแพก็บอกว่าไม่ได้ค่ะ เพราะโปรแกรมคือวันนี้ไปมาแล้ว
(หึหึหึ แต่ยังไม่มีใครได้ไปเลยนะเห้ย)
คือส่วนตัวเราเคยไปเที่ยวก็หลายที่อยู่ ซึ่งราคาระดับนี้ ทางที่พักค่อนข้างจะซัพพอร์ทนะ
เพราะเหมือนเหมาเป็นกรุ๊ปไป แต่นี่ไม่มีการบริการอะไรเลย
3.หลังจากไม่ได้ไปดูหมอก ทางแพก็แจ้งว่ามีอีกทริปหนึ่งนะ คือไปดูถ้ำปะการัง แต่ต้องเสียตังค์เพิ่มอีกคน 300 บาท
เราก็เลยถามเพื่อนๆดูว่าจะไปกันไหม ก็โอเค ไป นับคนไปได้ 5 คน พอเราไปแจ้งจำนวน ทางแพกลับแจ้งมาว่าต้องเหมาเรือไป 3,500 บาท
พวกเรามองหน้ากันเอ๋อๆ ไหนบอกคนละ 300 ไง สรุป.....ไม่ได้ไปซะงั้น T_T และพอถามก็บอกว่าไม่มีกิจกรรมไปไหนแล้ว ณ ตอนนั้นเพิ่ง 10 โมงเช้า
จะทำอะไรต่อดีล่ะ !!
4.คือมีพี่ต้องกลับไปทำธุระ เลยต้องกลับก่อนในวันที่สอง ทางเราก็คุยกับแพเรื่องค่าเรือแล้ว แพบอกคิดค่าเรือ 2,500 แต่พอวันจริง เปลี่ยนราคาเป็น 3,500 ซะงั้น
เราก็ต้องยอม เพราะ พี่เค้ามีธุระต้องกลับจริงๆ
5.อาหารทุกมื้อทางแพบอกเป็นแบบบุฟเฟต์เติมได้ ที่โต๊ะเราก็เติมๆๆ หลักๆก็มีไข่เจียว(อร่อยสุดละ) ละก็ผัดผัก เติมไปประมาณ 3 ครั้ง
ก็ขอเค้าเติมผัดผักอีกรอบ ทีนี้พนักงานบอกว่า ผัดผักหมด กำลังผัดอยู่ และก็พูดว่า จริงๆอาหารเติมได้ไม่เกิน 3 ครั้งนะ
อ้าว มีงี้ด้วยหรอ ไหนบอกเติมได้ไง ? แล้วอาหารก็มาช้า ไม่มีการทำเตรียมไว้ก่อน
พอกินข้าวเสร็จจะมีผลไม้ให้โต๊ะละ 1 จาน ขนาดผลไม้ก็ยังต้องรออีก เพราะพี่ท่านแกหั่นไม่ทัน
เป็นแตงโม กับ สัปปะรด แบ่งกันกินได้คนละ 1 ชิ้นพอดี (ไม่มีการเติมนะจ๊ะ 555 )
6.ห้องนอน ชั้นล่างโอเค แต่ชั้น 2 ค่อนข้างลำบาก เดินต้องก้ม เพราะติดหลังคา จัดที่นอนไว้ติดมุม 4 ที่ พัดลมมีแค่ตัวเดียว
แถมวางผิดตำแหน่งอีกต่างหาก ซึ่งนอนเหงื่อแตกไปตามๆกัน เพราะพัดลมไม่โดนเลยจ้า
7.อาหารเช้าวันแรกมี ข้าวต้ม กับ ผัดหมี่ แพนเค้ก และก็ผลไม้ ซึ่งพอหมดแล้วก็ไม่มีการมาเติมใหม่ จนบางคนที่ยังไม่ได้กิน
ต้องไปถาม เค้าถึงทำให้ใหม่ เอิ่ม ทำไมไม่ทำให้พอดีคนหน่อยล่ะคะ ส่วนอาหารเช้าวันที่สอง เป็น Break fast คนละ 1 ชุด
มีไข่ดาว กับไส้กรอกชิ้นเล็กๆ 4 ชิ้น และขนมปัง ซึ่งก็ทำไม่ทันอีกตามเคย ทั้งกรุ๊ป ได้กินกันไปประมาณ ไม่เกิน 10 คน
รอจนเรือมา สรุปบางคนไม่ได้กินจ่ะ
8.ที่พัก ผ้าเช็ดตัวไม่มีเตรียมไว้ ต้องเดินไปขอ ไม่มีการเติมน้ำดื่มให้ในวันที่สอง ไม่มีการเดินมาดูแลหรือสนใจลูกค้าเลยซักนิด
