ธารทิพย์ บทที่ 27

กระทู้สนทนา
ธารทิพย์

โดย อัศวรักษ์


ธารทิพย์ บทที่ 26 http://ppantip.com/topic/33157098

            ตะวันสายของวันรุ่งขึ้น โจเดินไปรอบๆลำตัวและปีกของคุณเป็ดน้ำเพื่อตรวจทุกซอกทุกมุมว่ายังอยู่ในสภาพปกติ เขาปีนขึ้นไปยืนอยู่บนหลังปีกมองตรวจไปจนทั่วแล้วปีนกลับลงมา ในห้องโดยสารบรรทุกสัมภาระเหมียวพาสร้อยแก้วกับน่อเซิ่งเข้าไปนั่งเล่นพร้อมกับช่วยโจตรวจโดยมองสภาพทั่วๆไปภายในไปด้วย สร้อยแก้วกับน่อเซิ่งรู้สึกตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจที่ได้ขึ้นมานั่งอยู่บนโพยมยานที่เคยเห็นแต่เพียงภายนอก สำหรับชาวบ้านป่าแล้ว นกสวรรค์นี่คือสิ่งวิเศษ พวกเขาจึงพร้อมใจกันเรียกอย่างนั้น

                ท่านไกรศักดิ์ยืนอยู่บนท่ากับพรานโละ แงซาและชาวบ้านอีกหลายคนที่คอยมาช่วยเป็นแรง

                “เป็นอย่างไรบ้าง” ลุงไกรศักดิ์เอ่ยถามเมื่อโจปีนลงมาจากหลังปีก

                “ภายนอกปกติดีครับคุณลุง” โจตอบ

                “เดี๋ยวผมทำพรีไฟล้ท์แล้วจะเอาออกไปแท็กซี่ดูสักสองสามรอบ น้ำมันพอครับ” โจบอกลุง
    
            ท่านไกรศักดิ์พยักหน้าเข้าใจ โจปีนขึ้นไปนั่งเก้าอี้นักบินด้านซ้ายใช้มือลูบชี้ไปบนเครื่องวัดและสวิทช์ทุกตัวที่ติดตั้งอยู่เพื่อตรวจสภาพและตำแหน่งของสวิทช์

                “ผมจะติดเครื่องนะครับ คุณลุงช่วยดูให้ด้วยนะครับ” โจบอกลงมา

                ลุงไกรศักดิ์พยักหน้ารับทราบ

                “ติดได้เลย เชือกสมอยังผูกอยู่” ลุงไกรศักดิ์บอก

                น่อเซิ่งตกใจขึ้นมานั่งบนตักกอดคอสร้อยแก้วไว้ สร้อยแก้วเองก็หน้าตื่นเช่นกันเพราะทั้งสองยังนั่งอยู่ภายในคุณเป็ดน้ำ เธอนึกไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรหากยานที่นั่งอยู่เคลื่อนตัว

                เหมียวเห็นดังนั้นจึงจับมือทั้งสองเอาไว้

                “ไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรนะ สนุกด้วยล่ะ พี่โจเค้าเก่งจะตาย” เหมียวพูดให้หายกลัว

                สร้อยแก้วกับน่อเซิ่งพยักหน้าตื่นๆรับคำ

                โจ เปิดสวิทช์แบตเตอรี่หลักเพื่อจ่ายไฟเข้าเครื่อง แผงเครื่องวัดทั้งหมดขยับตัว เข็มทุกเข็มกระดิกชี้สถานะของมัน ถึงเวลานี้สร้อยแก้วกับน่อเซิ่งกอดกันแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นพวกมันขยับตัวได้เอง

                “ติดเครื่องยนต์นะครับ” โจร้องบอกอีกครั้งให้ทุกคนรู้

                เสียงเครื่องยนต์และใบพัดเริ่มหมุนขึ้นช้าๆเมื่อโจบิดสวิทช์ไปที่ตำแหน่งสตาร์ท แล้วเริ่มเร็วขึ้นเร็วขึ้นจนไปเดินนิ่งอยู่ที่รอบเดินเบา โจก้มหน้ามองเครื่องวัดทุกตัวตรวจสอบสถานะว่ายังทำงานปกติจากนั้นจึงทอสอบการทำงานของพื้นบังคับ เขาถีบรัดเด้อร์พีด้อลที่เท้าให้หางเสือบิดซ้ายบิดขวาไปมาอยู่สี่ห้าครั้ง โยกคอนโทรลคอลัมม์ในมือ กดไปข้างหน้าแล้วดึงกลับเข้าหาตัวให้เอลเวเต้อร์ของแพนหางระดับเคลื่อนที่ขึ้นลงทดสอบการก้มเงยหัวเครื่อง โจบิดคอลัมม์ไปทางซ้ายทางขวาทดสอบแอรร่อน พื้นบังคับเลี้ยวเอียงปีกที่ชายครึ่งหลังของปีกไปมา สุดท้ายเขาโยกคันบังคับแฟลบเพื่อดูการทำงานของอุปกรณ์ขยายพื้นที่ปีก

                โจนิ่งมองรอจนกระทั่งเข็มวัดความร้อนของเครื่องยนต์สูงขึ้นจนถึงอุณหภูมิทำงาน เขายื่นหน้าออกมาร้องบอกลุงไกรศักดิ์เมื่อคุณเป็ดน้ำอยู่ในสภาพพร้อมบิน

                “พร้อมแล้วครับคุณลุง” โจร้องบอกเสียงดัง

                ไกรศักดิ์ดึงมือให้พรานโละกับแงซาขึ้นไปบนเครื่อง ทั้งสองชะงักเท้าขืนกล้าๆกลัวๆ

                “ไปไป ไปด้วยกันไม่ต้องกลัว” ท่านไกรศักดิ์บอกเสียงดัง
    
            พรานโละและแงซาถูกดันหลังให้ขึ้นไปนั่งบนเครื่อง เจ้าแสนรู้พรีโม่โดดแผล็วขึ้นตาม ท่านไกรศักดิ์ตามขึ้นไปปิดประตูข้างลำตัวล็อกแล้วปีนข้ามไปนั่งเก้าอี้นักบินตัวขวาข้างๆโจ

                “เอาล่ะ เราไปกัน น้ำมันพอเที่ยวสองมั้ย” ไกรศักดิ์พูดถามแล้วดึงเข็มขัดนิรภัยมาล็อกไหล่และเอว

                โจหันมามองหน้าลุงเข้าใจความหมายว่าลุงของเขาเปลี่ยนแผนในใจแล้ว

                “พอครับ แต่คุณลุงแน่ใจนะครับ” โจมองหน้าถามอีกครั้ง

                ลุงไกรศักดิ์ไม่ตอบ เขาเพียงพยักหน้ารับเพื่อยืนยัน เหมียวฟังอยู่ด้วย เธอฉลาดพอที่จะรู้แล้วว่าอาจมีการนำเรือบินขึ้นจึงหันไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้สร้อยแก้วกับน่อเซิ่ง คาดให้กับตัวเอง แล้วจึงหันไปบอกพรานโละกับแงซาที่นั่งอยู่บนพื้นด้านหลัง

                “เกาะแน่นนะจ๊ะ พี่โละ แงซา” เธอพูดแล้วหันมาสบตาโจที่เหลียวกลับมามอง
    
            โจยิ้มให้เหมียวในความฉลาดของเธอแล้วหันกลับไปคาดเข็มขัดสวมแว่นกันแดด แล้วร้องบอกคนที่อยู่บนท่าเทียบ

                “ปลดเชือกด้วยครับ เดี๋ยวกลับมา” โจร้องบอก

                พวกคนชาวบ้านป่าที่ยืนอยู่บนท่าแก้เชือกโยงออกปล่อยให้คุณเป็ดน้ำลอยลำเป็นอิสระ โจโบกมือให้แล้วค่อยๆดันคันเร่งเคลื่อนคุณเป็ดน้ำไปข้างหน้า

                เรือบินเริ่มเคลื่อนตัวห่างท่าเทียบออกไปเรื่อยๆ โจค่อยๆปล่อยให้แล่นไปบนผิวน้ำช้าๆบังคับทิศทางเลาะลัดไปเรียบชายฝั่งต้องการให้สร้อยแก้ว น่อเซิ่ง พรานโละและแงซาหายจากการตื่นตกใจเสียก่อน ทัศนียภาพสวยงามของทะเลสาบจากมุมมองที่ไม่เคยได้เห็นทำให้ทั้งสี่คนเริ่มคลายความตื่นเต้นลง
    
            สร้อยแก้วกับน่อเซิ่งเริ่มขยับตัวไปมองริมหน้าต่างที่เปิดแง้มอยู่เฝ้าดูทุ่นลอยตัวฉีกผิวน้ำเป็นฟองขาว พรานโละกับแงซาก็นั่งยึดหน้าต่างคนละด้านมองไปมาเริ่มเพลิดเพลินเช่นกัน

                “เห็นมั้ย พี่บอกแล้วว่าสนุกดีจะตาย ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกจ้ะ” เหมียวพูดกับสร้อยแก้วและน่อเซิ่งให้หายกลัว ทั้งสองหันมายิ้มรับ เหมียวเหลียวกลับมายิ้มให้พรานโละกับแงซาด้วยเช่นกัน

                โจบังคับเรือบินให้แล่นเล่นเป็นเรืออยู่สองรอบเมื่อเห็นว่าทั้งสี่คนหายกลัวและรอเวลาให้คุณเป็ดน้ำได้ขยับแข้งขยับขาเข้าที่เสียก่อน เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าเรือบินทำงานได้ปกติจึงเริ่มพูดขึ้น

