สอบถามเรื่องระบบอาการของการเผาผลาญพัง กับการกินครับ

คือว่าผมไม่รู้ว่าผมระบบเผาพลาญพังรึป่าว เพราะว่าผมน้ำหนัก รูปร่างพุ่งขึ้นมากครับ เมื่อก่อนตอนม.1ผมหนักแค่ประมาณ 60-65 กก. ม.2 ประมาณ 65-68 กก. ตอนนี้ม.3 หนักจะ80 กก.แล้วครับ 😭 ส่วนสูงก็ไม่170สักที 
 
  ม.1ผมก็มีการลดความอ้วน ออกกำลังกาย เท่าที่จำได้นิดหน่อย ผมแทบไม่คำนวณการกินตอนนั้นเลย ตอนนั้นเผลอๆกินยังไม่ถึง2,000แคล แต่ออกกำลังกายอาทิตย์นึง3-4วัน จำได้ว่าตอนนั้นฝึกตามแอพอะครับ ก็จะมีท่าบอดี้เวทหลายท่าจัดมาให้เป็นเซ็ตๆ แต่ละวัน ส่วนใหญ่เป็นการเล่นแบบฟลูบอดี้ ตอนั้นจำได้ว่ามีการกินโปรตีนแพลนเบตด้วย แค่ครั้งแรกซื้อมาครั้งเดียวเพราะราคามะนค่อนข่างสูงมากสำหรับวัยนั้น และตอนนี้ด้วย5555 ก็เคยมีคนทักว่าดูผอมลงบ้าง ผอมลงมากจากตอนป.6 ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไรแต่พวกเพื่อนๆผมรวมถึงผมด้วย  พอขึ้นม.1กันก็ดูผอมลง แบบงงๆ ไม่รู้ว่าเป็นช่วงเจริญเติบโตของร่างกายหรือเพราะการออกกำลังกายของผม แต่เมื่อก่อนความรู้ก็ไม่ค่อยมากนัก จำได้ว่าเคยถ่ายรูปการเปลี่ยนแปลงตัวเองตอนม.1 ถ่ายแค่ไม่กี่รูป แต่ดูเมื่อก่อนเป็นคนที่หน้าใหญ่มาก เหมือนจะผอมมีพุงแต่ก็ไม่ แต่แขนเมื่อก่อนเล็กมาก แต่เมื้อก่อนก็น่าจะไม่รู้แหละครับว่าตัวเองมีเป็นประเภทไหน  

    ม.2 พอจำได้ว่าผมเคยจะคิดเพิ่มน้ำหนักตอนม.2ที่เปิดเทอมแรกอะครับ ก็ออกกำลังกายด้วย กินเยอะด้วย ประมาณ2,500-2,700เยอะมากกก จำได้แค่น่าจะออกตามแอพ แล้วก็มีดารเล่นลูกลิ้ง แล้วก็มีการฝึกกระโดดสูง ทำไม ทำทำไม555555 ตอนนั้นอยากกระโดดสูงด้วยมั้งครับ มีเพื่อนคนนึงเตี้ยกว่าผมแต่กระโดดสูงกว่าผมมาก เลยมีฟิลแบบไม่ยอมๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เสียเวลามาก ก็กินจุกจิกอยู่ กินเยอะมาก พอเปิดเทอมก็มีคนทุกว่ามีน้ำมีนวลขึ้น น่าจะหมายถึงอ้วนขึ้นนั่นแหละครับ55555 ตอนนั้นก็พอมีความรู้อยู่ พอเปิดเทอมสองก็มีการคำนวณแคล อาจจะไม่แม่น ปต่ก็พอกะได้อยู่นิดหน่อย ตอนนั้นแต่คำนวณแบบนานๆที เวบาไปโรงเรียนก็จะคำนวณนิดหน่อย ใช้แอพ my fitnesspal แต่จำได้ว่าตอนแรกๆที่เปิดเทอม2 ไม่เคยคำนวณเลย กินก็กิน หลังๆก็มีบ้าง
 
