ต้องออกตัวก่อนว่ารีวิวครั้งนี้เป็นแบบ SR เพราะฉะนั้นต้องเขียนแบบมีมารยาทนิดนึง
Dinner 23 Nov 2015
ร้านนี้เปิดใหม่มากกๆๆ คือเพิ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาคม รูปใน google map ถ้าใคร search ร้านยังเป็นรูปการตกแต่งของร้านเก่าที่เคยเป็นร้านอาหารเวียดนามอยู่ ซึ่งตอนนี้ดูดีกว่าในรูปเยอะ บรรยากาศดี แต่งตัวมาทานแบบสบายๆได้ ไม่ต้องหรู แล้วก็เงียบสงบดี เพราะว่าเข้ามาในซอยค่อยข้างลึก อีกอย่างที่ดีมากคือมีที่จอดรถหน้าร้านสบ๋ายสบาย
ร้านนี้ถึงจะชื่อว่า Lucca ซึ่งเป็นชื่อเมืองในแคว้น Tuscany ของอิตาลี แต่ว่าอาหารไม่ใช่ style Tuscan เลยแม้แต่น้อย คงต้องเรียกว่าเป็น Mediterranean-European ประมาณนั้นมากกว่า หรือพูดภาษาง่ายๆก็อาหารฝรั่ง ที่ไม่มี style ที่แน่นอน ตามใจฉัน โอเคนะ 555
คือตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะมาลองหรอก เพราะร้านใหม่มันเปิดเยอะมาก อยากจะรอฟังจากใครสักคนก่อนว่าอร่อยคุ้มค่าต้องลอง และแล้วมีอยู่วันเห็นเพื่อนเอารูปลง แล้วเขียนว่า "ไม่ได้คาดหวังว่าจะอร่อยเลย แต่ผิดคาด" ก็เลยคิดอยากจะมาลองสะหน่อย แต่ก่อนที่จะได้มาเอง ทางร้านก็โทรหาสะก่อน เชิญให้มาลองทาน "สาธุ ขอบคุณค่ะ" เลยได้ทั้งนั่งคุยกับเจ้าของร้านแล้วก็คุณเชฟรุ่นเก๋า เชฟ Go Hee
ทางเจ้าของบอกว่าร้านเค้าเน้นที่อาหารคุณภาพแบบโรงแรม แต่ทำราคาให้ถูกว่า 20-30% (ดูราคาเมนูได้ด้านล่าง)
มาเริ่มเรื่องอาหารกันเลย
Scallops Foie Gras ที่ตอนนี้ทุกร้านจะต้องมีเมนูนี้ ที่นี้ก็ทำได้ดี Scallop จาก Hokkaido แน่นอนว่าอร่อย กลิ่นหอม เนื้อหวานนุ่ม ถ้าไม่ over cook ซึ่งเชฟเค้าก็ทำออกมาได้ดี
Mussels with white wine sauce ตัวนี้ชอบมากเป็นพิเศษ คิดว่าเมืองไทยตั้งแต่ทานมา ที่นี้ทำได้ดีที่สุดแล้ว ซอสเข้มข้นกลมกล่อมมาก สำหรับคนชอบทานเค็ม หอยแมงภู่จานนี้เด็ดขอบอก จนต้องเอาขนมปังบาดซอสกินจนหมด
Goat cheese กับ Salmon ตัวนี้เบนคิดว่ารสชาติมันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร
สลัดเนื้อปู อย่าเรียกสลัดดีกว่า เรียก Crab tartar ดีกว่า จานนี้ก็พอใช้ได้ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
แล้วก็ต่อด้วย Pasta with tiger prawns ที่เค้าบอกว่าสูตรต้นตำหรับมาอันเดียวกับจานโปรดของเบนที่ Lenzi แต่ว่าของที่นี้ยังอาจจะต้องปรับอีกหน่อย (อ๋อ ลืมบอกเรื่องสำคัญไปว่า ร้านนี้เค้าบอกว่าเค้าเน้นพยายามให้ถูกปากคนไทย และคนต่างชาติ แต่ค่อนไปทางเอาใจคนไทยมากกว่า เพราะฉะนั้นเส้นจะทำค่อนข้างสุก)
