บังอาจว่านักการเมืองโง่ คุณเป็นใคร ? รถเมล์วิ่งได้ 20 - 30 กม. / ชม (ในเวลาเร่งด่วน) ฝันไปหรือเปล่า ???

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
                                               ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132 (รู้ไว้ใช่ว่า)

                                                      ดูลิ้งค์ วีดีโอ ข้างบนนี้ก่อนอ่านข้างล่างนี้
     
                                                  
                                                         บังอาจว่านักการเมือง โง่ คุณเป็นใคร

     ความคิดเห็นที่ 14 คุณ nutnano (เลือกมาบางส่วน) เขียนมายาวมาก ทำนองว่า บังอาจว่า นักการเมืองโง่ คุณเป็นใคร จึงขออนุญาติ คุณ nutnano นำมาตั้งเป็นหัวข้อกระทู้นี้ เพื่อใช้แนะนำตัวผมเอง
     ดูเต็มๆ ความคิดเห็นที่ 14 โดยคลิกที่ พันทิป / รู้ไว้ใช่ว่า / รถเมล์กับปัญหารถติด ถึงจะต้องจูงจมูกรัฐบาลให้เดิน (ถ้ารัฐบาลโง่) ก็จะต้องทำ
     
     หมายเหตุ รู้ไว้ใช่ว่า ให้คลิกที่บรรทัดสุดท้ายของกระทู้นี้ ส่วนคำว่า พันทิป หมายควาามว่าให้เข้ามาในเว็บพันทิป ถ้าอยู่ๆแล้วก็ไม่ต้องคลิก

     

ถาม ชื่นชมในความพยายาม แต่ขอติหน่อย
ตอบ   ไม่เป็นไร ยินดีครับ ถือว่าเราร่วมกันทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว

ถาม ว่าเขาโง่ มีอะไรดีกว่าเขา เรียนอะไรมา (เก่งมาจากไหน ?)
ตอบ   ภาษาอังกฤษ ผมได้แค่ ABC จริงๆ ถ้าเขียนมาขอช่วยแปลภาษาอังกฤษให้ด้วย (เรื่องนี้ผมโง่มากๆๆๆๆ)
ตอบ   ผมเรียนจบ ม.3 พิดโลก เกรดเฉลี่ย 1.5 (เรื่องนี้ก็โง่มากๆๆๆ)

ถาม คุณรู้ไหมวิศวกรรมจราจรเขาเรียนอะไรกันบ้าง ทฤษฏีจราจร มันต้องดูปัญหาของแต่ละประเทศ แต่ละเมือง แต่ละจังหวัด มีวิธีแก้ต่างกัน อธิบายให้ผมเข้าใจในกระทู้ไม่ได้หลอก
ตอบ   คงต้องให้ผมไปเรียนปริญญาตรี โท เอก (เรื่องจราจร) มาก่อนหรือเปล่า ค่อยมาคิดแก้ปัญหาจราจร หรืออย่างไร ?
เรื่องวิศวจราจร ผมอาจจะไม่เก๋ง อะไรมากมาย แต่เรื่อง บวกลบคูณหาร ผมว่า ผมไม่แพ้ใคร (ดร. ศ.) สักเท่าไหร่ วิธีของผมไม่มีอะไรมากมาย หรือ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ใช้วิธีแบบชาวบ้านๆ เท่านั้น

คุณ nutnano ว่า ปัญหาจราจรส่วนหนึ่งเกิดจาก จังหวะการปล่อยรถ บางแยกมากไปบางแยกน้อยไป ทำให้ประสิทธิภาพต่ำ ทำให้เกิดปัญหารถติดมากเหมือนในปัจจุบัน
ตอบ   หมายความว่า ถ้าให้ท่าน (หรือให้คนที่สอนท่านมา หรือศ. จากทั้งโลกก็ได้) เป็นคนควบคุมสัญญาณไฟทั้งหมดในกทม. ปัญหาจราจรมันจะน้อยลงใช้หรือไม่ (ผมว่ามันคงเป็นไปไม่ได้)
จริงแล้วปัญหาที่ท่านว่า มันเป็นเพียงส่วนบางๆ ของปัญหา ปัญหาจราจร มันเกิดจากคนใช้รถเก๋งมากเกินไป ทางแก้ที่ถูกคือ ให้เปลี่ยนมาใช้รถเมล์ หรือรถไฟฟ้ามากๆๆๆ จึงจะแก้ปัญหาจราจรได้ นี่คือเรื่องที่จะต้องแก้ให้ได้ (จะต้องเกาให้ถูกที่คัน)

                                                                         (จบ)
     
     โดยปรกติ ผมไม่ค่อยว่าใครโง่ มีแต่คนอื่น มาว่าผมโง่ (เรื่องโน้นเรื่องนี้) ซึ่งมันก็เป็นความจริง จึงเถียงเขาไม่ค่อยได้
     วันนี้มาว่านักการเมืองโง่ (เรื่องจราจร) เพราะเคยได้ยินพวกนักการเมืองพูดบ่อยๆ ว่า ประชาชนคือนายของนักการเมือง นักการเมืองมีหน้าที่รับใช้ประชาชน ผมก็เป็นประชาชน จึงขอว่านักการเมืองซักหน่อย
   
   

                                  รถเมล์วิ่งได้ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ฝันไปหรือเปล่า ???
     
     ถ้าใครเพิ่งดู รู้ไว้ใช่ว่า เรื่องจราจรครั้งแรก ให้ไปที่ เว็บพันทิป คลิก รู้ไว้ใช่ว่า หรือถ้าท่านอ่าน รู้ไว้ใช่ว่า (ในพันทิป) อยู่แล้ว ให้คลิก รู้ไว้ใช่ว่า ที่บรรทัดสุดท้ายของกระทู้นี้ แล้วเลือกหัวข้อ รถเมล์กับปัญหารถติด ถึงจะต้องจูงจมูก.... เพื่อดูเรื่อง อธิบาย วีดีโอนี้เพิ่ม

     ป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท (ทุกๆ ป้ายที่ใช้วิธีนี้) กว้าง 1 เลน ยาว 20 - 60 ม. (ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร หรือจำนวนรถเมล์ หรือ หาได้ยาวเท่าไหร่ของป้ายนั้นๆ) ให้เว้าเข้าไปในฟุตบาท
     เพื่อใช้สำหรับรถเมล์ เข้ามาจอดรับส่งผู้โดยสาร ส่วนรถเมล์คันใดไม่ต้องการรับส่งผู้โดยสาร จะได้ไม่ต้องจอดรอ หรือเข้าไปวิ่งในช่องรถเก๋ง
  
     ป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท จะต้องเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะใช้เงินมาก อาจใช้วิธีย้ายป้ายรถเมล์ ไปในที่ดินของหน่วยราชการ หรือเอกชนที่มีที่กว้างๆ หรือเปิดประมูลป้ายรถเมล์ ทำนองเดียวกับ 3G 4G เพราะป้ายรถเมล์ ตามวิธีนี้ น่าจะมีค่าทำนองเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า เช่น ถ้าสถานีรถไฟฟ้าไปอยู่ที่ไหน ที่ดินแถวนั้นก็จะขึ้นราคาตามไปด้วย
     
     วิธีการประมูลป้ายรถเมล์
     โดยยกเลิกป้ายเดิมทั้งหมด ประกาศเปิดรับการแข่งขันราคา ถ้าใครให้ได้มากที่สุดจะได้ป้ายรถเมล์ไปตั้งในที่คนนั้น (อาจจะเป็นคนคนเดียว หรือหลายๆคน ในย่านนั้นร่วมหุ้นกัน ก็ได้) วิธีนี้ รัฐอาจได้กำไรก็ได้ ถ้ามีคนแข่งกันมากๆ หรือ ในจุดที่เป็นทำเลธุระกิจใหญๆ
     ดังนั้นในที่ที่ไม่มีราคา ถ้าได้ป้ายรถเมล์นี้ ไปตั้ง ก็จะกลายเป็นที่ที่มีราคาทันที
     
     หมายเหตุ ควรตั้งป้ายให้ไม่ถี่เกิน เพราะจอดบ่อย มันเสียเวลา (ประมาณ 300 ม. / ป้าย)
     
     ติดตั้งกล้องตลอดเส้นทางของช่องบัสเลน เพื่อถ่ายผู้แอบเข้ามาวิ่งในช่องบัสเลน แล้วส่งใบเสร็บค่าปรับไปที่บ้านผู้ทำผิด และ ควรมีโทษห้ามขับด้วย (ทั้งจำทั้งปรับ) เช่น ครั้งแรกห้ามใช้รถ 1 อาทิตย์ ครั้งสอง 1 ด. ครั้งสาม 1 ปี เพราะบางคนรวย เขาไม่กลัวโทษปรับ ถ้ามีหลักฐาน ให้รวมถึง คนนั่ง และ คนขับ (ทั้งนายทั้งบ่าว) และ รถคันนั้น ด้วย
     
