เริ่มเรื่องเลยนะครับ ผมเป็นคนที่เล่าประสบการณ์ ในกระทู้ไม่ค่อยเก่งนัก และนี่เป็นการเล่าประสบการณ์ครั้งแรก เห็นคนอื่นเล่ามาเยอะละ (ถึงตาเราบ้างล่ะ) 5555
แนะนำตัวกันก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ กายครับ และก็ขอ สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคนด้วยนะครับ
ก่อนอื่นตอนเด็กๆเลย ที่บ้านผมเป็นคนที่ตามใจมากมากครับ โดยเฉพาะเรื่องกิน ก็เข้าทางผมซิครับแบบนี้ 555 ถ้าพูดถึงในตอนั้น เรื่องการออกกำลังกาย เรียกได้ว่า ไม่เคยเลยดีกว่า กินแล้ว ก็นั่ง และนอน ตื่นมาก็เป็นแบบเดิม ชีวิตเดิมๆ แบบนี้อยู่หลายปี บางที ในหนึ่งวัน ผมสามารถ กินแฮมเบอเกอร์ได้ ถึง 4 ชิ้น โอ้ว ยังไม่รวมขนม และ น้ำอัดลมต่างๆ (กินเข้าไปได้ไงวะ) เรียกได้ว่าจุดสูงสุดของชีวิตเลยแหละครับ จนที่บ้าน ก็บ่น แหละครับว่าอ้วน แต่เวลาเราจะกินไรก็ ให้หมด เอ๊ะ แปลกๆ นะครับ บ่นเรา แต่ก็ตามใจเรา5555
.
.
.
.
.
นี่เป็นรูป ตอน ช่วง มัธยมต้นนะครับ ที่อ้วนแบบสุดสุด (บางรูปอาจจะดูเซ็กซี่บาดใจสาวๆนิดนึง5555)
ก็เป็นอย่างที่เห็นแบบในรูปข้างบนที่ผ่านมาแหละครับ อ้วนแบบไม่มีที่ติ อ้วนไม่พอ แถมยังดำอีก ผมยังจำตัวเองในตอนนั้นที่คิดปลอบใจตัวเองว่า ''ไม่อ้วนหรอก แค่ตัวใหญ่ อวบอวบหน่า ไม่อ้วนมากหรอก"หลอกตัวเองทั้งนั้น 55555
จุดเปลี่ยนของชีวิตใน ณ เวลานั้น
-เริ่มแรกเลย ทางคุณแม่ แนะนำยาลดความอ้วนตัวนึง ให้เรากินทุกวันตอนเช้า กินวันละ 1 เม็ด ซึ่งคุณแม่เอามาจากต่างประเทศ (ไม่รู้จะจริงแบบที่คุณแม่บอกแล้วรึเปล่า) ด้วยความที่เราเป็นคนหูเบา ก็เอาสิครับ ทำไงละครับ เชื่อเลยสิครับ ในตอนนั้น บอกว่ายาต่างประเทศด้วย โอ้ว มันต้องได้ผลแน่ๆเลย ดูดี น่าเชื่อถือ ผมก็เลย กินยาตามที่คุณแม่ได้บอกไว้ ทุกประการ
ผลลัพธ์ที่ออกมา
- ได้ผลจริงๆครับ ผอมลงจริงๆ จากน้ำหนักเกือบ 90ลงมา เหลือที่ 70 พระเจ้า !!! ลงมา 20 โล ภายใน 3 เดือนกว่าๆ
ปล.ผมอดอาหารควบคู่กันไปด้วย บางทีข้าวเช้า ผมก็ไม่ได้กิน มากินอีกทีข้าวเที่ยง และพอตกเย็น ก็กินนม ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมากมาก ไม่แนะนำเลย
ณ เวลา ตอนนั้น มีความสุขมากมากครับ เปิดเทอมตอน ม.ต้น มา คนทักผมทั้งโรงเรียน ว่าไปทำไร ผอมลงเยอะ บ้างก็ว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน ยิ่งฟังยิ่งมีความสุข
งั้นเรามาดูรูปกันดีกว่าครับ.....
