วันนี้จะขอแนะนำร้านซูชิคุณภาพดีในราคาที่เอื้อมถึงครับสำหรับใครที่ชอบทานซูชิอยากจะให้มาลองกันดูสักครั้งรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ร้านนี้ผมชอบมากเป็นการส่วนตัวมาทานครั้งนี้เป็นครั้งที่4แล้ว
เดินทางไปไม่ยากครับสำหรับใครที่โดยสารรถยนต์ส่วนตัวสามารถนำรถมาจอดได้โดยมีตราประทับของทางร้านจอดฟรี3ชม. และยังสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าง่ายๆ ลงสถานีเอกมัยออกทางออกที่1 เดินเข้าสอยเอกมัย(สุขุมวิท63)มานิดเดียวถึงเลยครับ ติดๆอยู่กับบ้านไร่กาแฟ
ร้านตั้งอยู่ด้านหน้าของลั่นล่างสุดตึกเลยครับมาถึงจะมองเห็นง่ายๆเลย ตัวร้านจะขนาดไม่ใหญ่ครับ มีประมาณ8-9โต๊ะ ที่นั่งตรงบาร์ได้สัก 8 คน และห้องพิเศษอีก1ห้องครับ
เคาเตอร์ใส่วัตถุดิบไว้หน้าตาน่ากินมากเลยทีเดียว
เมนูและราคาครับ ราคาก็ปกติตามร้านซูชิระดับนี้อ่ะครับ แต่ถ้าทานกันเยอะๆก็อาจจะจนได้ 555
หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย พนักงานจะนำของว่างมาเซิร์ฟให้ทานเล่นกันก่อนครับ จะมีผลัดเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ มีทั้ง ถั่วแระญี่ปุ่น ปลาหมึกกนึ่งซีอิ้ว แต่ในวันนี้ที่ได้จะเป็น หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ้ว มาคู่กับซุปสาหร่าย(ซุปเติมได้เรื่อยๆ) ตัวหัวปลาอร่อยดีครับแต่รู้สึกซีอิ้วจะเข้มไปหน่อยท้ายๆเริ่มแสบคอส่วนซุปอร่อยดีเลยครับ ผมว่ารสชาติดีกว่าซุปมิโสะตามร้านทั่วไปมากเลยทีเดียว
เครื่องดื่มจะมีให้เลือกกันอยู่3อย่างครับ ชาเขียวร้อน ชาเขียวเย็น และน้ำเปล่า วันนี้เลือกชาเขียวเย็นมาครับเพราะอากาศร้อนมาก
มาเริ่มที่จานแรก Mango roll จานนี้แม่ผมชอบมากๆแบบสุดๆในราคาเบาๆ ได้ความสดของแซลมอนบวกกับความหวานของมะม่วงสุก
ซาชิมิแซลมอน ชิ้นหนาและสดมากกกก ดูลวดลายของมันสิครับยั่วยวนน่าทานขนาดไหน
ต่อมาเป็นซูชิแซลมอนกับท้องแซลมอนรนไฟครับ ตัวแซลมอนผมแอบคิดว่าแบบที่ทำมาเป็นซาชิมิจะอร่อยกว่า แต่ท้องแซลมอนมันๆนิ่มๆดีครับละลายเลย
ปลาจินทาระ เป็นตระกูลปลาเนื้อขาวมาแบบเผาไฟ นุ่มๆมันๆดีครับ
Ama Ebi หวานดีครับแต่ยังรู้สึกไม่พิเศษเท่าไหร่ ส่วน Hamachi นี่สดมากๆเลย
ตัวหน้าสุดคือ Akami Blue fin ตรงกลางคือ Yellow fin และหลังสุดคือหอยปีกนกครับ Akami สดและฉ่ำมากทั้งคู่เลยครับไม่ควรพลาด แต่ก็ตามสไตล์ของทูน่านะครับจะคาวหน่อยๆถ้าคนที่กินคาวไม่ค่อยได้แนะนำว่าให้ผ่านจะดีกว่า ส่วนหอยปีกนกธรรมดาครับแอบแข็งๆด้วยนิดนึง
