มันเหมือนความมืดนะ กิเลสตัณหาทั้งหลาย พอเรารู้ทัน
เรามีสติปัญญารู้แล้วเหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้น ความมืดจะหายอัตโนมัติเลย หายทันที
ไม่ต้องไปคิดล้างกิเลสหรอก จำไว้นะ
เราไม่มีหน้าที่ไปละกิเลสนะ เรามีหน้าที่ไปรู้มัน
-พระปราโมทย์ ปาโมชฺโช-
http://www.dhammada.net/2011/08/02/10271/
แล้วอย่างนี้จะให้หมายความว่าอย่างไร?
ขอให้แง่คิดไว้สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
ที่ผ่านๆมาพวกเราถูกมารหลอกหรือเปล่า
มารหลอกพวกเรามาโดยตลอดหรือเปล่า
โดยที่ถูกมารหลอกให้เราไปฆ่ามาร
เมื่อเราถูกมารหลอกให้ไปฆ่ามารให้ไปฆ่ากิเลส
แล้วอย่างนี้จะไปฆ่ามารหรือไปฆ่ากิเลสได้อย่างไร?
ไม่ได้หรอกนะท่านทั้งหลาย ตื่นกันได้แล้ว
ตอนที่เราถูกหลอกให้ไปฆ่ามาร
ตอนนี้แหละเราคือมารโดนมารดลใจ
ดังนั้นการที่จะพ้นจากอำนาจของมาร
พ้นไปจากอำนาจของกิเลส
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปฆ่ามาร
จะต้องไปฆ่ากิเลสมิใช่หรือ!
การที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปฆ่ามาร
เราได้ตกไปอยู่ในอำนาจของมารเรียบร้อยแล้ว
การที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปฆ่ากิเลส
เราก็ได้ตกไปอยู่ในอำนาจของกิเลสเรียบร้อยแล้ว
และการที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปดับทุกข์
เราก็ได้ตกไปอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์เรียบร้อยแล้ว
- พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ -
http://ppantip.com/topic/32618810
เวลามีความคิดและอารมณ์อกุศลเกิดขึ้น
แค่รู้ทันเฉยๆ ก็พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไร
การดูก็ดี การเห็นก็ดี การรู้ทันก็ดี อันนี้เป็นงานของสติ
คนส่วนใหญ่เวลาเกิดอารมณ์อกุศลขึ้นมามักจะอยู่เฉยไม่ได้
พยายามกดข่มมัน ยิ่งกดข่ม มันก็ยิ่งต้าน ยิ่งสู้ หรือไม่ก็หลบไประบายออกทางอื่น
-พระไพศาล วิสาโล-
http://www.visalo.org/article/5000s08.html
"ความโลภ ความโกรธความหลงไม่ต้องไปละมัน "
ธรรมชาติเดิมแท้ (นาทีที่ 17.28 .........)
พระพุทธเจ้า
มิได้สอนให้เราดับกิเลส แต่ท่านสอนเรื่อง " รู้ "
คำสอนเรื่อง "กิเลส, อกุศล" ที่ปรากฎอยู่อย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์ โดยพระสงฆ์และฆราวาส (บางส่วน)
มันเหมือนความมืดนะ กิเลสตัณหาทั้งหลาย พอเรารู้ทัน
เรามีสติปัญญารู้แล้วเหมือนมีแสงสว่างเกิดขึ้น ความมืดจะหายอัตโนมัติเลย หายทันที
ไม่ต้องไปคิดล้างกิเลสหรอก จำไว้นะ
เราไม่มีหน้าที่ไปละกิเลสนะ เรามีหน้าที่ไปรู้มัน
-พระปราโมทย์ ปาโมชฺโช-
http://www.dhammada.net/2011/08/02/10271/
แล้วอย่างนี้จะให้หมายความว่าอย่างไร?
ขอให้แง่คิดไว้สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย
ที่ผ่านๆมาพวกเราถูกมารหลอกหรือเปล่า
มารหลอกพวกเรามาโดยตลอดหรือเปล่า
โดยที่ถูกมารหลอกให้เราไปฆ่ามาร
เมื่อเราถูกมารหลอกให้ไปฆ่ามารให้ไปฆ่ากิเลส
แล้วอย่างนี้จะไปฆ่ามารหรือไปฆ่ากิเลสได้อย่างไร?
ไม่ได้หรอกนะท่านทั้งหลาย ตื่นกันได้แล้ว
ตอนที่เราถูกหลอกให้ไปฆ่ามาร
ตอนนี้แหละเราคือมารโดนมารดลใจ
ดังนั้นการที่จะพ้นจากอำนาจของมาร
พ้นไปจากอำนาจของกิเลส
ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปฆ่ามาร
จะต้องไปฆ่ากิเลสมิใช่หรือ!
การที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปฆ่ามาร
เราได้ตกไปอยู่ในอำนาจของมารเรียบร้อยแล้ว
การที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปฆ่ากิเลส
เราก็ได้ตกไปอยู่ในอำนาจของกิเลสเรียบร้อยแล้ว
และการที่เราตั้งหน้าตั้งตาจะไปดับทุกข์
เราก็ได้ตกไปอยู่ในกระแสแห่งความทุกข์เรียบร้อยแล้ว
- พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ -
http://ppantip.com/topic/32618810
เวลามีความคิดและอารมณ์อกุศลเกิดขึ้น
แค่รู้ทันเฉยๆ ก็พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไร
การดูก็ดี การเห็นก็ดี การรู้ทันก็ดี อันนี้เป็นงานของสติ
คนส่วนใหญ่เวลาเกิดอารมณ์อกุศลขึ้นมามักจะอยู่เฉยไม่ได้
พยายามกดข่มมัน ยิ่งกดข่ม มันก็ยิ่งต้าน ยิ่งสู้ หรือไม่ก็หลบไประบายออกทางอื่น
-พระไพศาล วิสาโล-
http://www.visalo.org/article/5000s08.html
"ความโลภ ความโกรธความหลงไม่ต้องไปละมัน "
ธรรมชาติเดิมแท้ (นาทีที่ 17.28 .........)
พระพุทธเจ้ามิได้สอนให้เราดับกิเลส แต่ท่านสอนเรื่อง " รู้ "