9.เนื่องจากเราจะขอใบกำกับภาษี เพื่อไปลดหย่อนตามนโยบายเที่ยวทั่วไทย แต่ ทางแพ บอกว่า ต้องเสีย VAT เพิ่ม อีก 7% นะ
เพราะราคานี้ ยังไม่รวม VAT ถ้าพี่จะเอาใบกำกับภาษีก็ต้องจ่ายค่า VAT มาก่อน
อ่าว แบบนี้ก็มีด้วย สรุป ก็ไม่ได้ใบกำกับภาษี แล้วก็สงสัยว่า อย่างนี้ที่แพเปิดบริการ ราคาก็ขนาดนี้ ไม่มีการเสียภาษีหรอกหรอ
10.ที่ปวดใจและอึ้งที่สุดคือ .. ค่าสับหมู 150 บาท เนื่องจากพี่เราได้เอาหมูย่างเมืองตรังมา และได้ให้ที่แพสับหมูให้หน่อย
ไอ้เราก็คิดว่า เค้าคงมีน้ำใจสับให้ฟรี พอมาดูบิล ที่เคลียร์กันวันสุดท้าย มีค่าสับหมูโผล่มา 150 !!! มันคืออัลไลกันนี่
สรุป
เราคิดว่าทางแพรับลูกค้าเยอะเกินไป ไม่ใช่ว่าบริการไม่ทั่วถึงนะ แต่ไม่มีการบริการอะไรเลย
ที่พักน่าจะจัดห้องให้กรุ๊ปเราเยอะกว่านี้ นี่พอไปถึง เราต้องมานั่งจัดห้องกันว่าใครนอนไหน
ตกห้องละ 4 คน ซึ่งบ้านหลังนึงมีสองชั้น เท่ากับ 8 คน ต่อหลัง
แต่เก็บเป็นหัว หัวละ 5,190 8 คน เท่ากับบ้านหลังนึง 4 หมื่นกว่าบาท !! สองคืนนะ
แพงไม่ว่า แต่เสียความรู้สึกนี่สิ อากาศร้อนยังพอทน ต้องมาเจอการบริการแบบนี้อีก
และวันที่สอง เลยมีพวกพี่ๆที่มาเป็นครอบครัวกลับบ้านไปก่อนหลายคนเลยเพราะที่กล่าวมานั่นแหละ
ตอนคืนกุญแจ พนักงานบอกว่าขอไปเช็คที่พักก่อน เรายังเสียวอยู่เลยว่า จะหักตังค์อะไรตรูอีกป่าวว๊าา
แต่ธรรมชาติ สวยงามจริงๆค่ะ อันนี้คอนเฟิร์ม ^^
หลังจากกลับมาเราเลยลองมาอ่านรีวิวในเฟสบุคดู พบว่า มีแต่คนตำหนิเรื่องบริการเหมือนกัน
และก็โดนลบโพสที่ว่าเสียๆหายๆ เหลือแต่โพสดีๆเก็บไว้
และพอมาอ่านในพันทิพ สงสัยว่าทำไมมีแต่รีวิวดีๆ คือไปใช้บริการแล้วดีจริงๆ หรือว่าเจ้าของมารีวิวเอง 555
จบแค่นี้นะคะ เพิ่งมาเขียนลงพันทิพครั้งแรกเลย ผิดพลาดอะไรขออภัยด้วย ไม่รู้จะเรียกกระทู้นี้ว่ารีวิวได้รึเปล่า มันทนไม่ไหวจริงๆ
พวกพี่ๆที่ไปด้วยกันก็บอกว่า ไปเขียนบอกให้คนอื่นรู้หน่อยเถอะ จะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกแบบเรา
หนีกลับบ้านแทบไม่ทัน 555 ที่พูดมาไม่ได้เกินจริงเลยนะคะ ที่เจอตอนนั้นมันน่าโมโหและเสียความรู้สึกมากจริงๆ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ สงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ
EDIT ตอนแรกอธิบายรูปไป นึกว่าลงรูปได้ แต่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน แหะๆ
ประสบการณ์ จากแพคีรีวาริน เขื่อนเชี่ยวหลาน ที่บอกว่าดี นี่เจ้าของมารีวิวเองรึเปล่า ?
