หนอนฯเพิ่งไปเที่ยวเชียงใหม่อย่างสำราญใจมาเมื่อ13-17 พ.ย.
แต่วันที่25พ.ย.ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องขึ้นเชียงใหม่อีกครั้ง
เช้าวันที่27 หนอนฯไปรับใครคนหนึ่งจากสนามบิน ใครคนนั้นไม่หือไม่อือ ไม่แซวไม่อำหนอนฯอีกต่อไป
ใครคนนั้นหลับสบาย ตีตั๋วไปเที่ยวแดนไกล
'ไปไม่ชวน'
เส้นทางเชียงใหม่ผ่านฮอดไปแม่สะเรียงครั้งแรกของหนอนคือเมื่อต้นเดือนธันวาคม.2534 เป็นใครคนนี้ที่พาเพื่อนๆไปเที่ยวบ้านที่อ.แม่สะเรียง และพาตะลอนไปดอยแม่อุคอ น้ำตกแม่สุรินทร์ และพระธาตุดอยกองมูแห่งเมืองสามหมอก
ครั้งนี้หนอนฯบอกในใจว่า"กลับบ้านกัน"
ระหว่างงานที่แม่สะเรียง หนอนฯต้องกลับมากรุงเทพเพื่อบินไปสิงคโปร์เรื่องงาน รีบไปรีบกลับเพื่อไปอำลาเพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่3 ธันวาคมที่แม่สะเรียง
วันที่4 ธันวาคมหลังเก็บอัฐิและทำบุญถวายเพล หนอนฯนั่งรถผ่านเส้นทางแม่สะเรียง-เชียงใหม่ ร้านค้าข้างทางมีวางขาย'ผักกาดจ้อน' หรือกวางตุ้งดอก
เห็นแล้วก็คิดถึงวันที่เด็กกรุงเทพอย่างหนอนฯเซ้าซี้เพื่อนคนเหนือให้พากิน'ผักกาดจอ'แบบในเพลงของคุณจรัล มโนเพ็ชร
"มันโคตรจะธรรมดา จะอยากกินทำไมนักหนาฟะ" คนเหนือบอกขำๆ "อย่างอื่นเด็ดกว่ามีเยอะแยะ"
ก็จริงของเพื่อน เมนูธรรมดาสามัญประจำบ้านชาวเหนือ ยิ่งช่วงต้นฤดูหนาวอย่างนี้ กวางตุ้งออกดอกเหลือง ช่อดอกอ่อนๆ เห็นแล้วคิดถึง...
คิดถึงเพื่อน
หนอนฯเองเสียคุณแม่ตั้งแต่วัยเบญจเพศ ส่วนเพื่อนของหนอนฯอยู่ในชีวิตหนอนฯมาตั้งแต่เรียนปี1
เราอยู่คณะเดียวกัน เรียนเมเจอร์เดียวกัน อยู่ห้องเดียวกัน นอนเตียงสองชั้น เพื่อนนอนเตียงล่าง หนอนฯนอนเตียงบนตลอดเวลา4ปีที่หอ3 ห้อง404
หลังเรียนจบก็ทำงานสายเดียวกัน บ้านที่กรุงเทพก็ใกล้กัน เพื่อนอยู่ในชีวิตหนอนฯยาวนานกว่า30ปี มากกว่าแม่ตั้งหลายปีนะ
วันนี้ตื่นเช้า ไปหาเจ้าผักกาดจ้อนดอกอ่อนๆแบบที่เพื่อนเคยบอกว่าเหมาะที่สุดที่จะทำจอผักกาด
เพื่อนหนอนฯเป็นคนลิ้นดีจมูกดีและมีรสมือดีมาก เวลาเขาลงมือทำกับข้าว เพื่อนๆบอกว่าท่าทางเหมือนโยนส่งๆลงหม้อลงกระทะ แต่เสร็จออกมาแล้ว"อร่อยมากกก"
เพื่อนเคยบอกว่าแกงนี้ต้องทำกินเอง เพราะซื้อเขาแล้วมักเจอส่วนก้านใบต้นแก่ปนมาที่"กินแล้วเสียอารมณ์"
ถ้าทำเองเราจะเลือกแต่ส่วนอ่อนๆ และปอกผิวส่วนลำต้นออก เลือกแต่ส่วนที่กินได้อร่อยไม่แข็งไม่ระคายปาก
แกงนี้ตำรับบ้านเพื่อนเขาบอกว่าต้องใส่สิ่งนี้
หนอนฯจัดการผักล้างสะอาดรอไว้
ตั้งน้ำใส่ซี่โครงและหมูสามชั้น
เคี่ยวไฟอ่อน คอยช้อนฟองออกเรื่อย
ปรุงด้วยหอมและกระเทียมโขลก ใส่กะปิและน้ำมะขามเปียก
เอาถั่วเน่ามาจี่ก่อนจะตำให้ละเอียดแล้วเทลงหม้อ
เคี่ยวจนหมูเปื่อยในระดับที่เราชอบ
ใส่ผักลงไป กดๆให้จมน้ำแกง
เคี่ยวไปอีกสักพักพอให้ผักเปื่อย
หยิบพริกแห้งมาล้าง เด็ดก้านแล้วคั่วให้หอม
เจียวกระเทียมให้หอม
เทพริกแห้งคั่วและกระเทียมเจียวลงหม้อ
กลิ่นหอมรสละมุน แกงร้อนๆอมเปรี้ยวสดชื่น
นี่คือผักกาดจอหม้อแรกในชีวิต ที่คิดและทำตามแบบที่เพื่อนเคยอธิบายให้ฟัง
"ฮักตั๋วเน้อ"
... บอก'ฮัก' ด้วย 'ผักกาดจอ' ...
