พระคึกฤทธิ์ : นิพพานคือ ช่องว่าง ในที่คับแคบ ....นี้เป็น พุทธพจน์ หรือ พระคึกฤทธิ์ บัญญัติ ?

เนื้อความจากคลิป
https://www.youtube.com/watch?v=tiBBvJep3vY

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


...พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติว่า จิตรับรู้ได้ทีละธาตุ
ดังนั้น จิตพระพุทธเจ้าก็เหมือนเรา เกิดดับ รู้นั่นรู้นี่

แต่พระพุทธเจ้าใช้ประโยชน์จากตรงนี้  เรียนรู้ธรรมชาติมัน
สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ตัวท่านของท่าน
ท่านก็รู้ว่า จิตมันคืออะไร มันทำงานยังไง
บัญญัติเป็นระบบออกมา

พุทธเจ้าบัญญัติว่า วิญญาณอาศัยรูป เมื่อตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้
เป็นวิญญาณที่มีรูปเป็นอารมณ์  มีรูป เป็นที่ตั้งอาศัย มี นันทิ ความเพลิน เข้าไปส้องเสพ
ก็ถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ได้

วิญญาณ อาศัย เวทนา เมื่อตั้งอยู่ ก็ตั้งอยู่ได้

วิญญาณอาศัย สัญญา... สังขาร ตั้งอยู่ก็ตั้งอยู่ได้ เห็นมะ ?

บัญญัติทีละตัว ๆ จิตรับรู้ได้ทีละเรื่อง  ทีละธรรมชาติ เห็นมะ ?

ขณะที่ จิตรับรู้ธรรมชาติหนึ่ง แล้วเปลี่ยนไปอีกธรรมชาติหนึ่ง เนี่ยะ  
แสดงว่า  มีธรรมชาติหนึ่งหายไป มีธรรมชาติหนึ่งเกิดขึ้น ถูกต้องไหม  ?
พุทธเจ้า เรียกตรงนี้ว่า  การเกิด  การดับ

พุทธเจ้าบอก ขณะที่เธอเพลินเนี่ยะ เธอจะเห็นสมุทัย คือเหตุเกิด

ขณะที่เธอ ละความเพลิน ละความคิดมา กลับมารู้ลมหายใจ เธอจะเห็นนิโรธ

โยมจะเห็นความคิดเกิด ความคิดดับ ...ความคิดเกิด ความคิดดับ

ขณะที่ ความคิดเกิด ความคิดดับ แสดงว่าตัวตนมัน มีขึ้นมาชั่วคราวแล้วมันดับไปถูกต้องไหม ?
พุทธเจ้าเรียกมันว่า มันเป็นอนัตตา ตัวตนนั้นเป็นของชั่วคราว


เสร็จแล้ว โยมนั่งไป กี่ชั่วโมงก็ตาม จิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ตลอดเลย
แสดงว่าจิตไม่เที่ยงแปรเปลี่ยนตลอด ถูกต้องไหม ?

พุทธเจ้า  ก็เป็นเหมือนเรา จึงบัญญัติ ว่า การเปลี่ยนของจิตเนี่ยะเปรียบเหมือนลิง
จับกิ่งไม้นั้นปล่อยกิ่งนี้  จับกิ่งนั้นปล่อยกิ่งนี้ ทั่วไป ในป่าใหญ่ เห็นม่ะ..


พุทธเจ้า  บัญญัติออกมา ปั้บ ปั้บ ปั้บ
แต่เรามานั่ง งง แล้วจะถึงนิพพานยังไง...!!! เห็นไหม ?


บัญญัติอีก ขณะที่จิตมีการเคลื่อนไปเนี่ยะ  ใช่ม่ะ ?

เราทั้งหลายจะคิดว่า จิตฉันวิ่งไปโน้น จิตฉันวิ่งกลับมานี้  
จิตฉันวิ่งไปโน้น ทุกคนจะคิดอย่างนั้น  แต่จริง ๆ ไม่ใช่ !!

จิต  ไม่ได้วิ่งไปตรงนี้ ไม่ได้วิ่งมานี่ ไม่ได้วิ่งไปคิดโน่นคิดนี่
แต่จริงๆ แล้วในขณะที่  จิต มีการมีการเคลื่อนไปเนี่ยะ
พุทธเจ้าบอกจิตดวงหนึ่งจะดับดวงใหม่จะเกิด  เห็นไหม ?

