สวัสดีค่า วันนี้จขกท. จะมาแนะนำร้านซูชิระดับเทพร้านใหม่ในกรุงเทพนะคะ โดยเชฟเจ้าของร้าน คือ Masato Shimizu หรือ มาสะ การันตีด้วยเป็นเชฟที่นำมิชลิน 1 ดาวมาให้ร้าน 15 East นิวยอร์กมาแล้ว (จขกท. เคยลองเซิชชื่อเชฟดู ข่าวเชฟย้ายมาที่ไทยดูเป็นข่าวใหญ่ในวงการอาหารที่นิวยอร์กเหมือนกันค่ะ http://www.businessinsider.com/new-york-is-losing-one-of-its-best-sushi-chefs-in-july--let-the-reservation-race-begin-2015-5)

Facebook page: https://www.facebook.com/Sushi-Masato-694995780637500/
Website: http://www.sushimasato.com
เบอร์โทรร้าน: 02-0400015, 097-2341370 (ต้องจองล่วงหน้านะคะ)

โดยร้านนี้ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 31 เดินเลยโรงแรม S31 ขึ้นไปนิดนึงค่ะ แล้วเลี้ยวเข้าซอยสวัสดี 1 (ก่อนถึงร้าน Isao) โดยร้านจะอยู่ฝั่งเดียวกับโรงแรมเลย สามารถเดินไปจากรถไฟฟ้าพร้อมพงศ์ได้ไม่เกิน 10 นาทีค่ะ
[ปักหมุดแผนที่ในกระทู้ผิดนะคะ ต้องขออภัยด้วย ]

หน้าตาร้าน

ร้านนี้จะเป็นร้านเล็กๆ มีที่นั่งรอบซูชิบาร์ทั้งหมด 12 ที่นั่ง และมีโต๊ะใหญ่ นั่งได้ประมาณ 6 คน อีกสองโต๊ะ โดยที่ร้านจะเสิร์ฟเป็น Omakase Course เฉพาะ dinner ค่ะ  มีสองรอบคือตอน 18.00 และ 21.00 น. และปิดทุกวันจันทร์ค่ะ
โดยตอนที่จขกท.ไปลอง (ม.ค. 2559) จะเป็นช่วง soft opening อยู่ ราคาจะอยู่ที่ 3,000 บาท (ยังไม่รวม VAT + Service Charge) แต่จากที่คุยกับที่ร้านหลังจากช่วง soft opening คือเดือนมีนาคมเป็นต้นไป จะมีคอร์สสองราคาคือ 3,000 บาท และ 5,000 บาทค่ะ (หมายเหตุ: ตอนนี้ร้าน fully booked จนถึงเดือนมีนาคมแล้วค่ะ)

ที่ร้านจะมีเชฟซึ่งพูดภาษาอังกฤษคล่องมาก (แต่พูดไทยไม่ได้) แต่มีผู้ช่วยเชฟคนไทย และพนักงานคนไทยให้บริการด้วยค่ะ
หน้าตาเชฟ


ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยค่ะ!!

เริ่มด้วย appetizer

1) Ice Fish- แปลกดีค่ะหนึบๆ เด้งๆ ไม่คาวเลย ทานได้ทั้งตัวเลยค่ะ


2) Monkfish liver- อารมณ์เหมือนกินตับบดแบบ terrine แต่อร่อย นวล ไม่คาวเลยค่ะ


3) Sake steamed abalone- เป่าฮื้อนึ่งซุป อร่อยค่ะ เป่าฮื้อเด้งมากๆ รสชาติซุปในหอยก็นัวๆ ไม่จัดไป กำลังดีค่ะ ส่วนตัวจขกท.ไม่รู้สึกถึงกลิ่นเหล้า


4) ปลาหมึก- กรุบดีค่ะ สดๆ เคี้ยวมันดีค่ะ 5555


5) Ikura (ไข่ปลาแซลมอน)- ดีมากค่ะ สดมาก ไม่คาว ไม่เหนียวเลย กินแล้วรู้สึกเหมือนกินลูกอมเป๊าะแป๊ะในปาก ชอบ 5555


