[CR] 1881 Water Library @ Central World

กระทู้รีวิว
Central World section ใหม่ที่เปิดเป็นที่ hangout ตอนเย็นชื่อ the groove มีร้านหลายร้านเลยค่ะ ร้านมีชื่อที่คุ้นๆกันอยู่ก็เยอะ ถึงเบนจะไป shopping แถวนั้นตลอด แต่เพิ่งได้มีโอกาสเข้าไปทานใน groove ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 May 2014  ไปทานข้าวกลางวันกับเพื่อนค่ะ ยังมีหลายร้านที่ยังไม่เปิด แล้วทุกร้านก็แทบไม่มีคนเลย เพราะเค้าเน้นเป็นช่วงเย็นมากกว่า



ร้านนี้เป็นร้านของ Water Librery ที่มีสาขาที่ จามจุรีสแควร์ และทองหล่อ ซึ่งเบนเคยไปทานแต่ที่ทองหล่อ http://fovefood.wordpress.com/2013/07/08/water-library-13-courses-2/ แต่ chef เค้าคนละคน ไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือมีความใกล้เคียงกันเลย

chef วันนี้เห็นเป็นฝรั่งหัวทอง ช่วงเที่ยงเค้ามีเป็น lunch set : 2 courses 390++, 3 courses 450++

เบนกับเพื่อนสั่งมา share กันตรงกลางและตั้งใจไม่ให้เหมือนกัน เพื่อนกินดีดีอย่างนี้หาไม่ง่ายนะคะ อย่างสุภาษิตที่ว่า เพื่อนกินหายาก เพื่อนตายหาง่าย


เริ่มด้วย starters ที่สั่งมาคือ

Garlic mushroom soup อ่านชื่อแล้วมันน่ากินสุดๆ



แล้วก็ทำออกมาได้ดูน่าทานมาก ซดเข้าไปคำแรก มองหน้ากันตาปริบปริบ ทำไมมันเปรี้ยวขนาดนี้ ทำไม ยังไง ทำไมซุปเห็ดมันถึงเปรี้ยวได้ ถึงกับต้องเรียกพนักงานมาถามว่า ซุปมันควรจะเปรี้ยวแบบนี้หรือว่ามันเสียค่ะ รสชาติไม่ใช่รสเสีย แต่มันเปรี้ยวจนน่าตกใจ เข้ายกเข้าไปในครัว แล้วก็ยกกลับมาใหม่ บอกกว่า ค่ะมันควรจะเปรี้ยวแบบนี้ เปรี้ยวจากส้ม งั้นเราก็ทนกินต่อไป มารู้ต่อมาว่าความเปรี้ยวมันอยู่ที่โฟมสีขาว เปรี้ยวมาก ตักออกแล้วก็กลายเป็นซุปเห็ดธรรมดา ไม่เข้าใจ logic การทำซุปเห็ดเปรี้ยวของเชฟ


Chicken cigar with truffle mayonnaise



จานนี้ก็โอเคนะคะ เหมือนปอเปี๊ยะ แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้กลิ่น truffle ในมายองเนส เพราะเค้าใช้ truffle ดำ และคาดว่าไม่ได้ใส่ truffle oil http://fovefood.wordpress.com/2013/02/08/truffle/


จบเรียกน้ำย่อยก็เข้าของจริง ปริมาณอาหารแบบ “ฉันต้องไปทำงานต่อ อิ่มจนหลับไม่ได้นะ”



สั่ง Penne แต่ได้มาเป็น Fusilli แล้วไม่มีการบอกกล่าวกันก่อน คือบริการเค้าก็ดีนะคะ ก็เลยงงว่าเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญแบบนี้ทำไมไม่บอกกันก่อน แต่โดยรวมๆแล้ว จานนี้ก็ใช้ได้ ลวกเส้นได้ออกมาดี ซอสโอเค แต่ถามว่าจะกลับมาสั่งอีกไหม คงไม่นะคะ การแข่งขันมันสูงมาก ทำให้ของธรรมดา มัยยากที่จะมีชีวิตอยู่ในสังคมนี้ได้อีกต่อไป(เว่อมาก) โลกมันช่างโหดร้าย



Roasted lamb belly with lentil cassoulet and chili yoghurt

คือพออ่านแค่ lamb belly ปุ๊ปหยุดอ่านแล้วสั่งเลยจานนี้ เลยไม่รู้ว่ามันมี lentil อยู่ด้วย ซึ่งเบนไม่ค่อยชอบถั่วตัวนี้เท่าไหรโดยส่วนตัว เบนว่ามันอร่อยน้อยกว่าถั่วเขียวหน่อยนึง แล้วก็คิดว่าคนไทยหลายคนไม่น่าจะชอบถั่วตัวนี้เท่าไหร เมนูอาหารดูเหมือนจะไม่ได้เน้นเอาใจลิ้นคนไทยนัก แต่ถือว่าเค้าทำ lentil รสชาติออกมาใช้ได้เลยนะคะ ตอนแรกเบนว่าจะไม่เตะเลย แต่ทานหมดไป 1 ใน 3 ส่วนตัวแกะเองนั้น งงๆนิดหน่อยว่าทำไม พุงลูกแกะมันมีซี่โครงติดมาด้วย????

เมื่อจบของคาว เพื่อนบอกว่าสงสัยมื้อนี้จะไม่อิ่มแหละเธอ แต่ในที่สุดเราของคนอิ่มกำลังพอดีเมื่อทานครบ 3 courses chef กะ portion ได้เก่งมาก (ถ้าเทียบ พวกเราเป็นผู้ชายที่กินน้อย และเป็นผู้หญิงที่กินเยอะ)

มาถึงของหวาน เบนว่า work สุดในทั้งหมดที่สั่งมา



White chocolate panna cotta with coffee crumble และอีกแล้วที่ไม่มีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงร่วงหน้า มาถึงบอกว่า chef ทำให้พิเศษเป็น passion fruit แทนนะคะ โชคดีที่ไม่บ่น เพราะว่า เสาวรสที่ทำออกมาก็ดีเลยทีเดียวค่ะ เข้ากับ white chocolate panna cotta ได้ดี ตัว panna cotta นั้นถึงเนื้อจะไม่เนียนแต่ว่ารสชาติดี



บอกตามตรงจานนี้หน้าตาแย่มากๆ เค้าวางบนโต๊ะปุ๊ป ถามทันที่ ขอโทษนะคะ คือว่า chef เค้าตั้งแต่จะ present แบบเลอะๆอย่างนี้หรือค่ะ คือมีความรู้สึกอย่างส่งคืน ว่าช่วยไปทำมาใหม่ให้มันชวนรับประทานมากกว่านี้หน่อย ถึงหน้าตาจะดูไม่ดี แต่รสชาติดีค่ะ ถ้าคนที่อยู่ในร้านหรือรู้จักกับทางร้านมาอ่านเจอรีวิวนี้ ช่วยไปบอกให้เค้าพัฒนาหน้าตาจานนี้หน่อยเถอะค่ะ ขอร้อง

Caramelized banana chutney with hot chocolate and vanilla

ตามชื่อเลยค่ะ ทุกอย่างเข้ากันได้ดี  chocolate ขมหวานกำลังดี คู่กับกล้วยที่มีรสชาติเผ็ดนิดๆ แล้วก็มี vanilla ice-cream มาช่วยเสริมรสชาติอีกตัว

Total แล้วตกคนละ 550 บาท อิ่มกำลังพอดีสำหรับมื้อกลางวัน
ชื่อสินค้า:   1881 by Water Library
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่