และไม่อยากให้เพื่อนๆต้องมาเจอ เหมือนกับที่เจ้าของกระทู้เจอค่ะ และก็อยากรู้ด้วยว่ามีใครเจอเหมือนกันบ้าง
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันเนอะ
เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา เรากับพี่ๆที่ออฟฟิศ ก็ได้จัดไปเที่ยวกัน เลยเลือกไปเขื่อนเชี่ยวหลานและลงเอยที่แพคีรีวาริน
ซึ่งทริปนี้ มีผู้ใหญ่ประมาณ 40 คนและเด็กๆอีก 10 กว่าคน เราวางแผนกันตั้งแต่ต้นปี ให้ทางแพเสนอราคามา 3 วัน 2 คืน
ได้ราคาอยู่ที่ 5,190 บาทต่อคนนะคะ เด็กเล็กไม่เสีย เด็กโตครึ่งราคา รวมๆแล้วที่เสียไปก็จะประมาณ สองแสนกว่าบาท !
มาถึงวันเดินทาง
ทุกคนมุ่งหน้าสู่ท่าเรือ รอขึ้นเรือ ตอนเที่ยง คนเยอะมาก และมีหลายกลุ่ม ซึ่งเรือแทบจะไม่พอด้วย
อากาศก็ร้อนมาก จนเรือมา บ่ายโมง ถึงได้ขึ้นเรือไปที่พักกัน ...
เนื่องจากที่พักค่อนข้างไกล จึงใช้เวลาอยู่บนเรือประมาณเกือบชั่วโมงนึงได้
เรือก็แวะพาไปชม เขาสามเกลอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกุ้ยหลินเมืองไทย ละก็พาไปที่พัก ซึ่งมีอาหารรอไว้อยู่แล้ว
ที่นั่งทานอาหารจะจัดไว้เป็นโต๊ะ และมีชื่อลูกค้าติดอยู่ ได้เวลาก็เริ่มทานข้าวกัน อาหารก็เป็นเมนูบ้านๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่
ซึ่งมื้อแรกในวันนั้น เป็นต้มจืด (ที่จืดมาก) ผัดผัก (ซึ่งรสชาดไม่ต่างจากต้มจืด) แกงใต้ (ที่เผ็ดอย่างเดียว ไม่มีรสชาดอื่นเลย)
และอะไรอีกเราจำไม่ได้ ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์ด้วย มีแต่ผัก นึกว่ากินมังสวิรัติอยู่ Y_Y
กินข้าวไปก็ร้อนไป เพราะไม่มีพัดลมเลย และบวกกับอากาศที่ร้อนมากๆด้วย เหงื่อแตกไปตามๆกัน
พอกินเสร็จ ก็แยกย้ายเข้าที่พัก ซึ่งที่พักได้จัดบ้านให้เรา 7 หลัง มีสองชั้น
ชั้นล่างห้องน้ำและห้องอาบน้ำอยู่ในตัว ส่วนชั้นสอง ห้องน้ำและห้องอาบน้ำจะอยู่ข้างล่างด้านนอก
ซึ่งห้องน้ำและห้องอาบน้ำแคบมากๆ
ที่กล่าวมานี้ ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ยังรับได้อยู่ แต่เรื่องการบริการนี่สิ .....
เริ่มที่
1.เริ่มเข้าที่พัก เนื่องจากอากาศร้อนมาก พวกเราจึงเปิดพัดลมกันทุกห้อง สักพักพนักงานมาบอกว่าระวังไม่มีไฟใช้ตอนนอน
เพราะแพใช้ระบบ Solar cell แบตหมดแล้วหมดเลย แล้วจะให้ทำยังไงคร้าา ต้องลงไปแช่น้ำดับร้อนทั้งวันเลยใช่มั้ย ??
