การฝึกสมาธิจากประสบการณ์จริง

การฝึกสมาธิจากประสบการณ์จริง
         ข้าพเจ้าชื่อนายธะเนศพล วนภูมิ จบการศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี 2527 รับราชการในตำแหน่ง นิติกร ปัจจุบันเกษียณอายุตามโครงการเกษียณก่อนกำหนด เมื่อสองปีเศษที่ผ่านมา อายุปัจจุบัน 55 ปี
         ข้าพเจ้าสนใจฝึกสมาธิมาตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ในชั้นมหาวิทยาลัย เมื่อตอนอายุ 20 ปีเศษ ข้าพเจ้าฝึกสมาธิโดยภาวนา “พุทโธ” มาประมาณ 3 – 4 ปี เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นครั้งแรก โดยขณะนั่งอยู่นั้น จิตรได้ดิ่งลึกพุ่งลงไปไหนก็ไม่ทราบ พุ่งลงไปลึกลงไปเลื่อย ๆ นานจนรู้สึกตกใจ จะหยุดก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร จึงรวบรวมสติ พยายามลืมตาขึ้น จนในที่สุดก็ลืมตาได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้น เมื่อหลับตาจิตรก็คอยจะดิ่งลึกลงไปอีก หลังจากนั้นประมาณหนึ่งปีข้าพเจ้าก็เริ่มป่วยมีอาการปวดท้องมากหาสาเหตุไม่ได้ ไปปรึกษาพระหลายท่านก็ตอบไม่ได้เดินทางไปหาพระที่เคยได้ยินว่ามีชื่อเสียง เช่นหลวงพ่อปาน ก็ปรากฏว่าท่านเหล่านั้นล้วนเสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้น ไม่พบใครที่จะให้คำปรึกษาได้เลย จนมาที่วัดที่ลงท้ายว่า”น้ำ” พบกับแม่ชีเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็บอกว่าน่าเสียดายหากพบกับพระอาจารย์ที่มีความรู้ก็สำเร็จไปแล้ว ในวันนั้นท่านเจ้าอาวาสไม่อยู่วัด อยู่แต่รองเจ้าอาวาส แม่ชีท่านนั้นได้เข้าไปปรึกษาและกลับมาบอกข้าพเจ้าว่ารองเจ้าอาวาสจะสงค์เคราะห์ช่วยเหลือแต่ ขอปัจจัย 2400 บาท สมัยนั้น คนมีเงินเดือน 900 บาทก็อยู่สบาย ข้าพเจ้าบอกว่าไม่มีเงิน มีเพียง 1000 บาทเท่านั้น ท่านก็ตอบตกลง ว่าจะจัดชุดเล็กให้  แล้วก็จัดพระมาห้าองค์ให้ข้าพเจ้า นั่งตรงกลางแล้วก็สวดอยู่ประมาณ สิบกว่านาที ก็เป็นอันเสร็จพิธี ไม่มีคำปรึกษาใด ๆ ในการฝึกทั้งสิ้น ข้าพเจ้าก็ลากลับมา โดยไม่มีอะไรดีขึ้นเลย (ปัญหาอยู่ที่การฝึกจิตร แต่ไม่แก้ที่ต้นเหตุ ผลก็คือเหมือนเดิม) หลังจากกลับมาแล้วข้าพเจ้าก็ตั้งจิตรอธิษฐานว่าหากมีบุญบารมีที่เคยทำมาในอดีตชาติ ทุกชาติ ๆ ขอให้ได้เป็นศิษย์มีอาจารย์ หลังจากนั้นประมาณหนึ่งปี ก็พบกับท่านอาจารย์เทพ สาริกบุตร ได้ครอบครูเป็นลูกศิษย์ท่านและเริ่มเรียนวิชาอาคมตั้งแต่นั้นมา ซึ่งคาถาที่ได้เรียนมานี้ต่อมาได้ใช้เป็นที่พึ่งชีวิต มีอานุภาพป้องกันอันตราย และสามารถรักษาผู้ป่วยในอาการต่าง ๆได้ หลังจากที่ได้พบกับท่านอาจารย์ก็ได้ยาต้มมารักษาตัว