อีกอย่างที่ดูเหมือนต้องสั่งคือ Gnocchi กับเนื้อปู สำหรับเบนที่ชินกับ Gnocchi ของอิตาเลียนซึ่งจะใส่แป้งมากกว่ามันฝรั่ง Gnocchi ก็จะดึ๋งๆหน่อย ต้องเคี้ยว แต่ที่นี้เค้าทำแบบใส่มันฝรั่งเยอะกว่า ก็กัดแล้วคือไม่ต้องเคี้ยว หายไปเลย แต่ว่าซอสก็ใช้ได้
Angus Beef อีกหนึ่งเมนูที่เห็นทุกร้านจริงจัง ผักขมด้านล่าง วางต่อด้วยเนื้อ แล้วก็ Foie Gras และเพื่อความสวยหรู ต่อยอดภูเขาด้วย Black Truffle 1,320B เนื้อดี ความสุกของเนื้อก็ทำออกมาได้กำลังดี
Snow fish 1,210B ให้ปลาชิ้นใหญ่ดี แต่พอเป็นชิ้นใหญ่ การจะทำให้สุกกำลังดีก็ค่อยข้างยาก ข้างในสุกกำลังดี ที่นี้ข้างนอกมันก็เลยสุกไปหน่อยทำให้เนื้อกระด่างเล็กน้อย ส่วนตัวผัดผัก(ที่เชฟบอกว่าไม่ใช้ซอส) ตัวเบนเองคิดว่ามันไม่ค่อยเข้ากับปลาสักเท่าไหร แต่โดยรวมแล้วก็โอเค
Panna Cotta 240B พอใช้ได้ โดยส่วนตัวอยากให้ซอสเปรี้ยวกว่านี้อีกหน่อยจะได้ตัดกับ cream (Panna ภาษาอิตาเลียน แปลว่าครีม Cotta แปลว่า cook : Panna Cotta นั้นก็คือ Cooked cream ที่ต้องไม่ใส่ Gelatin นะฮะ) แต่ว่าก็นานาจิตตังนะ ใครชอบหวาน ใครชอบเปรี้ยว
Tiramisu 220B ร้านนี้เน้น lady finger กาแฟและเหล้าจำนวนมาก ออกคมมากกว่าหวาน หลายคนอาจจะถูกใจ
ร้านยังใหม่มาก คิดว่าถ้ามีใครได้ตามไปลองทาน อาจจะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปบ้างและพัฒนาขึ้น ก็ต้องไปลองกันเอาเองนะคะ แล้วถ้าไปลองกันแล้ว มาเล่าให้กันฟังบ้างนะคะ
[SR] Lucca ร้านอิตาเลียนน้องใหม่ล่าสุด
Dinner 23 Nov 2015
ร้านนี้เปิดใหม่มากกๆๆ คือเพิ่งเปิดเมื่อเดือนตุลาคม รูปใน google map ถ้าใคร search ร้านยังเป็นรูปการตกแต่งของร้านเก่าที่เคยเป็นร้านอาหารเวียดนามอยู่ ซึ่งตอนนี้ดูดีกว่าในรูปเยอะ บรรยากาศดี แต่งตัวมาทานแบบสบายๆได้ ไม่ต้องหรู แล้วก็เงียบสงบดี เพราะว่าเข้ามาในซอยค่อยข้างลึก อีกอย่างที่ดีมากคือมีที่จอดรถหน้าร้านสบ๋ายสบาย
ร้านนี้ถึงจะชื่อว่า Lucca ซึ่งเป็นชื่อเมืองในแคว้น Tuscany ของอิตาลี แต่ว่าอาหารไม่ใช่ style Tuscan เลยแม้แต่น้อย คงต้องเรียกว่าเป็น Mediterranean-European ประมาณนั้นมากกว่า หรือพูดภาษาง่ายๆก็อาหารฝรั่ง ที่ไม่มี style ที่แน่นอน ตามใจฉัน โอเคนะ 555
คือตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะมาลองหรอก เพราะร้านใหม่มันเปิดเยอะมาก อยากจะรอฟังจากใครสักคนก่อนว่าอร่อยคุ้มค่าต้องลอง และแล้วมีอยู่วันเห็นเพื่อนเอารูปลง แล้วเขียนว่า "ไม่ได้คาดหวังว่าจะอร่อยเลย แต่ผิดคาด" ก็เลยคิดอยากจะมาลองสะหน่อย แต่ก่อนที่จะได้มาเอง ทางร้านก็โทรหาสะก่อน เชิญให้มาลองทาน "สาธุ ขอบคุณค่ะ" เลยได้ทั้งนั่งคุยกับเจ้าของร้านแล้วก็คุณเชฟรุ่นเก๋า เชฟ Go Hee