ทรงผมในตอนนั้น อาจจะดู เสี่ยว ไปบ้างนิดนึง ขอภัย ใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ5555
และนั้นแหละครับ... คือความสุขของผม ที่อยุ่ได้ไม่นาน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาครับ หลังจากนั้น ผมมาเผชิญกับปัญหาภาวะ ................. ''โย โย่''
ซึ่งเกิดจากการ ทานยาลดน้ำหนัก และ การที่น้ำหนักของผมที่มัน ลดลงมา อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเป็นจุดพีค สุดๆครับ เห็นอะไรก็กินหมด กินแบบไม่รู้จักอิ่ม ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่ามันกินแล้ว ต้องอ้วน แต่ก็ยังจะยัดเข้าปาก ภายใน 1 อาทิตย์ ผมขึ้นมา 3 โลครับ ตอนนั้นตกใจมาก แต่ก็ไม่แคร์อะไร บางทีผมคิดว่า ผมกินไม่เยอะเท่าไหร่ ใน 1 วัน แต่น้ำหนักก็ขึ้นเอาๆ
จนท้ายสุด น้ำหนักของผม มาแตะที่ 90 กิโลกรัม ในเวลา เกือบปี ครับ (น้ำหนักเท่านี้ จนถึง ตอนเข้ามหาลัยครับ)
.
.
.
- ตอนนั้นผมแทบจะไม่รุ้สึกอะไรเลยว่าตัวเอง อ้วน ผมได้แต่ใช้ข้ออ้างเดิมๆ ว่า ''ไม่อ้วนหรอกหน่า เราโครงใหญ่ ตัวใหญ่เฉยๆ ''
จนผมเริ่มมอง ตัวเองในกระจก ส่องเงา สะท้อนมาที่ตัวผม ผมเริ่มยอมรับความจริง ว่าผมไม่ได้ตัวใหญ่ ผมมันอ้วน ผมไม่ได้โครงใหญ่ ไรเลย ผมแค่ไออ้วนคนนึง ที่เอาแต่ ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ณ ตอนนั้น ผมเกิดความคิด ที่เริ่มจะไปเข้าฟิตเนต ผมจึงขอคุณแม่ ไปสมัครฟิตเนต แห่งหนึ่งครับ พอสมัครเสร็จ เราก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง แล้วแต่อารมณ์ และ ความขี้เกียจครับ ...
จุดเปลี่ยนของผม คือ วันนึงผมส่องกระจกครับ แล้วลองมองตัวเองดีดี ผมรู้ตัวละครับ ว่าอ้วน ผมเพล่งมองไปที่หุ่นผม ผมอ้วนซะเหลือเกิน จนผมมาชั่งน้ำหนัก ก็แทบช็อคแหละครับ น้ำหนักผม ปาไปเกือบ 90 ตอนนั้นแย่มากครับ เฟลสุดๆ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ครับ
แต่ยอมรับนะครับ ในบางที แรกๆ ผมออกกำลังกายก็ไม่ไหว ทั้งหอบ ทั้งเหนื่อย หิวก็หิว ผมรู้สึกแย่มากมาก ผมรู้สึกไม่ชอบการออกกำลังกาย เอามากมาก แต่ก็เอาชนะใจตัวเองได้ เพราะความอยากผอม ในใจคิดแต่ เอาวะ ไม่ยอมหรอก ตายเป็นตายซิ5555 จนออกไปสักพักก็เริ่มชินครับ
มาดูรูปกันเลยดีกว่าครับ ว่าจะเปลี่ยนขนาดไหน
รูปนี้ตอนออกกำลังกาย ได้สักพักนึง น้ำหนักค่อยๆลงมาแล้ว
ลงมาเหลือ 78 KG...
และก็ลงมาอีก
จนมาถึงทุกวันนี้ครับ ......
