นิวรณ์ vs สมาธิ

เห็นคนสำเร็จในสมาธิก็มาก เห็นคนไม่สำเร็จก็มากเช่นกัน ทั้งสองอย่างมีข้อปลีกย่อยที่ไม่เหมือนกัน หลายคน หลายเคส หลายแบบ

ยกตัวอย่างสัมภาษณ์คนที่อินเดีย การทำสมาธิในอาชรามในอินเดีย หรือที่ที่ปฏิบัติธรรมต่างๆก็มีมากมาย คนจำนวนมากที่ทำก็มักจะตั้งใจทำ เพื่อให้เข้าถึงพระเจ้าบ้าง เพื่อบุญ ปกป้องความชั่วร้าย เพื่ออาจารย์ เพื่อความสงบบ้าง ทำกันตั้งแต่หลายปีจนสิบสิบปีจนตาย วนเวียนไปในวังวนดังกล่าว เกิดผลน้อยก็มี เกิดผลมากก็มี ... วิปัสนา วิปัสนา ... ถ้าทำไปไม่ถูกต้องก็สามารถเสียเวลาไปทั้งชีวิตไปกับสิ่งที่เข้าใจไม่ถูกต้องได้

ที่สัมผัสในบ้านเรา มีหลายอย่างมาก แต่เราจะไม่กล่าวถึงให้กระทบกระทั่งอะไรกัน ... เอาตัวอย่างที่ดีๆ ...

อ่านใจได้ ... ทำสมาธิแล้ว หากลึก ... มันอ่านใจได้ ... แค่มองหน้า หรือนึกถึง .... อ่านกันแบบจะเอาหัวเหล็กมาปิดก็ไม่ได้ (ไม่ต้องถามว่าใครอ่านใครที่ไหนอย่างไรนะครับ) อ่านได้ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ แล้วก็ตอนก่อนหน้านี้ .... ไม่พอ ... อ่านกันแบบประวัติในวิกีพีเดียจะเขียนถูกหรือผิดอย่างไรก็อ่านได้


ถ้าไปลึก นิวรณ์หมด มันมีความสุข สุขได้เท่านั้น อันนี้ตามที่เขาเรียงไว้ 1 2 3 4 มันเป็นไปตามนั้น และไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร หรือเข้าใจยาก ... เพียงแต่ถ้ามีครูฝึก เหมือนที่ยิมเขาฝึกกล้ามเนื้อ มันจะดีกว่า .. จะเล่นกล้าม อ่านหนังสือแล้วไปเล่นก็ได้ ... แต่ที่ดีกว่าคือครู ... แต่ใครจะรู้ เราอาจจะเก่งกว่าครูก็ได้ .. อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ไอ้ความที่กิเลสมันเบาบางน่ะ สำหรับคนที่ต้องการจะไปสู่ดินแดนอริยะ .. ตรงนั้นมันจะเปิดช่องไว้ .. ถ้าไม่ทำสมาธิ จะพยายามจะใช้แต่ปัญญา จะใช้แต่สติ .. มันจะกินมันไม่ลง เพราะสิ่งที่เข้าไปเล่นกับมันด้วยมันคือสันดาน เป็นเรื่องในจิตระดับลึก .. ดังนั้นต้องใช้รวมๆกันไป

นิวรณ์ 5 ... สิ่งนี้คือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับสมาธิ ... มันกลุ้มรุมจิตเหนือสำนึกกับใต้สำนึกกันตลอดเวลา การไปผูกจิตไว้กับเสา จะเสมือนหนึ่งผูก ลิง หมา ฯลฯ ต้องใช้เวลากว่าที่มันจะเหนื่อย พอนิวรณ์หมด ใจนิ่งได้ ความสุขอีกชนิก็เกิดขึ้น .... ซึ่งก็จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเกมอะไรบางอย่างต่อไป ...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่