ถ้าพูดถึงร้านแหลมเกตุ หรือ Laemgate หลาย ๆ คนที่ติดตามเรื่องอาหารคงรู้จักกันดีเพราะก่อนหน้านี้ร้าน Laemgate จะอยู่ในโครงการ Rain Hill ถนนสุขุมวิท และโด่งดังด้วย Promotion ที่เป็นบุฟเฟต์อาหารทะเล แต่ตอนนี้ร้าน Laemgate ได้ย้ายมาอยู่ในซอยพหลโยธินซอย 11 ที่ทำร้านออกมาได้ดูดีกว่าเดิม พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าเดิม และมีโปรที่สุดคุ้มกว่าเดิม
อย่างที่บอกว่าร้าน Laemgate ย้ายมาอยู่ในซอย พหลโยธิน 11 ถ้ามาจากสนามเป้า ผ่านซอยอารีย์ สังเกตทางซ้ายมือจะเจอซอย พหลโยธิน 11 เลี้ยวเข้าไปประมาณสัก 500 เมตร จะเจอร้าน Laemgate อยู่ทางด้านซ้ายมือ ในรั้วสีฟ้า ๆ มีป้ายโปรโมชั่นร้านบอกชัดเจน (ตรงข้ามโครงการ The Crest)
บรรยากาศโดยรอบร้านก็เน้นเป็นแนว English Garden คือ ถ้านั่งข้างนอกก็จะเหมือนเรานั่งอยู่ในสวน แต่ถ้าเรานั่งด้านในก็จะเหมือนเรานั่งกินอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นโต๊ะเรียบ ๆ ง่าย ๆ ทางร้านต้องการเน้นในเรื่องของความง่าย สะดวกสบาย ให้ลูกค้าสบายใจเมื่อได้มากินอาหาร
เมื่อร้านย้ายสถานที่ตั้ง ก็ต้องมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ใหม่ ๆ เท่าที่ผมสังเกตก็มีอยู่หลายอย่างพอสมควร งั้นผมจะรีวิวให้เห็นว่าสิ่งที่เปลี่ยนนั่นมีอะไรกันบ้างนะครับ
1. รูปแบบเมนู เพราะปกติร้าน Laemgate เดิมจะมีทั้ง Buffet และ A-la-Carte แต่ที่ใหม่นี้มีแต่ Buffet เท่านั้น และมีราคาเดียวคือ 555 บาท(net) / ท่าน
2. จำนวนเมนูอาหารที่เพิ่มขึ้น แบบเก่าคือ 499 บาท(net) / ท่าน อาหาร 9 อย่าง แต่ที่ใหม่นี้มีราคาเดียวตือ 555 บาท(net) / ท่าน อาหารประมาณ 23 อย่าง และรวมเครื่องดื่ม หวานเย็น และโรตี ด้วย
3. แบ่งการมาใช้บริการออกเป็นรอบ ๆ คือ ที่เก่าใครมาตอนไหนก็จับเวลาถัดไป 2 ชม. แต่ที่ใหม่นี้แบ่งเป็นรอบ ๆ มีทั้งหมด 4 รอบ / วัน รอบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มตั้งแต่
• รอบที่ 1 : 11.30 – 13.00 น.
• รอบที่ 2 : 13.30 – 15.00 น.
• รอบที่ 3 : 17.30 – 19.00 น.
• รอบที่ 4 : 19.30 – 21.00 น.