น้ำหนัก ปัจจุบัน ผมก็ ขึ้นๆลง 70-72ครับ ไม่เกินนี้ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากครับ เอวจาก 36 เหลือ 30 ครับ
กลายเป็นว่าตอนนี้ผมแคร์ รูปร่างภายนอก กับ เปอร์เซ็น Body fat ไปซะแล้ว 55555 ไม่ได้มาแคร์เรื่องน้ำหนัก
แต่ยังใส่ใจการกินอยุ เหมือนเดิมนะครับ
วิธีการคุมอาหาร
จำไว้นะครับ การคุมอาหาร คือการ ลด ไม่ใช่ งด !!
ผมจะคุมอาหารครับ ด้วยการนับแคลลอรี่ ต่อวัน และพยายาม ทานคาร์โบไฮเดรต ให้เหมาะสมกับร่างกายไม่มากเกินไป และควบคุมปริมาณไขมันครับ และจะเน้นนอาหารที่มีโปรตีน จำพวก ไก่ ปลา เป็นต้น ส่วนขนม ผมจะมีบ้าง บางเวลาครับ แล้วแต่วัน
ส่วนตารางอาหาร ผมไม่มีหรอกครับ เพราะชีวิตประจำวัน คนเราไม่เหมือนกัน ผมจะเลือก ที่จะรับประทานแทนเอาครับ อะไรที่ทานแล้ว อ้วนก็เลี่ยง ปริมาณที่เหมาะสม *ความเห็นส่วนตัว ผมว่าตารางอาหาร มันเหมือนกรอบขวางกั้นเราครับ เราอยากกินอะไร ก็กินได้ครับ แต่เราเลือกที่จะกิน กินให้พอเหมาะ กับร่างกาย ที่เราต้องการ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป * ออกกำลังกายควบคู่ด้วย
แต่ก็ผมก็ไม่เคร่งครัดอะไรขนาดนั้นนะครับ ผมจะมี 1 วันที่ ทานตามใจปากได้ คือ วันอาทิตย์ หรือ cheat meal เลือกที่จะทานอะไรก็ได้ตามใจปาก 1 มื้อ ครับ เพื่อไม่เป็นการ กดดันตัวเองจนเกินไป ฮ่าๆ
***การลดความอ้วนของผม ไม่ได้มีการ อดข้าวแต่อย่างใด นะครับ ผมทานอิ่มทุกมื้อ นอนหลับสบายทุกมื้อ โดยไม่ต้องหิวโหยกลางดึก **
วิธีการออกกำลังกาย
ผมจะเล่นเวทควบคู่กับการคาร์ดิโอนะครับ ส่วนมากจะเน้นวิ่ง 30 นาที เป็นอย่างต่ำ 4 วัน/สัปดาห์นะครับ ถ้าใครอยากได้ตารางเวท ลอง เซิทกูเกิ้ลได้ครับ มีให้เลือกมากมาย
แต่โดยส่วนตัวแล้วการเล่นเวท สำคัญนะครับ ทุกคนควรเล่นเวทนะครับ เพราะการมีกล้ามเนื้อ ผมว่ามันช่วย เรื่องการเผาผลาญไขมันนะครับ และยังทำให้สัดส่วนดูเฟริมด้วย
ปิดท้ายเลยนะครับ ผมอยากจะขอฝากกำลังใจ ถึงชาว pantip ทุกคน และทุกคนที่เข้ามาอ่าน ว่า การลดความอ้วน ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ ทั้งอาหารเสริม และ ยา ผมว่า ไม่ได้เป็นทางออกของคนอยากผอมแบบถาวรนะครับ ทางออกที่ดี ที่สุดคือการออกกำลังกายครับ ได้หุ่นที่ดีไม่พอ ยังได้ สุขภาพที่ดีด้วย และอย่าลืมคุมอาหาร ควบคู่ด้วยนะครับ
ส่วนใครอยากจะปรึกษาผม เรื่องการลดน้ำหนักยินดีนะครับ facebook : Guy worawat
