😃 รีวิววันนี้แอดได้รับเชิญจาก Aubergine Garden ห้องอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ในย่านสีลมให้มาเก็บภาพและนำเสนอเมนูอาหารที่น่าสนใจ
👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Aubergine Garden - โอเบอร์จีน การ์เด้น
🍴 Classic French - อาหารฝรั่งเศสคลาสสิค
🎗 Aubergine Garden เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง 1/1 มองจากภายนอกเป็นบ้านสองชั้นสไตล์โคโลเนียลสีขาวอายุเกือบ 100 ปีที่เคยถูกใช้งานเป็นสถานฑูตออสเตรเลีย รัสเซีย และอเมริกา บริเวณโดยรอบมีที่จอดรถกว้างขวางซึ่งหาได้ยากมากสำหรับห้องอาหารในย่านสีลม ภายในตกแต่งแบบเรียบง่ายสังเกตได้จากผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกันกับสีน้ำตาลเข้มของเฟอร์นิเจอร์ไม้ บนผนังมีภาพวาดสีน้ำของประเทศฝรั่งเศสแขวนประดับเอาไว้ ลูกค้าสามารถเลือกนั่งบริเวณหน้าเคาเตอร์บาร์หรือโต๊ะหน้าห้องเก็บไวน์ ส่วนลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มทางร้านก็มีห้อง VIP สำหรับให้บริการที่ชั้นสองอีกด้วย
🎗 อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟเชฟสุมิตร เจตมาศ แม้จะเป็นคนไทยแต่การันตีด้วยประสบการณ์การทำอาหารสไตล์ยูโรเปี้ยนนานกว่า 40 ปี สังเกตได้จากลิสท์เมนูกว่า 80% เป็นอาหารฝรั่งเศสคลาสสิคแซมด้วยรายการอาหารอิตาเลียนและเมดิเตอเรเนียนทั้ง Pasta และ Main Course หลายอย่างเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างมากขึ้นก่อนจะปิดท้ายด้วยชีสและของหวาน จานที่เด็ดจนเราขอปักหมุดให้เพื่อนๆลองแวะมาชิมกันก็คือ
✨ Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูคลาสสิคอย่างเอสคาโกท์หรือ “หอยทาก” นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรง เชฟนำไปอบทั้งเปลือกกับซอสเนย-กระเทียมสุดคลาสสิคอย่าง Café de Paris แม้จะมีคำว่าปารีสอยู่ในชื่อแต่ตัวซอสกลับมีต้นกำเนิดมาจากร้านคาเฟ่ชื่อเดียวกันในรุงเจนีวาช่วงปี 1930 ก่อนที่จะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ที่ร้าน Aubergine เชฟปรับสูตรโดยการเพิ่มแองโชวี่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
✨ Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
สำหรับ “ฟัวกราส์” เชฟคัดเลือกตับห่านคุณภาพนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรงนำไปแพนเซียจนผิวด้านนอกเต่งตึงแต่ด้านในหอม มัน ครีมมี่ จับคู่กับซอสราสเบอร์รี่และพอร์ทไวน์รีดัคชั่นสุดคลาสสิค ข้างกันคือบัลซามิครีดัคชั่น ยังมีลูกพีชที่ผ่านความร้อนจนเกิดการคาราเมลไลซ์มาอย่างพอเหมาะพอดีให้ทานสลับกัน
✨ Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
สำหรับอาหารจานหลักเราขอแนะนำให้สั่ง “บูร์กอญ” หรือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงที่มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นเบอร์กันดี เชฟเริ่มจากการคัดเนื้อส่วนส่วนแก้มวัวมาแต่งขอบ จากนั้นหมักข้ามคืนด้วยไวน์แดง ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะนำไปจี่บนกระทะจนขึ้นสี นำไปตุ๋นต่อในไวน์แดงเดิมแล้วใส่หอมแดง แครอท หอมใหญ่ เบลีฟลงไปอีกอย่างน้อย 6 เพื่อให้เนื้อมีความฉ่ำนุ่มและดูดน้ำซอสเข้าไปแทรกในใยกล้ามเนื้อ จะเห็นได้ว่าเป็นจานที่ใช้เวลาในการเตรียมสูงมาก ตอนทานให้ใช้มีดตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เติมแมชโพเทโท่สักนิด ปิดด้วยการจิ้มซอสไวน์แดงก่อนนำเข้าปาก เนื้อแก้มนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ น้ำซอสไวน์แดงหอม มีความเข้มข้นกำลังดี บอกเลยว่าอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำของร้านจริงๆ