6) Boiled peeled tomato- เป็นมะเขือเทศจากภาคเหนือของไทย (เห็นเชฟว่าเป็น ingredient เดียวที่ไม่ได้ import เข้ามาค่ะ) โดยปอกเปลือกแล้วเอาไปลวก อร่อยมากค่ะ หวาน รสเปรี้ยวอ่อน สดชื่นดีค่ะ


มาถึง main course กันแล้วค่ะ

7) Sea Perch- ปลากระพง สดอร่อยดีค่ะ


8) Botan Ebi- อันนี้คือดีงามมากกกก ไก่ร้อยตัว คือกุ้งตัวใหญ่ หวาน กรอบ และสดมากค่ะ


9) Sardine- สดอร่อยดีค่ะ แต่ไม่ได้โดดเด่น


10) Kimedai- ชิ้นนี้จะมีการ burn โดยใช้ถ่านนาบค่ะ เก๋มาก


ในส่วนของรสชาติ ชิ้นนี้จขกท.ไม่ค่อยประทับใจค่ะ คือปลาสด แต่ไม่รู้ว่าเพราะใช้ถ่านนาบหรือยังไง รู้สึกว่าข้าวอุ่นเกินไปสำหรับซูชิค่ะ


11) Marinated Akame- อร่อยค่ะ สด นวลดี


12) Otoro- ถึงตาพระเอกของคอร์สแล้วค่ะ บอกเลยว่าเมนูนี้เด็ดมากกกก ปลาสดและมีความมันแทรก แล้วคือมันละลายในปากได้จริงๆ คือจขกท.แทบไม่ได้เคี้ยวเลย แต่ปลาก็ค่อยๆละลายในปากเอง คือ ณ ตอนนั้นจขกท.ไม่อยากกลืนเลยค่ะ 555555


13) Kohada- สดดีค่ะ อร่อยแต่ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ


14) Akagai (หอยแครงยักษ์)- ชิ้นนี้ดีงามมากค่ะ (จขกท.ชอบทานหอยเป็นการส่วนตัว) คือเด้ง สด หวาน เคี้ยวมันดีค่ะ ชอบ 5555


15) Squid- สด อร่อย เด้ง เคี้ยวสนุกค่ะ


16) ชิ้นนี้จขกท.จำชื่อไม่ได้ค่ะ น่าจะเป็นซาบะ จำได้แค่ว่าอร่อยดี 5555


17) มาถึงเมนูพรีเมี่ยม ที่จขกท.ว่าเป็นตัวปราบเซียนร้านซูชิหลายๆร้าน uni (ไข่หอยเม่น) นั่นเองค่ะ
โดย uni ที่เสิร์ฟจะมาด้วยกัน 2 ชนิดคือแบบ bafun และ murasaki


ซึ่งอร่อยมาก สด และไม่คาวแม้แต่นิดเดียวทั้งสองอันเลยค่ะ จขกท.ต้องยอมรับว่าจำไม่ได้ว่าสีไหนเป็นชนิดไหน แต่รสชาติทั้งสองอันแตกต่างกัน ต้องไปลองชิมกันเองค่ะ อุอิ


18) Anago- เป็นชิ้นยาวๆแล้วนำมาม้วนทบค่ะ โดยจขกท.ชอบค่ะ texture ดี คือไม่แห้งไป และมีความหวาน ถึงแม้จะไม่มีน้ำซอสราดเหมือน unagi ทั่วไป


19) Tamago- จขกท. ชอบนะ รสชาตินวลๆ หวานกลมกล่อม ไม่หวานไป texture เหมือนขนมซูเฟล่เลย


20) แล้วก็มาล้างปากด้วยน้ำซุปค่ะ จำไม่ได้ว่าเป็นลูกชิ้นอะไร แต่ซุปใสดีค่ะ รสไม่จัด นัวๆ ลูกชิ้นก็น่าจะทำจากปลาสับ (เพราะคิดว่าไม่ใช่หมู) กลมกล่อมดีค่ะ