**จบแล้วครับ จากการแชร์ประสบการณ์ของผม ถ้ามี ข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยทุกคนใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ**
อ้วนจ๋า พี่ลาก่อน... แชร์ประสบการณ์ ลองผิดลองถูก มากับคำว่า 'ลดความอ้วน'
แนะนำตัวกันก่อนเลยนะครับ ผมชื่อ กายครับ และก็ขอ สวัสดีเพื่อนๆชาว Pantip ทุกคนด้วยนะครับ
ก่อนอื่นตอนเด็กๆเลย ที่บ้านผมเป็นคนที่ตามใจมากมากครับ โดยเฉพาะเรื่องกิน ก็เข้าทางผมซิครับแบบนี้ 555 ถ้าพูดถึงในตอนั้น เรื่องการออกกำลังกาย เรียกได้ว่า ไม่เคยเลยดีกว่า กินแล้ว ก็นั่ง และนอน ตื่นมาก็เป็นแบบเดิม ชีวิตเดิมๆ แบบนี้อยู่หลายปี บางที ในหนึ่งวัน ผมสามารถ กินแฮมเบอเกอร์ได้ ถึง 4 ชิ้น โอ้ว ยังไม่รวมขนม และ น้ำอัดลมต่างๆ (กินเข้าไปได้ไงวะ) เรียกได้ว่าจุดสูงสุดของชีวิตเลยแหละครับ จนที่บ้าน ก็บ่น แหละครับว่าอ้วน แต่เวลาเราจะกินไรก็ ให้หมด เอ๊ะ แปลกๆ นะครับ บ่นเรา แต่ก็ตามใจเรา5555
.
.
.
.
.
นี่เป็นรูป ตอน ช่วง มัธยมต้นนะครับ ที่อ้วนแบบสุดสุด (บางรูปอาจจะดูเซ็กซี่บาดใจสาวๆนิดนึง5555)
ก็เป็นอย่างที่เห็นแบบในรูปข้างบนที่ผ่านมาแหละครับ อ้วนแบบไม่มีที่ติ อ้วนไม่พอ แถมยังดำอีก ผมยังจำตัวเองในตอนนั้นที่คิดปลอบใจตัวเองว่า ''ไม่อ้วนหรอก แค่ตัวใหญ่ อวบอวบหน่า ไม่อ้วนมากหรอก"หลอกตัวเองทั้งนั้น 55555
จุดเปลี่ยนของชีวิตใน ณ เวลานั้น
-เริ่มแรกเลย ทางคุณแม่ แนะนำยาลดความอ้วนตัวนึง ให้เรากินทุกวันตอนเช้า กินวันละ 1 เม็ด ซึ่งคุณแม่เอามาจากต่างประเทศ (ไม่รู้จะจริงแบบที่คุณแม่บอกแล้วรึเปล่า) ด้วยความที่เราเป็นคนหูเบา ก็เอาสิครับ ทำไงละครับ เชื่อเลยสิครับ ในตอนนั้น บอกว่ายาต่างประเทศด้วย โอ้ว มันต้องได้ผลแน่ๆเลย ดูดี น่าเชื่อถือ ผมก็เลย กินยาตามที่คุณแม่ได้บอกไว้ ทุกประการ
ผลลัพธ์ที่ออกมา
- ได้ผลจริงๆครับ ผอมลงจริงๆ จากน้ำหนักเกือบ 90ลงมา เหลือที่ 70 พระเจ้า !!! ลงมา 20 โล ภายใน 3 เดือนกว่าๆ
ปล.ผมอดอาหารควบคู่กันไปด้วย บางทีข้าวเช้า ผมก็ไม่ได้กิน มากินอีกทีข้าวเที่ยง และพอตกเย็น ก็กินนม ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมากมาก ไม่แนะนำเลย
ณ เวลา ตอนนั้น มีความสุขมากมากครับ เปิดเทอมตอน ม.ต้น มา คนทักผมทั้งโรงเรียน ว่าไปทำไร ผอมลงเยอะ บ้างก็ว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน ยิ่งฟังยิ่งมีความสุข งั้นเรามาดูรูปกันดีกว่าครับ.....