Enkawa ครับตอนไปกินครั้งแรกหางยาวมากกกก แต่ครั้งนี้หดสั้นลงนะ5555 แต่ยังคงความอร่อยไว้เหมือนเดิมครับ
เริ่มเข้าโซนพิเศษกันละนะครับ Chu-toro เป็นส่วนที่ดีเกือบสุดเลยทีเดียวเป็นลองแค่ Otoroล่ะครับ รสจะหวานๆฉ่ำๆอยู่กลางๆระหว่างOtoro กับ Bluefinนะ
สั่งมาเทียบกันจะๆไปเลย Unagi กับ Anago เป็นปลาไหลทั้งคู่นะครับ หวานอร่อยมากๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คุ้มในราคาย่อมเยาครับ แต่ตัวAnagoจะเนื้อละเอียดกว่าๆคล้ายๆเนื้อปลาน่ะครับ
ตับปลาอังโกะ มันๆลื่นๆแล้วใส่หอมโรยมานิดหน่อยครับ ทำมาดีมากไม่มีกลิ่นคาวเลย
อีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้ Uni ไข่หอยเม่น ที่ผมลองเป็นแบบสดนะครับ สดมากจิงๆแหละ รสหวาน แต่ว่าเหมือนจะสดไปหน่อยนะกลิ่นนี่น้ำทะเลมาเลยครับ
เลยยังทำให้รู้สึกว่าไม่โอเคเท่าไหร่((ขออภัยรูปภาพส่วนนี้หาย))
ต่อมาเป็นสิ่งที่ทุกคนชื่นชอบครับ Otoro สั่งมาสองแบบแบบปกติกับแบบรนไฟครับ
แบบปกติลายสวยใช้ได้เลย นุ่มมันละลายในปากครับบอกเลยว่าฟิน แต่(ตอนมาครั้งแรกลายดูสวยกว่านี้นิดนึงนะครับ)
ต่อมาเป็นแบบรนไฟครับ ตอนสั่งบอกเชฟไว้ว่าถ้าจะทำแล้วให้เรียกด้วยเพราะอยากเอารูปมาฝากครับ แหะๆ
กำลังรนไฟให้ดูสดๆเลยครับ สีเริ่มเปลี่ยนๆ
เสร็จเรียบร้อยน่ากินมาก โรยหอมมาด้วยและราดน้ำหน่อยนึง น้ำราดออกรสเปรี้ยวนิดๆอร่อยมากๆเลยทีเดียวครับ
ต่อมาเป็น matsusaka เนื้อชั้นยอดครับ ใครเป็นคอเนื้อต้องไม่พลาดจริงๆ เนื้อหวานนุ่ม ไม่มีความเหนียวเลยครับ
สุดท้ายเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมมาทานร้านนี้ครับ ไม่ว่ายังไงถ้าได้มาร้านนี้ต้องลองครับแนะนำจริงๆ
Foie gras miso เป็นตับห่านสุกกำลังดีกำลังดีเสิร์ฟมาคู่กับunagiรสหวานฉ่ำ ทานเข้าไปนี่ทั้งนุ่มแบบละลายในปาก หวานมันแบบไม่มีที่ติจริงๆครับ กินเข้าไปนี่ต้องทำหน้าฟินกันเป็นแถวยั่งกับขึ้นสวรรค์ชั้น7เลยทีเดียวแหละ
แต่ลืมถ่ายบิลตอนจ่ายตังไว้แล้วแหะๆ
แนะนำให้มาลองกันสักครั้งจริงๆครับ สำหรับใครมีงบไม่มากก็มาทานได้นะครับ ก็สั่งเมนูปกติอย่าสั่งตัวทอปๆมากก็กินกันสบายๆกระเป๋าล่ะครับ หรือเลือกทานเซทมื้อกลางวัน จันทร์-ศุกร์จะมีลดราคาอยู่ครับหรือบางช่วงเวลาร้านจะจัดโปรโมชั่นลด 20เปอเซนต์ 50เปอเซนต์บางเมนูครับ ติดตามโปรโมชั่นผ่านทางเฟสบุ๊คหรือInstagram ได้เลยครับ