แต่ สติโยมไม่ทัน หลุดไปแล้ว คิดไป 5 นาทีแล้วถึงรู้ตัวแล้วค่อยละกลับมาลม !! ?  

พุทธเจ้าจึงให้ละความเพลินให้สั้นลง สั้นลง สั้นลง สั้นลง เรื่อย ๆ จนกระทั้ง ดุจกระพริบตา
หลุดปุ้บ  กระพริบตาเดียว กลับ
หลุดปุ้บ   กระพริบตาเดียวกลับ จากนั้น ให้เร็วขึ้นกว่านี้  

โยมถึงจะเห็นว่า จิตเนี่ยะมันดับ    

จิตดวงใหม่เกิด สัตว์ผู้มีอวิชชา เข้าไปยึดจิต ดวงใหม่ เกาะอารมณ์ ต่อไป

นี่ ต้องเห็นภาพขนาดนี้ โยมถึงจา..พูดถึง...นิพพาน  ได้

เพราะนิพพานคือ ช่องว่าง ในที่คับแคบ ตรงนี้
ที่จิตดวงหนึ่งเนี่ยะ ดับไป ......แล้วจิตดวงใหม่ยังไม่เกิดขึ้น  ณ.ที่นั้น ไม่มีวิญญาณ  

วิญญาณ ดวงที่เกาะลมหายใจดับไปแล้ว ลมก็ดับ นะ

โยมต้องมีความรู้อีกว่า ถ้าวิญญาณดับ รูปจะดับ
ถ้าวิญญาณดับ นามจะดับ เพราะมันอิงอาศัยกันเกิดขึ้น โยมต้องมีความรู้พระสูตรนี้ก่อน


ดังนั้นเมื่อวิญญาณดับ ลมจะดับน่ะ
วิญญาณดับ.....ไปแล้ว วิญญาณ.....ดวงใหม่ยังไม่เกิด

ณ.เสี้ยววินาทีนี้ คืออะไร  
ตรงนี้คือ สุญญตา ความว่าง ที่ไม่มีวิญญาณไม่มีนามรูป
ใครหยุดสภาวะ ตรงนี้ได้ นิพพาน วิชชาวิมุติ ปรากฏ





คำถามสนทนา

เพราะนิพพานคือ ช่องว่าง ในที่คับแคบ

             ถูกต้องไหม ...?
             ถ้าไม่ถูกต้อง คลิปนี้ ควรเรียกชื่อว่าอะไรดี ?




สาวกวัดนา กรุณา มาโหวตกระทู้นี้ด้วยนะครับ นำมา ประชาสัมพันธ์ให้แล้ว
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
1.  เพราะนิพพานคือ ช่องว่าง ในที่คับแคบ    (พระคึกฤทธิ์)


_______________________________________________________


[๓๕๐] ธรรมชาติที่รู้แจ้ง ไม่มีใครชี้ได้ ไม่มีที่สุด แจ่มใส โดยประการทั้งปวง
ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้.
             อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น ละเอียดและหยาบ ที่งามและไม่งาม ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ใน
ธรรมชาตินี้.
             นามและรูปย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้.

             เพราะวิญญาณดับ นามและรูปนั้นย่อมดับไม่มีเหลือในธรรมชาตินี้ ดังนี้.

             พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว. เกวัฏฏ์ คฤหบดีบุตรมีใจชื่นชม เพลิดเพลิน
ภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล.

เกวัฏฏสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&pagebreak=0
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 42
ความคิดเห็นที่ 41
ผมถามยามหน่อย

กามคุณ ๕ , วิตกวิจาร , ปิติ , อุเบกขาและสุข , รูปสัญญา , อากาสานัญจายตนสัญญา , วิญญาณัญจายตนสัญญา , อากิญจัญญายตนสัญญา , เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา , อาสวะ

ทั้งหมดนี้พระศาสดาอุปมาว่าเป็นที่คับแคบ

ถามยามว่า

ทั้งหมดนี้มันพ้นไปจาก
การกระทบกันของอายตนะภายในกับอายตนะภายนอก


หรือการที่วิญญาณถือเอาซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร ซึ่งก็คือการทำงานของขันธ์ 5

หรือการเกิดดับของวิญญาณตามที่ท่านคึกฤทธิ์กล่าวไหม?

สมาชิกหมายเลข 1651782




กรุณาอ่านทบทวนซ้ำนะครับ

http://ppantip.com/topic/33910506/comment38

พระสูตร และอรรถกถา ท่านกล่าวไว้แล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่