ทรงผมในตอนนั้น อาจจะดู เสี่ยว ไปบ้างนิดนึง ขอภัย ใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ5555
และนั้นแหละครับ... คือความสุขของผม ที่อยุ่ได้ไม่นาน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาครับ หลังจากนั้น ผมมาเผชิญกับปัญหาภาวะ ................. ''โย โย่''
ซึ่งเกิดจากการ ทานยาลดน้ำหนัก และ การที่น้ำหนักของผมที่มัน ลดลงมา อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเป็นจุดพีค สุดๆครับ เห็นอะไรก็กินหมด กินแบบไม่รู้จักอิ่ม ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้ว่ามันกินแล้ว ต้องอ้วน แต่ก็ยังจะยัดเข้าปาก ภายใน 1 อาทิตย์ ผมขึ้นมา 3 โลครับ ตอนนั้นตกใจมาก แต่ก็ไม่แคร์อะไร บางทีผมคิดว่า ผมกินไม่เยอะเท่าไหร่ ใน 1 วัน แต่น้ำหนักก็ขึ้นเอาๆ
จนท้ายสุด น้ำหนักของผม มาแตะที่ 90 กิโลกรัม ในเวลา เกือบปี ครับ (น้ำหนักเท่านี้ จนถึง ตอนเข้ามหาลัยครับ)
.
.
.
- ตอนนั้นผมแทบจะไม่รุ้สึกอะไรเลยว่าตัวเอง อ้วน ผมได้แต่ใช้ข้ออ้างเดิมๆ ว่า ''ไม่อ้วนหรอกหน่า เราโครงใหญ่ ตัวใหญ่เฉยๆ ''
จนผมเริ่มมอง ตัวเองในกระจก ส่องเงา สะท้อนมาที่ตัวผม ผมเริ่มยอมรับความจริง ว่าผมไม่ได้ตัวใหญ่ ผมมันอ้วน ผมไม่ได้โครงใหญ่ ไรเลย ผมแค่ไออ้วนคนนึง ที่เอาแต่ ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ณ ตอนนั้น ผมเกิดความคิด ที่เริ่มจะไปเข้าฟิตเนต ผมจึงขอคุณแม่ ไปสมัครฟิตเนต แห่งหนึ่งครับ พอสมัครเสร็จ เราก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง แล้วแต่อารมณ์ และ ความขี้เกียจครับ ...
จุดเปลี่ยนของผม คือ วันนึงผมส่องกระจกครับ แล้วลองมองตัวเองดีดี ผมรู้ตัวละครับ ว่าอ้วน ผมเพล่งมองไปที่หุ่นผม ผมอ้วนซะเหลือเกิน จนผมมาชั่งน้ำหนัก ก็แทบช็อคแหละครับ น้ำหนักผม ปาไปเกือบ 90 ตอนนั้นแย่มากครับ เฟลสุดๆ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงให้ได้ครับ
แต่ยอมรับนะครับ ในบางที แรกๆ ผมออกกำลังกายก็ไม่ไหว ทั้งหอบ ทั้งเหนื่อย หิวก็หิว ผมรู้สึกแย่มากมาก ผมรู้สึกไม่ชอบการออกกำลังกาย เอามากมาก แต่ก็เอาชนะใจตัวเองได้ เพราะความอยากผอม ในใจคิดแต่ เอาวะ ไม่ยอมหรอก ตายเป็นตายซิ5555 จนออกไปสักพักก็เริ่มชินครับ
มาดูรูปกันเลยดีกว่าครับ ว่าจะเปลี่ยนขนาดไหน
รูปนี้ตอนออกกำลังกาย ได้สักพักนึง น้ำหนักค่อยๆลงมาแล้ว
ลงมาเหลือ 78 KG...
และก็ลงมาอีก
จนมาถึงทุกวันนี้ครับ ......
