รัฐอยากแปรรูยาง ผมอยากแปรรูปรถเก๋ง ให้เป็นรถเมล์?

ขอแรงกดถูกใจ หรือ แชร์ (ในเฟสบุ๊ค)    

     ผมถูกบล็อกโพส ในเฟสบุ๊ค (โพสไม่ได้)  ถ้าท่านเห็นว่าวิธี (ในวีดีโอ) นี้ ดี หรืออาจจะดี หรือน่าจะลองนำไปทำดู หรือเห็นด้วย ขอให้ท่านช่วยกดถูกใจ และ แชร์ (ในเฟสบุ๊ค) โดยไป ที่กูเกิล แล้วพิมพ์ "ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ เฟสบุ๊ค" เพื่อเปิดเฟสบุ๊ค ของประสิทธิ์ และกดถูกใจ และ แชร์ สิ่งที่ผมโพส ผมคิดว่าวิธีนี้ น่าจะช่วยปลดบล็อกได้ (ถือว่าเราช่วยกันส่งเสริมให้วิธี (ในวีดีโอ) นี้ ได้นำไปใช้ได้จริงๆ)




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


รถเก๋งติด รถเมล์ไม่ติด รัฐกล้าหรือเปล่า ? (ปรับปรุงแก้ไขวีดีโอใหม่)

ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132 (รู้ไว้ใช่ว่า)
                                                      
ดูลิ้งค์ วีดีโอ ข้างบนนี้ก่อนอ่านข้างล่างนี้

     รัฐอยากแปรรูปยาพารา เพื่อเพิ่มมูลค่าในการส่งออก โดยอาจทำเป็นถุงมือยาง ยางรถยนต์ ถุงยางอนามัย เป็นต้น เพราะประเทศเรา และประเทศอื่นๆ มีการปลูกยางพารามากเกินไป ทำให้ราคาตลาดโลกตกต่ำมากๆ

     ผมอยากแปรรูปรถเก๋งให้เป็นรถเมล์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการขนคนผ่านสี่แยกให้ได้มากขึ้น และลดการใช้ผิวจราจร ให้ลดน้อยลง (ตามที่กล่าวไว้ในวีดีโอ) เพราะรถเมล์สามารถขนคนผ่านสี่แยกได้เร็วกว่ารถเก๋ง (มากว่า 10 เท่า) และใช้ผิวจราจรน้อยกว่ารถเก๋ง (มากกว่า 10 กว่าเท่า)

                                                 อ. วีระ (ธีระภัทร) ปัญหาจราจรแก้ไม่ได้

     สถานีข่าว เคนิวส์ โพส ในยูทูป (ขำดี) หัวข้อ วีระปัญหาจราจรแก้ไม่ได้ (ผมเห็นด้วย) แต่ก็เห็นต่างท่าน (ตามหัวข้อกระทู้) คือ รถเก๋งติด รถเมล์ไม่ติด รัฐกล้าหรือเปล่า ? เพราะผู้ใช้รถเก๋งในระยะแรก อาจจะต้องกินยาขม บ้าง แต่ในระยะยาว เมื่อยาออกฤทธิ์ (ท้ายแถวรถติดหดสั้นลงเรื่อยๆ) ผู้ใช้รถเก๋งก็จะกลับมาสู่ภาวะเท่าๆ กับปัจจุบัน (ติดเท่ากับปัจจุบัน) แต่รถเมล์จะไม่ติด
     
     โดยใช้หลักการที่ว่า ส่งเสริมคนดี (รถเมล์) ให้ได้เป็นใหญ่ มีโอกาสทำดีมากขึ้น และ กดหัวคนชั่ว (รถเก๋ง) ให้มีโอกาสทำชั่วน้อยลง
     