2.ในแพคเกจจะมีการนั่งเรือไปชมหมอก ส่องสัตว์ ตอนเช้า 6 โมง
แต่กลุ่มเราไม่มีใครได้ไป เนื่องจากตื่นกันไม่ทัน อันนี้ความผิดพวกเราเอง (ดื่มหนักไปหน่อย 555)
แต่ 7 โมงเราก็ตื่นกัน และเดินออกไปถามทางแพดู ก็บอกว่า ไม่ทันแล้ว เรือไปกลับมาแล้ว
ก็เลยถามว่า งั้นไปพรุ่งนี้เช้าอีกวันแทนได้มั้ย ทางแพก็บอกว่าไม่ได้ค่ะ เพราะโปรแกรมคือวันนี้ไปมาแล้ว
(หึหึหึ แต่ยังไม่มีใครได้ไปเลยนะเห้ย)
คือส่วนตัวเราเคยไปเที่ยวก็หลายที่อยู่ ซึ่งราคาระดับนี้ ทางที่พักค่อนข้างจะซัพพอร์ทนะ
เพราะเหมือนเหมาเป็นกรุ๊ปไป แต่นี่ไม่มีการบริการอะไรเลย
3.หลังจากไม่ได้ไปดูหมอก ทางแพก็แจ้งว่ามีอีกทริปหนึ่งนะ คือไปดูถ้ำปะการัง แต่ต้องเสียตังค์เพิ่มอีกคน 300 บาท
เราก็เลยถามเพื่อนๆดูว่าจะไปกันไหม ก็โอเค ไป นับคนไปได้ 5 คน พอเราไปแจ้งจำนวน ทางแพกลับแจ้งมาว่าต้องเหมาเรือไป 3,500 บาท
พวกเรามองหน้ากันเอ๋อๆ ไหนบอกคนละ 300 ไง สรุป.....ไม่ได้ไปซะงั้น T_T และพอถามก็บอกว่าไม่มีกิจกรรมไปไหนแล้ว ณ ตอนนั้นเพิ่ง 10 โมงเช้า
จะทำอะไรต่อดีล่ะ !!
4.คือมีพี่ต้องกลับไปทำธุระ เลยต้องกลับก่อนในวันที่สอง ทางเราก็คุยกับแพเรื่องค่าเรือแล้ว แพบอกคิดค่าเรือ 2,500 แต่พอวันจริง เปลี่ยนราคาเป็น 3,500 ซะงั้น
เราก็ต้องยอม เพราะ พี่เค้ามีธุระต้องกลับจริงๆ
5.อาหารทุกมื้อทางแพบอกเป็นแบบบุฟเฟต์เติมได้ ที่โต๊ะเราก็เติมๆๆ หลักๆก็มีไข่เจียว(อร่อยสุดละ) ละก็ผัดผัก เติมไปประมาณ 3 ครั้ง
ก็ขอเค้าเติมผัดผักอีกรอบ ทีนี้พนักงานบอกว่า ผัดผักหมด กำลังผัดอยู่ และก็พูดว่า จริงๆอาหารเติมได้ไม่เกิน 3 ครั้งนะ
อ้าว มีงี้ด้วยหรอ ไหนบอกเติมได้ไง ? แล้วอาหารก็มาช้า ไม่มีการทำเตรียมไว้ก่อน
พอกินข้าวเสร็จจะมีผลไม้ให้โต๊ะละ 1 จาน ขนาดผลไม้ก็ยังต้องรออีก เพราะพี่ท่านแกหั่นไม่ทัน
เป็นแตงโม กับ สัปปะรด แบ่งกันกินได้คนละ 1 ชิ้นพอดี (ไม่มีการเติมนะจ๊ะ 555 )
6.ห้องนอน ชั้นล่างโอเค แต่ชั้น 2 ค่อนข้างลำบาก เดินต้องก้ม เพราะติดหลังคา จัดที่นอนไว้ติดมุม 4 ที่ พัดลมมีแค่ตัวเดียว
แถมวางผิดตำแหน่งอีกต่างหาก ซึ่งนอนเหงื่อแตกไปตามๆกัน เพราะพัดลมไม่โดนเลยจ้า
7.อาหารเช้าวันแรกมี ข้าวต้ม กับ ผัดหมี่ แพนเค้ก และก็ผลไม้ ซึ่งพอหมดแล้วก็ไม่มีการมาเติมใหม่ จนบางคนที่ยังไม่ได้กิน
ต้องไปถาม เค้าถึงทำให้ใหม่ เอิ่ม ทำไมไม่ทำให้พอดีคนหน่อยล่ะคะ ส่วนอาหารเช้าวันที่สอง เป็น Break fast คนละ 1 ชุด
มีไข่ดาว กับไส้กรอกชิ้นเล็กๆ 4 ชิ้น และขนมปัง ซึ่งก็ทำไม่ทันอีกตามเคย ทั้งกรุ๊ป ได้กินกันไปประมาณ ไม่เกิน 10 คน