น้ำหนัก ปัจจุบัน ผมก็ ขึ้นๆลง 70-72ครับ ไม่เกินนี้ ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากครับ เอวจาก 36 เหลือ 30 ครับ
กลายเป็นว่าตอนนี้ผมแคร์ รูปร่างภายนอก กับ เปอร์เซ็น Body fat ไปซะแล้ว 55555 ไม่ได้มาแคร์เรื่องน้ำหนัก
แต่ยังใส่ใจการกินอยุ เหมือนเดิมนะครับ
วิธีการคุมอาหาร
จำไว้นะครับ การคุมอาหาร คือการ ลด ไม่ใช่ งด !!
ผมจะคุมอาหารครับ ด้วยการนับแคลลอรี่ ต่อวัน และพยายาม ทานคาร์โบไฮเดรต ให้เหมาะสมกับร่างกายไม่มากเกินไป และควบคุมปริมาณไขมันครับ และจะเน้นนอาหารที่มีโปรตีน จำพวก ไก่ ปลา เป็นต้น ส่วนขนม ผมจะมีบ้าง บางเวลาครับ แล้วแต่วัน
ส่วนตารางอาหาร ผมไม่มีหรอกครับ เพราะชีวิตประจำวัน คนเราไม่เหมือนกัน ผมจะเลือก ที่จะรับประทานแทนเอาครับ อะไรที่ทานแล้ว อ้วนก็เลี่ยง ปริมาณที่เหมาะสม *ความเห็นส่วนตัว ผมว่าตารางอาหาร มันเหมือนกรอบขวางกั้นเราครับ เราอยากกินอะไร ก็กินได้ครับ แต่เราเลือกที่จะกิน กินให้พอเหมาะ กับร่างกาย ที่เราต้องการ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป * ออกกำลังกายควบคู่ด้วย
แต่ก็ผมก็ไม่เคร่งครัดอะไรขนาดนั้นนะครับ ผมจะมี 1 วันที่ ทานตามใจปากได้ คือ วันอาทิตย์ หรือ cheat meal เลือกที่จะทานอะไรก็ได้ตามใจปาก 1 มื้อ ครับ เพื่อไม่เป็นการ กดดันตัวเองจนเกินไป ฮ่าๆ
***การลดความอ้วนของผม ไม่ได้มีการ อดข้าวแต่อย่างใด นะครับ ผมทานอิ่มทุกมื้อ นอนหลับสบายทุกมื้อ โดยไม่ต้องหิวโหยกลางดึก **
วิธีการออกกำลังกาย
ผมจะเล่นเวทควบคู่กับการคาร์ดิโอนะครับ ส่วนมากจะเน้นวิ่ง 30 นาที เป็นอย่างต่ำ 4 วัน/สัปดาห์นะครับ ถ้าใครอยากได้ตารางเวท ลอง เซิทกูเกิ้ลได้ครับ มีให้เลือกมากมาย
แต่โดยส่วนตัวแล้วการเล่นเวท สำคัญนะครับ ทุกคนควรเล่นเวทนะครับ เพราะการมีกล้ามเนื้อ ผมว่ามันช่วย เรื่องการเผาผลาญไขมันนะครับ และยังทำให้สัดส่วนดูเฟริมด้วย
ปิดท้ายเลยนะครับ ผมอยากจะขอฝากกำลังใจ ถึงชาว pantip ทุกคน และทุกคนที่เข้ามาอ่าน ว่า การลดความอ้วน ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ ทั้งอาหารเสริม และ ยา ผมว่า ไม่ได้เป็นทางออกของคนอยากผอมแบบถาวรนะครับ ทางออกที่ดี ที่สุดคือการออกกำลังกายครับ ได้หุ่นที่ดีไม่พอ ยังได้ สุขภาพที่ดีด้วย และอย่าลืมคุมอาหาร ควบคู่ด้วยนะครับ
ส่วนใครอยากจะปรึกษาผม เรื่องการลดน้ำหนักยินดีนะครับ facebook : Guy worawat
**จบแล้วครับ จากการแชร์ประสบการณ์ของผม ถ้ามี ข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยทุกคนใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ**