(รูปเยอะ) รีวิว ! ผู้ชาย...อ้วน = ผอมได้ราวกับใช้เวทมนต์ (วัยรุ่นด้วย)

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผู้รักสุขภาพและกำลังมองหาแรงบรรดาลใจ ในการลดความอ้วน
ผมเป็นคนธรรมด๊าธรรมดาคนหนึง  ที่เคยอ้วนมากมีน้ำหนักถึง 96 กิโลกรัม
แต่ปัจจุบันมันเพิ่มขึ้น ห๊ะ ! ไม่ใช่ครับ มันลดลงต่างหาก ฮ่าๆๆ  
                
                 ผมชื่อเล่น "อาร์ต" ครับ @Artvich  แม่เคยบอกว่าผมอ้วนมาตั้งแต่เป็นเด็ก ก็ไม่รู้เด็กแค่ไหน อิอิ
รู้แต่ว่าความอ้วนได้สิ้นสุดและอวสานลง ตอนอายุ 19 จะ 20 ปัจจุบันเก๊าพึ่ง 21 เองนะ แฮร่ๆ

                 ปัจจุบันเป็นซุปตาร์ โอ๊ะ! ไม่น่าใช่ 555 เป็นนิสิตนักศึกษา คนธรรมดาเดินดินนี่แหละ
เอาล่ะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ไปเริ่มกัน...

                 ตามมาๆ ระวังหมากัด 55
















                 ภาพทั้งหมดที่เห็นด้านบนนั้นเป็นภาพถ่ายตอนช่วงเรียน ม.6 กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งตอนนั้นมีน้ำหนักถึง 95 96 ประมาณนี้

                 ตั้งแต่เด็กจนมาถึงเรียนจบ  ม.6  มีความคิดมาโดยตลอดว่าอยากจะผอม  หุ่นดีเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง  
อยากใส่เสื้อผ้าสวยๆ  อยากถ่ายรูปแล้วดูดี  อยากหน้าตาดี  อยากหล่อ 5555 ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม  
แต่มีเพื่อนเคยทักว่าถ้าแกผอม  แกจะหล่อ 555  เลยต้องผอมเพือพิสูจน์ว่าผอมแล้วจะหล่อมั้ยนะ

                 ปีนี้เป็นปีที่เป็นจุดเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่จบ ม.6 ต้องเรียนต่อมหาวิทยาลัย
ซึ่งสอบติดหลายที่แต่เลือกที่จะสอบใหม่ (ซิ่ว)  เลยทำให้ปีนี้แทนที่จะเป็นนักศึกษาปี 1 กลายเป็นว่าอยู่บ้านเฉยๆ
อ่านหนังสือรอสอบใหม่ช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปี

                 การที่ผมอยู่บ้านชีวิตว่างๆ นี่แหละครับ  คือ  สิ่งที่ทำให้ผมลดความอ้วนลงมาได้…………………..

                 อันแน่…..อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าทำยังไง  คำตอบคือ  ทำงานบ้านทุกอย่างแทนทุกคน เน้น ว่าทำทุกอย่างแทนทุกคนและต้องทำตลอด (ทุกวัน)  ดังนี้  ซักผ้าให้ทุกคน(อันนี้ทำอยู่แล้ว)  ล้างถ้วยล้างจาน  ล้างห้องน้ำ  ทำกับข้าว  ทำอาหารให้หมาแมว  รดน้ำต้นไม้  ทำความสะอาดบ้าน  ถูบ้าน  กวาดบ้าน(ชั้นบนชั้นล่าง)  ปัดฝุ่น  กวาดหยากไย่รอบบ้าน  ทำความสะอาดห้องนอน  ห้องพระ  พับผ้า  ทำความสะอาดห้องครัว  ห้องเก็บของ  ยิบย่อยอื่นๆ อีก

                 หลายคนคงคิดว่ามันจริงหรอ!  แต่อย่าลืมนะครับว่าบ้านของพวกเราแต่ละคนมีขนาดไม่เท่ากัน  และความรกความสกปรกของบ้านก็ไม่เท่ากัน  บ้านของผมหลังขนาดปานกลางค่อนไปทางใหญ่  ข้าวของรกรุงรังกระจัดกระจาย  ขี้ฝุ่นหยากไย่ใยแมงมุม และที่สำคัญทำคนเดียว  นั้นใช้เวลาหลายวันและงานบ้านเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่เรื่อยๆ  
                
                 หลายคนคิดว่างานบ้านงานง่ายๆใครก็ทำได้ แต่ลึกๆแล้วคนส่วนใหญ่ขี้เกียจทำงานบ้าน ! แน่จริงอ่านกระทู้นี้จบ
ก็บอกทุกคนในบ้านเลยดิ ว่าต่อไปนี้จะอาสาทำทุกอย่าง ย้ำ ทุกอย่าง บอกสิ 55555  