จนหายจากความเจ็บป่วย และเรียนต่อจนจบจากมหาวิทยาลัย แต่ก่อนที่จะจบจากมหาวิทยาลัย เมื่ออาการป่วยที่เคยปวดท้องมากดีขึ้น ข้าพเจ้าก็ไดนั่งสมาธิอีก คราวนี้ปรากฏเป็นเช่นนี้คือ เมื่อเวลานั่งมือที่ประสานกัน ตรงนิ้วชี้ขวาสัมผัสกับหัวแม่มือเกิดความรู้สึกเหมือนเป็นก้อนแข็งแล้วขยายตัวลามมาบนแขนทั้งสองข้างพร้อม ๆ กันมีลักษณะเป็นก้อนเหมือนรูปไข่มีขนาดสูงประมาณหนึ่งเมตรเศษ กว้างเท่าตัวของข้าพเจ้า ผิวขรุขระเหมือนหินที่แกะสลักสิงโตหินแต่หยาบกว่า มีสีเหมือนหินสีน้ำตาลจาง ๆ มีน้ำหนักมากในความรู้สึกว่าถูกทับอยู่หนักมากจนหายใจไม่ออก รอบข้างไม่มีความรู้สึกใด ๆ ลองขยับนิ้วดูก็ไม่รู่ว่ามืออยู่ที่ไหน ลองฟังเสียงดูก็ไม่ได้ยินเสียงใด ๆ มีแต่เพียงจิตรเท่านั้น มีสติมั่นคง แต่อาการที่หนักนี้เป็นอยู่นานไม่มีทีท่าว่าจะหายไป อีกทั้งข้าพเจ้าก็ไม่รู้วิธีที่จะทำลายมันได้ นานมากเข้าก็เริ่มตกใจ ในความรู้สึกเหมือนหัวใจเต้นจนอยู่นอกอก จึงตกใจลุกขึ้น มา ตอนนั้นอยู่กับแม่สองคน ก็ไม่ได้เล่าให้แม่ฟังแต่อย่างใด เพราะพูดไปแม่ก็คงไม่เข้าใจ หลังจากนั้น ข้าพเจ้าก็เริ่มหาพระอาจารย์ ที่ฟังว่ามีชื่อเสียงหลายท่าน ก็ตอบปัญหานี้ไม่ได้ บางท่านก็ว่าที่จิตรดิ่งลึกนั้น จะไปเมืองนรก บางท่านพอถามหนักเข้าก็แชเชือนไปพูดเรื่องอื่น ข้าพเจ้าจึงท้อใจไม่ใฝ่หาอาจารย์ใด ๆ อีกเพราะตอบปัญหาของข้าพเจ้าไม่ได้ แต่บุญบารมีของข้าพเจ้าที่เคยทำมาคงจะมีอยู่ วันหนึ่งตอนเรียนหนังสือเป็นวิชากฎหมายประกันภัย ข้าพเจ้าได้ไปนั่งเรียนแต่ต้องไปจองที่นั่งก่อนเพราะถ้าไปตามเวลาเรียนของข้าพเจ้าคนจะแน่นมากไม่มีที่นั่ง จึงต้องไปนั่งก่อนชั่วโมงเรียน ปรากฏว่าวิชาที่ข้าพเจ้าไปนั่งก่อนนั้น เป็นวิชาศาสนาอะไรสักอย่างท่านสอนดีมากและมีบุญคุณเหมือนให้ชีวิตใหม่แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้รู้ว่าบาป บุญ มีที่ตั้งอยู่อย่างไร อวิชชาคืออะไร มีหน้าที่อย่างไร ก็ด้วยวิชานี้ ข้าพเจ้าจึงเขียนคำถามไปว่า การฝึกสมาธินี้มีบันทึกอยู่หรือไม่อย่างไร ท่านก็ตอบมาว่ามีอยู่ในคัมภีร์ พระวิสุทธิมรรค หลังจากนั้นข้าพเจ้ารีบไปที่สวนจตุรจักรไปถามหาคัมภีร์ นี้ ปรากฏว่ามี ข้าพเจ้ารีบซื้อมาและนั่งรถเมล์ไปลงที่สนามหลวงแล้วถือหนังสือเดินอ่านไปจนถึงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอ่านไปเลื่อย ๆ จึงได้รู้ว่ากรรมฐาน คืออะไร แบ่งเป็นอะไร  มีวิธีฝึกอย่างไร ในสมถกรรมฐานตามพระบาลีมี 40 วิธี 37 วิธี ฝึกได้จนสำเร็จฌาน สามวิธีเป็นแต่เพียงทำให้จิตรสงบเท่านั้น การภาวนาพุทโธ สัมมาอรหัง ก็ดี ไม่มีในพระกรรมฐาน 40 