ไม่ใช่หมูตกน้ำ แต่เป็นหมูน้ำตก

วันนี้วันดี วันเสาร์อีกแล้ว จะได้ไปถวายอาหารพระอาจารย์ที่วัด และเป็นอาหารมื้อเช้าครั้งแรกของลูกชายคนโปรดที่เพิ่งกลับจากเข้าค่ายเมื่อวาน ต้องเติมเนื้อให้ซักหน่อย เลยจะทำหมูน้ำตกกินกันครับ

เลือกเนื้อหมูส่วนที่ท่านชอบกินนั่นแหละ บางคนก็ชอบแบบมันๆหน่อย บางคนก็ชอบเนื้อสัน เอามาตามใจชอบเลยครับ หั่นเป็นชิ้นโตๆหมักด้วยซอสปรุงรสฝาเขียวและพริกไทย

เตรียมเครื่องปรุงและส่วนผสม 

มะเขือเทศ , หอมแดง , สะระแหน่ , ผักชีฝรั่ง มีผักแนมเป็นกระหล่ำปลีกับผักกาดขาวเท่านั้น อย่างอื่นอาจจะลืมเก็บ และหาแตงกวาในตู้ไม่ได้

เครื่องปรุงก็แบบมาตรฐานเลยครับ พริกป่น , น้ำปลา , มะนาว , น้ำตาลทราย และข้าวคั่ว

ก่อไฟเข้าเตานึงครับ ให้ลุกแดงดีแล้วก็กลบด้วยขี้เถ้า เอาตะแกรงวาง เอาเนื้อหมูขึ้นย่าง วิธีย่างมันก็ง่ายๆครับถ้าเราเตรียมไฟได้ดีแล้ว กลบขี้เถ้าพอประมาณให้ไฟโผล่ออกมาหน่อย ถึงจะย่างหมูได้มัน ฉ่ำ และหวาน ถ้าเราปิดไฟจนมิด ได้รับแต่ความร้อนไม่ได้รับไอหรือเปลวไฟโดยตรงเนื้อจะสุกแบบด้านๆ คือสุกพอดีทั้งข้างนอกข้างใน แต่ถ้าไฟโผล่ออกมามากเกิน ส่วนที่เป็นมันหมูจะหยดลงไปมากเกิน ไฟจะลุกและเนื้อจะไหม้เป็นจุดๆ ด้านในก็อาจจะยังไม่สุกแต่ด้านนอกก็เกรียมไปแล้ว

ย่างให้พอสุกหวานๆครับ อันนี้ต้องแยกกัน ของที่โยมจะกินก็ย่างกันอย่างนึง ส่วนของที่ถวายพระก็ย่างให้สุก เพราะพระวินัยมิอาจฉันเนื้อดิบได้  ภิกษุห้ามฉันเนื้อดิบและห้ามรับประเคน ถ้าไม่อยากให้ครูบาอาจารย์ต้องอาบัติปาจิตตีย์ก็ย่างเนื้อให้สุกๆ

การทำน้ำตกนี่มันก็มีหลายระดับเหมือนๆสเต็ก บางคนก็ชอบสุกๆ แต่ส่วนมากแล้วท่านที่ชอบกินเมนูนี้ก็จะย่างแค่พอสุก หรือบางท่านเอาแค่ถูกไฟรอบนอกตรงกลางเนื้อยังแดงๆเย็นๆอยู่ก็มี แบบนี้ก็อาจจะรสหวานกว่าเนื้อที่สุกเลย แต่ก็ระวังโรคที่มาจากการกินเนื้อดิบให้ดี เพื่อโภชนาการที่ถูกต้องก็ผ่านไฟให้มากๆหน่อย

หมูที่สุกได้ที่แล้วก็หั่นหรือซอยเป็นชิ้นบางๆครับ เตรียมเครื่องปรุงใส่กาละมังให้เรียบร้อย เอาเนื้อหมูที่ซอยแล้วลงไป คลุกให้เข้ากันแบบน้อยๆ อย่าคนมากอย่าผสมนาน เนื้อมันจะไม่หวาน เอาแค่พอเข้าถึงเครื่องปรุงรสชาติและรสสัมผัสในการกินจะละมุนละไมที่สุด

จกข้าวเหนียวมาปั้นนึงครับ พิจารณาให้ถ้วนถี่แผ่เมตตา ขอบคุณความอุดมสมบูรณ์ของโลกใบนี้แล้วก็กิน

อ้ำ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่