รู้เรื่องรอบการให้บริการกันแล้วก็ไปกันให้ตรงรอบด้วยนะครับ เดี๋ยวไม่งั้นไม่ได้กิน ต้องนั่งรอนะครับ แล้วอยากบอกว่าร้านใหญ่ขึ้นก็จริง แต่ช่วงกลางวันโต๊ะข้างนอกน่าจะยังนั่งไม่ได้เพราะแดดร้อน ถ้าใครที่จะไปตอนกลางวันดทรจองโต๊ะด้านในกันสักหน่อยก็ดีนะครับ
4. ปริมาณอาหารต่อจานน้อยลง อย่าง ปลากะพงทอดน้ำปลาจากที่เคยให้เป็นตัว ก็มาเป็นชิ้น ๆ แทน อย่างเกี๊ยวกุ้งที่เคยให้เป็นชาม ก็มาเป็นถ้วยแทน แต่เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะว่าทำให้เราสามารถแบ่งกระเพาะไว้กินอย่างอื่นได้หลาย ๆ อย่าง เพราะบุฟเฟต์ราคาใหม่นี้มีเมนูเยอะกว่าเดิมเยอะมาก ส่วนเรื่องคุณภาพก็สดใหม่คับแก้วเหมือนเดิม
เราก็พอทราบเรื่องข้อมูลร้าน Laemgate ที่พหลโยธิน 11 กันไปพอสมควรแล้วคราวนี้เราก็มาดูเมนูที่รวมอยู่ใน Buffet 555 บาท(net) / ท่าน กันสักหน่อยว่ามีอะไรบ้าง
1. หอยนางรมสด
2. กรรเชียงปู + ก้ามปู ผัดผงกระหรี่
3. หมึกผัดไข่เค็ม
4. ปลาทอดน้ำปลา
5. น้ำพริกไข่ปู
6. เกี๊ยวกุ้ง
7. หมูคำหวาน
8. ลูกชิ้นปลาอินทรีย์
9. เนื้อปลาลวกจิ้ม
10. ทะเลลวกจิ้ม
11. ยำทะเล
12. กุ้งแช่น้ำปลา
13. กุ้งอบเกลือ
14. หอยแมลงภู่อบ
15. ข้าวผัดก้ามปู
16. ต้มยำทะเลน้ำข้น
17. ส้มตำนางฟ้า
18. ทอดมันปลา
19. คั่วกลิ้งทะเล
20. ปีกไก่ทอด
21. แกงเหลืองไหลบัว ปลาดอลลี่
22. ผัดผักใส่กุ้ง
23. กระหล่ำปลีทอดน้ำปลา
24. น้ำชาดอกไม้
25. หวานเย็น
26. โรตี
เป็นอย่างไรบ้างเมนูเยอะมาก ถ้าไปกัน 2-3 คน น่าจะกินได้ครบทุกเมนูนี้ยังยากเลย อาจจะต้องไปสัก 4-5 คน น่าจะกินได้หมด ซึ่งวันที่ผมไปริวิว ก็ไปไม่ถึง 4 คน เลยได้เลือกรีวิวอาหารที่น่าสนใจมาให้ดูกันแล้วกันนะครับ เรื่องความสดผมให้เต็ม แต่เรื่องรสชาตินั้นแต่ละคนก็วัดกันยาก สำหรับผมผมว่ามีบางเมนูที่ยังไม่ค่อยโดน และก็มีบางเมนูที่อร่อยควรค่าแก่การลองผมจะวงเล็บว่า Recommend ไว้ท้ายชื่อเมนูแล้วกันนะครับ เรามาลองไล่เรียงไปแต่ละเมนูเลยแล้วกันครับ
หอยนางรมสด (Recommend)
เนื้อแน่น หวาน อร่อยเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าหอยจะตัวเล็กและอวบน้อยลงหน่อย เพราะภาพหอยนางรมที่ติดตาของร้าน Laemgate คือหอยอวบ อ้วน ตัวใหญ่คับฝาเลย เนื้อแน่น สด เด้งมาก แต่ครั้งนี้ก็ยังรู้สึกอร่อยอยู่แต่ไม่เท่าครั้งผ่าน ๆ มา
กรรเชียงปู + ก้ามปู ผัดผงกระหรี่