รอจนเรือมา สรุปบางคนไม่ได้กินจ่ะ
8.ที่พัก ผ้าเช็ดตัวไม่มีเตรียมไว้ ต้องเดินไปขอ ไม่มีการเติมน้ำดื่มให้ในวันที่สอง ไม่มีการเดินมาดูแลหรือสนใจลูกค้าเลยซักนิด
9.เนื่องจากเราจะขอใบกำกับภาษี เพื่อไปลดหย่อนตามนโยบายเที่ยวทั่วไทย แต่ ทางแพ บอกว่า ต้องเสีย VAT เพิ่ม อีก 7% นะ
เพราะราคานี้ ยังไม่รวม VAT ถ้าพี่จะเอาใบกำกับภาษีก็ต้องจ่ายค่า VAT มาก่อน
อ่าว แบบนี้ก็มีด้วย สรุป ก็ไม่ได้ใบกำกับภาษี แล้วก็สงสัยว่า อย่างนี้ที่แพเปิดบริการ ราคาก็ขนาดนี้ ไม่มีการเสียภาษีหรอกหรอ
10.ที่ปวดใจและอึ้งที่สุดคือ .. ค่าสับหมู 150 บาท เนื่องจากพี่เราได้เอาหมูย่างเมืองตรังมา และได้ให้ที่แพสับหมูให้หน่อย
ไอ้เราก็คิดว่า เค้าคงมีน้ำใจสับให้ฟรี พอมาดูบิล ที่เคลียร์กันวันสุดท้าย มีค่าสับหมูโผล่มา 150 !!! มันคืออัลไลกันนี่
สรุป
เราคิดว่าทางแพรับลูกค้าเยอะเกินไป ไม่ใช่ว่าบริการไม่ทั่วถึงนะ แต่ไม่มีการบริการอะไรเลย
ที่พักน่าจะจัดห้องให้กรุ๊ปเราเยอะกว่านี้ นี่พอไปถึง เราต้องมานั่งจัดห้องกันว่าใครนอนไหน
ตกห้องละ 4 คน ซึ่งบ้านหลังนึงมีสองชั้น เท่ากับ 8 คน ต่อหลัง
แต่เก็บเป็นหัว หัวละ 5,190 8 คน เท่ากับบ้านหลังนึง 4 หมื่นกว่าบาท !! สองคืนนะ
แพงไม่ว่า แต่เสียความรู้สึกนี่สิ อากาศร้อนยังพอทน ต้องมาเจอการบริการแบบนี้อีก
และวันที่สอง เลยมีพวกพี่ๆที่มาเป็นครอบครัวกลับบ้านไปก่อนหลายคนเลยเพราะที่กล่าวมานั่นแหละ
ตอนคืนกุญแจ พนักงานบอกว่าขอไปเช็คที่พักก่อน เรายังเสียวอยู่เลยว่า จะหักตังค์อะไรตรูอีกป่าวว๊าา
แต่ธรรมชาติ สวยงามจริงๆค่ะ อันนี้คอนเฟิร์ม ^^
หลังจากกลับมาเราเลยลองมาอ่านรีวิวในเฟสบุคดู พบว่า มีแต่คนตำหนิเรื่องบริการเหมือนกัน
และก็โดนลบโพสที่ว่าเสียๆหายๆ เหลือแต่โพสดีๆเก็บไว้
และพอมาอ่านในพันทิพ สงสัยว่าทำไมมีแต่รีวิวดีๆ คือไปใช้บริการแล้วดีจริงๆ หรือว่าเจ้าของมารีวิวเอง 555
จบแค่นี้นะคะ เพิ่งมาเขียนลงพันทิพครั้งแรกเลย ผิดพลาดอะไรขออภัยด้วย ไม่รู้จะเรียกกระทู้นี้ว่ารีวิวได้รึเปล่า มันทนไม่ไหวจริงๆ
พวกพี่ๆที่ไปด้วยกันก็บอกว่า ไปเขียนบอกให้คนอื่นรู้หน่อยเถอะ จะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกแบบเรา
หนีกลับบ้านแทบไม่ทัน 555 ที่พูดมาไม่ได้เกินจริงเลยนะคะ ที่เจอตอนนั้นมันน่าโมโหและเสียความรู้สึกมากจริงๆ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ สงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ
EDIT ตอนแรกอธิบายรูปไป นึกว่าลงรูปได้ แต่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตน แหะๆ