     ยกเว้นถ้ารัฐออกกฎบังคับ เช่น ออกกฎห้ามรถเกิน 10 ปีวิ่งใน กทม. หรือ เลขทะเบียน คู่ คี่ วิ่งได้วันเว้นวัน หรือ ทะเบียนเลขท้าย 1 2 ห้ามวิ่งวันจันทร์ 3 4 ห้ามวิ่งวันอังคาร 5 6 ห้ามวิ่งวันพุทธ ..... หรือในถนนใหญ่เก็บค่าเข้า หรือ รถเก๋งต้องมีคน 3 คนเป็นอย่างต่ำ หรือ เก็บค่าทะเบียนรถแพงมากๆ เป็นต้น แต่ต้องถามคำถามเดิมว่า รัฐกล้าหรือเปล่า ? ถ้ากล้า ก็แก้ได้ทันที
     
     ถ้าไม่กล้าบังคับ ตามวิธีเหล่านั้น ให้มาใช้วิธีในวีดีโอนี้ ซึ่งเป็นวิธีไม่บังคับใครเลย แล้วแต่จะเลือกว่าท่านจะใช้รถเก๋งต่อไปก็ได้ หรือท่านจะเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ ที่วิ่งได้เร็วกว่ารถเก๋งมากๆ ก็ได้
     
     ดังนั้นถ้าท่านรีบ ก็เปลี่ยนมาใช้รถเมล์ แต่ถ้าท่านไม่รีบ หรือมีความจำเป็นต้องใช้รถเก๋งจริงๆ ก็ใช้รถเก๋งต่อไป (แต่ช้ากว่ารถเมล์)

     บางท่านถามมาดังต่อไปนี้

     ถาม รถเข้าออกซอยที่ผ่าน (ผ่า) ช่องบัสเลน จะทำอย่างไร ?
     ตอบ ในกรณี 3 แยก มีเกาะกลางถนน
     ให้รถในซอยออก 1 นาที แล้วปล่อยรถเมล์ในช่องบัสเลนจนหมด แล้วให้รถเข้าซอย (เลี้ยวซ้ายเข้าซอย) 1 นาที แล้วปล่อยรถเมล์ในช่องบัสเลนจนหมด สลับไปเช่นนี้เรื่อยๆ
     ตอบ ในกรณี 3 แยกแบบไม่มีเกาะกลางถนน
     ให้เข้าซอยเลี้ยวขวา 1 นาที แล้วปล่อยรถเมล์ในช่องบัสเลนจนหมด ให้เข้าซอยเลี้ยวซ้าย 1 นาที แล้วปล่อยรถเมล์ในช่องบัสเลนจนหมด ให้ออกซอย 1 นาที แล้วปล่อยรถเมล์ในช่องบัสเลนจนหมด สลับเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
     แต่ถ้าเป็นซอย 4 แยก ให้ทำตามวีดีโอ ทุกประการ
     
     ถาม เน้นปล่อยรถเมล์มากๆ รถอื่นๆไม่ต้องติดแย่หรือ ?
     ตอบ วิธีนี้ เน้นให้รถรถเมล์ต้องวิ่งได้เร็วมากๆ ส่วนรถเก๋ง และแท็กซี่ จะต้องเสียสละกินยาขม (ถ้าไม่รีบ หรือจำเป็นต้องใช้รถเก๋งจริงๆ ก็ใช้รถเก๋งต่อไป) แต่ถ้ารีบให้เปลี่ยนมาใช้รถเมล์ (นี่คือหัวใจหลัก ห้ามวอกแวก) ถ้าสงสารรถเก๋ง จะแก้ไม่ได้เลย (ถ้าสงสารคนไข้ ไม่กล้าให้กินยาขม แล้วมันจะหายป่วยหรือ)
     ทำนองเดียวกับ ถ้าจะสร้างรถไฟฟ้า แต่ไม่กล้าปิดถนนเลย จะสร้างได้หรือไม่ ? ต้องให้ความสำคัญกับอนาคต มากกว่าปัจจุบัน (ต้องมองไปถึงอนาคต ไม่ใช่มองแต่วันนี้)


                       รถเมล์วิ่งได้ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ฝันไปหรือเปล่า ???
     
     ถ้าใครเพิ่งดู รู้ไว้ใช่ว่า เรื่องจราจรครั้งแรก ให้ไปที่ เว็บพันทิป คลิก รู้ไว้ใช่ว่า หรือถ้าท่านอ่าน รู้ไว้ใช่ว่า (ในพันทิป) อยู่แล้ว ให้คลิก รู้ไว้ใช่ว่า ที่บรรทัดสุดท้ายของกระทู้นี้ แล้วเลือกหัวข้อ รถเมล์กับปัญหารถติด ถึงจะต้องจูงจมูก.... เพื่อดูเรื่อง อธิบาย วีดีโอนี้เพิ่ม

     ป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท (ทุกๆ ป้ายที่ใช้วิธีนี้) กว้าง 1 เลน ยาว 20 - 60 ม. (ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร หรือจำนวนรถเมล์ หรือ หาได้ยาวเท่าไหร่ของป้ายนั้นๆ) ให้เว้าเข้าไปในฟุตบาท
     
     เพื่อใช้สำหรับรถเมล์ เข้ามาจอดรับส่งผู้โดยสาร ที่ป้ายรถเมล์แบบใหม่ ที่เว้าเข้าไปในฟุตบาทนี้ ส่วนรถเมล์คันใดไม่ต้องการรับส่งผู้โดยสาร จะได้ไม่ต้องจอดรอรถเมล์คันที่จอดรับส่งผู้โดยสาร หรือเปลี่ยนเลนเข้าไปวิ่งในช่องรถเก๋ง
  
     ป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท จะต้องเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะใช้เงินมาก อาจใช้วิธีย้ายป้ายรถเมล์ ไปในที่ดินของหน่วยราชการ หรือเอกชนที่มีที่กว้างๆ หรือเปิดประมูลป้ายรถเมล์ ทำนองเดียวกับ 3G 4G เพราะป้ายรถเมล์ ตามวิธีนี้ น่าจะมีค่าทำนองเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า เช่น ถ้าสถานีรถไฟฟ้าไปอยู่ที่ไหน ที่ดินแถวนั้นก็จะขึ้นราคาตามไปด้วย
     
     วิธีการประมูลป้ายรถเมล์
     โดยยกเลิกป้ายเดิมทั้งหมด ประกาศเปิดรับการแข่งขันราคา ถ้าใครให้ได้มากที่สุดจะได้ป้ายรถเมล์ไปตั้งในที่คนนั้น (อาจจะเป็นคนคนเดียว หรือหลายๆคน ในย่านนั้นร่วมหุ้นกัน ก็ได้) วิธีนี้ รัฐอาจได้กำไรก็ได้ ถ้ามีคนแข่งกันมากๆ หรือ ในจุดที่เป็นทำเลธุระกิจใหญๆ
     ดังนั้นในที่ที่ไม่มีราคา ถ้าได้ป้ายรถเมล์นี้ ไปตั้ง ก็จะกลายเป็นที่ที่มีราคาทันที
     
     หมายเหตุ ควรตั้งป้ายให้ไม่ถี่เกิน เพราะจอดบ่อย มันเสียเวลา (ประมาณ 300 ม. / ป้าย)
     
     ติดตั้งกล้องตลอดเส้นทางของช่องบัสเลน เพื่อถ่ายผู้แอบเข้ามาวิ่งในช่องบัสเลน แล้วส่งใบเสร็บค่าปรับไปที่บ้านผู้ทำผิด และ ควรมีโทษห้ามขับด้วย (ทั้งจำทั้งปรับ) เช่น ครั้งแรกห้ามใช้รถ 1 อาทิตย์ ครั้งสอง 1 ด. ครั้งสาม 1 ปี เพราะบางคนรวย เขาไม่กลัวโทษปรับ ถ้ามีหลักฐาน ให้รวมถึง คนนั่ง และ คนขับ (ทั้งนายทั้งบ่าว) และ รถคันนั้น ด้วย
     
