สวัสดีค่ะ วันนี้จขกท.จะพามาทาน omakase รูปแบบใหม่ ที่ร้าน Sushi Kappou Kitaohji Ginza Thailand จขกท.ขออนุญาตเรียกย่อๆว่า Sushi Kappou Kitaohji โดยเชฟจะครีเอทเมนูจากวัตถุดิบที่ดีที่สุดของแต่ฤดูกาล ทำให้เมนูในแต่ละฤดูกาล หรือว่าแต่ละวันก็จะไม่เหมือนกัน โดยจุดเด่นของ omakase ของทางร้านคือ นอกจากจะเสิร์ฟซูชิ เมนูปลาดิบแล้ว จะมีการเสิร์ฟเมนูจานร้อนคั่นเพิ่มอรรถรสด้วยค่ะ

ร้าน Sushi Kappou Kitaohji นี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือร้านอาหาร Kitaohji จากประเทศญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ที่เปิดมากว่า 70 ปีแล้ว โดยได้มีการเปิดร้าน Kitaohji Ginza Thailand ที่ทองหล่อ เป็นร้านแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดยที่ร้าน Kitaohji Ginza Thailand จะเสิร์ฟอาหารสไตล์ Kaiseki (เป็นอาหารตามธรรมเนียมดั้งเดิมของญี่ปุ่น) โดยร้าน Sushi Kappou Kitaohji นี้เป็นร้านที่สองค่ะ

Facebook page: https://www.facebook.com/sushikappou.kitaohji/
IG: @sushikapou.kitaohji
เบอร์โทร: 02-160-0308 (ต้องจองล่วงหน้าค่ะ)

ร้านตั้งอยู่ที่ซอยพร้อมจิต สุขุมวิท 39 (ซอยเดียวกับร.พ.สมิติเวช) ในโครงการ 39 Boulevard ชั้น G  (มีที่จอดรถค่ะ)

ทางเข้าร้านค่ะ


ที่นั่งภายในร้านจะมีสามโซน คือส่วนเคาน์เตอร์ซูชิบาร์ ที่สามารถเห็นเชฟทำอาหาร และพูดคุยกับเชฟได้ โซนโต๊ะ และโซนห้องส่วนตัว ค่ะ

โซนเตาน์เตอร์ (11 ที่นั่ง)


โซนโต๊ะด้านหลังเคาเตอร์ (โต๊ะสำหรับ 4 คน จำนวน 4 โต๊ะ)


(จขกท.ไม่ได้เข้าไปถ่ายภาพโซนห้องส่วนตัวค่ะ แอบเขิน)

จขกท.ได้ไปทานที่ร้านในช่วงเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วง soft opening ของทางร้าน โดยราคาจะอยู่ที่ 4,500 บาท ++ ต่อคอร์สค่ะ (สามารถโทรสอบถามราคาและรายละเอียดคอร์สได้ค่ะ)

เนื่องด้วยที่ร้านทำทั้งเมนูซูชิและจานร้อน จึงมีเชฟหลายคนแบ่งกันทำครัวเย็นและครัวร้อน โดยหัวหน้าเชฟของทางร้านคือคุณ MAENO JUNJI  (เชฟมาเอโนะ) และ SHIMUTA KUNIHIKO (เชฟชิมุตะ) ซึ่งเป็นเชฟมากประสบการณ์จากที่ร้าน Kitaohji สาขาโตเกียวค่ะ ถึงแม้ว่าเชฟจะพูดได้แต่ภาษาญี่ปุ่น (อิมพอร์ตจากญี่ปุ่นจริงจัง) แต่เชฟท่านอื่นๆและพนักงานของทางร้านสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการสื่อสารกับเชฟได้ค่ะ แต่ขนาดภาษาไม่ได้ เชฟมาเอะโนะก็พยายามสื่อสารกับจขกท. และมีหยอกแกล้งจขกท.ด้วยค่ะ (จขกท.มีบอกเชฟว่าขอไม่ทาวาซาบิในซูชิ พอจะเสิร์ฟเมนูซูชิ เชฟเลยแซวแกล้งว่าจะใส่วาซาบิเต็มๆให้ค่ะ 5555)

หน้าตาเชฟถึงจะจริงจัง แต่จริงๆขี้เล่นนะเออ XD


เกริ่นมามากแล้ว มาที่อาหารกันดีกว่าค่ะ

ก่อนจะเสิร์ฟอาหาร เชฟจะโชว์วัตถุดิบที่จะใช้ในการทำอาหารในวันนี้ให้เราดูค่ะ (เห็นหอยกับ uni แล้วกรี๊ดมากกค่ะ)


1. ซุปปลาฮาดะ- เชฟบอกว่าปลาฮาดะจะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของอาหารมื้อนี้ จึงใช้ปลานี้มาเคี่ยวทำซุปค่ะ หอมกลมกล่อมดี


2. เต้าหู้ไข่และปูซูไวและไข่ปลาแซลมอน- เมนูนี้ นอกจากหน้าตาดีแล้ว รสชาติยังดีงามอีกค่ะ ปูและไข่ปลาก็สด โดยเฉพาะเต้าหู้คือเนียนนุ่มดีงามมาก เชฟบอกว่าทางร้านทำเต้าหู้เอง ><


3. ซุปปลามาได- จขกท.ชอบความประณีตของทางร้านมาก คืออย่างคอร์สนี้หน้าตาภายนอกก็เป็นซุปกาธรรมดา ซึ่งปกติเราๆก็คงไม่ได้สนใจหน้าตาข้างในกัน แต่พอเปิดออกมาก็จะเจอการแต่งซุปที่ดูดี และมีปลามาไดชิ้นใหญ่ที่สดและนิ่มกำลังดีค่ะ


4. ซาซิมิ- ปลาดิบมาแล้ววว ประกอบด้วยปลาฮาดะ ปลาหมึกญี่ปุ่น uni (พันธุ์ bafun)  ที่เป็นนิงิริ คืออากามิ (ปลาทูน่า ส่วนไร้มัน) และหอย (จขกท.จำชื่อพันธุ์ไม่ได้ ^^”) ความสดคือได้ใจไปเต็มๆเลยค่ะ ไม่คาว และรสชาติดี จขกท.ชอบปลาหมึกและหอยเป็นพิเศษ เป็นคนชอบ texture ที่เด้งๆหนึบๆ เคี้ยวสนุกดีค่ะ 555


5. ชาบูปลาฮาโมะ- เมนูนี้จขกท.ชอบมากกกค่ะ คือเชฟจะทำชาบูให้เราดูเลย ส่วนปลาฮาโมะนี้คือปลาไหลชนิดนึงที่สามารถหาทานได้แค่บางฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งปกติปลาฮาโมะจะกระดูกเยอะและถี่มาก แต่เชฟมาเอโนะก็ใช้สกิลในการสับปลา จนกระดูกแหละละเอียด เวลาทานจึงไม่รู้สึกฝืดคอเลย แถมเนื้อปลาก็ยังนุ่มและมีความหวานด้วยค่ะ และเต้าหู้โฮมเมดของทางร้าน เป็นเต้าหู้ถั่วเหลืองที่อร่อยและนุ่มนิ่ม (ปกติจขกท.ไม่ชอบทานเต้าหู้ถั่วเหลือง) ผักในชาบูก็สดอร่อยดีค่ะ


6. Otoro- เมนูพรีเมี่ยมคำโปรดของใครหลายๆคน ถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ รู้สึกถึงความละมุนของมันปลาในปาก ข้าวก็มีความแข็งกำลังดี


7. Anago- ปลาไหลทะเล ของโปรดจขกท. แค่หน้าตาตอนเสิร์ฟก็กินใจแล้วค่ะ พอตอนทานนี่ก็ฟินนนกันไป ปลาไหลย่างมากำลังดี หวานกำลังดี แถมมีเซอร์ไพรส์คือมีรสส้มยูซุขูดที่โรยบนปลา ทำให้คำนี้มีความหอมสดชื่นแบบส้มยูซุ และรสชาติก็ยังเข้ากับปลาดีอย่างไม่น่าเชื่อ


8. ไข่หวาน- รสชาติและ texture ใช้ได้ค่ะ


9. เทมปุระ- เมนูนี้ตอนแรกจขกท.เห็นแล้วเฉยๆมาก แต่พอทานแล้วกรี๊ดกร๊าดมาก กุ้งคือทำดีมาก ชิ้นใหญ่ แป้งกำลังดีไม่หนาเกินไป ไม่อมน้ำมัน และกรอบอร่อย ที่เหนือความคาดหมายคือชิ้นมันเผา ไม่คิดว่าจะทำเทมปุระแล้วอร่อยขนาดนี้ มันเผาของทางร้านหวานอร่อย เข้ากับแป้งเทมปุระได้อย่างดีมาก ประทับใจสุดๆค่ะ


10. Saba Nigiri- ข้าวปั้นปลาซาบะ เมนูนี้ก็เหนือความคาดหมาย จขกท.ชอบที่ปลาหนาจนห่อข้าวได้ และปลาก็สดอร่อย และยังมีกิมมิคที่มัสตาร์ดที่ทาระหว่างปลากับข้าว คือไม่ฉุน รสชาติสดชื่น ตื่นดีค่ะ 555


11. Kuruma Ebi- ข้าวปั้นกุ้ง กุ้งสดดีค่ะและมีความหวานด้วย


12. ไข่ตุ๋นบ๊วย- จขกท.ชอบเมนูนี้มากกกกกกกกกกกกค่ะ คือจขกท.ชอบทานไข่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (แอบลำเอียง 5555) คือรู้สึกว่าเป็นไข่ตุ๋นที่น่ารัก 5555 แบบมีความเนียนและนิ่ม รสชาติไข่ก็ดี และซอสบ๊วยที่มี texture แบบเจลลี่เหลวๆ ทานกับไข่แล้วสดชื่นมาก เป็นเมนูที่เซอร์ไพรส์มากๆค่ะ ตอนทานนี่ไม่อยากให้หมดถ้วยเลย 5555 เป็นการปิดท้ายของคาวได้อย่างสวยงาม


13. พุดดิ้งสาเกและพีช- แล้วก็มาถึงของหวาน จขกท.ชอบเมนูนี้มากเช่นกัน ปกติจขกท.ไม่ชอบของหวานที่ใส่แอลกฮอลล์ แต่พุดดิ้งสาเกอันนี้ ถึงจะมีรสของสาเก แต่มันไม่ฉุนหรือขมจนเกินไป เนื้อพุดดิ้งก็ดีงาม ทานกับพีช (เชฟบอกว่าผลไม้นี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล) ซึ่งมีรสหวานกำลังดีและสดชื่นค่ะ


อย่างที่จขกท.บอกไว้ข้างต้นว่าทางร้านจะครีเอทเมนูตามวัตถุดิบของแต่ฤดูกาล ดังนั้นเมนูในแต่ละช่วง หรือแม้แต่ละวันก็จะต่างกันไป ดังนั้นถ้าอยากได้เมนูไหนเป็นพิเศษ จขกท.แนะนำให้สอบถามและแจ้งทางร้านไว้ล่วงหน้าเลยค่ะ นอกจากนี้พนักงานของทางร้านได้บอกว่าเรายังสามารถกำหนดงบและแจ้งวัตถุดิบหลักที่อยากได้กับทางร้าน เพื่อที่จะให้เชฟออกแบบคอร์สเมนูพิเศษให้ได้ค่ะ

สรุป จขกท.รู้สึกว่าอาหารที่นี่มีความพิเศษจริงๆ คือในเมนูที่เป็น basic ของคอร์ส OMAKASE ทั่วๆไป ทางร้านสามารถเพิ่มลูกเล่นความพิเศษลงไปให้จขกท.รู้สึกเซอร์ไพรส์ได้เสมอ นอกจากรสชาติที่ดีแล้ว การตกแต่งของแต่ละจานก็สวยงาม รู้สึกพรีเมี่ยมมากๆ การบริการก็ดีค่ะ พนักงานเอาใจใส่ดี มาช่วยสื่อสารให้กับเชฟมาเอโนะตลอด เชฟมาเอโนะ และเชฟคนไทยที่ดูแลจขกท.ในวันนั้นก็เฟรนด์ลี่ ทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารในวันนั้นเป็นไปอย่างสบายๆ ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่ด้วยความพิเศษเหล่านี้ จขกท.รู้สึกว่าเป็นร้านที่ดีงามเหมาะกับโอกาสพิเศษจริงๆค่ะ

ลาไปด้วยเซตมีดที่จขกท.ว่าคูลมากเป็นการส่วนตัวค่ะ