ทำได้นัวดีมากเลย เนื้อเป็นเนื้อ กรรเชียงเป็นกรรเชียง รสชาติเข้มข้น แต่วันนี้ผมว่าเค้าผัดออกหวานไปหน่อย
หมึกผัดไข่เค็ม (Recommend)
เมนูนี้ต้องลองให้ได้ครับผมว่ามันเข้มข้นมาก ๆ หลงรักเลยเมนูนี้ ปลาหมึกที่เนื้อนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ เด้ง ๆ มีไข่เค็มผัดรสชาติเข้มข้นมาเคลือบอยู่ที่ผิวปลาหมึกทำให้ได้รสชออกเค็ม ๆ มัน ๆ มันอร่อยมากจริง ๆ แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารมัน ๆ ผมก็แนะนำว่าให้ช้อนน้ำมันออกสักหน่อยครับ จะทำให้มันน้อยลง แต่แนะนำจริง ๆ ครับ
ปลาทอดน้ำปลา (Recommend)
แม้เนื้อจะไม่ฟูเหมือนทอดเป็นตัว แต่รสชาติของปลา ซอสน้ำปลา และน้ำจิ้มแบบยำมะม่วงนั้นอร่อยเด็ดเลยครับ โดยเฉพาะน้ำยำมะม่วง ข้อดีของการเสิร์ฟเป็นชิ้น ๆ แบบนี้ก็ทำให้เรากินง่ายดี แต่ถ้าถามผม ผมชอบแบบที่ทอดทั้งตัวมากกว่าครับ ได้เนื้อที่นุ่มฟูกว่าครับ
เกี๊ยวกุ้ง (Recommend)
อร่อยล้ำโลก เหมือนเดิม ยังคงหาร้านที่ทำเกี๊ยวกุ้งออกมาได้ดีขนาดนี้ไม่ได้เลย นอกจากทำกินเอง เพราะเค้าให้เนื้อกุ้งแบบเต็ม ๆ ไส้นี่แทบล้นแป้งเกี๊ยวออกมาแล้ว และแป้งเกี๊ยวที่นี่ก็บางมาก ไม่ให้ความรู้สึกว่ากระด้างหรือกำลังกินแผ่นแป้งอยู่เลย เพราะเกี๊ยวบางที่นี่กัดไปเจอแต่แป้งไม่เจอไส้แทบอยากคายทิ้ง แต่ที่นี่อร่อยมาก ชอบมากครับ
หมูคำหวาน (Recommend)
นี่ก็เป็นอีกเมนูที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าร้านอาหารทะเลจะทำออกมาได้อร่อยสุด ๆ ขนาดนี้ ต้องขอบอกก่อนว่าถ้าใครที่ไม่ชอบหมูย่างมัน ๆ ที่ใช้ส่วนสันคอมาทำ ก็ไม่แนะนำครับ แต่พอจะแจ้งทางพนักงานได้ครับว่าเอาชิ้นที่มันน้อย ๆ ก็โอเคอยู่ครับ เพราะเนื้อหมูที่ย่างออกมานั้นรสชาติกำลังดี และนุ่มมาก มีกลิ่นหอมนิด ๆ กินกับน้ำจิ้มซีฟูดส์รสจัดจ้าน แกล้มกับก้านคะน้ากรอบ ๆ เย็น ๆ เป็นอะไรที่สุด ๆ แล้วครับ
เนื้อปลาลวกจิ้ม
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นเนื้อปลาเก๋า เพราะดูจากหนังปลาและเนื้อปลาแล้วคิดว่าน่าจะใช่ ซึ่งปกติเนื้อปลาเก๋าที่ขายตามภัตตาคารก็แพงอยู่นะ แต่ที่ร้าน Laemgate นี่เอามาอยู่ใน Buffet กันเลยทีเดียว ส่วนน้ำจิ้มนั้นเด็ดแน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าทางร้านเค้ามีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวให้ด้วยหรือเปล่าอาจจะต้องลองขอกันดูครับ
ทะเลลวกจิ้ม(Recommend)