     เมื่อมีป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท และไม่มีรถอื่นเข้ามาวิ่งในช่องบัสเลน ก็น่าจะทำให้รถเมล์วิ่งได้ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ได้ตามต้องการ

     คุณดู๋ สัญญา พูดในโฆษณาว่า  ถ้าต้องการในสิ่งที่ไม่เคยมี ก็จะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วเขาก็เดินข้ามหน้าผาไป ปัญหารถติดก็เช่นเดียวกัน ถ้าต้องการแก้ปัญหารถติด (แบบไม่บังคับ) ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนในโลกเคยทำได้ ก็จะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยมีประเทศไหนในโลกเคยทำ เช่นกัน     
     
     จึงขอให้ท่าน ดร. หรือ ศ. (ทั้งในและต่างประเทศ) หรือ คนเรียนน้อย (อย่างเจ้าของกระทู้ (ม.3)) หรือผู้รู้ หรือ เศรษฐี ยาจก เด็ก หรือคนแก่ ก็ได้ กรุณาช่วยกันชี้แนะ แก้ไข ปรับปรุง และส่งเสริม เพื่อให้วิธีในกระทู้นี้ได้นำไปปฏิบัติได้จริง ถึงจะต้องจูงจมูกรัฐบาลให้เดิน (ถ้ารัฐบาลโง่) ก็ต้องทำ เพราะประชาชนต้องใหญ่กว่ารัฐบาล
     
     ดร. หรือ ศ. (ในต่างประเทศ) คงอ่านกระทู้นี้ไม่ออก เว้นแต่จะเป็นพวกท่านทูต ภาษาอังกฤษผมได้แค่ ABC เท่านั้น ใครแปลได้ช่วยที ?
     
     ขอแก้ความโง่ของผม (ที่พูดในวีดีโอ) คือ เวลาที่รถเก๋งในแต่ละแยกติดไฟแดง 6 - 8 นาที / 1 ไฟแดง (ผิด) แก้เป็น 4 - 6 นาที / 1 ไฟแดง (ถูก) วันนี้เลยต้องมาสารภาพว่าผมก็โง่ (เรื่องจราจร) เหมือนกันแหละ ถ้าวันนี้ไม่ยอมโง่ วันหน้าก็อาจจะโง่ แต่ถ้าวันนี้ยอมโง่ วันหน้าก็อาจจะหายโง่ได้ (อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน)
     โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
     ปล่อยรถเก๋งแยกที่ 1 สลับกับ ปล่อยรถเมล์ทั้ง 4 แยก สลับกับ ปล่อยรถเก๋งแยกที่ 2 สลับกับ ปล่อยรถเมล์ทั้ง 4 แยก สลับกับ ปล่อยรถเก๋งแยกที่ 3 สลับกับปล่อยรถเมล์ทั้ง 4 แยก สลับกับ ปล่อยรถเก๋งแยกที่ 4 สลับกับ ปล่อยรถเมล์ทั้ง 4 แยก
     ดังนั้น เวลาที่รถเก๋งในทุกๆ แยก จะต้องรอไฟแดง คือ เวลาใช้ปล่อยเฉพาะรถเก๋ง 3 ครั้งๆ ละ 1 นาที รวมเป็น 3 นาที บวกกับปล่อยเฉพาะรถเมล์ทั้ง 4 แยกๆ ละ 6 วินาที 4 ครั้งรวมเป็น 24 วินาที / การปล่อยเฉพาะรถเมล์ทั้ง 4 แยก 1 ครั้ง  ดังนั้น การปล่อยเฉพาะรถเมล์ทั้ง 4 แยก 4 ครั้ง จึง = 24 x 4 = 96 วินาที / การปล่อยเฉพาะรถเมย์ทั้ง 4 แยก 4 ครั้ง
     หมายเหตุ เวลาทั้งหมดนี้ เป็นเวลาที่สมมุติ โดยประมาณเท่านั้น
     
     ดังนั้น เวลาที่รถเก๋งในทุกๆ แยก จะต้องรอไฟแดงรวมทั้งหมดประมาณ = 96 วินาที + 3 นาที = 3.36 นาที / 1 ไฟแดง
     
     นักการเมือง เป็นผู้ชี้ถูกชี้ผิด จะทำอะไร หรือจะไม่ทำอะไร ดังนั้นนักการเมืองจึงต้องอ่านกระทู้และดูคลิปนี้ หลายๆ รอบ (ยิ่งมากรอบยิ่งดี)                            
     
