แชร์ประสบการณ์ อยู่ต่างประเทศอยากหัดทำอาหารกินเอง ต้องเริ่มต้นจากตรงไหนบ้าง

กระทู้สนทนา

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเอง ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศคนเดียวได้ประมาณเกือบปีครึ่งแล้ว อีกไม่นานก็จะกลับไทย ก็แอบคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ ทำอาหารทานเอง เพราะจะไปทานนอกบ้านตลอดเวลาก็แพงเกินไปสำหรับนักศึกษา ซึ่งบอกได้เลยว่า ก่อนมาและหลังมานั้น ฝีมือการทำอาหารแทบจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ปกติแล้วอยู่ที่ไทยเราเป็นคนไม่ค่อยได้ทำอาหารเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะทำขนมมากกว่า แต่พอได้มาอยู่ที่อังกฤษนานๆ ทำให้จำเป็นจะต้องเรียนรู้ไปเอง ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้เก่งขนาดนั้น เอาว่าตัวเองว่าอร่อย ไม่อดตายเป็นพอ

วันนี้เลยจะมาพูดถึงเครื่องปรุงรสที่ใช้ทำอาหาร สำหรับคนที่บอกว่าตัวเองทำอาหารไม่เป็น อยากจะเริ่ม ควรจะซื้ออะไรก่อนดี แล้วทำยังไงบ้าง เพราะเปิดดูตำรา วิธีการก็ค่อนข้างยุ่งยากสำหรับมือใหม่ วันนี้เลยรวบรวมจากในครัวตัวเอง มาให้ดูกันง่ายๆ อธิบายง่ายๆว่าเครื่องปรุงอะไร ใช้ทำอะไรบ้าง เอาว่าเมนูเบสิกๆ ทำกันได้หมด โดยไม่ต้องเปิดตำราเลยค่ะ

เรียงลำดับความสำคัญจากซ้ายไปขวาเลยค่ะ ในรูปลืมถ่ายน้ำตาลด้วย เอาเป็นว่ารู้กันเนอะ

1. เครื่องปรุงพื้นฐาน = เกลือ, ซีอิ๊วขาว, น้ำปลา, น้ำมันหอย, น้ำตาล
ทุกอย่างในนี้ควรจะมีติดบ้านค่ะ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

- เกลือ ให้ความเค็มแบบเค็มอย่างเดียว ไม่มีกลิ่นหรือรสเจือปน ข้อดีคือมันแห้ง ไม่ทำให้อาหารของเราแฉะเพิ่มมากขึ้นค่ะ ยกตัวอย่างว่าเราทำไก่ทอด ถ้าว่ายังเค็มน้อยไป ถ้าเพิ่มเครื่องปรุงอื่น จะทำให้ไก่ไม่กรอบ โดยเกลือเป็นคำตอบสุดท้ายเลยค่ะ แต่โดยปกติปิ่ณจะใส่เกลือน้อยมาก เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

- ซีอิ๊วขาว เพิ่มรสเค็ม แต่ไม่เค็มแหลม แบบน้ำปลา จะมีกลิ่นหอมๆบางๆของตัวซีอิ๊วด้วย ปิ่ณจะชอบซีอิ๊วขาวมากที่สุด แบบขาดไม่ได้เลยจริงๆ ที่ใช้ประจำก็ตราเด็กสมบูรณ์เลยค่ะ อัตราสัดส่วนในการใส่นั้น ถ้าต้องการความเค็ม จะต้องใส่ซีอิ๊วขาวมากกว่าเวลาที่ใส่น้ำปลานะคะ

- น้ำปลา ให้ความเค็มแบบเค็มแหลม(เค็มแหลมคืออะไร ลองจินตนาการเวลาซดน้ำปลาเพียวๆดูนะคะ 555) แต่ก็มีกลิ่นของน้ำปลาที่เป็นกลิ่นเฉพาะอยู่ การหมักในอาหารบางอย่าง เช่นไก่ทอดน้ำปลา หรือกระหล่ำทอดน้ำปลา เมื่อทอดเสร็จแล้วก็ยังได้กลิ่นน้ำปลาหอมฟุ้ง เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งค่ะ ข้อเสียคือ ไม่เหมาะที่จะใส่ในปริมาณมาก ลงในแกงบางชนิด เพราะอาจจะทำให้แกงมีกลิ่นคาวของน้ำปลา หรืออาหารประเภทนึ่ง แนะนำว่าใส่ซีอิ๊วขาวจะหอมกว่าค่ะ (เช่นปลานึ่งซีอิ๊ว) ปัจจุบันใช้ตราปลาหมึก ซึ่งก็ดี แต่ถ้าอยู่ไทย จะชอบตราทิพรสค่ะ เพราะหอมและมีรสหวานนิดๆ น้ำปลานี่สำคัญมาก เวลาที่เราจะเปลี่ยนยี่ห้อ ต้องลองชิมก่อนว่าตัวน้ำปลายี่ห้อนั้นๆรสชาติเป็นอย่างไร จะใส่ในปริมาณเท่ากับอีกยี่ห้อไม่ได้ค่ะ เพราะความเค็มต่างกัน