พอดีพึ่งทำรีวิวเป็นครั้งแรกผิดพลาดยังไงต้องประทานโทษด้วยครับแหะๆ
[CR] รีวิวร้านซูชิเกรดพรีเมี่ยม :: Tororo Sushi
เดินทางไปไม่ยากครับสำหรับใครที่โดยสารรถยนต์ส่วนตัวสามารถนำรถมาจอดได้โดยมีตราประทับของทางร้านจอดฟรี3ชม. และยังสามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าง่ายๆ ลงสถานีเอกมัยออกทางออกที่1 เดินเข้าสอยเอกมัย(สุขุมวิท63)มานิดเดียวถึงเลยครับ ติดๆอยู่กับบ้านไร่กาแฟ
ร้านตั้งอยู่ด้านหน้าของลั่นล่างสุดตึกเลยครับมาถึงจะมองเห็นง่ายๆเลย ตัวร้านจะขนาดไม่ใหญ่ครับ มีประมาณ8-9โต๊ะ ที่นั่งตรงบาร์ได้สัก 8 คน และห้องพิเศษอีก1ห้องครับ
เคาเตอร์ใส่วัตถุดิบไว้หน้าตาน่ากินมากเลยทีเดียว
เมนูและราคาครับ ราคาก็ปกติตามร้านซูชิระดับนี้อ่ะครับ แต่ถ้าทานกันเยอะๆก็อาจจะจนได้ 555
หลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย พนักงานจะนำของว่างมาเซิร์ฟให้ทานเล่นกันก่อนครับ จะมีผลัดเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ มีทั้ง ถั่วแระญี่ปุ่น ปลาหมึกกนึ่งซีอิ้ว แต่ในวันนี้ที่ได้จะเป็น หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ้ว มาคู่กับซุปสาหร่าย(ซุปเติมได้เรื่อยๆ) ตัวหัวปลาอร่อยดีครับแต่รู้สึกซีอิ้วจะเข้มไปหน่อยท้ายๆเริ่มแสบคอส่วนซุปอร่อยดีเลยครับ ผมว่ารสชาติดีกว่าซุปมิโสะตามร้านทั่วไปมากเลยทีเดียว
เครื่องดื่มจะมีให้เลือกกันอยู่3อย่างครับ ชาเขียวร้อน ชาเขียวเย็น และน้ำเปล่า วันนี้เลือกชาเขียวเย็นมาครับเพราะอากาศร้อนมาก
มาเริ่มที่จานแรก Mango roll จานนี้แม่ผมชอบมากๆแบบสุดๆในราคาเบาๆ ได้ความสดของแซลมอนบวกกับความหวานของมะม่วงสุก
ซาชิมิแซลมอน ชิ้นหนาและสดมากกกก ดูลวดลายของมันสิครับยั่วยวนน่าทานขนาดไหน
ต่อมาเป็นซูชิแซลมอนกับท้องแซลมอนรนไฟครับ ตัวแซลมอนผมแอบคิดว่าแบบที่ทำมาเป็นซาชิมิจะอร่อยกว่า แต่ท้องแซลมอนมันๆนิ่มๆดีครับละลายเลย
ปลาจินทาระ เป็นตระกูลปลาเนื้อขาวมาแบบเผาไฟ นุ่มๆมันๆดีครับ
Ama Ebi หวานดีครับแต่ยังรู้สึกไม่พิเศษเท่าไหร่ ส่วน Hamachi นี่สดมากๆเลย
ตัวหน้าสุดคือ Akami Blue fin ตรงกลางคือ Yellow fin และหลังสุดคือหอยปีกนกครับ Akami สดและฉ่ำมากทั้งคู่เลยครับไม่ควรพลาด แต่ก็ตามสไตล์ของทูน่านะครับจะคาวหน่อยๆถ้าคนที่กินคาวไม่ค่อยได้แนะนำว่าให้ผ่านจะดีกว่า ส่วนหอยปีกนกธรรมดาครับแอบแข็งๆด้วยนิดนึง
Enkawa ครับตอนไปกินครั้งแรกหางยาวมากกกก แต่ครั้งนี้หดสั้นลงนะ5555 แต่ยังคงความอร่อยไว้เหมือนเดิมครับ
เริ่มเข้าโซนพิเศษกันละนะครับ Chu-toro เป็นส่วนที่ดีเกือบสุดเลยทีเดียวเป็นลองแค่ Otoroล่ะครับ รสจะหวานๆฉ่ำๆอยู่กลางๆระหว่างOtoro กับ Bluefinนะ
สั่งมาเทียบกันจะๆไปเลย Unagi กับ Anago เป็นปลาไหลทั้งคู่นะครับ หวานอร่อยมากๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คุ้มในราคาย่อมเยาครับ แต่ตัวAnagoจะเนื้อละเอียดกว่าๆคล้ายๆเนื้อปลาน่ะครับ
ตับปลาอังโกะ มันๆลื่นๆแล้วใส่หอมโรยมานิดหน่อยครับ ทำมาดีมากไม่มีกลิ่นคาวเลย
อีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้ Uni ไข่หอยเม่น ที่ผมลองเป็นแบบสดนะครับ สดมากจิงๆแหละ รสหวาน แต่ว่าเหมือนจะสดไปหน่อยนะกลิ่นนี่น้ำทะเลมาเลยครับ
เลยยังทำให้รู้สึกว่าไม่โอเคเท่าไหร่((ขออภัยรูปภาพส่วนนี้หาย))
ต่อมาเป็นสิ่งที่ทุกคนชื่นชอบครับ Otoro สั่งมาสองแบบแบบปกติกับแบบรนไฟครับ
แบบปกติลายสวยใช้ได้เลย นุ่มมันละลายในปากครับบอกเลยว่าฟิน แต่(ตอนมาครั้งแรกลายดูสวยกว่านี้นิดนึงนะครับ)
ต่อมาเป็นแบบรนไฟครับ ตอนสั่งบอกเชฟไว้ว่าถ้าจะทำแล้วให้เรียกด้วยเพราะอยากเอารูปมาฝากครับ แหะๆ
กำลังรนไฟให้ดูสดๆเลยครับ สีเริ่มเปลี่ยนๆ
เสร็จเรียบร้อยน่ากินมาก โรยหอมมาด้วยและราดน้ำหน่อยนึง น้ำราดออกรสเปรี้ยวนิดๆอร่อยมากๆเลยทีเดียวครับ
ต่อมาเป็น matsusaka เนื้อชั้นยอดครับ ใครเป็นคอเนื้อต้องไม่พลาดจริงๆ เนื้อหวานนุ่ม ไม่มีความเหนียวเลยครับ
สุดท้ายเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมมาทานร้านนี้ครับ ไม่ว่ายังไงถ้าได้มาร้านนี้ต้องลองครับแนะนำจริงๆ
Foie gras miso เป็นตับห่านสุกกำลังดีกำลังดีเสิร์ฟมาคู่กับunagiรสหวานฉ่ำ ทานเข้าไปนี่ทั้งนุ่มแบบละลายในปาก หวานมันแบบไม่มีที่ติจริงๆครับ กินเข้าไปนี่ต้องทำหน้าฟินกันเป็นแถวยั่งกับขึ้นสวรรค์ชั้น7เลยทีเดียวแหละ
แต่ลืมถ่ายบิลตอนจ่ายตังไว้แล้วแหะๆ
แนะนำให้มาลองกันสักครั้งจริงๆครับ สำหรับใครมีงบไม่มากก็มาทานได้นะครับ ก็สั่งเมนูปกติอย่าสั่งตัวทอปๆมากก็กินกันสบายๆกระเป๋าล่ะครับ หรือเลือกทานเซทมื้อกลางวัน จันทร์-ศุกร์จะมีลดราคาอยู่ครับหรือบางช่วงเวลาร้านจะจัดโปรโมชั่นลด 20เปอเซนต์ 50เปอเซนต์บางเมนูครับ ติดตามโปรโมชั่นผ่านทางเฟสบุ๊คหรือInstagram ได้เลยครับ
พอดีพึ่งทำรีวิวเป็นครั้งแรกผิดพลาดยังไงต้องประทานโทษด้วยครับแหะๆ