     การแก้ปัญหาจราจร (ในประเทศที่เจริญแล้ว) เข้าจะออกกฎ หรือระเบียบ มาบังคับให้คนใช้รถเก๋งน้อยลง ใช้รถสาธารณะมากขึ้น แต่ประเทศเรานักการเมืองไม่กล้าทำ วิธีต่อไปนี้ ไม่ใช่วิธีบังคับ แต่ใช้การจูงใจโดยทำให้รถเมล์วิ่งได้เร็วกว่ารถเก๋งมากๆ ดังต่อไปนี้
     
      ปัญหาจราจรเกิดจากรถเก๋ง (เพียงบางส่วน) แต่จริงๆแล้ว เกิดจากการมีผู้บริหาร (ในอดีต) โง่ (ทำนองเดียวกับทีมฟุตบอลที่มีโค้ชโง่ ไม่สามารถแยกถูกผิด ดีชั่ว ใครเล่นเก่ง ใครเล่นไม่เก่ง ไม่รู้ไม่เห็น ย่อมทำให้ทีมดีขึ้นไม่ได้)
     หมายเหตุ ผู้บริหารในอดีตโง่ (ด้านจราจร) ในที่นี้หมายถึง 1. ผู้บริหารประเทศ (ยิ่งลักษณ์ และอภิสิทธิ์) 2. ผู้บริหาร กทม. (มรว. สุขุมพันธุ์) เพราะผมเคยส่งวิธีนี้ (ทาง จม. หลายครั้ง) เงียบๆๆๆๆ และเคยขอเข้าพบท่านเหล่านี้ (ยกเว้นท่านยิ่งลักษณ์) หลายครั้ง แต่ไม่เคยได้พบ ได้พบแต่เลขหรือเลขาของเลขา 3. ผู้บริหารตำรวจจราจร (พล.ต.ท. ภาณุ เกิดลาภผล) เคยพบท่านแล้ว ท่านก็บอกว่าเป็นวิธีที่ดี แต่ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย (จึงจบกันไป)
     
     หมายเหตุ ถ้าผู้บริหารในอดีตไม่โง่ (เรื่องจราจร) ก็จะต้องเป็นเจ้าของกระทู้โง่ (เรื่องจราจร) เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
     
     วิธีนี้จะทำให้รถเมล์วิ่งได้เร็ว กว่ารถเก๋งมากๆ เพื่อทำให้ผู้ใช้รถเก๋งจำนวนมาก จะยอมเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ (โดยไม่ต้องบังคับ) ทันที หรืออาจจะเรียกว่า บีบแต่ไม่บังคับ ท้ายแถวของรถติดก็จะหดสั้นลงทันที

     ดังนั้น รถเมล์ตามวิธีนี้จะวิ่งได้ประมาณ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ส่วนรถเก๋งจะวิ่งได้ 12 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นมากๆ ส่วนรถเก๋ง จะวิ่งได้ช้า (เท่าปัจจุบัน)
     
     โค้ชฟุตบอลเก่งๆ จะต้องรู้ว่า ใครดี ใครชั่ว จะต้องส่งเสริมใคร จะต้องกดหัวใคร (จะต้องมองอนาคตเป็น ไม่ใช่จะมองแต่ปัจจุบัน) ฝันหวานไปวันๆ ผู้ใช้รถเก๋งจะต้องยอมเสียสละ กินยาขม โค้ชจะต้องกล้าให้ยาขม อย่าไปสงสารคนไข้ ถ้าสงสารคนไข้ แล้วมันจะหายป่วยหรือ ?????? อย่ามองแต่โลกสวย

     ปัญหารถติดเกิดจาก
     1. ผิวจราจรไม่เพียงพอ ถนนในประเทศที่เจริญแล้วจะมีพื้นที่ถนนประมาณ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด แต่กทม. เรามี 9% กว่าๆ ทำให้ผิวจราจรไม่เพียงพอ (ทำให้ท้ายแถวรถติดยาวเหยียด)
     2. รถติดที่สี่แยก สี่แยก มีรถมาจากสี่ทิศทาง แต่ปล่อยได้เพียงครั้งละ 1 ทิศทาง จึงทำให้ท้ายแถวรถติดยาวเหยียด
     แต่รถเมล์ ใช้ผิวจราจรน้อยกว่ารถเก๋ง 10 กว่าเท่า ขนคนผ่านสี่แยกมากกว่ารถเก๋ง 10 กว่าเท่า (ดังที่กล่าวในวีดีโอ)

     ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่