                 แต่อย่าหัวหมอมาบอกว่าทำงานบ้านทุกอย่างแล้วไม่เห็นจะผอมเลย จะไม่ผอมหรอกนะครับ ถ้ายังกินแบบไม่คุม
ไม่วางแผนหรือมีโภชนาการที่ไม่ดี อันนี้ศึกษาเพิ่มเติมเลยครับ



                 นอกจากนี้  ผมไม่มีรถมอไซต์เวลาจะไปไหนมาไหนต้องเดินออกจากซอยไปขึ้นรถสาธารณะ ( ชีวิตส่วนใหญ่เดิน )

                 ชีวิตที่อยู่บ้านก็ไม่ค่อยมีอะไร  ส่วนใหญ่ก็ทำงานบ้าน  ไปเดินเล่นห้าง ( เดินจริงๆนะชั้นนึงก็วนไปวนมาขึ้นลงเดินไปเดินมาอยู่นั่นแหละ
กว่าจะกลับก็หลายชั่วโมงอยู่ )  เดินเล่นสวนสาธารณะ

                 นอกจากการใช้พลังงานจากการทำงานบ้านและการเดินไปเดินมาแล้ว 5555 อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้  คือ  เรื่องของอาหารการกิน  ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่มีเคล็ดลับพิเศษอะไร  นอกจากว่า……………..

                กินตามปกติ ไม่มีว่าเมนูลดความอ้วน  อันนี้กินแล้วอ้วน  อันนั้นกินแล้วไม่อ้วน  ไม่มีวิธีนี้ กินให้ถูกตามหลักภาวโภชนการที่ดี ก็พอแล้ว

                 สรุป  ช่วงที่  1  ลดความอ้วนโดยการทำงานบ้าน  เดิน  และกินให้เป็น  แค่นี้จริงๆนะ



                 หลังจาก  1 ปีที่อยู่บ้านผ่านไป  พอสอบใหม่ติดแล้วก็ต้องไปอยู่หอและเรียนไกลบ้าน  ซึ่งจะต้องวางแผนการใช้เงิน
และการใช้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง ชีวิตก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก  มีแค่ไปเรียนแล้วก็กลับหอ  ไปเรียนกลับหอ  ส่วนใหญ่มีแค่นี้  ไม่ค่อยเที่ยวอาจจะด้วยไม่รู้จะไปเที่ยวไหน  กับอยากประหยัดเงินช่วยทางบ้านก็เลยไม่มีไรมาก

                  ช่วงนี้ลดความอ้วนด้วยวิธีไหน  คำตอบคือ  เดิน  เดิน  เดิน  เดิน  เดิน  และเดิน  พูดง่ายๆก็คือ  การใช้ชีวิตประจำวันของผมนี่แหละครับ  กล่าวคือ  ผมไม่มีรถมอไซต์เมือนคนอื่นเขา  เวลาจะไปเรียนก็เดินออกจากซอยที่หอตั้งอยู่ไปขึ้นรถสองแถวหน้าซอย บางตึกเรียนรถสองแถวก็ผ่าน  บางตึกก็ไม่ผ่าน  ตึกไหนไม่ผ่านก็ต้องเดินต่อ  หรือบางทีเวลาเปลี่ยนวิชาที่ห้องเรียนอยู่คนละตึกก็เดินเอา  มหาวิทยาลัยไม่ใหญ่มากเดินได้แต่ก็เหนื่อย

                  ส่วนใหญ่แล้วชีวิตผมไม่ได้ออกกำลังกายอย่างจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว  แต่อาศัยการทำงาน  การใช้ชีวิตประจำวันแบบใช้พลังงานซะมากกว่า  ซึ่งมันก็เป็นความจริงตามคำกล่าวที่ว่า  แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย

                  และในที่สุด 2 ปีกว่าผ่านไป (อยู่บ้านปีนึง , เด็กปี 1 ปีนึง) (2555-56 ถึงต้น 57) ชีวิตก็มีโอกาสได้ผอมกับคนอื่นเขาอย่างที่ฝันไว้  โดยตลอดเวลาที่ผ่านมามันค่อยๆ ลดลงเองอย่างช้าๆ อย่างเป็นธรรมชาติ เฉลี่ยเดือนละประมาณ 1 กิโลกรัม ตามหลักธรรมชาติอย่างปลอดภัย



และภาพข้างล่างที่จะได้เห็นต่อไปนี้ คือภาพที่ถ่ายช่วงกลางปี 57 มาถึงปัจจุบัน

v
v
v
v
v
v
v
v
v













มันคือความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกกับการลดความอ้วนลงได้ด้วยตัวเอง
















สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกทุกคนว่า......





@Artvich
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่