ด้วยเหตุนี้เมื่อผู้ฝึกมีปัญหาในการฝึกจึงไม่มีวิธีแก้ไข แต่หากฝึกตามพระกรรมฐาน40 แล้วจะบอกวิธีแก้ไขไว้ทั้งหมด  เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้แล้วอาจมีคำถามว่าทำไมถ้าไม่ถูกแล้วทำไมจึงมีผู้ฝึกได้ คำตอบก็คือบุคคลแต่ละคนทำบุญกุศลมาไม่เท่ากัน บางท่านทำบุญมามาก เคยฝึกมาแต่ชาติปางก่อนเคยเป็นพระภิกษุ เคยเป็นพระฤษี  ยกตัวอย่างการฝึกกสิณธาตุน้ำ แค่เพียงท่านเหล่านั้นมองน้ำในตุ่ม หรือมองน้ำในครอง มองน้ำในทะเล ก็สำเร็จฌานมิพักต้องพิจารณาให้มากความ แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ที่หวังจะฝึกฝนให้ได้ผลสำเร็จก็คงต้องเพียรพยายามอย่างอุกฤษฏ์ จึงจะสำเร็จได้ การเริ่มต้นไม่ถูกผลที่ได้รับก็ยากที่จะถูกได้
         แท้จริงแล้วเมื่อสมัยพุทธกาลเคยมีพราหมณ์ ถามปัญหานี้แก่พระพุทธเจ้าแล้ว โดยถามว่าถ้าไม่ปฏิบัติแบบที่พระพุทธเจ้าฝึกจะสำเร็จอรหันต์หรือไม่ พระพุทธองค์ก็ทรงตอบว่า พราหมณ์ รู้จักหนทางจากเชตวันไปเมืองมคธหรือไม่ พราหมณ์ตอบว่า รู้จักเป็นอย่างดี เดินมาตั้งแต่เล็ก ๆ แม้หลับตาเดินก็ยังไปถูก พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสว่าแล้วถ้าพราหมณ์เดินไปทางอื่นจะถึงเมืองมคธหรือไม่ ในเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน มิพักจะพูดถึงว่าการฝึกดวงอุคคหนิมิต ให้เป็นดวงปฏิภาคอย่างไร แล้วจากดวงปฏิภาคเป็นดวงฌาน อย่างไร เมื่อได้ปฐมฌานแล้ว จะฝึกสู่ฌานที่สอง หรือทุติยฌาน ต้องชำนาญในวสีห้าในปฐมฌานอย่างไร เพราะท่านฝึกมาไม่ถูก ก็ไม่ได้ดวงนิมิต หรือถึงได้ดวงนิมิตก็ไม่รู้ว่าจะฝึกต่ออย่างไรให้เป็นดวงปฐมฌานได้  ในโอกาสต่อไปจะกล่าวถึงการฝึกในพระกรรมฐานทั้ง  40 ต่อไป  พระธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย การกล่าวว่าง่ายเป็นคำพูดเพื่อปลอบใจตนเองเท่านั้น จนแม้พระพุทธองค์เองก็ยังทรงท้อแท้และคิดว่าจะไม่สอนแก่เหล่าสัตว์แล้ว ก็พิจารณาถึงบัวสี่เหล่า ด้วยพระเมตตาจึงทรงเผยแผ่พระศาสนามาจนถึงพวกเรา แต่จะอย่างไรก็ตามไม่พ้นความพญายามของผู้ใฝ่ศึกษาจะต้องมีผู้สำเร็จจนได้ การสำเร็จปฐมฌานแล้วจะข้ามไปสำเร็จในฌานสี่นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้ฝึกจะต้องชำนาญในวสีห้าของฌานนั้น ๆ ก่อนจึงจะฝึกต่อไปได้ ถ้าไม่ชำนาญวสีแล้วข้ามไปฝึกฌานที่สูงกว่า ก็จะเสื่อมทำลายทั้งฌานปฐมที่เคยฝึกได้ และฌานที่ฝึกใหม่ก็ไม่สำเร็จ ยังมีประสบการณ์พบภูตผี ปีศาจ  จากการฝึก การครอบครูให้ผลอย่างไร และตำนานเหล็กไหลของกรมหลวงชุมพรเขตุอุดมศักดิ์ ข้าพเจ้าจะค่อย ๆ เล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่