   ตอนปิดเทอมจะขึ้นม.3 ก็มีการจะลดไขมัน แต่ออกกำลังแบบไกล้เคียงตอนนี้มากคือ กระโดดเชือกมือเดียวแต่ตอนนั้นกระโดดแค่5นาทีตอนเช้า แล้วตอนบ่ายๆก็เล่นยางยืด แค่นั้น มีการคำนวณแค่ประมาณปลายเดือนมีนาถึง ปลายๆเมษา เพราะพฤภาก็เปิดเทอมแล้ว มีการกินที่กินประมาณ2,000แคลต่อวัน ตอนช่วงปิดเทอมนี้บอกเลยว่า ทำให้ผมเรียนรู้อะไรเยอะมาก แต่ก็ยังลดไม่สำเร็จ หนึ่งในนั้นทำหใ้ผมรู้จักการ mewing คือการวางตำแหน่งที่ถูกต้อง และทำให้เหนียงใต้คางนั้นถูกซ่อน ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น หลังจากนั้นผมก็ทำมาตลอดเลยครับ ทำให้ผมดูดีขึ้นมาก แต่หุ่นของผมนั้นกลับแย่กว่าเดิม5555

   ม.3 ผมก็ไม่ได้ออกกำลังกายเลยครับ แล้วก็ไม่ได้คำนวณแคลเลย แต่ก็มีการเซฟการกินอยู่ แต่การที่ผม, mewing ทำให้ผมดูดีขึ้นมาก ดูดีแค่มุมข้างนะครับ เพราะว่าหันข้างกรอบหน้าจะชัดมากแต่มุมตรงหน้าก็จะบวมๆ มีแต่ไขมัน แก้มเยอะๆ พูดแล้วก็รู้สึกเวทนา ถึงแม้ร่างกายผมจะอ้วนขึ้น แต่มันไม่มีใครรู้หรอกครับเพราะ เสื้อผ้ามันพลางหุ่น แต่พอถึงตวันที่ต้องใส่ชุดลูกเสือ ก็ดูอ้วนมากๆ เพราะชุดนี้ผมใส่ตั้งแตป.4 และเป็นชุดที่พี่ผมให้มาอีก ตอนม.1 ม.2 ใส่แล้วก็ดูสมส่วนดีอาจจะมีรัดบ้าง แต่ก็ไม่หนักเท่าตอนม.3 ดังนั้นมันทำให้ผมตระหนักได้ว่า ผมจะไม่ดูดีแค่หน้าตา (อันนี้คือคิดว่าตัวเองหน้าตาดี) ร่างกาย รูปร่างก็ต้องดี ปิดเทอมนี้ผมเลยวางแผนจะลดอีกรอบ แต่เทอมนี้มันปิดน้อยมากประมาณแค่เดือนเดียว ปกติจะเดือนกว่าๆ เดือนครึ่งไรงี้ครับ ตอนนี้ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงละ เริ่มออกกำลังกายได้แค่สามวันเอง555555 