21) Kama- เป็นชิ้นพิเศษจากเชฟค่ะ เป็นส่วน jaw ของปลาทูน่าเหนือ otoro ก็มีชิ้นนี้นี่แหละค่ะ คือส่วนตัวจขกท.ไม่เคยทานเมนูนี้มาก่อน texture จะคล้าย otoro มากแต่มันน้อยกว่า แต่ก็ยังละลายในปากค่ะ ส่วนตัวจขกท.ชอบเมนูนี้ที่สุดในคอร์สแล้ว


22) Uni Hotate Handroll- อันนี้เป็นเมนูพิเศษจากเชฟคะ (แต่เสียตังเพิ่มนะคะ ประมาณ 500บาท) โดยแทนที่จะทำข้าวห่อสาหร่ายปลาแซลมอนหรือปูอัดธรรมดา ก็ใช้ hotate ชิ้นใหญ่ และ uni แทนค่ะ จขกท.ฟินมากคือ hotate ชิ้นใหญ่ หวาน และสดมาก uni ก็ยังคงดีงามพระรามเก้าอยู่ค่ะ เป็น combi ที่ดีมาก


ตบท้ายด้วยของหวานค่ะ

23) ​Yuzu granita- จะเป็นไอศกรีมเกร็ดน้ำแข็งรสส้มยูซุ เปรี้ยว สดชื่นดีค่ะ เป็นเมนูล้างปากที่ดี


24) ตามด้วยพุดดิ้ง soy ซึ่งดูเปล่าๆ ดูบ้านมาก แต่พอชิมแล้วคืออร่อยมากค่ะ ส่วนตัวที่จขกท.ปกติไม่ชอบนมถั่วเหลืองยังปลื้มเมนูนี้เลย เป็นพุดดิ้งที่นวลนิ่มมาก ราดซอสหวานๆเหนียวๆ นิดหน่อย แบบว่าฟินอะ!


25) ตบท้ายด้วยชาเขียว matcha แบบเจ้มจ้นมาก ข้นเหมือนกิน latte แต่ไม่มีนมนะคะ ซึ่งขมเหมือนกันสไตล์ชาเขียวแท้ๆ แต่กลิ่นหอมมากค่ะ


ทั้งนี้เมนูในแต่ละวันจะไม่เหมือนกันนะคะ ด้วยที่เชฟจะสั่งปลาแต่ละล็อตมาไม่เหมือนกัน ซึ่งก็เป็นทั้งข้อดี คือ ลูกค้าก็จะได้ลองของใหม่ๆ ไม่จำเจ และก็เป็นข้อเสีย คือ บางทีถ้าอยากกลับไปกินเมนูใดเป็นพิเศษ ก็อาจจะไม่มีให้กินค่ะ แนะนำว่าเวลาโทรไปจองให้แจ้งอาหารหรือ ingredient ที่ทานไม่ได้ และเมนูที่อยากได้เป็นพิเศษ เพื่อที่เชฟอาจจะสามารถเตรียมไว้ให้ได้ค่ะ

สรุป จขกท. ว่าโดยรวม omakase คอร์สนี้คือ ดีมากกกก (จากประสบการณ์ของจขกท.ที่ยังไม่มีโอกาสได้ลองทานซูชิระดับมิชลิน 3 ดาวมาก่อนนะคะ) ทุกชิ้นสด ไม่คาวเลย เชฟก็เฟรนด์ลี่ค่ะ มีชวนคุยสนุกๆ บรรยากาศดีไม่กดดัน และในส่วนของราคา 3,000 กว่าบาท ได้ 20 กว่าคอร์ส เป็นของพรีเมี่ยมแบบนี้ จขกท.ว่าคุ้มค่ะ ทั้งนี้ปริมาณเมนูต่อคอร์สหลัง soft opening ก็จะเปลี่ยนไปอีกที ก็ต้องลองดูกันต่อไปค่ะ

ทั้งนี้จขกท.ยังเป็นแค่มือสมัครเล่นนะคะ อาจจะบรรยายรสชาติหรือ texture อาหารได้ไม่ละเอียดหรือลึกซึ้งมาก ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย