หลังจากที่กระทู้ที่แล้วทำ "ชาชู" ไปแล้ว และประสบผลสำเร็จ เที่ยวนี้ลองมาทำเป็นหมูสะเต๊ะดูบ้าง จริงๆไม่ใช่อะไรหรอก หัดมัดเชือกเฉยๆแหละ
เข้าเรื่องเลยดีกว่า แยะเตรียมการ 2 ส่วนเช่นเคย
1. น้ำหมัก
- กะทิกล่อง แต่ถ้ามีเวลามากจะใช้กะทิคั้นจะดีกว่า เพราะกลิ่นมันคนละเรื่องเลย
- น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น(ถ้าอยากให้ได้กลิ่นกะทิหอมๆเหมือนกะทิคั้น อันนี้จะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้)
- ขมิ้นเหลือง
- ลูกผักชีคั่ว
- พริกไทยดำป่น
- เกลือ
- น้ำตาลปี๊บ
- หอมแดง
- ผงกะหรี่


การเตรียมการ

- เริ่มด้วยการโขลกของแห้งให้ละเอียดก่อน จากนั้นจึงใส่ขมิ้นลงไปโขลก แล้วตามด้วยหอมแดงและน้ำตาลปี๊บ(น้ำตาลจะใส่ทีหลังก็ได้)
- เอากะทิไปเคี่ยว พอเริ่มร้อนก็ใส่เครื่องแกงลงไป ช่วงนี้ก็ปรุงรสได้เลย ด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลาหรือเกลือ พอได้ที่แล้วก็ปิดเตา ทิ้งไว้ให้เย็น

2. หมู

- เที่ยวนี้ดันพลาดเอาคอหมูที่มันหนาๆมา แนะนำให้เอาไขมันออกหรือเลือกคอหมูที่เนื้อเยอะๆจะดีกว่า นำหมูมาตัดแต่งให้หนาเสมอกัน จากนั้นก็ใช้ค้อนทุบชิ้นเนื้อให้ทั่ว แล้วเอาไปใส่ชามไว้
- นำน้ำหมักที่เตรียมไว้เทใส่ลงไป นวดเนื้อสักครู่ แล้วม้วนให้เป็นแท่ง มัดด้วยเชือกให้แน่น จากนั้นจึงใส่ถุง zip ไล่อากาศออกให้หมดแล้วทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 วัน

การทำ
- เที่ยวนี้ผมจะใช้วิธีเดียวกับชาชูนะครับ ต่างกันแค่ไม่ได้เอาไปต้มเท่านั้น นี่คือหน้าตาหมูที่ได้

- ก่อนอื่นก็เอาไปนานกระทะสักหน่อยก่อน เพื่อให้คงรูปและผิวสวย เพราะงานนี้เราจะใช้เตาอบ

- จากนั้นก็ส่งเข้าเตาอบ ใช้ไฟต่ำ แค่ 120-150 พอ เกินกว่านี้มันจะไหม้เอาง่ายๆ ผมต้องการแค่ให้หมูสุกได้ที่เท่านั้นเอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

- อบเสร็จละ....

- อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า ไขมันมันเยอะไป หนาไป พอหั่นออกมาหมูมันจะไม่ติดกัน

- แต่ถ้าไขมันไม่หนามากหรือเป็นส่วนเนื้อเยอะ หมูจะติดกันสวยน่ากิน

.
..
...
สรุปปิดท้ายสำหรับหมูสะเต๊ะจานนี้
- เนื้อนุ่มอยู่แล้วเพราะเป็นคอหมู ไขมันแทรกมาก
- ได้รสหวานนิดๆ ทั้งจากน้ำหมักและตัวเนื้อหมูเอง
- ความหอมมาเต็มเพราะใช้ทั้งขมิ้นและผงกะหรี่
- น้ำจิ้มไม่ได้ทำนะครับ ขี้เกียจ


สวัสดี....