หลังจากหายไปนานในการรีวิวร้านอาหาร ก็มาเปิดที่ร้าน steak อีกหนึ่งแห่งของเมืองไทยบนโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เบนเคยเขียนไว้ว่า การที่เบนจะมาเขียนรีวิวร้านอาหารนั้น เบนอยากจะไปแล้วอย่างน้อยสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจถึงคุณภาพ แต่ว่าร้านอาหารเมืองไทยตอนนี้เปิดเยอะมากๆ ไปแทบไม่ซ้ำ จะซ้ำก็แค่ร้านถูกใจราคาธรรมดาแถวบ้านที่จะไปบ่อย อย่างร้าน Prime นี้คงไปบ่อยๆแบบนั้นไม่ได้ ก็ถือเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ไปกินให้ฟังละกันนะค่ะ
รางวัล Best restaurant จาก Thailand Tatler ไม่รู้กี่ปีซ้อน
ร้านนี้เข้าไปอย่างแรกที่เห็นคือห้อง Private ที่มีแก้วไวน์ยักษ์วางอยู่ อยากจะรู้ว่าควรจะใส่ไวน์อะไรแล้วทำไมต้องใหญ่ขนาดนั้น ที่สำคัญคืออยากลอง
เดินเข้าไปปุ๊ปเจอครัวก่อนเลยคะ แล้วซ้ายมือก็เป็นห้องอาหารที่มีวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสลัวๆมืดๆตาม style ร้านหรู (เบนชอบกินแบบสว่างๆ เห็นอาหารชัดๆ ถ่ายรูปง่ายด้วยค่ะ 555) ร้านสวย ที่นั่งแต่ละโต๊ะนั้นให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เนื่องจากถ้าไม่เก้าอี้ใหญ่ ก็จะมีเหมือนแบ่งโซนกั้น พนักงานต้อนรับอย่างดีตามแบบโรงแรมห้าดาว(อาจจะดีกว่าปกตินิด เนื่องจากคนที่ไปด้วย)
อย่างแรกที่ทำไม่ใช้ไปที่โต๊ะ แต่เป็นเดินเข้าครัวไปดูเตาย่างเนื้อ ซึ่งเตาอย่างเนื้อของที่นี้เหมือนเตาอบพิซซ่าเลย โดยเริ่มแรกเค้าจะนำเนื้อไปย่างในเตาเล็กซึ่งมีตะแกรงเหล็ก เพื่อทำลายไหม้ๆให้เนื้อสีสวยๆก่อน
หลังจากนั้นก็จะนำไปวางบนถาดเหล็กที่รองด้วยมันฝรั่ง ในเตาอบใหญ่
สิ่งที่เบนตื่นเต้นที่สุดของมื้อนี้คือ สามารถเลือกไม้ที่จะเอามาเผาในเตาเพื่อกี่งๆรมควันเนื้อได้ น่าเสียดายที่ไม่มีไม้ maple ให้ลอง เพราะอยากลองไฟฟืนย่างเนื้อจากไม้ maple ที่สุด ที่นี้เค้ามีแต่ไม้ oak ซึ่งแยกออกเป็นสี่ประเภท มี 2 แบบที่ soaked ใน wine ส่วนอีกสองตัวเป็นใน belgium beer และ whisky Jack Daniel
โต๊ะเบนเลือก(ตัวเบนเลือกให้ทุกคน)ที่จะใช้ไม้ oak ที่ soaked ในเบียร์
วันนี้มาทานกันสี่คน สั่ง Appetiser คนละอย่าง ตัวเบนเองสั่ง Foie Gras 990 B
คงจะต้องขอบอก style foie gras ที่ตัวเองชอบก่อน คือ เบนคนชอบ Foie gras ชิ้นหนา และสุกน้อย เพราะฉะนั้นต้องเป็นตับห่านเท่านั้น เนื่องจากถ้าเป็นตับเป็ดคุณภาพจะไม่ดีพอที่จะทำแบบสุกน้อย แต่ราคาของตับเป็ดก็จะถูกกว่าตับห่าน ตับเป็ดก็เรียก Foie gras ได้เหมือนกันคะ เพราะ Foie gras แปลว่า fat liver คือตับของสัตว์ปีกที่ถูกขุน ไม่ได้แปลว่าตับห่าน