ก็มีทั้งปลาหมีก กุ้ง และลูกชิ้นปลาอินทรีย์ ลวกรวมกันมาในจานเดียว เมนูลูกชิ้นปลาอินทรีย์นี้ ก็หากินยากครับ เพราะว่าขึ้นชื่อว่าลูกชิ้น ตามร้านทั่วไปก็จะมีแป้งผสมอยู่แล้ว แต่ที่ร้าน Laemgate ทำลูกชิ้นนี้จากเนื้อปลาอินทรีย์ล้วน ๆ แบบสัมผัสได้เลยเพราะเนื้อนั้นแน่น เด้ง เหนียวหนึบ ตามตำรับการนวดเนื้อปลาให้เป็นลูกชิ้นเลย ส่วนกุ้งกับหมึกก็สดดีทุกอย่างเลยครับ น้ำจิ้มก็เป็นน้ำจิ้มซีฟูดส์สูตรเด็ดของทางร้านถือว่าเป็นน้ำจิ้มเอนกประสงค์มาก ๆ กินได้กับทุกเมนูของทางร้านจริง ๆ
กุ้งแช่น้ำปลา
ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นเมนูนี้ คิดว่าไม่อยากกินเท่าไหร่จริง ๆ เพราะกุ้งค่อนข้างจะตัวเล็กไปหน่อย และก็ดูไม่ค่อยน่ากิน แต่พอราดน้ำจิ้มซีฟูดส์แล้วลองกินก็รับรู้ได้ถึงความสดของกุ้ง ถึงแม้จะตัวเล็กแต่เนื้อหวาน เด้ง มากครับ คราวนี้วิธีแก้ของผมคือกินมันทีละ 3-4 ตัวให้เต็มคำเหมือนกินกุ้งตัวใหญ่แทนครับ อร่อยดี
กุ้งอบเกลือ (Recommend)
เมนูนี้ใช้กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ดีครับ 8 ตัวเต็มจานเลย การเลือกกุ้งขนาดกำลังดีนี้ ทำให้เนื้อไม่แข็งกระด้าง เวลาเอาไปอบแล้วเนื้อยังคงนุ่ม เด้งอยู่ เปลือกแกะง่าย จานนี้แทบไม่ต้องจิ้มอะไรเลยเพราะเนื้อกุ้งอร่อยอยู่แล้วและมีความเค็มของเกลือนิดหน่อยอยู่ด้วยกินเลยก็อร่อย หรือใครอยากจิ้มน้ำจิ้มซีฟูดส์ก็อร่อยจัดจ้านดีครับ
หอยแมลงภู่อบ
เมนูนี้ปกติครับ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์กัน เพราะหลาย ๆ ที่ก็ได้เอาหอยนิวซีแลนด์มาใช้ทั้งนั้นเพราะตัวเต็มฝามาก แต่กลิ่นและรสชาติของหองแมลงภู่ไทยนั้นเป็นยังไง บางคนอาจลืมไปบ้าง ฉะนั้นเวลาไปร้าน Laemgate ก็ลองไปสั่งกินดูได้ครับ มันจะออกหวาน หอม นิด ๆ กว่าหอยนิวซีแลนด์ แต่เรื่องขนาดนี่ไม่ต้องไปเทียบนะครับสู้ไม่ได้อยู่แล้ว
ข้าวผัดก้ามปู
ผัดมาได้อร่อยดีครับ ข้าวเรียงเม็ด นุ่ม เลย มีกลิ่นหอมนิด ๆ รสชาติดี มีเนื้อก้ามปูม้าอยู่บ้าง ไม่ได้เยอะแต่เป็นก้ามจริง ๆ ไม่ได้ยุ่ยเป็นเศษ ๆ เส้น ๆ เหมือนร้านทั่วไป และเสิร์ฟมาในภาชนะอะลูมิเนียม เหมือนไข่กระทะ น่ารักดีครับ
ต้มยำทะเลน้ำข้น
ดูสีสันเข้มข้นน่ากินดี เป็นสูตรน้ำข้น ผมเดาว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบ แต่สำหรับผม ผมชอบตรงความเข้มข้นของเครื่องต้มยำเพราะถึงเครื่องมากให้กลิ่นสมุนไพรได้ดี แต่เรื่องรสชาติผมว่ามันออกหวานไปนิด เพราะอะไรที่กินกับอาหารทะเลมันควรจะเปรี้ยว เค็ม เผ็ด มันถึงจะเข้ากันมากกว่า แต่ผมก็เห็นหลาย ๆ คนชอบรสต้มยำแบบนี้นะ เลยคิดว่าน่าจะมีหลายคนชอบอยู่ครับ
[SR] Laemgate ร้านอาหารทะเลบุฟเฟ่ต์ ที่ส่งตรงความสดจาก ศรีราชา ย้ายร้านมาอยู่ที่ พหลโยธินซอย 11
ถ้าพูดถึงร้านแหลมเกตุ หรือ Laemgate หลาย ๆ คนที่ติดตามเรื่องอาหารคงรู้จักกันดีเพราะก่อนหน้านี้ร้าน Laemgate จะอยู่ในโครงการ Rain Hill ถนนสุขุมวิท และโด่งดังด้วย Promotion ที่เป็นบุฟเฟต์อาหารทะเล แต่ตอนนี้ร้าน Laemgate ได้ย้ายมาอยู่ในซอยพหลโยธินซอย 11 ที่ทำร้านออกมาได้ดูดีกว่าเดิม พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าเดิม และมีโปรที่สุดคุ้มกว่าเดิม
อย่างที่บอกว่าร้าน Laemgate ย้ายมาอยู่ในซอย พหลโยธิน 11 ถ้ามาจากสนามเป้า ผ่านซอยอารีย์ สังเกตทางซ้ายมือจะเจอซอย พหลโยธิน 11 เลี้ยวเข้าไปประมาณสัก 500 เมตร จะเจอร้าน Laemgate อยู่ทางด้านซ้ายมือ ในรั้วสีฟ้า ๆ มีป้ายโปรโมชั่นร้านบอกชัดเจน (ตรงข้ามโครงการ The Crest)
บรรยากาศโดยรอบร้านก็เน้นเป็นแนว English Garden คือ ถ้านั่งข้างนอกก็จะเหมือนเรานั่งอยู่ในสวน แต่ถ้าเรานั่งด้านในก็จะเหมือนเรานั่งกินอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นโต๊ะเรียบ ๆ ง่าย ๆ ทางร้านต้องการเน้นในเรื่องของความง่าย สะดวกสบาย ให้ลูกค้าสบายใจเมื่อได้มากินอาหาร
เมื่อร้านย้ายสถานที่ตั้ง ก็ต้องมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ใหม่ ๆ เท่าที่ผมสังเกตก็มีอยู่หลายอย่างพอสมควร งั้นผมจะรีวิวให้เห็นว่าสิ่งที่เปลี่ยนนั่นมีอะไรกันบ้างนะครับ
1. รูปแบบเมนู เพราะปกติร้าน Laemgate เดิมจะมีทั้ง Buffet และ A-la-Carte แต่ที่ใหม่นี้มีแต่ Buffet เท่านั้น และมีราคาเดียวคือ 555 บาท(net) / ท่าน
2. จำนวนเมนูอาหารที่เพิ่มขึ้น แบบเก่าคือ 499 บาท(net) / ท่าน อาหาร 9 อย่าง แต่ที่ใหม่นี้มีราคาเดียวตือ 555 บาท(net) / ท่าน อาหารประมาณ 23 อย่าง และรวมเครื่องดื่ม หวานเย็น และโรตี ด้วย
3. แบ่งการมาใช้บริการออกเป็นรอบ ๆ คือ ที่เก่าใครมาตอนไหนก็จับเวลาถัดไป 2 ชม. แต่ที่ใหม่นี้แบ่งเป็นรอบ ๆ มีทั้งหมด 4 รอบ / วัน รอบละ 1 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มตั้งแต่
• รอบที่ 1 : 11.30 – 13.00 น.
• รอบที่ 2 : 13.30 – 15.00 น.
• รอบที่ 3 : 17.30 – 19.00 น.
• รอบที่ 4 : 19.30 – 21.00 น.
รู้เรื่องรอบการให้บริการกันแล้วก็ไปกันให้ตรงรอบด้วยนะครับ เดี๋ยวไม่งั้นไม่ได้กิน ต้องนั่งรอนะครับ แล้วอยากบอกว่าร้านใหญ่ขึ้นก็จริง แต่ช่วงกลางวันโต๊ะข้างนอกน่าจะยังนั่งไม่ได้เพราะแดดร้อน ถ้าใครที่จะไปตอนกลางวันดทรจองโต๊ะด้านในกันสักหน่อยก็ดีนะครับ
4. ปริมาณอาหารต่อจานน้อยลง อย่าง ปลากะพงทอดน้ำปลาจากที่เคยให้เป็นตัว ก็มาเป็นชิ้น ๆ แทน อย่างเกี๊ยวกุ้งที่เคยให้เป็นชาม ก็มาเป็นถ้วยแทน แต่เรื่องนี้ผมมองว่าเป็นข้อดีนะ เพราะว่าทำให้เราสามารถแบ่งกระเพาะไว้กินอย่างอื่นได้หลาย ๆ อย่าง เพราะบุฟเฟต์ราคาใหม่นี้มีเมนูเยอะกว่าเดิมเยอะมาก ส่วนเรื่องคุณภาพก็สดใหม่คับแก้วเหมือนเดิม
เราก็พอทราบเรื่องข้อมูลร้าน Laemgate ที่พหลโยธิน 11 กันไปพอสมควรแล้วคราวนี้เราก็มาดูเมนูที่รวมอยู่ใน Buffet 555 บาท(net) / ท่าน กันสักหน่อยว่ามีอะไรบ้าง
1. หอยนางรมสด
2. กรรเชียงปู + ก้ามปู ผัดผงกระหรี่
3. หมึกผัดไข่เค็ม
4. ปลาทอดน้ำปลา
5. น้ำพริกไข่ปู
6. เกี๊ยวกุ้ง
7. หมูคำหวาน
8. ลูกชิ้นปลาอินทรีย์
9. เนื้อปลาลวกจิ้ม
10. ทะเลลวกจิ้ม
11. ยำทะเล
12. กุ้งแช่น้ำปลา
13. กุ้งอบเกลือ
14. หอยแมลงภู่อบ
15. ข้าวผัดก้ามปู
16. ต้มยำทะเลน้ำข้น
17. ส้มตำนางฟ้า
18. ทอดมันปลา
19. คั่วกลิ้งทะเล
20. ปีกไก่ทอด
21. แกงเหลืองไหลบัว ปลาดอลลี่
22. ผัดผักใส่กุ้ง
23. กระหล่ำปลีทอดน้ำปลา
24. น้ำชาดอกไม้
25. หวานเย็น
26. โรตี
เป็นอย่างไรบ้างเมนูเยอะมาก ถ้าไปกัน 2-3 คน น่าจะกินได้ครบทุกเมนูนี้ยังยากเลย อาจจะต้องไปสัก 4-5 คน น่าจะกินได้หมด ซึ่งวันที่ผมไปริวิว ก็ไปไม่ถึง 4 คน เลยได้เลือกรีวิวอาหารที่น่าสนใจมาให้ดูกันแล้วกันนะครับ เรื่องความสดผมให้เต็ม แต่เรื่องรสชาตินั้นแต่ละคนก็วัดกันยาก สำหรับผมผมว่ามีบางเมนูที่ยังไม่ค่อยโดน และก็มีบางเมนูที่อร่อยควรค่าแก่การลองผมจะวงเล็บว่า Recommend ไว้ท้ายชื่อเมนูแล้วกันนะครับ เรามาลองไล่เรียงไปแต่ละเมนูเลยแล้วกันครับ
หอยนางรมสด (Recommend)
เนื้อแน่น หวาน อร่อยเหมือนเดิม แต่รู้สึกว่าหอยจะตัวเล็กและอวบน้อยลงหน่อย เพราะภาพหอยนางรมที่ติดตาของร้าน Laemgate คือหอยอวบ อ้วน ตัวใหญ่คับฝาเลย เนื้อแน่น สด เด้งมาก แต่ครั้งนี้ก็ยังรู้สึกอร่อยอยู่แต่ไม่เท่าครั้งผ่าน ๆ มา
กรรเชียงปู + ก้ามปู ผัดผงกระหรี่
ทำได้นัวดีมากเลย เนื้อเป็นเนื้อ กรรเชียงเป็นกรรเชียง รสชาติเข้มข้น แต่วันนี้ผมว่าเค้าผัดออกหวานไปหน่อย
