ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากหลุดพ้น อยากนิพพาน ล้วนมีเหตุมาจากความเข้าใจผิดว่ามีอัตตา

อัตตา เป็นความเชื่อว่ามีตนเอง (ตัวเรา) ที่จะมีสืบต่อไว้ได้เรื่อยไป (สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่ามีตัวตนสืบต่อไว้ได้เรื่อยไป) ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิดเพื่อมารับผลกรรม รวมทั้งเรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า เทวดา นางฟ้า เป็นต้น ซึ่งความเชื่อว่ามีอัตตานี้ก็มาจากความรู้สึกว่ามันมีตัวเราอยู่ในปัจจุบันนี่เอง คือเชื่อว่าจะมีตัวเราเกิดมาได้ใหม่อีกเรื่อยไป

ความรู้สึกว่ามีตัวเรานี้เองที่ทำให้แต่ละคนเกิดความอยากได้ อยากมี อยากเป็นเพื่อตนเอง ซึ่งบางคนเมื่อต้องประสบกับความทุกข์ก็อยากจะหลุดพ้นจากความทุกข์ ซึ่งความหลุดพ้นนี้เรียกว่า นิพพาน  ซึ่งส่วนมากจะเข้าใจว่านิพพานคือการตายแล้วดับสูญไปเลย

นิพพานของพระพุทธเจ้านั้นหมายถึง จิตที่ไม่มีความทุกข์ที่เกิดมาจากความยึดถือว่ามีตนเองอยู่ในร่างกายและจิตใจที่รู้สึกว่ามีตนเอง ซึ่งการที่จิตจะนิพพานได้อย่างสมบูรณ์นั้น จะต้องมีปัญญา ศีล และสมาธิมาทำงานร่วมกัน ซึ่งปัญญานี้ก็คือความเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่ามันไม่มีตัวตนของเราและของใครๆอยู่จริง

การจะเกิดปัญญาขึ้นมาได้จะต้องใช้เหตุผลจากสิ่งที่เราทุกคนมีอยู่จริงมาพิจารณาถึงเหตุและปัจจัยที่มาปรุงแต่งให้เกิดร่างกายและจิตใจขึ้นมา ซึ่งก็จะทำให้เกิดความเข้าใจอย่างแจ่มชัดในเรื่องความเป็นอนัตตา (ไม่ใช่อัตตา) ของร่างกายและจิตใจ

เมื่อเข้าใจถึงความเป็นอนัตตาแล้ว บวกกับการมีสมาธิ จึงทำให้ความยึดถือว่ามีตัวเราในร่างกายและจิตใจนี้หายไป (แม้เพียงชั่วคราว) เมื่อความยึดถือหายไป จิตก็จะนิพพาน แต่ถ้ายังไม่เข้าใจถึงความเป็นอนัตตาก็จะยังไม่มีปัญญามาทำให้ความยึดถือหายไปได้จริง (แม้เพียงชั่วคราว) คือยังมีความรู้สึกว่ามีตัวเราอยากหลุดพ้นหรืออยากนิพพานอยู่ ดังนั้นจิตมันจึงไม่นิพพานจริง

ถ้าเป็นความอยากจะหลุดพ้นหรืออยากนิพพานต่อเมื่อตายไปแล้ว ก็เป็นความเข้าใจผิดว่ามีตัวเรา (อัตตา) ที่อยากจะดับสูญ เพราะเข้าใจว่านิพพานคือการตายแล้วดับสูญ (อุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ)

สรุปว่า คนที่อยากหลุดพ้น อยากนิพพานนั้น เป็นคนที่มีความเข้าใจผิดว่ามีตนเองที่มีความทุกข์ จึงอยากจะได้สภาวะที่ดีที่ไม่มีทุกข์เพื่อตัวเอง ซึ่งความเข้าใจผิดนี้ก็เป็นความเห็นผิดที่ทำให้ไม่พ้นทุกข์หรือไม่นิพพานจริงในปัจจุบัน และยังทำให้งมงายว่าจะมีนิพพานต่อเมื่อตายไปแล้วอีกด้วย จะต้องมีความเข้าใจอย่างถูกต้องว่ามันไม่มีตัวเราอยู่จริงก่อน จิตจึงจะปล่อยวางความยึดถือว่ามีตัวเราลงได้จริงๆ และทำให้จิตหลุดพ้นจากความทุกข์ได้จริง และนิพพานได้จริงโดยไม่ต้องมีความอยากใดๆที่เป็นกิเลสเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่