กลิ่นนั้นค่อนข้างมีความสำคัญมากสำหรับเบนเมื่อกินอาหาร เบนเป็นคนที่ชอบทานอาหารแล้วชอบที่จะได้รับกลิ่นและความสดอันมีคุณภาพของวัตถุดิบแต่ละประเภท อย่างแกะก็ต้องมีกลิ่นเยอะๆถึงจะชอบ Foie gras ก็เช่นกัน การที่ทำอาหารปรุงแบบสุกน้อยนั้น จะทำให้กลิ่นของวัตถุดิบนั้นยังคงอยู่ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าใช้ Foie gras ตับห่านอย่างดีควรจะปรุงแบบสุกน้อย เพื่อให้ได้รับรสชาติและกลิ่นที่สูงสุดของมัน
Foie gras ของที่นี้ชิ้นค่อนข้างบาง การทำให้ไม่สุกมากแล้วละลายในปากเลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ส่วนตัวซอสนั้นเบนชอบซอสที่ออกรสชาติเปรี้ยวเพื่อตัดกับความเลี้ยนและมัน แต่ที่นี้ซอสนั้นไม่แน่ใจว่าทำจากอะไร ออกรสชาติหวานมัน มี balsamic อายุ 15 ปีโรยมาอีกหน่อย ซึ่งสำหรับเบนไม่เพียงพอที่จะตัดกับความเลี้ยนได้ แล้วอีกตัวที่มาคู่กันคือ Ravioli ไส้ caramelized onions ซึ่งเบนไม่คิดว่ามันเข้ากันกับ Foie gras สักเท่าไหร แต่ก็ไม่ถึงกับเข้ากันไม่ได้เลย
ของคนอื่นสั่งซุป Lobster bisque ซึ่งไม่ได้ลองคะ
แล้วก็ต่อด้วยเนื้อ ซึ่งเบนไปกับขาประจำ เพราะฉะนั้นเบนอดสั่งตามใจคะ ถึงสั่งก็ไม่ได้อย่างใจ เพราะถ้าจะสั่งก็จะสั่ง Ribeye ซึ่งวันนี้เค้าบอกว่าหมด ก็เลยได้มาเป็น Prime roasted beef 1,950 B แบบตัดชิ้นหนา และ Strip Loin 480g. 2,350 B สั่งสองอย่างแบ่ง 4 คน
ไม่ใช้ของโต๊ะเบน แต่ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ
บอกตามตรงว่ามาแค่นี้แต่เอาตัวเกือบไม่รอด เกือบไม่หมด
ปกติเบนจะไม่ค่อยชอบกินซอสเท่าไหร เพราะเนื่องจากที่บอกว่าชอบที่จะรับรู้กลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบให้ได้มากที่สุด ตัวเนื้อของที่นี้นั้นไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร คงเนื่องมากจากเป็นเนื้อแบบ grain fed ด้วย แต่ว่า Texture ดี นุ่ม ไม่สาก และ cook ออกมาได้ตามต้องการที่สั่งไป คือ Medium rare สำหรับ Prime และ Medium สำหรับ strip loin
ส่วนตัวซอสนั้น เบนว่ายังไม่ผ่าน ตัว Gravy นั้นก็ใสๆชืดๆ ไม่ได้ช่วยชูรสเนื้อ เบนเลยต้องพยายามเอาขนมปังมาซับซอสออกไม่ให้ไปติดเนื้อ อีกตัวที่สั่งคือ ซอสเห็ด ก็ไม่ผ่านเหมือนกัน กินเนื้อปล่าวๆอร่อยกว่า
Side dish นั้นราคาที่ละ 200 B ได้ลอง ผักโขม มันบด caramelized onions และ Bone marrow ไม่รู้สึกติดใจตัวไหนเป็นพิเศษ
สุดท้ายกินเกือบหมด แต่ไม่หมด ยังไงก็ต้องหยุดที่ของหวาน ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ สั่ง strawberries and cream 380 B (เข้าใจราคาโรงแรม แต่รู้สึกไม่คุ้มค่าเท่าไหร) สั่งสองให้เค้าแบ่งเป็น 3
สรุปแล้ว 4 คนตกประมาณ 12,000 B และดื่มแต่น้ำเปล่าค่ะ
ยังไงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะค่ะ
[CR] รีวิว ร้าน Steak : Prime @Millennium Hilton เล่าสู่กันฟังจากเบญญาภา
เบนเคยเขียนไว้ว่า การที่เบนจะมาเขียนรีวิวร้านอาหารนั้น เบนอยากจะไปแล้วอย่างน้อยสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจถึงคุณภาพ แต่ว่าร้านอาหารเมืองไทยตอนนี้เปิดเยอะมากๆ ไปแทบไม่ซ้ำ จะซ้ำก็แค่ร้านถูกใจราคาธรรมดาแถวบ้านที่จะไปบ่อย อย่างร้าน Prime นี้คงไปบ่อยๆแบบนั้นไม่ได้ ก็ถือเป็นการเล่าประสบการณ์ที่ไปกินให้ฟังละกันนะค่ะ
รางวัล Best restaurant จาก Thailand Tatler ไม่รู้กี่ปีซ้อน
ร้านนี้เข้าไปอย่างแรกที่เห็นคือห้อง Private ที่มีแก้วไวน์ยักษ์วางอยู่ อยากจะรู้ว่าควรจะใส่ไวน์อะไรแล้วทำไมต้องใหญ่ขนาดนั้น ที่สำคัญคืออยากลอง
เดินเข้าไปปุ๊ปเจอครัวก่อนเลยคะ แล้วซ้ายมือก็เป็นห้องอาหารที่มีวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสลัวๆมืดๆตาม style ร้านหรู (เบนชอบกินแบบสว่างๆ เห็นอาหารชัดๆ ถ่ายรูปง่ายด้วยค่ะ 555) ร้านสวย ที่นั่งแต่ละโต๊ะนั้นให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เนื่องจากถ้าไม่เก้าอี้ใหญ่ ก็จะมีเหมือนแบ่งโซนกั้น พนักงานต้อนรับอย่างดีตามแบบโรงแรมห้าดาว(อาจจะดีกว่าปกตินิด เนื่องจากคนที่ไปด้วย)
อย่างแรกที่ทำไม่ใช้ไปที่โต๊ะ แต่เป็นเดินเข้าครัวไปดูเตาย่างเนื้อ ซึ่งเตาอย่างเนื้อของที่นี้เหมือนเตาอบพิซซ่าเลย โดยเริ่มแรกเค้าจะนำเนื้อไปย่างในเตาเล็กซึ่งมีตะแกรงเหล็ก เพื่อทำลายไหม้ๆให้เนื้อสีสวยๆก่อน
หลังจากนั้นก็จะนำไปวางบนถาดเหล็กที่รองด้วยมันฝรั่ง ในเตาอบใหญ่
สิ่งที่เบนตื่นเต้นที่สุดของมื้อนี้คือ สามารถเลือกไม้ที่จะเอามาเผาในเตาเพื่อกี่งๆรมควันเนื้อได้ น่าเสียดายที่ไม่มีไม้ maple ให้ลอง เพราะอยากลองไฟฟืนย่างเนื้อจากไม้ maple ที่สุด ที่นี้เค้ามีแต่ไม้ oak ซึ่งแยกออกเป็นสี่ประเภท มี 2 แบบที่ soaked ใน wine ส่วนอีกสองตัวเป็นใน belgium beer และ whisky Jack Daniel
โต๊ะเบนเลือก(ตัวเบนเลือกให้ทุกคน)ที่จะใช้ไม้ oak ที่ soaked ในเบียร์
วันนี้มาทานกันสี่คน สั่ง Appetiser คนละอย่าง ตัวเบนเองสั่ง Foie Gras 990 B
คงจะต้องขอบอก style foie gras ที่ตัวเองชอบก่อน คือ เบนคนชอบ Foie gras ชิ้นหนา และสุกน้อย เพราะฉะนั้นต้องเป็นตับห่านเท่านั้น เนื่องจากถ้าเป็นตับเป็ดคุณภาพจะไม่ดีพอที่จะทำแบบสุกน้อย แต่ราคาของตับเป็ดก็จะถูกกว่าตับห่าน ตับเป็ดก็เรียก Foie gras ได้เหมือนกันคะ เพราะ Foie gras แปลว่า fat liver คือตับของสัตว์ปีกที่ถูกขุน ไม่ได้แปลว่าตับห่าน
