ลมหนาวกำลังมาอีกรอบเลยอยากหาอะไรอุ่นๆ กินเป็นมื้อเย็นสักหน่อย
วันนี้เข้าไปเดินเล่นที่ท้อปส์แล้วบังเอิญเห็นเจ้าซองนี้
(รูปนี้ยืมมาจากอากู๋ค่ะ)
โอ้ คิดถึงโอปป้าขึ้นมาทันที เย็นนี้ตกลงเจ้านี่แหละคือเมนู จัดการหยิบมา 1 ซองแล้วเบียดเสียดผู้คนไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ค่าเสียหาย 79 บาทค่ะ
วิธีทำหลังซองบอกว่า ให้นำน้ำเปล่า 100 มล.เติมลงในภาชนะ จากนั้นใส่เส้นและซอสลงไป รอจนสุก แล้วกินได้
อ่านจบ คิดในใจว่า ไม่จริงงงงงงงงงงง คุณหลอกดาวแน่ๆ จากประสบการณ์ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาอย่างยาวนานนั้น แป้งหนาขนาดนี้ เธอจะมาบอกให้เราใช้น้ำแค่นั้น ไม่เวิร์คแน่ๆ เราจึงจัดการวิธีตามใจฉันกันดีกว่า ถ้ามันเฟล เราก็จะเฟลตามสไตล์เรานี่แหละ (จะดีเรอะแก)
มาดูของในซองกันก่อนดีกว่าค่ะ
ในซองจะมีมาให้แค่เส้นต๊อก และซอสถุงเล็กๆ อีกหนึ่งถุง เราเลยจัดการไปจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบเพิ่ม ทั้งหมูยอ หอมใหญ่ ต้นหอม ผักกาด คือเอาตามใจชอบค่ะ อยากกินอะไรบ้างก็ใส่ลงไปได้เลย
มาถึงการลงมือทำกันแล้ว เราก็ใช้วิธีเดียวกับการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยค่ะ รอให้น้ำเดือดแล้วค่อยใส่เส้นต๊อกลงไป
พอดูว่าเส้นต๊อกเริ่มนิ่มแล้วก็ใส่ผักที่ต้องต้มนานๆลงไป ของเราเป็นผักกาดค่ะ ใครมีแครอทก็ใส่ลงในตอนนี้แหละค่ะ ส่วนตัวขี้เกียจปอกเปลือกแครอทค่ะ เลยไม่ใส่
พอผักเริ่มยุบแล้วเราก็ใส่เนื้อสัตว์หรือลูกชิ้นลงไป เห็นในละครหรือรายการของเกาหลีจะนิยมใช้ลูกชิ้นปลากันค่ะ แต่ของเราเป็นหมูยอ เพราะไม่ชอบลูกชิ้นปลาค่ะ พอเริ่มต้มมานานแล้วให้คนดูแป้งต๊อกด้วยนะคะ อย่าปล่อยให้นอนก้นหม้อ เพราะอาจจะไหม้ได้ค่ะ
จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ ที่ใส่หอมใหญ่ตอนนี้เพราะไม่อยากให้หอมใหญ่เละมากเกินไปค่ะ อยากเคี้ยวแล้วยังกรุบๆกรอบๆอยู่
แล้วเราก็เทซอสที่ให้มาลงไป ซึ่งได้ปริมาณน้อยมากกกกก (ภาพมัวเพราะถ่ายตอนควันกำลังพุ่งขึ้นมา ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ)
เพราะซอสที่ให้มาน้อยเกินไป ที่ตู้เย็นของเรามีซอสโคชูจังติดตู้อยู่ เลยจัดการตักลงไปผสมด้วยหนึ่งช้อนโต๊ะพูนๆ เลยค่ะ ก็จะได้สีและรสชาติเข้มขึ้น
เริ่มคล้ายๆ ต๊อกโบกีแล้ว ชิมรสแล้วก็ใช้เกลือและโคชูจังในการปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามใจชอบเลยค่ะ ไม่แนะนำให้ใส่น้ำตาลนะคะ เพราะโคชูจังก็มีรสหวานอยู่ในตัวแล้ว พอน้ำเริ่มงวดลงแล้วก็โรยต้นหอมลงไป เป็นอันเสร็จค่ะ (ใช้ต้นหอมไทย แทนต้นหอมญี่ปุ่นค่ะ เพราะสะดวกราคามากกว่า)
ปริมาณถ้าเอาเฉพาะที่ให้มาในซองก็บอกเลยว่า ได้น้อยค่ะ แต่พอรวมเข้ากับวัตถุดิบอื่นๆ ที่ซื้อมาใส่เพิ่มแล้วก็ได้เยอะพอสมควร แบ่งกินกันสองคนถึงจะหมดค่ะ
พอยกมาเสิร์ฟแล้วเพื่อนสาวชิมปุ๊ปแล้วก็ถามหาโซจูขึ้นมาทันที อารมณ์อาจุมม่าเข้าสิงมากๆ ถ้าใครมีกิมจิเอามากินพร้อมกันก็จะยิ่งฟินไปกันใหญ่นะคะ เพราะรสชาติของต๊อกโบกีจะออกหวานนิดๆ พอได้กิมจิที่มีรสเปรี้ยวมาตัดกันก็จะทำให้มื้อนี้ยิ่งฟินขึ้นไปค่ะ
กระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้แบบรีวิวครั้งแรก ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมาด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ
[CR] ต๊อกโบกี แบบซอง ยี่ห้อ Yopokki อยากเกาหลีแบบง่ายๆ
วันนี้เข้าไปเดินเล่นที่ท้อปส์แล้วบังเอิญเห็นเจ้าซองนี้
(รูปนี้ยืมมาจากอากู๋ค่ะ)
โอ้ คิดถึงโอปป้าขึ้นมาทันที เย็นนี้ตกลงเจ้านี่แหละคือเมนู จัดการหยิบมา 1 ซองแล้วเบียดเสียดผู้คนไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ค่าเสียหาย 79 บาทค่ะ
วิธีทำหลังซองบอกว่า ให้นำน้ำเปล่า 100 มล.เติมลงในภาชนะ จากนั้นใส่เส้นและซอสลงไป รอจนสุก แล้วกินได้
อ่านจบ คิดในใจว่า ไม่จริงงงงงงงงงงง คุณหลอกดาวแน่ๆ จากประสบการณ์ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาอย่างยาวนานนั้น แป้งหนาขนาดนี้ เธอจะมาบอกให้เราใช้น้ำแค่นั้น ไม่เวิร์คแน่ๆ เราจึงจัดการวิธีตามใจฉันกันดีกว่า ถ้ามันเฟล เราก็จะเฟลตามสไตล์เรานี่แหละ (จะดีเรอะแก)
มาดูของในซองกันก่อนดีกว่าค่ะ
ในซองจะมีมาให้แค่เส้นต๊อก และซอสถุงเล็กๆ อีกหนึ่งถุง เราเลยจัดการไปจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบเพิ่ม ทั้งหมูยอ หอมใหญ่ ต้นหอม ผักกาด คือเอาตามใจชอบค่ะ อยากกินอะไรบ้างก็ใส่ลงไปได้เลย
มาถึงการลงมือทำกันแล้ว เราก็ใช้วิธีเดียวกับการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยค่ะ รอให้น้ำเดือดแล้วค่อยใส่เส้นต๊อกลงไป
พอดูว่าเส้นต๊อกเริ่มนิ่มแล้วก็ใส่ผักที่ต้องต้มนานๆลงไป ของเราเป็นผักกาดค่ะ ใครมีแครอทก็ใส่ลงในตอนนี้แหละค่ะ ส่วนตัวขี้เกียจปอกเปลือกแครอทค่ะ เลยไม่ใส่
พอผักเริ่มยุบแล้วเราก็ใส่เนื้อสัตว์หรือลูกชิ้นลงไป เห็นในละครหรือรายการของเกาหลีจะนิยมใช้ลูกชิ้นปลากันค่ะ แต่ของเราเป็นหมูยอ เพราะไม่ชอบลูกชิ้นปลาค่ะ พอเริ่มต้มมานานแล้วให้คนดูแป้งต๊อกด้วยนะคะ อย่าปล่อยให้นอนก้นหม้อ เพราะอาจจะไหม้ได้ค่ะ
จากนั้นก็ใส่หอมใหญ่ ที่ใส่หอมใหญ่ตอนนี้เพราะไม่อยากให้หอมใหญ่เละมากเกินไปค่ะ อยากเคี้ยวแล้วยังกรุบๆกรอบๆอยู่
แล้วเราก็เทซอสที่ให้มาลงไป ซึ่งได้ปริมาณน้อยมากกกกก (ภาพมัวเพราะถ่ายตอนควันกำลังพุ่งขึ้นมา ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ)
เพราะซอสที่ให้มาน้อยเกินไป ที่ตู้เย็นของเรามีซอสโคชูจังติดตู้อยู่ เลยจัดการตักลงไปผสมด้วยหนึ่งช้อนโต๊ะพูนๆ เลยค่ะ ก็จะได้สีและรสชาติเข้มขึ้น
เริ่มคล้ายๆ ต๊อกโบกีแล้ว ชิมรสแล้วก็ใช้เกลือและโคชูจังในการปรุงรสเพิ่มเติมได้ตามใจชอบเลยค่ะ ไม่แนะนำให้ใส่น้ำตาลนะคะ เพราะโคชูจังก็มีรสหวานอยู่ในตัวแล้ว พอน้ำเริ่มงวดลงแล้วก็โรยต้นหอมลงไป เป็นอันเสร็จค่ะ (ใช้ต้นหอมไทย แทนต้นหอมญี่ปุ่นค่ะ เพราะสะดวกราคามากกว่า)
ปริมาณถ้าเอาเฉพาะที่ให้มาในซองก็บอกเลยว่า ได้น้อยค่ะ แต่พอรวมเข้ากับวัตถุดิบอื่นๆ ที่ซื้อมาใส่เพิ่มแล้วก็ได้เยอะพอสมควร แบ่งกินกันสองคนถึงจะหมดค่ะ
พอยกมาเสิร์ฟแล้วเพื่อนสาวชิมปุ๊ปแล้วก็ถามหาโซจูขึ้นมาทันที อารมณ์อาจุมม่าเข้าสิงมากๆ ถ้าใครมีกิมจิเอามากินพร้อมกันก็จะยิ่งฟินไปกันใหญ่นะคะ เพราะรสชาติของต๊อกโบกีจะออกหวานนิดๆ พอได้กิมจิที่มีรสเปรี้ยวมาตัดกันก็จะทำให้มื้อนี้ยิ่งฟินขึ้นไปค่ะ
กระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้แบบรีวิวครั้งแรก ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมาด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