     เมื่อมีป้ายรถเมล์เว้าเข้าไปในฟุตบาท และไม่มีรถอื่นเข้ามาวิ่งในช่องบัสเลน ก็น่าจะทำให้รถเมล์วิ่งได้ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ได้ตามต้องการ

     คุณดู๋ สัญญา
     พูดในโฆษณาว่า  ถ้าต้องการในสิ่งที่ไม่เคยมี ก็จะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วเขาก็เดินข้ามหน้าผาไป ปัญหารถติดก็เช่นเดียวกัน ถ้าต้องการแก้ปัญหารถติด (แบบไม่บังคับ) ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนในโลกเคยทำได้ ก็จะต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยมีประเทศไหนในโลกเคยทำ เช่นกัน     
     
     จึงขอให้ท่าน ดร. หรือ ศ. (ทั้งในและต่างประเทศ) หรือ คนเรียนน้อย (อย่างเจ้าของกระทู้ (ม.3)) หรือผู้รู้ หรือ เศรษฐี ยาจก เด็ก หรือคนแก่ ก็ได้ กรุณาช่วยกันชี้แนะ แก้ไข ปรับปรุง และส่งเสริม เพื่อให้วิธีในกระทู้นี้ได้นำไปปฏิบัติได้จริง ถึงจะต้องจูงจมูกรัฐบาลให้เดิน (ถ้ารัฐบาลโง่) ก็ต้องทำ เพราะประชาชนต้องใหญ่กว่ารัฐบาล
     
     ดร. หรือ ศ. (ในต่างประเทศ) คงอ่านกระทู้นี้ไม่ออก เว้นแต่จะเป็นพวกท่านทูต ภาษาอังกฤษผมได้แค่ ABC เท่านั้น ใครแปลได้ช่วยที ?
     
    
     นักการเมือง เป็นผู้ชี้ถูกชี้ผิด จะทำอะไร หรือจะไม่ทำอะไร ดังนั้นนักการเมืองจึงต้องอ่านกระทู้และดูคลิปนี้ หลายๆ รอบ (ยิ่งมากรอบยิ่งดี)                           
     
     วิธีนี้จะทำให้รถเมล์วิ่งได้เร็ว กว่ารถเก๋งมากๆ เพื่อทำให้ผู้ใช้รถเก๋งจำนวนมาก จะยอมเปลี่ยนมาใช้รถเมล์ (โดยไม่ต้องบังคับ) ทันที หรืออาจจะเรียกว่า บีบแต่ไม่บังคับ ท้ายแถวของรถติดก็จะหดสั้นลงทันที

     ดังนั้น รถเมล์ตามวิธีนี้จะวิ่งได้ประมาณ 20 - 30 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) ส่วนรถเก๋งจะวิ่งได้ 12 กม. / ชม. (ความเร็วเฉลี่ยในเวลาเร่งด่วน) รถเมล์วิ่งเร็วขึ้นมากๆ ส่วนรถเก๋ง จะวิ่งได้ช้า (เท่าปัจจุบัน)
     
     สรุป ปัญหารถติดเกิดจาก
     1. ผิวจราจรไม่เพียงพอ ถนนในประเทศที่เจริญแล้วจะมีพื้นที่ถนนประมาณ 25% ของพื้นที่ทั้งหมด แต่กทม. เรามี 9% กว่าๆ ทำให้ผิวจราจรไม่เพียงพอ (ทำให้ท้ายแถวรถติดยาวเหยียด)
     2. รถติดที่สี่แยก สี่แยก มีรถมาจากสี่ทิศทาง แต่ปล่อยได้เพียงครั้งละ 1 ทิศทาง จึงทำให้ท้ายแถวรถติดยาวเหยียด
     แต่รถเมล์ ใช้ผิวจราจรน้อยกว่ารถเก๋ง 10 กว่าเท่า ขนคนผ่านสี่แยกมากกว่ารถเก๋ง 10 กว่าเท่า (ดังที่กล่าวในวีดีโอ)

     ประสิทธิ์ รจิตรังสรรค์ โทร 0906925132
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่