ทางเจ้าของบอกว่าร้านเค้าเน้นที่อาหารคุณภาพแบบโรงแรม แต่ทำราคาให้ถูกว่า 20-30% (ดูราคาเมนูได้ด้านล่าง)
มาเริ่มเรื่องอาหารกันเลย
Scallops Foie Gras ที่ตอนนี้ทุกร้านจะต้องมีเมนูนี้ ที่นี้ก็ทำได้ดี Scallop จาก Hokkaido แน่นอนว่าอร่อย กลิ่นหอม เนื้อหวานนุ่ม ถ้าไม่ over cook ซึ่งเชฟเค้าก็ทำออกมาได้ดี
Mussels with white wine sauce ตัวนี้ชอบมากเป็นพิเศษ คิดว่าเมืองไทยตั้งแต่ทานมา ที่นี้ทำได้ดีที่สุดแล้ว ซอสเข้มข้นกลมกล่อมมาก สำหรับคนชอบทานเค็ม หอยแมงภู่จานนี้เด็ดขอบอก จนต้องเอาขนมปังบาดซอสกินจนหมด
Goat cheese กับ Salmon ตัวนี้เบนคิดว่ารสชาติมันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร
สลัดเนื้อปู อย่าเรียกสลัดดีกว่า เรียก Crab tartar ดีกว่า จานนี้ก็พอใช้ได้ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร
แล้วก็ต่อด้วย Pasta with tiger prawns ที่เค้าบอกว่าสูตรต้นตำหรับมาอันเดียวกับจานโปรดของเบนที่ Lenzi แต่ว่าของที่นี้ยังอาจจะต้องปรับอีกหน่อย (อ๋อ ลืมบอกเรื่องสำคัญไปว่า ร้านนี้เค้าบอกว่าเค้าเน้นพยายามให้ถูกปากคนไทย และคนต่างชาติ แต่ค่อนไปทางเอาใจคนไทยมากกว่า เพราะฉะนั้นเส้นจะทำค่อนข้างสุก)
อีกอย่างที่ดูเหมือนต้องสั่งคือ Gnocchi กับเนื้อปู สำหรับเบนที่ชินกับ Gnocchi ของอิตาเลียนซึ่งจะใส่แป้งมากกว่ามันฝรั่ง Gnocchi ก็จะดึ๋งๆหน่อย ต้องเคี้ยว แต่ที่นี้เค้าทำแบบใส่มันฝรั่งเยอะกว่า ก็กัดแล้วคือไม่ต้องเคี้ยว หายไปเลย แต่ว่าซอสก็ใช้ได้
Angus Beef อีกหนึ่งเมนูที่เห็นทุกร้านจริงจัง ผักขมด้านล่าง วางต่อด้วยเนื้อ แล้วก็ Foie Gras และเพื่อความสวยหรู ต่อยอดภูเขาด้วย Black Truffle 1,320B เนื้อดี ความสุกของเนื้อก็ทำออกมาได้กำลังดี
Snow fish 1,210B ให้ปลาชิ้นใหญ่ดี แต่พอเป็นชิ้นใหญ่ การจะทำให้สุกกำลังดีก็ค่อยข้างยาก ข้างในสุกกำลังดี ที่นี้ข้างนอกมันก็เลยสุกไปหน่อยทำให้เนื้อกระด่างเล็กน้อย ส่วนตัวผัดผัก(ที่เชฟบอกว่าไม่ใช้ซอส) ตัวเบนเองคิดว่ามันไม่ค่อยเข้ากับปลาสักเท่าไหร แต่โดยรวมแล้วก็โอเค
Panna Cotta 240B พอใช้ได้ โดยส่วนตัวอยากให้ซอสเปรี้ยวกว่านี้อีกหน่อยจะได้ตัดกับ cream (Panna ภาษาอิตาเลียน แปลว่าครีม Cotta แปลว่า cook : Panna Cotta นั้นก็คือ Cooked cream ที่ต้องไม่ใส่ Gelatin นะฮะ) แต่ว่าก็นานาจิตตังนะ ใครชอบหวาน ใครชอบเปรี้ยว
Tiramisu 220B ร้านนี้เน้น lady finger กาแฟและเหล้าจำนวนมาก ออกคมมากกว่าหวาน หลายคนอาจจะถูกใจ
ร้านยังใหม่มาก คิดว่าถ้ามีใครได้ตามไปลองทาน อาจจะมีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปบ้างและพัฒนาขึ้น ก็ต้องไปลองกันเอาเองนะคะ แล้วถ้าไปลองกันแล้ว มาเล่าให้กันฟังบ้างนะคะ