- น้ำมันหอย ที่เป็นที่นิยมมีอยู่2ยี่ห้อ คือ Lee Kum Kee ที่เป็นรูปแพนด้าและ อีกยี่ห้อเป็นภาษาจีน แต่มีรูปคนพายเรืออยู่ด้านหน้าค่ะ จำง่าย โดยส่วนตัวปิ่ณแอบเทใจไปให้ยี่ห้อหลังมากกว่านิดหน่อย เพราะใช้มาจนหมดขวดแล้ว ส่วน Lee Kum Kee สามารถหาซื้อได้ง่ายกว่า ถ้าที่อังกฤษTescoก็มี และเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยคนจีน โดยเฉพาะคนฮ่องกงเพราะเขาบอกว่าเป็นยี่ห้อเดียวกับที่เขาใช้เป็นประจำที่บ้านค่ะ น้ำมันหอยให้รสที่หวานและเค็มนิดๆ อีกทั้งยังมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยปกติแล้วปิ่ณจะใช้น้ำมันหอยในการหมักหมูหรือไก่แทบทุกจาน หรือใส่ลงไปเวลาผัด เหยาะนิดๆ เพื่อเพิ่มรสหวานกลมกล่อม แต่ถ้าเราเหยาะทีหลังในปริมาณมากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเมนูผัดน้ำมันหอยค่ะ ที่ง่ายที่สุดเลยคือ พวกผักต้ม(แบบจีนๆ) ต้มเสร็จก็เอามาใส่น้ำมันหอยได้เลย ไม่ต้องปรุงเพิ่ม หอมอร่อยแล้ว

- น้ำตาล ถ้าในเมนูอาหาร ปิ่ณจะใช้น้อยมากค่ะ ยิ่งถ้าใส่น้ำมันหอยแล้วยิ่งใส่น้ำตาลน้อยลงไปอีก แต่ถ้าบางคนชอบรสหวาน น้ำตาลก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ

2. เครื่องปรุงที่ควรมี(แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ) = ผงกระเทียมพริกไทย(เฉพาะพริกไทยก็ได้ค่ะ), น้ำมันงา, ซุปไก่ก้อนแบบNo MSG, พริกชนิดต่างๆ, ซอส Kikkoman

- ผงกระเทียมพริกไทย หรือพริกไทยป่น สำหรับปิ่ณจะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพริกไทยเยอะๆฉุนๆเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้ใช้พริกไทยเพียวๆ ผงกระเทียมพริกไทยจะหอมๆมีกลิ่นกระเทียมและพริกไทยผสมกัน สะดวกดีเวลาหมักอาหารค่ะ ยี่ห้อ Schwartz นี่จะมีขายในแทบทุกที่ค่ะ มีผงเครื่องปรุงต่างๆให้เลือกเยอะมาก เอาว่าถ้าใครชอบทำอาหารคงจะเลือกซื้อมาหลายประเภทแน่ๆ

- น้ำมันงา น้ำมันงาเป็นน้ำมันชนิดที่ปิ่ณชอบมากที่สุดค่ะ จะใช้ผัดกับผักเพียวๆก็ได้(แต่อย่าใช้ไฟร้อนมากนะคะ) หรือจะใส่ลงในอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นงาหอมๆเฉยๆก็ได้ ที่ปิ่ณใช้บ่อยที่สุดคือเอามาหมักหมูค่ะ เพราะหมูที่อังกฤษส่วนใหญ่จะมีกลิ่นสาบเหม็นๆ ถ้าใส่น้ำมันงาในตอนหมัก ทิ้งไว้สักพัก หมูก็จะนุ่มขึ้นและหอมด้วยค่ะ