แต่วันที่25พ.ย.ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องขึ้นเชียงใหม่อีกครั้ง
เช้าวันที่27 หนอนฯไปรับใครคนหนึ่งจากสนามบิน ใครคนนั้นไม่หือไม่อือ ไม่แซวไม่อำหนอนฯอีกต่อไป
ใครคนนั้นหลับสบาย ตีตั๋วไปเที่ยวแดนไกล
'ไปไม่ชวน'
เส้นทางเชียงใหม่ผ่านฮอดไปแม่สะเรียงครั้งแรกของหนอนคือเมื่อต้นเดือนธันวาคม.2534 เป็นใครคนนี้ที่พาเพื่อนๆไปเที่ยวบ้านที่อ.แม่สะเรียง และพาตะลอนไปดอยแม่อุคอ น้ำตกแม่สุรินทร์ และพระธาตุดอยกองมูแห่งเมืองสามหมอก
ครั้งนี้หนอนฯบอกในใจว่า"กลับบ้านกัน"
ระหว่างงานที่แม่สะเรียง หนอนฯต้องกลับมากรุงเทพเพื่อบินไปสิงคโปร์เรื่องงาน รีบไปรีบกลับเพื่อไปอำลาเพื่อนรักเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่3 ธันวาคมที่แม่สะเรียง
วันที่4 ธันวาคมหลังเก็บอัฐิและทำบุญถวายเพล หนอนฯนั่งรถผ่านเส้นทางแม่สะเรียง-เชียงใหม่ ร้านค้าข้างทางมีวางขาย'ผักกาดจ้อน' หรือกวางตุ้งดอก
เห็นแล้วก็คิดถึงวันที่เด็กกรุงเทพอย่างหนอนฯเซ้าซี้เพื่อนคนเหนือให้พากิน'ผักกาดจอ'แบบในเพลงของคุณจรัล มโนเพ็ชร
"มันโคตรจะธรรมดา จะอยากกินทำไมนักหนาฟะ" คนเหนือบอกขำๆ "อย่างอื่นเด็ดกว่ามีเยอะแยะ"
ก็จริงของเพื่อน เมนูธรรมดาสามัญประจำบ้านชาวเหนือ ยิ่งช่วงต้นฤดูหนาวอย่างนี้ กวางตุ้งออกดอกเหลือง ช่อดอกอ่อนๆ เห็นแล้วคิดถึง...
คิดถึงเพื่อน
หนอนฯเองเสียคุณแม่ตั้งแต่วัยเบญจเพศ ส่วนเพื่อนของหนอนฯอยู่ในชีวิตหนอนฯมาตั้งแต่เรียนปี1
เราอยู่คณะเดียวกัน เรียนเมเจอร์เดียวกัน อยู่ห้องเดียวกัน นอนเตียงสองชั้น เพื่อนนอนเตียงล่าง หนอนฯนอนเตียงบนตลอดเวลา4ปีที่หอ3 ห้อง404
หลังเรียนจบก็ทำงานสายเดียวกัน บ้านที่กรุงเทพก็ใกล้กัน เพื่อนอยู่ในชีวิตหนอนฯยาวนานกว่า30ปี มากกว่าแม่ตั้งหลายปีนะ
วันนี้ตื่นเช้า ไปหาเจ้าผักกาดจ้อนดอกอ่อนๆแบบที่เพื่อนเคยบอกว่าเหมาะที่สุดที่จะทำจอผักกาด
เพื่อนหนอนฯเป็นคนลิ้นดีจมูกดีและมีรสมือดีมาก เวลาเขาลงมือทำกับข้าว เพื่อนๆบอกว่าท่าทางเหมือนโยนส่งๆลงหม้อลงกระทะ แต่เสร็จออกมาแล้ว"อร่อยมากกก"
เพื่อนเคยบอกว่าแกงนี้ต้องทำกินเอง เพราะซื้อเขาแล้วมักเจอส่วนก้านใบต้นแก่ปนมาที่"กินแล้วเสียอารมณ์"
ถ้าทำเองเราจะเลือกแต่ส่วนอ่อนๆ และปอกผิวส่วนลำต้นออก เลือกแต่ส่วนที่กินได้อร่อยไม่แข็งไม่ระคายปาก
แกงนี้ตำรับบ้านเพื่อนเขาบอกว่าต้องใส่สิ่งนี้
หนอนฯจัดการผักล้างสะอาดรอไว้
ตั้งน้ำใส่ซี่โครงและหมูสามชั้น
เคี่ยวไฟอ่อน คอยช้อนฟองออกเรื่อย
ปรุงด้วยหอมและกระเทียมโขลก ใส่กะปิและน้ำมะขามเปียก
เอาถั่วเน่ามาจี่ก่อนจะตำให้ละเอียดแล้วเทลงหม้อ
เคี่ยวจนหมูเปื่อยในระดับที่เราชอบ
ใส่ผักลงไป กดๆให้จมน้ำแกง
เคี่ยวไปอีกสักพักพอให้ผักเปื่อย
หยิบพริกแห้งมาล้าง เด็ดก้านแล้วคั่วให้หอม
เจียวกระเทียมให้หอม
เทพริกแห้งคั่วและกระเทียมเจียวลงหม้อ
กลิ่นหอมรสละมุน แกงร้อนๆอมเปรี้ยวสดชื่น
นี่คือผักกาดจอหม้อแรกในชีวิต ที่คิดและทำตามแบบที่เพื่อนเคยอธิบายให้ฟัง
"ฮักตั๋วเน้อ"