ผมหละงงกับท่านคันโตนา จริงๆ นะครับ ไม่รู้ว่าในขณะตั้งคำถาม ผีม้าลาย มาเข้าสิงท่านอยู่หรือเปล่า ?
คือท่านคันโตนา มาถามผมว่า อวิชชา มาจาก อสุจิ หรือ ไข่ ?
แถมยังโวยวายว่า ผมไม่กล้าตอบคำถามของเขาอีกแน่ะ
ที่จริง ผมควรย้อนถามท่านคันโตนา ด้วยซ้ำไปว่า ผีม้าลายมันเข้าสิงหรือไงครับ ท่านถึงได้ถามแปลกๆแบบนี้
ท่านถามแบบนี้ มันก็ไม่ต่างไปจากการถามว่า ก้อนหิน มีอวิชชาหรือเปล่า ?
หรือถามว่า ไวรัส แบคทีเรีย ฯลฯ มีอวิชชา ไหม ? ตลกครับท่าน
คือท่านคันโตนา อยากจะเสนอเรื่องปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติอะไร ก็แล้วแต่ท่านเถิดครับ
ผมก็แค่ถามง่ายๆ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนแบบนั้นเอาไว้ในพระสูตรไหน เท่านั้นเอง นะครับท่าน
ทีนี้ ท่านจะบอกว่า อสุจิ มึอวิชชา หรือไม่มี ก็ตาม ก็กรุณายกพระสูตรขึ้นอ้าง เถิดครับ( มโน ไม่เอาครับท่าน)
เมื่อท่านถามผมในเรื่องนี้ ผมก็บอกแล้วว่า ปฏิจจสมุปบาท ไม่เกี่ยวกับสัตว์บุคคล ชาติก่อน ชาติหน้า ดังนั้น คำถามนี้จึงไร้สาระครับท่าน
แต่ถ้าจะเอาคำตอบจริงๆ ก็ขออนุญาตตอบง่ายๆว่า อสุจิ มันไม่มีอวิชชาหรอกครับ เพราะมันเป็นรูปที่ไม่มีใจครอง แล้วจะมาเอาเรื่อง รู้ ไม่รู้ จากมันได้ไง
เพราะถ้า อสุจิ มีอวิชชาได้ อึกหน่อยท่านคงบอกว่า มันคิดได้ มีเวทนาได้ ฯลฯ มีความทุกข์ได้ และคงดับทุกข์ได้ด้วย มั้งครับ
แต่ที่สงสัยมากๆ ก็คือ แล้วอสุจิกับไข่ มันไปเกี่ยวอะไรกับ ปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติของท่านหรือครับ ?
เพราะอสุจิ กับ ไข่ มันก็มึอยู่ในชาตินี้แหละ หากเกิดปฏิสนธิ มันก็เกิดในชาตินี้เหมือนกัน
สรุปแล้ว ถ้าพิจารณาแบบชาวพุทธ ไม่งมงาย ไม่มิจฉาทิฐิ มันก็เป็นเรื่องของโลกนี้ ชาตินี้ ทั้งนั้นแหละครับท่าน
ผมยังไม่เห็น เรื่องข้ามภพชาติ ชาติก่อน ชาติหน้า จากไหน เลยนะครับท่าน ท่านมโนไปเอง หรือเปล่าครับ ?
อสุจิ กับ ไข่ มีอวิชชา ด้วยหรือครับท่าน ? ผมเห็นว่า ท่านฟุ้งซ่านมากเกินขนาด แล้วหละครับ
คือท่านคันโตนา มาถามผมว่า อวิชชา มาจาก อสุจิ หรือ ไข่ ?
แถมยังโวยวายว่า ผมไม่กล้าตอบคำถามของเขาอีกแน่ะ
ที่จริง ผมควรย้อนถามท่านคันโตนา ด้วยซ้ำไปว่า ผีม้าลายมันเข้าสิงหรือไงครับ ท่านถึงได้ถามแปลกๆแบบนี้
ท่านถามแบบนี้ มันก็ไม่ต่างไปจากการถามว่า ก้อนหิน มีอวิชชาหรือเปล่า ?
หรือถามว่า ไวรัส แบคทีเรีย ฯลฯ มีอวิชชา ไหม ? ตลกครับท่าน
คือท่านคันโตนา อยากจะเสนอเรื่องปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติอะไร ก็แล้วแต่ท่านเถิดครับ
ผมก็แค่ถามง่ายๆ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนแบบนั้นเอาไว้ในพระสูตรไหน เท่านั้นเอง นะครับท่าน
ทีนี้ ท่านจะบอกว่า อสุจิ มึอวิชชา หรือไม่มี ก็ตาม ก็กรุณายกพระสูตรขึ้นอ้าง เถิดครับ( มโน ไม่เอาครับท่าน)
เมื่อท่านถามผมในเรื่องนี้ ผมก็บอกแล้วว่า ปฏิจจสมุปบาท ไม่เกี่ยวกับสัตว์บุคคล ชาติก่อน ชาติหน้า ดังนั้น คำถามนี้จึงไร้สาระครับท่าน
แต่ถ้าจะเอาคำตอบจริงๆ ก็ขออนุญาตตอบง่ายๆว่า อสุจิ มันไม่มีอวิชชาหรอกครับ เพราะมันเป็นรูปที่ไม่มีใจครอง แล้วจะมาเอาเรื่อง รู้ ไม่รู้ จากมันได้ไง
เพราะถ้า อสุจิ มีอวิชชาได้ อึกหน่อยท่านคงบอกว่า มันคิดได้ มีเวทนาได้ ฯลฯ มีความทุกข์ได้ และคงดับทุกข์ได้ด้วย มั้งครับ
แต่ที่สงสัยมากๆ ก็คือ แล้วอสุจิกับไข่ มันไปเกี่ยวอะไรกับ ปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติของท่านหรือครับ ?
เพราะอสุจิ กับ ไข่ มันก็มึอยู่ในชาตินี้แหละ หากเกิดปฏิสนธิ มันก็เกิดในชาตินี้เหมือนกัน
สรุปแล้ว ถ้าพิจารณาแบบชาวพุทธ ไม่งมงาย ไม่มิจฉาทิฐิ มันก็เป็นเรื่องของโลกนี้ ชาตินี้ ทั้งนั้นแหละครับท่าน
ผมยังไม่เห็น เรื่องข้ามภพชาติ ชาติก่อน ชาติหน้า จากไหน เลยนะครับท่าน ท่านมโนไปเอง หรือเปล่าครับ ?