  อ่านมาตั้งเยอะคง งงว่ามันเกี่ยวกับหัวข้อคำถามยังไง คือว่าปัญญาของผมคือ ผมอยากรู้ว่าตัวเองระบบเผาพลาญพังรึปล่าว เพราะผมอ้วนขึ้นมากๆ ขัดกับหน้าตาที่ดูดีเพราะmewing  ในแอพคำนวณแคลมันกคำนวณไว้ให้ว่า ให้กินประมาณ2,130แคล พอผมไปคำนวณในเว็บต่างๆก็พอใกล้เคียงกัน ถึงแม้ผมตะใส่น้ำหนักปัจจุบัน ส่วนสูงปัจจุบันก็ใกล้เคียงเดิม
ผมเลยคิดว่าจะยึดในแอพนี้แหละ ไม่เปลี่ยน เพราะในแอพผมก็กินประมาณ2,100มาตลอดตั้งแต่ปิดเทอมขึ้นม.3 ตอนเปิดเทอมเวลากินก็แอบคำนวณในใจไว้บ้าง แต่ก็น่าจะผิดพลาดแหละเลยอ้วนขึ้นขนาดนี้45555 และผมพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นประเภทพุงป่องหรือพุงกลมนี่แหละ แต่ตรงนี้คือจุดที่ทำให้ผมสงสัย เพราะวาพุงกบทเขาบอกว่า เกิดจากมีไขมันสะสมเยอะเกินไปและมีกล้ามเนื้อน้อย ระบบเผาพลาญเลยน้อยตาม วิธีแก้คือ กินเยอะขึ้น เวท บอดี้เวท เพื่อสร้างกล้ามเสือ เพราะกล้ามเนื้อจะได้ช่วยเผาพลาญ แต่พุงป่องเขาแค่บอกว่า เกิดจากการกินอาหารที่ย่อยยาก แก๊สเยอะแค่นั้น คือหล่ยคนอาจจะงงว่า สรุปสับสนว่าตัวเองเป็นพุงแบบไหน หรือ สับสนว่าตัวเองระบบเผาพลาญพังไหม คำตอบคือ ผม สับสนทั้งคู่ครับ ยอมรับว่าแค่พุงตัวเองยังไม่รู้เลยว่าเป็นแบบไหน
เพราะเสิร์ชกูเกิลก็มีรูปภาพไม่ชัดเจน  และที่สงสัยว่าระบบเผาพลาญพังไหมคือ เขาบอกว่าให้กินเท่าtdee ซึ่งtdee ของผม ณ ปัจจุบันคือ 2,300-2,700มันคลาดเคลื่อนเยอะมาก ไปตามแต่ละเว็บไซต์ แต่แอบ งง ส่า2,700มาได้ไง ตัวเลขเยอะมาก อาจจะเพราะผมใส่ว่าออกกำลังกาย 3-5วันต่อสัปดาห์ แต่ความเข้มข้นของการฝึกก็ไม่มาก  ประมาณนี้ แต่ที่ผ่านมาผม กินแบบตัดแคลมาตลอด พอผมไปหาข้อมูลเขาบอกว่า ห้ามตัดแคลเกินสามเดือน แต่อันนี้ก็หลายเดือนแล้ว55555 ผมเลยคิดว่าตัวเองระบบเผาพลาญพังรึปล่าว เวลาผมกินอะไรก็รู้สึกว่าอ้วนง่าย และอ้วนจริง ขึ้นมาเยอะเลย ตอนม.3เปิดเทอมแรกๆ เวลาส่องกระจกยังรู้สึกอ้วนน้อยกว่าตอนนี้เลยครับ😭 
ในวันนี้เมื่อปีที่แล้วผมคงกิน2,500-2,700แคล เพิ่มน้ำหนักอยู่ แต่วันนี้ผมกินแค่2,100-2,200 แคล 

    สรุปเลยนะครับ ผมแค่สับสนว่าผมต้องกินเยอะขึ้นเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มระบบเผาพลาญรึปล่าว หรือควรกินแค่2,130 แคลต่อไป เรื่อยๆ และก็ออกกำลังกายปกติ3-5วันต่อสัปดาห์ อันนี้อาจยาวและงงหน่อยนะครับ ขนาดผมยัง งงตัวเองเลยจะเขียนอะไรวนไปมา เยอะขนาดนี้ สกิลการสื่อสารเท่ากับศูนย์จริงๆ ผมแค่อยากให้รู้ว่า เมื่อก่อนผมมีพฤติกรรมยังไง แล้วทำให้เสี่ยงเรื่องระบบเผาพลาญไหม
   
    ผมไม่อยากจะดูดีแต่ตอนmewingอีกแล้ว เพราะยังไงไขมันมันก็ยังไม่หายไปไหน  มันก็เหมือนเดิม เผลอๆมากกว่าเดิม มันทำให้คนคิดว่าผมผอมลงที่จริงอ้วนขึ้นแบบก้าวกระโดด ยอมรับว่าผมก็แค่ไออ้วนคนนึงที่ยากจะดูดี แต่ก็ฝืนตัวเองไป หน้าตาก็อ้วนแต่ยัง คิดว่าตัวเองหน้าตารูงร่างใกล้เคียงกับดาวติ้กตอกที่หล่อๆบางคน ยอมรับว่าผมอยากลดเพราะอยากดูดีในสายตาคนอื่น อยากดูดีเพราะอยากให้มีคนชม ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าผมพยายามจนทำได้ขนาดนี้ และก็อยากใส่เสื้อผ้าแล้วดูดีไม่ต้อง การให้พลางหุ่นอ้วนแล้ว พอโซเชียลมันเข้าถึงง่าย ก็ทำให้ผมยิ่งเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ว่าเขาก็อายุเท่าเรา แต่ทำไมเขาดูดีกว่าเรา ดูโต บางคนอายุน้อยกว่าแต่ก็ยังดูหล่อสวย ดูโตกว่าเรา โซเชียลมันมีส่วนจริงๆครับ
   

    ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ ด้วยความเคารพ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่