หมึกผัดไข่เค็ม (Recommend)
เมนูนี้ต้องลองให้ได้ครับผมว่ามันเข้มข้นมาก ๆ หลงรักเลยเมนูนี้ ปลาหมึกที่เนื้อนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ เด้ง ๆ มีไข่เค็มผัดรสชาติเข้มข้นมาเคลือบอยู่ที่ผิวปลาหมึกทำให้ได้รสชออกเค็ม ๆ มัน ๆ มันอร่อยมากจริง ๆ แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารมัน ๆ ผมก็แนะนำว่าให้ช้อนน้ำมันออกสักหน่อยครับ จะทำให้มันน้อยลง แต่แนะนำจริง ๆ ครับ
ปลาทอดน้ำปลา (Recommend)
แม้เนื้อจะไม่ฟูเหมือนทอดเป็นตัว แต่รสชาติของปลา ซอสน้ำปลา และน้ำจิ้มแบบยำมะม่วงนั้นอร่อยเด็ดเลยครับ โดยเฉพาะน้ำยำมะม่วง ข้อดีของการเสิร์ฟเป็นชิ้น ๆ แบบนี้ก็ทำให้เรากินง่ายดี แต่ถ้าถามผม ผมชอบแบบที่ทอดทั้งตัวมากกว่าครับ ได้เนื้อที่นุ่มฟูกว่าครับ
เกี๊ยวกุ้ง (Recommend)
อร่อยล้ำโลก เหมือนเดิม ยังคงหาร้านที่ทำเกี๊ยวกุ้งออกมาได้ดีขนาดนี้ไม่ได้เลย นอกจากทำกินเอง เพราะเค้าให้เนื้อกุ้งแบบเต็ม ๆ ไส้นี่แทบล้นแป้งเกี๊ยวออกมาแล้ว และแป้งเกี๊ยวที่นี่ก็บางมาก ไม่ให้ความรู้สึกว่ากระด้างหรือกำลังกินแผ่นแป้งอยู่เลย เพราะเกี๊ยวบางที่นี่กัดไปเจอแต่แป้งไม่เจอไส้แทบอยากคายทิ้ง แต่ที่นี่อร่อยมาก ชอบมากครับ
หมูคำหวาน (Recommend)
นี่ก็เป็นอีกเมนูที่ผมไม่เคยคิดเลยว่าร้านอาหารทะเลจะทำออกมาได้อร่อยสุด ๆ ขนาดนี้ ต้องขอบอกก่อนว่าถ้าใครที่ไม่ชอบหมูย่างมัน ๆ ที่ใช้ส่วนสันคอมาทำ ก็ไม่แนะนำครับ แต่พอจะแจ้งทางพนักงานได้ครับว่าเอาชิ้นที่มันน้อย ๆ ก็โอเคอยู่ครับ เพราะเนื้อหมูที่ย่างออกมานั้นรสชาติกำลังดี และนุ่มมาก มีกลิ่นหอมนิด ๆ กินกับน้ำจิ้มซีฟูดส์รสจัดจ้าน แกล้มกับก้านคะน้ากรอบ ๆ เย็น ๆ เป็นอะไรที่สุด ๆ แล้วครับ
เนื้อปลาลวกจิ้ม
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นเนื้อปลาเก๋า เพราะดูจากหนังปลาและเนื้อปลาแล้วคิดว่าน่าจะใช่ ซึ่งปกติเนื้อปลาเก๋าที่ขายตามภัตตาคารก็แพงอยู่นะ แต่ที่ร้าน Laemgate นี่เอามาอยู่ใน Buffet กันเลยทีเดียว ส่วนน้ำจิ้มนั้นเด็ดแน่นอน แต่ไม่แน่ใจว่าทางร้านเค้ามีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวให้ด้วยหรือเปล่าอาจจะต้องลองขอกันดูครับ
ทะเลลวกจิ้ม(Recommend)