🎗 รสชาติอาหารโดยรวมออกมาในแบบที่ควรจะเป็นทุกจาน Aubergine Garden ตอบโจทย์ลูกค้าที่เฟ้นหาสถานที่พบปะสังสรรค์กันหลังเลิกงานโดยสามารถหลบหนีจากความวุ่นวายในย่านสีลมรวมไปถึงเพื่อนๆที่ต้องการลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสคลาสสิคคุณภาพซึ่งหาได้ไม่มากนักในเมืองไทย
📃 À La Carte
Deep Fried Frog Legs (490++)
Fried frog legs sautéed with garlic butter, lemon wedge and sun-dried tomato
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
Truffle Cappuccino Soup (490++)
Black truffle soup topped with milk foam and truffle essence
Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
Warm Chocolate Fondant (390++)
Chocolate cake lava served with vanilla ice cream and raspberry sauce
Poached Peaches (240++)
With with whipped cream, truffle ice cream and raspberry sauce
🏵 Score:
อาหาร : Ads
ราคา : 🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : Ads
📍 Visit: Nov 2020
🏠 Location: 1/1 ซอยศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
🚗 Parking: จอดฟรีในร้าน
🕚 Operating Time: 11.00-14.30, 18.00-22.00
💰 Price: 1,000-2,000 THB/p
📞 Tel: 02-234-2226
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website:
https://web.facebook.com/AubergineGardenRestaurant/
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และเเชร์เพจของเรา : ตามล่า Fine Dining
👍 เพจเราสร้างขึ้นเพื่อรีวิวห้องอาหาร Fine Dining ระดับมิชลินไกด์ทั่วโลก
#FrenchCuisine #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
สำหรับใครที่ไม่อยากอ่าน ตอนนร้เรามีคลิปวีดีโอแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ กดติดตามกดแชร์ให้พวกเราด้วยนะคะ ตอนนี้ยังมือใหม่มากๆสำหรับการทำวิดีโอ ขาดตกบกพร่องยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่า🤟🏻😝
Deep Fried Frog Legs (490++)
Fried frog legs sautéed with garlic butter, lemon wedge and sun-dried tomato
ถัดมาคือเมนู “ขากบทอด” ที่ทางร้านคัดมาเฉพาะไซซ์ใหญ่ยักษ์เท่านั้น นำไปลงทอด แล้วจึงมาผัดกับซอส Café de Paris พร้อมเติมไวน์ขาวลงไปอีกทีหนึ่ง ปกติแล้วขากบเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มักทำออกมาสุกจนเกินไปด้วยขนาดที่เล็กกว่าน่องไก่ แต่ที่ Aubergine Garden กลับทำออกมาได้ดีคือมีความฉ่ำนุ่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อกบ ซอสเนยกระเทียมหอมเด่นชัด เราแนะนำมากๆให้บีบเลมอนทั่วๆจานก่อนทานเพื่อช่วยบาลานซ์โทนของรสชาติให้กลมกล่อม
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูคลาสสิคอย่างเอสคาโกท์หรือ “หอยทาก” นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรง เชฟนำไปอบทั้งเปลือกกับซอสเนย-กระเทียมสุดคลาสสิคอย่าง Café de Paris แม้จะมีคำว่าปารีสอยู่ในชื่อแต่ตัวซอสกลับมีต้นกำเนิดมาจากร้านคาเฟ่ชื่อเดียวกันในรุงเจนีวาช่วงปี 1930 ก่อนที่จะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ที่ร้าน Aubergine เชฟปรับสูตรโดยการเพิ่มแองโชวี่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
ให้ใช้ Pince À Escargot ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษในการยึดตัวหอยเอาไว้ จากนั้นใช้ Fourchette À Escargot ดึงเนื้อหอยทากออกมาจากเปลือก คลุกกับซอสให้ทั่วๆก่อนทาน เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ มีความ Earthy เบาๆ เสริมกันกับกลิ่นหอมของซอสเนย-กระเทียมหอมๆ คลาสสิค ไม่ซับซ้อน แต่รสชาติออกมาในแบบที่ควรจะเป็น
Truffle Cappuccino Soup (490++)
Black truffle soup topped with milk foam and truffle essence
คั่นกลางด้วยซุปทรัฟเฟิลจากประเทศอิตาลีเสิร์ฟมาในแก้วเพื่อให้ยกดื่มได้ง่าย เนื้อสัมผัสนุ่ม หอม ด้านบนทอปด้วยโฟมนมสุดครีมมี่ เชฟเสิร์ฟมาร้อนๆ ตัดความมันจากรสของเนยและของทอดจานอื่นๆได้อย่างดี
Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
สำหรับ “ฟัวกราส์” เชฟคัดเลือกตับห่านคุณภาพนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรงนำไปแพนเซียจนผิวด้านนอกเต่งตึงแต่ด้านในหอม มัน ครีมมี่ จับคู่กับซอสราสเบอร์รี่และพอร์ทไวน์รีดัคชั่นสุดคลาสสิค ข้างกันคือบัลซามิครีดัคชั่น ยังมีลูกพีชที่ผ่านความร้อนจนเกิดการคาราเมลไลซ์มาอย่างพอเหมาะพอดีให้ทานสลับกัน
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
มาถึงอาหารจานหลักเราขอแนะนำให้สั่ง “บูร์กอญ” หรือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงที่มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นเบอร์กันดี เชฟเริ่มจากการคัดเนื้อส่วนส่วนแก้มวัวมาแต่งขอบ จากนั้นหมักข้ามคืนด้วยไวน์แดง ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะนำไปจี่บนกระทะจนขึ้นสี นำไปตุ๋นต่อในไวน์แดงเดิมแล้วใส่หอมแดง แครอท หอมใหญ่ เบลีฟลงไปอีกอย่างน้อย 6 เพื่อให้เนื้อมีความฉ่ำนุ่มและดูดน้ำซอสเข้าไปแทรกในใยกล้ามเนื้อ จัดว่าเป็นจานที่ใช้เวลาในการเตรียมสูงมากที่สุดจานหนึ่งในร้านเลยก็ว่าได้
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
อย่าลืมใช้มีดตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เติมแมชโพเทโท่สักนิด ปิดด้วยการจิ้มซอสไวน์แดงก่อนนำเข้าปาก เนื้อแก้มนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ น้ำซอสไวน์แดงหอม มีความเข้มข้นกำลังดี บอกเลยว่าอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำของร้านจริงๆ
Bread And Butter (Complimentary)
ระหว่างรออาหารพนักงานจะนำเสิร์ฟเซ็ตขนมปังและเนยโดยลูกค้าสามารถขอเพิ่มได้เรื่อยๆตลอดมื้ออาหาร
Warm Chocolate Fondant (390++)
Chocolate cake lava served with vanilla ice cream and raspberry sauce
สำหรับของหวานขอเริ่มต้นที่เมนูคลาสสิคอย่าง “ช็อกโกแลตฟองดองท์” เสิร์ฟมาอุ่นๆ ใช้ช้อนตัดเบาๆจะมีช็อกโกแลตลาวาไหลเยิ้มออกมาจากภายใน ทานสลับกับไอศกรีมวานิลลาเย็นๆเข้ากันดีเป็นที่สุด
Poached Peaches (240++)
With with whipped cream, truffle ice cream and raspberry sauce
จานนี้เชฟนำ “ลูกพีช” หั่นเป็นชิ้นบางๆ นำไปโพชจนนุ่ม ด้านล่างรองด้วยวิปปิ้งครีม ด้านบนทอปด้วยทรัฟเฟิลไอศกรีมและซอสราสเบอร์รี่ ตักทุกองค์ประกอบทานพร้อมกันจะได้เนื้อสัมผัสความนุ่มของลูกพีช กลิ่นอโรม่าจากไอศกรีมทรัฟเฟิล ความหอมมันของวิปปิ้งครีม โดยมีรสเปรี้ยวเบาๆจากซอสราสเบอร์รี่เพื่อบาลานซ์รสชาติโดยรวมให้ลงตัวพอดี
[CR] 🇹🇭 Aubergine Garden - โอเบอร์จีน การ์เด้น อาหารฝรั่งเศสคลาสสิคใจกลางสีลม
👉🏻ก่อนเข้ารีวิวเราขอแนะนำแฟนเพจ FB ของเราสักนิด เราเปิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศมากมาย มาแบ่งปันกัน ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
🇹🇭 Aubergine Garden - โอเบอร์จีน การ์เด้น
🍴 Classic French - อาหารฝรั่งเศสคลาสสิค
🎗 Aubergine Garden เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสชื่อดังที่ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง 1/1 มองจากภายนอกเป็นบ้านสองชั้นสไตล์โคโลเนียลสีขาวอายุเกือบ 100 ปีที่เคยถูกใช้งานเป็นสถานฑูตออสเตรเลีย รัสเซีย และอเมริกา บริเวณโดยรอบมีที่จอดรถกว้างขวางซึ่งหาได้ยากมากสำหรับห้องอาหารในย่านสีลม ภายในตกแต่งแบบเรียบง่ายสังเกตได้จากผ้าปูโต๊ะสีขาวตัดกันกับสีน้ำตาลเข้มของเฟอร์นิเจอร์ไม้ บนผนังมีภาพวาดสีน้ำของประเทศฝรั่งเศสแขวนประดับเอาไว้ ลูกค้าสามารถเลือกนั่งบริเวณหน้าเคาเตอร์บาร์หรือโต๊ะหน้าห้องเก็บไวน์ ส่วนลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มทางร้านก็มีห้อง VIP สำหรับให้บริการที่ชั้นสองอีกด้วย
🎗 อาหารที่นี่ควบคุมโดยเชฟเชฟสุมิตร เจตมาศ แม้จะเป็นคนไทยแต่การันตีด้วยประสบการณ์การทำอาหารสไตล์ยูโรเปี้ยนนานกว่า 40 ปี สังเกตได้จากลิสท์เมนูกว่า 80% เป็นอาหารฝรั่งเศสคลาสสิคแซมด้วยรายการอาหารอิตาเลียนและเมดิเตอเรเนียนทั้ง Pasta และ Main Course หลายอย่างเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างมากขึ้นก่อนจะปิดท้ายด้วยชีสและของหวาน จานที่เด็ดจนเราขอปักหมุดให้เพื่อนๆลองแวะมาชิมกันก็คือ
✨ Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูคลาสสิคอย่างเอสคาโกท์หรือ “หอยทาก” นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรง เชฟนำไปอบทั้งเปลือกกับซอสเนย-กระเทียมสุดคลาสสิคอย่าง Café de Paris แม้จะมีคำว่าปารีสอยู่ในชื่อแต่ตัวซอสกลับมีต้นกำเนิดมาจากร้านคาเฟ่ชื่อเดียวกันในรุงเจนีวาช่วงปี 1930 ก่อนที่จะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ที่ร้าน Aubergine เชฟปรับสูตรโดยการเพิ่มแองโชวี่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
✨ Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
สำหรับ “ฟัวกราส์” เชฟคัดเลือกตับห่านคุณภาพนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรงนำไปแพนเซียจนผิวด้านนอกเต่งตึงแต่ด้านในหอม มัน ครีมมี่ จับคู่กับซอสราสเบอร์รี่และพอร์ทไวน์รีดัคชั่นสุดคลาสสิค ข้างกันคือบัลซามิครีดัคชั่น ยังมีลูกพีชที่ผ่านความร้อนจนเกิดการคาราเมลไลซ์มาอย่างพอเหมาะพอดีให้ทานสลับกัน
✨ Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
สำหรับอาหารจานหลักเราขอแนะนำให้สั่ง “บูร์กอญ” หรือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงที่มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นเบอร์กันดี เชฟเริ่มจากการคัดเนื้อส่วนส่วนแก้มวัวมาแต่งขอบ จากนั้นหมักข้ามคืนด้วยไวน์แดง ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะนำไปจี่บนกระทะจนขึ้นสี นำไปตุ๋นต่อในไวน์แดงเดิมแล้วใส่หอมแดง แครอท หอมใหญ่ เบลีฟลงไปอีกอย่างน้อย 6 เพื่อให้เนื้อมีความฉ่ำนุ่มและดูดน้ำซอสเข้าไปแทรกในใยกล้ามเนื้อ จะเห็นได้ว่าเป็นจานที่ใช้เวลาในการเตรียมสูงมาก ตอนทานให้ใช้มีดตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เติมแมชโพเทโท่สักนิด ปิดด้วยการจิ้มซอสไวน์แดงก่อนนำเข้าปาก เนื้อแก้มนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ น้ำซอสไวน์แดงหอม มีความเข้มข้นกำลังดี บอกเลยว่าอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำของร้านจริงๆ
🎗 รสชาติอาหารโดยรวมออกมาในแบบที่ควรจะเป็นทุกจาน Aubergine Garden ตอบโจทย์ลูกค้าที่เฟ้นหาสถานที่พบปะสังสรรค์กันหลังเลิกงานโดยสามารถหลบหนีจากความวุ่นวายในย่านสีลมรวมไปถึงเพื่อนๆที่ต้องการลิ้มลองอาหารฝรั่งเศสคลาสสิคคุณภาพซึ่งหาได้ไม่มากนักในเมืองไทย
📃 À La Carte
Deep Fried Frog Legs (490++)
Fried frog legs sautéed with garlic butter, lemon wedge and sun-dried tomato
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
Truffle Cappuccino Soup (490++)
Black truffle soup topped with milk foam and truffle essence
Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
Warm Chocolate Fondant (390++)
Chocolate cake lava served with vanilla ice cream and raspberry sauce
Poached Peaches (240++)
With with whipped cream, truffle ice cream and raspberry sauce
🏵 Score:
อาหาร : Ads
ราคา : 🌟🌟🌟
ความคุ้มค่า : 🌟🌟🌟
เทคนิค : 🌟
บรรยากาศ : 🌟🌟🌟
บริการ : 🌟🌟🌟
ความประทับใจโดยรวม : Ads
📍 Visit: Nov 2020
🏠 Location: 1/1 ซอยศาลาแดง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
🚗 Parking: จอดฟรีในร้าน
🕚 Operating Time: 11.00-14.30, 18.00-22.00
💰 Price: 1,000-2,000 THB/p
📞 Tel: 02-234-2226
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website: https://web.facebook.com/AubergineGardenRestaurant/
🥰 ฝากเพื่อนๆช่วยกดไลค์และเเชร์เพจของเรา : ตามล่า Fine Dining
👍 เพจเราสร้างขึ้นเพื่อรีวิวห้องอาหาร Fine Dining ระดับมิชลินไกด์ทั่วโลก
#FrenchCuisine #FineDining #AroiBKK #Bangkok #ตามล่าFineDining
สำหรับใครที่ไม่อยากอ่าน ตอนนร้เรามีคลิปวีดีโอแล้วนะคะ ฝากกดไลค์ กดติดตามกดแชร์ให้พวกเราด้วยนะคะ ตอนนี้ยังมือใหม่มากๆสำหรับการทำวิดีโอ ขาดตกบกพร่องยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่า🤟🏻😝
Deep Fried Frog Legs (490++)
Fried frog legs sautéed with garlic butter, lemon wedge and sun-dried tomato
ถัดมาคือเมนู “ขากบทอด” ที่ทางร้านคัดมาเฉพาะไซซ์ใหญ่ยักษ์เท่านั้น นำไปลงทอด แล้วจึงมาผัดกับซอส Café de Paris พร้อมเติมไวน์ขาวลงไปอีกทีหนึ่ง ปกติแล้วขากบเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มักทำออกมาสุกจนเกินไปด้วยขนาดที่เล็กกว่าน่องไก่ แต่ที่ Aubergine Garden กลับทำออกมาได้ดีคือมีความฉ่ำนุ่มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเนื้อกบ ซอสเนยกระเทียมหอมเด่นชัด เราแนะนำมากๆให้บีบเลมอนทั่วๆจานก่อนทานเพื่อช่วยบาลานซ์โทนของรสชาติให้กลมกล่อม
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยเมนูคลาสสิคอย่างเอสคาโกท์หรือ “หอยทาก” นำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรง เชฟนำไปอบทั้งเปลือกกับซอสเนย-กระเทียมสุดคลาสสิคอย่าง Café de Paris แม้จะมีคำว่าปารีสอยู่ในชื่อแต่ตัวซอสกลับมีต้นกำเนิดมาจากร้านคาเฟ่ชื่อเดียวกันในรุงเจนีวาช่วงปี 1930 ก่อนที่จะได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ที่ร้าน Aubergine เชฟปรับสูตรโดยการเพิ่มแองโชวี่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้กลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
Escargot (6pcs) (490++)
Baked French escargot in shell with Café de Paris sauce
ให้ใช้ Pince À Escargot ซึ่งเป็นอุปกรณ์พิเศษในการยึดตัวหอยเอาไว้ จากนั้นใช้ Fourchette À Escargot ดึงเนื้อหอยทากออกมาจากเปลือก คลุกกับซอสให้ทั่วๆก่อนทาน เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบ มีความ Earthy เบาๆ เสริมกันกับกลิ่นหอมของซอสเนย-กระเทียมหอมๆ คลาสสิค ไม่ซับซ้อน แต่รสชาติออกมาในแบบที่ควรจะเป็น
Truffle Cappuccino Soup (490++)
Black truffle soup topped with milk foam and truffle essence
คั่นกลางด้วยซุปทรัฟเฟิลจากประเทศอิตาลีเสิร์ฟมาในแก้วเพื่อให้ยกดื่มได้ง่าย เนื้อสัมผัสนุ่ม หอม ด้านบนทอปด้วยโฟมนมสุดครีมมี่ เชฟเสิร์ฟมาร้อนๆ ตัดความมันจากรสของเนยและของทอดจานอื่นๆได้อย่างดี
Pan Fried Foie Gras (790++)
French foie gras served with caramelized peaches, raspberry and port wine sauce
สำหรับ “ฟัวกราส์” เชฟคัดเลือกตับห่านคุณภาพนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสโดยตรงนำไปแพนเซียจนผิวด้านนอกเต่งตึงแต่ด้านในหอม มัน ครีมมี่ จับคู่กับซอสราสเบอร์รี่และพอร์ทไวน์รีดัคชั่นสุดคลาสสิค ข้างกันคือบัลซามิครีดัคชั่น ยังมีลูกพีชที่ผ่านความร้อนจนเกิดการคาราเมลไลซ์มาอย่างพอเหมาะพอดีให้ทานสลับกัน
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
มาถึงอาหารจานหลักเราขอแนะนำให้สั่ง “บูร์กอญ” หรือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงที่มีต้นกำเนิดมาจากแคว้นเบอร์กันดี เชฟเริ่มจากการคัดเนื้อส่วนส่วนแก้มวัวมาแต่งขอบ จากนั้นหมักข้ามคืนด้วยไวน์แดง ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะนำไปจี่บนกระทะจนขึ้นสี นำไปตุ๋นต่อในไวน์แดงเดิมแล้วใส่หอมแดง แครอท หอมใหญ่ เบลีฟลงไปอีกอย่างน้อย 6 เพื่อให้เนื้อมีความฉ่ำนุ่มและดูดน้ำซอสเข้าไปแทรกในใยกล้ามเนื้อ จัดว่าเป็นจานที่ใช้เวลาในการเตรียมสูงมากที่สุดจานหนึ่งในร้านเลยก็ว่าได้
Beef Cheek Bourguignon (790++)
Beef cheek stew braised in red wine and brown stock served with mashed potato
อย่าลืมใช้มีดตัดเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เติมแมชโพเทโท่สักนิด ปิดด้วยการจิ้มซอสไวน์แดงก่อนนำเข้าปาก เนื้อแก้มนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆ น้ำซอสไวน์แดงหอม มีความเข้มข้นกำลังดี บอกเลยว่าอร่อยสมกับเป็นเมนูแนะนำของร้านจริงๆ
Bread And Butter (Complimentary)
ระหว่างรออาหารพนักงานจะนำเสิร์ฟเซ็ตขนมปังและเนยโดยลูกค้าสามารถขอเพิ่มได้เรื่อยๆตลอดมื้ออาหาร
Warm Chocolate Fondant (390++)
Chocolate cake lava served with vanilla ice cream and raspberry sauce
สำหรับของหวานขอเริ่มต้นที่เมนูคลาสสิคอย่าง “ช็อกโกแลตฟองดองท์” เสิร์ฟมาอุ่นๆ ใช้ช้อนตัดเบาๆจะมีช็อกโกแลตลาวาไหลเยิ้มออกมาจากภายใน ทานสลับกับไอศกรีมวานิลลาเย็นๆเข้ากันดีเป็นที่สุด
Poached Peaches (240++)
With with whipped cream, truffle ice cream and raspberry sauce
จานนี้เชฟนำ “ลูกพีช” หั่นเป็นชิ้นบางๆ นำไปโพชจนนุ่ม ด้านล่างรองด้วยวิปปิ้งครีม ด้านบนทอปด้วยทรัฟเฟิลไอศกรีมและซอสราสเบอร์รี่ ตักทุกองค์ประกอบทานพร้อมกันจะได้เนื้อสัมผัสความนุ่มของลูกพีช กลิ่นอโรม่าจากไอศกรีมทรัฟเฟิล ความหอมมันของวิปปิ้งครีม โดยมีรสเปรี้ยวเบาๆจากซอสราสเบอร์รี่เพื่อบาลานซ์รสชาติโดยรวมให้ลงตัวพอดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้