- ซุปไก่ก้อนแบบ No MSG หาซื้อได้ทั่วไปเลยค่ะ ยี่ห้อเดียวกับที่ไทยนั่นแหละ ใช้ใส่ลงในน้ำซุปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมมากขึ้น แต่ถ้ามีเวลาต้มน้ำซุปกับกระดูกไก่กระดูกหมู หรือผักต่างๆ จะไม่ใส่ซุปก้อนลงไปเลยก็ได้ค่ะ เพื่อเป็นการไม่ดูถูกฝีมือตัวเองจนเดินไป 5555 (โดยปกติปิ่ณใส่ครึ่งก้อนค่ะ)

- พริกชนิดต่างๆ ที่มีอยู่คือ พริกป่น และพริกแห้ง (ซื้อมาจากไทย เก็บได้นานค่ะ) สำหรับคนที่ชอบเผ็ด พริกป่นก็ใช้ง่ายดี แต่ปิ่นจะชอบพริกแห้งมากๆ ชอบมากกว่าพริกสด เวลาผัดอะไร ถ้าเอาพริกแห้งไปผัดกับน้ำมันและกระเทียมก่อน อาหารจานนั้นจะหอม และเผ็ดกำลังดีเลยค่ะ ส่วนพริกสดก็ซื้อบ้างไม่ซื้อบางแล้วแต่ว่าจะทำอะไรทาน เช่นถ้าทำต้มยำกุ้ง ก็จะใส่ทั้งพริกสดและแห้งค่ะ

- ซอส Kikkoman อันนี้เหมาะสำหรับทำเมนูญี่ปุ่น หรือฝรั่ง ใส่ในเมนูญี่ปุ่นได้ทุกเมนู อาหารฝรั่งก็ใส่ลงไปได้นิดหน่อย เพิ่มรสเค็ม แต่จะไม่ใส่มากจนเกินไปจนแปลงร่างเป็นอาหารเอเชียนะคะ เช่นสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ ปิ่ณจะใส่Kikkomanไปนิดนึงเพื่อเพิ่มรสชาติค่ะ ใครชอบทานซูชิ Kikkoman คือต้องมีค่ะ

3. เครื่องปรุงเพิ่มเติมอื่นๆ = ผงซุปปลา, มิริน, ผงหัวหอมใหญ่, Mixed herbs, น้ำส้มสายชู(แบบใสและแบบสีดำ(ซอสเปรี้ยว), ไวน์ขาวสำหรับทำอาหาร และอื่นๆตามชอบค่ะ

- ผงซุปปลา สามารถหาซื้อได้ตามร้านเอเชียทั่วไป บางยี่ห้อจะมีบอกไว้ว่า No MSGค่ะ ใช้ในการทำอาหารได้หลายชนิด เช่นซุปญี่ปุ่น แบบMomo เลย หรือไข่ต้มซอสตามร้านราเมง

- มิริน หรือเหล้าญี่ปุ่น มีรสออกหวานนิดหน่อย ใช้ทำซูชิ ซุปญี่ปุ่น และใส่ในอาหารญี่ปุ่นได้หลายประเภทค่ะ

- ผงหัวหอมใหญ่ ปิ่ณชอบกลิ่นของหัวหอมใหญ่ค่ะ ผงนี้ใช้มาสองสามขวดแล้ว ชอบมาก ใช้หมักตอนทำเสต๊กก็อร่อยค่ะ

- Mixed herbs ใส่ในเมนูอาหารฝรั่ง เพิ่มกลิ่นที่ดูอินเตอร์ยิ่งขึ้น 555 ใส่นิดเดียวพอนะคะ เดี๋ยวจะฉุนเกิน

- อื่นๆ เช่นเครื่องทำต้มยำอบแห้ง ใบกะเพราอบแห้ง ผงโลโบ้ ผงทำอาหารอื่นๆตามชอบค่ะ

จะเห็นได้ว่าปิ่ณจะไม่ใช้ผงชูรสเลย เพราะเวลากินอาหารที่มีผงชูรสทีไรมักจะรู้สึกไม่สบายตัวค่ะ
เดี๋ยวจะลงสูตรทำอาหารจานต่างๆแบบง่ายๆไว้ในคอมเม้นนะคะ รับรองว่า ถึงเป็นมือใหม่ ก็ทำอาหารกินเองและแบ่งปันเพื่อนต่างชาติได้สบายมากค่ะ ;)

มาแก้ไขเพิ่มเติมรูปภาพนะคะ ปกติไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ เลยไม่มีรูปทุกเมนู อันนี้คือเท่าที่พอหาได้นะคะ