ก็มีทั้งปลาหมีก กุ้ง และลูกชิ้นปลาอินทรีย์ ลวกรวมกันมาในจานเดียว เมนูลูกชิ้นปลาอินทรีย์นี้ ก็หากินยากครับ เพราะว่าขึ้นชื่อว่าลูกชิ้น ตามร้านทั่วไปก็จะมีแป้งผสมอยู่แล้ว แต่ที่ร้าน Laemgate ทำลูกชิ้นนี้จากเนื้อปลาอินทรีย์ล้วน ๆ แบบสัมผัสได้เลยเพราะเนื้อนั้นแน่น เด้ง เหนียวหนึบ ตามตำรับการนวดเนื้อปลาให้เป็นลูกชิ้นเลย ส่วนกุ้งกับหมึกก็สดดีทุกอย่างเลยครับ น้ำจิ้มก็เป็นน้ำจิ้มซีฟูดส์สูตรเด็ดของทางร้านถือว่าเป็นน้ำจิ้มเอนกประสงค์มาก ๆ กินได้กับทุกเมนูของทางร้านจริง ๆ
กุ้งแช่น้ำปลา
ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นเมนูนี้ คิดว่าไม่อยากกินเท่าไหร่จริง ๆ เพราะกุ้งค่อนข้างจะตัวเล็กไปหน่อย และก็ดูไม่ค่อยน่ากิน แต่พอราดน้ำจิ้มซีฟูดส์แล้วลองกินก็รับรู้ได้ถึงความสดของกุ้ง ถึงแม้จะตัวเล็กแต่เนื้อหวาน เด้ง มากครับ คราวนี้วิธีแก้ของผมคือกินมันทีละ 3-4 ตัวให้เต็มคำเหมือนกินกุ้งตัวใหญ่แทนครับ อร่อยดี
กุ้งอบเกลือ (Recommend)
เมนูนี้ใช้กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ดีครับ 8 ตัวเต็มจานเลย การเลือกกุ้งขนาดกำลังดีนี้ ทำให้เนื้อไม่แข็งกระด้าง เวลาเอาไปอบแล้วเนื้อยังคงนุ่ม เด้งอยู่ เปลือกแกะง่าย จานนี้แทบไม่ต้องจิ้มอะไรเลยเพราะเนื้อกุ้งอร่อยอยู่แล้วและมีความเค็มของเกลือนิดหน่อยอยู่ด้วยกินเลยก็อร่อย หรือใครอยากจิ้มน้ำจิ้มซีฟูดส์ก็อร่อยจัดจ้านดีครับ
หอยแมลงภู่อบ
เมนูนี้ปกติครับ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์กัน เพราะหลาย ๆ ที่ก็ได้เอาหอยนิวซีแลนด์มาใช้ทั้งนั้นเพราะตัวเต็มฝามาก แต่กลิ่นและรสชาติของหองแมลงภู่ไทยนั้นเป็นยังไง บางคนอาจลืมไปบ้าง ฉะนั้นเวลาไปร้าน Laemgate ก็ลองไปสั่งกินดูได้ครับ มันจะออกหวาน หอม นิด ๆ กว่าหอยนิวซีแลนด์ แต่เรื่องขนาดนี่ไม่ต้องไปเทียบนะครับสู้ไม่ได้อยู่แล้ว
ข้าวผัดก้ามปู
ผัดมาได้อร่อยดีครับ ข้าวเรียงเม็ด นุ่ม เลย มีกลิ่นหอมนิด ๆ รสชาติดี มีเนื้อก้ามปูม้าอยู่บ้าง ไม่ได้เยอะแต่เป็นก้ามจริง ๆ ไม่ได้ยุ่ยเป็นเศษ ๆ เส้น ๆ เหมือนร้านทั่วไป และเสิร์ฟมาในภาชนะอะลูมิเนียม เหมือนไข่กระทะ น่ารักดีครับ
ต้มยำทะเลน้ำข้น
ดูสีสันเข้มข้นน่ากินดี เป็นสูตรน้ำข้น ผมเดาว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบ แต่สำหรับผม ผมชอบตรงความเข้มข้นของเครื่องต้มยำเพราะถึงเครื่องมากให้กลิ่นสมุนไพรได้ดี แต่เรื่องรสชาติผมว่ามันออกหวานไปนิด เพราะอะไรที่กินกับอาหารทะเลมันควรจะเปรี้ยว เค็ม เผ็ด มันถึงจะเข้ากันมากกว่า แต่ผมก็เห็นหลาย ๆ คนชอบรสต้มยำแบบนี้นะ เลยคิดว่าน่าจะมีหลายคนชอบอยู่ครับ