หน้าหนาว เหมือนจะเป็นฤดูกาลที่เหมาะกับการทำผักกาดจอ  เพราะเท่าที่สังเกตในตลาดผักกาดกวางตุ้งออกดอก
หรือที่คนเหนือชอบเรียกว่าผักกาดจ้อน  จะมีเยอะและราคาค่อนข้างถูก ซึ่งจะต่างกับฤดูอื่นอยู่บ้าง ไม่ใช่ว่าจะมีเอา
ตอนนี้อย่างเดียว  และเป็นผักที่เหมาะที่สุดสำหรับการนำมาทำผักกาดจอเป็นอย่างยิ่ง

20 บาท จากตลาดโปรดดูปริมาณ ไม่น้อยทีเดียว



ผักกาดจอ เป็นอาหารเหนือก็จริง  แต่วิธีทำอาจมีแตกต่างกันไปบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ  ขึ้นอยู่กับความเคยชินหรือวิถีปฏิบัติ
ที่สืบ ๆ ต่อกันมา ของแต่ละท้องถิ่น ที่เหมือนกันแน่ ๆ ของผักกาดจอคือต้องมีการปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะขาม จะเป็นมะขาม
ที่ยังสด ๆ สอยจากต้นหรือมะขามเปียกได้ทั้งนั้น

วันนี้สล่าปู่จอผักกาดใส่กระดูกหมูกับหมูสามชั้น  อันดับแรกคือต้มกระดูกหมูกับสามชั้นให้น้ำแกงออกหวานก่อน  พร้อมนั้น
ใส่ปลาร้า เกลือเม็ด ลงต้มไปด้วย

แล้วจัดการเด็ดผัก เลือกเฉพาะก้านใบที่อ่อน ๆ   ไหน ๆ จอทั้งทีจัดไปอย่างหนักเลย



น้ำแกงหวาน หมูเริ่มจะเปื่อย ใส่ผักลงไป ผักเปื่อยเร็วกว่าหมูต้องใส่ทีหลัง

  



ผักเริ่มนิ่ม ปรุงเปรี้ยวด้วยน้ำมะขามเปียก  กะให้ออกเปรี้ยวนิด ๆ โดยมีเค็มตาม



ทีเด็ดอยู่ที่นี่ครับ  อันนี้ไม่ใช่ข้อจำกัดตายตัวนะครับ จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ อยู่ที่ชอบหรือพอหาได้หรือไม่

ถั่วเน่าแข็บ  บางพื้นที่อาจหาไม่ได้เลยก็มี





หลังจากปิ้งแล้ว  เขาจะกรอบมาก แค่ใช้มือกำแล้วหยำ ๆ  ก็แหลกแล้วครับ  โรยลงไปเลย
เสร็จแล้วคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน  จากผักจอธรรมดาจะเพิ่มกลิ่นที่คลาสสิคขึ้นมาไม่น้อย



หลายท่านอาจเคยเห็นหรือเคยทำผักกาดจอที่โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหรือหอมเจียว นั่นก็ถือว่า
ไม่ผิดไม่ถูก  แต่สล่าปู่ไม่นะครับ มีแค่นี้แหละผักจอสล่าปู่

น้ำพริกตาแดง  พริกแห้งเผาไฟ (พิงไฟ)  จัดว่าถูกคู่แล้วสำหรับการกินผักกาดจอมาแต่โบร่ำโบราณ





ทำไม่ยากครับ แต่ใช้เวลารอหมูเปื่อยหน่อยเท่านั้นเอง  เสร็จแล้วเสริมสวยโรยหน้าด้วยถั่วเน่าแข็บ
ให้ดูดีสักหน่อย  แค่นี้ก็ฟินละครับ  ออกเปรี้ยว ๆ เค็ม หน่อย ๆ  กินผักมีกากไย ท้องไส้สบาย ๆ ครับ





หลายท่านอาจจะอยากทราบว่าถั่วเน่าแข็บกลิ่นและรสชาติมันเป็นอย่างไร  สล่าปู่ลองเอามาโรยกินกับข้าว
เขามีกลิ่นเฉพาะตัวของเขา แบบว่าถ้าชอบก็ชอบไปเลยหรือไม่ชอบก็ไม่ไปเลยงั้นแหละ  ส่วนรสชาติออกเค็ม
นิด ๆ   วิธีทำลองไปเปิดดูที่พี่กูนะครับ  เขาบอกอย่างละเอียดเลย



ขอบคุณที่ติดตามรับชม  สิ่งใดถ้าเป็นที่ถูกใจท่านก็ขอยกให้เป็นคุณความดีกับภูมิปัญญาโบราณของผู้เฒ่าผู้แก่
ที่ทำกับสืบเนื่องต่อมากันอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

สวัสดีครับ