กลิ่นนั้นค่อนข้างมีความสำคัญมากสำหรับเบนเมื่อกินอาหาร เบนเป็นคนที่ชอบทานอาหารแล้วชอบที่จะได้รับกลิ่นและความสดอันมีคุณภาพของวัตถุดิบแต่ละประเภท อย่างแกะก็ต้องมีกลิ่นเยอะๆถึงจะชอบ Foie gras ก็เช่นกัน การที่ทำอาหารปรุงแบบสุกน้อยนั้น จะทำให้กลิ่นของวัตถุดิบนั้นยังคงอยู่ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้น ถ้าใช้ Foie gras ตับห่านอย่างดีควรจะปรุงแบบสุกน้อย เพื่อให้ได้รับรสชาติและกลิ่นที่สูงสุดของมัน
Foie gras ของที่นี้ชิ้นค่อนข้างบาง การทำให้ไม่สุกมากแล้วละลายในปากเลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ส่วนตัวซอสนั้นเบนชอบซอสที่ออกรสชาติเปรี้ยวเพื่อตัดกับความเลี้ยนและมัน แต่ที่นี้ซอสนั้นไม่แน่ใจว่าทำจากอะไร ออกรสชาติหวานมัน มี balsamic อายุ 15 ปีโรยมาอีกหน่อย ซึ่งสำหรับเบนไม่เพียงพอที่จะตัดกับความเลี้ยนได้ แล้วอีกตัวที่มาคู่กันคือ Ravioli ไส้ caramelized onions ซึ่งเบนไม่คิดว่ามันเข้ากันกับ Foie gras สักเท่าไหร แต่ก็ไม่ถึงกับเข้ากันไม่ได้เลย
ของคนอื่นสั่งซุป Lobster bisque ซึ่งไม่ได้ลองคะ
แล้วก็ต่อด้วยเนื้อ ซึ่งเบนไปกับขาประจำ เพราะฉะนั้นเบนอดสั่งตามใจคะ ถึงสั่งก็ไม่ได้อย่างใจ เพราะถ้าจะสั่งก็จะสั่ง Ribeye ซึ่งวันนี้เค้าบอกว่าหมด ก็เลยได้มาเป็น Prime roasted beef 1,950 B แบบตัดชิ้นหนา และ Strip Loin 480g. 2,350 B สั่งสองอย่างแบ่ง 4 คน
ไม่ใช้ของโต๊ะเบน แต่ถ่ายรูปมาให้ดูค่ะ
บอกตามตรงว่ามาแค่นี้แต่เอาตัวเกือบไม่รอด เกือบไม่หมด
ปกติเบนจะไม่ค่อยชอบกินซอสเท่าไหร เพราะเนื่องจากที่บอกว่าชอบที่จะรับรู้กลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบให้ได้มากที่สุด ตัวเนื้อของที่นี้นั้นไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร คงเนื่องมากจากเป็นเนื้อแบบ grain fed ด้วย แต่ว่า Texture ดี นุ่ม ไม่สาก และ cook ออกมาได้ตามต้องการที่สั่งไป คือ Medium rare สำหรับ Prime และ Medium สำหรับ strip loin
ส่วนตัวซอสนั้น เบนว่ายังไม่ผ่าน ตัว Gravy นั้นก็ใสๆชืดๆ ไม่ได้ช่วยชูรสเนื้อ เบนเลยต้องพยายามเอาขนมปังมาซับซอสออกไม่ให้ไปติดเนื้อ อีกตัวที่สั่งคือ ซอสเห็ด ก็ไม่ผ่านเหมือนกัน กินเนื้อปล่าวๆอร่อยกว่า
Side dish นั้นราคาที่ละ 200 B ได้ลอง ผักโขม มันบด caramelized onions และ Bone marrow ไม่รู้สึกติดใจตัวไหนเป็นพิเศษ
สุดท้ายกินเกือบหมด แต่ไม่หมด ยังไงก็ต้องหยุดที่ของหวาน ไม่งั้นคงนอนไม่หลับ สั่ง strawberries and cream 380 B (เข้าใจราคาโรงแรม แต่รู้สึกไม่คุ้มค่าเท่าไหร) สั่งสองให้เค้าแบ่งเป็น 3
สรุปแล้ว 4 คนตกประมาณ 12,000 B และดื่มแต่น้ำเปล่าค่ะ
ยังไงโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะค่ะ