                “สร้อยแก้ว น่อเซิ่ง อยากนั่งตอนมันลอยขึ้นฟ้ามั้ย” โจเหลียวมายิ้มถาม

                “อยากจ้ะ” สร้อยแก้วตอบทันที น่อเซิ่งพยักหน้าตาม

                “เดี๋ยวพี่พาลอยขึ้นฟ้าเล่นเที่ยวนึงนะ เอามั้ย” โจพูดด้วยเสียงสนุกๆ

                “จ้ะจ้ะ” สร้อยแก้วตอบรับ พรานโละกับแงซานึกสนุกทั้งสองจึงยิ้มพยักหน้ารับด้วย

                โจเคลื่อนเรือบินตรงไปตั้งลำที่สุดทะเลสาบ เขาดันคันเร่งช้าๆไม่ให้กระชากจนน่ากลัวเป็นห่วงทั้งสี่คน คุณเป็ดน้ำเร่งความเร็วขึ้นจนเต็มที่ด้วยแรงฉุดของใบพัดสามกลีบ ช่างเครื่องบินหนุ่มจากนอร์ทรอปดึงคันบังคับเรือบินโยกเข้าหาตัวช้าๆให้พื้นบังคับเอลเวเต้อร์ที่แพนหางระดับกระดกตัวขึ้น ส่งผลทางอากาศพลศาสตร์ให้เกิดแรงกดที่พวงหางเพื่อเชิดหัวเงยขึ้น ถีบรัดเด้อร์หางเสือรักษาทิศทางให้วิ่งตรงไปจนกระทั่งถึงความเร็วที่เกิดแรงยกใต้ปีก

            ชาวบ้านป่าทั้งสามและน่อเซิ่ง มองการยกตัวขึ้นจากผิวน้ำสูงขึ้นสูงขึ้นแล้วมองไกลไปยังผืนป่าและชุมชนของพวกเขาด้วยความตื่นตาตื่นใจ

                เหมียวเดาทางออกว่าลุงไกรศักดิ์และโจคิดจะทำอะไรเธอจึงไม่พูดถาม หันไปชี้ชวนสร้อยแก้วกับคนอื่นๆให้ชื่นชมไปกับทัศนียภาพของมุมสูงที่พวกเขาไม่เคยเห็นเพื่อเบนความสนใจ
    
            โจบินวนรอบทะเลสาบหนึ่งรอบก่อนเพื่อทดสอบว่าคุณเป็ดน้ำยังเล่นลมอยู่ในอากาศได้อย่างปกติ ลุงไกรศักดิ์กางแผนที่ไว้ตรงกลางระหว่างเขากับหลานแล้วชี้บอกตำแหน่งกับทิศทางที่ต้องการจะมุ่งหน้าไป

                เมื่อเรือบินร่อนเป็นวงกลมมาจนถึงจุดเริ่มต้นที่ลุงไกรศักดิ์ชี้บนแผนที่ โจบังคับเครื่องให้บินตรงไปข้างหน้าสู่ภูยม

                “อย่าบินข้ามนะ” ไกรศักดิ์บอกโจ

                “บินวนรอบๆเพื่อสำรวจนะครับ” โจพูด

                “น้ำมันพอแน่นะ” ไกรศักดิ์ถามขอการยืนยัน

                “พอครับพอ” โจยืนยันกับลุง

                ท่านไกรศักดิ์หันกลับมาหาคนที่อยู่ด้านหลังยิ้มให้แล้วพูด

                “เราจะไปบินวนรอบภูยมเพื่อสำรวจเส้นทาง เดี๋ยวอีกไม่นานจะบอกตอนไปถึง พวกเราช่วยกันดูหน่อยนะ”ท่านไกรศักดิ์พูดกับทุกคน

                “อีกนานมั้ยคะ” เหมียวถาม

                “สิบห้านาทีประมาณ” ไกรศักดิ์ตอบ

                สร้อยแก้ว พรานโละและแงซาขยับตัวมองซ้ายมองขวาออกไปนอกหน้าต่างพยายามมองหาภูยม

                “ยังไม่ถึงหรอกจ้ะสร้อยแก้ว เดี๋ยวใกล้ถึงแล้วท่านพ่อจะบอกนะ” เหมียวพูด
    
            ทั้งสามคนพยักหน้าเข้าใจโดยไม่ถามอะไร

                คุณเป็ดน้ำบินตรงมาได้ยี่สิบกว่านาที ท่านไกรศักดิ์ชี้นิ้วมองบนแผนที่แล้วมองเฉียงด้านขวาออกไปข้างนอกอยู่สองสามครั้งจนแน่ใจว่าพิกัดถูกต้องตามแผนที่แล้วจึงพูดขึ้น

                “ช่วยกันดูนะ ด้านขวาจากภูยอดแหลมนั่นเข้าไปเป็นเขตภูยม” ท่านไกรศักดิ์พูด

                โจพยายามชะเง้อมองผ่านกระจกหน้า เหมียว สร้อยแก้ว พรานโละและแงซารีบขยับตัวมาด้านขวาต่างคนต่างจ้องมองลงไป
    
            โจบังคับเครื่องให้เอียงปีกทางขวาเพื่อให้มองเห็นถนัด บินอ้อมพื้นที่กว้างอันเป็นเขตของภูยม ภายในเขตนั้นปกคลุมไปด้วยผืนป่าดิบทึบแน่นหนาดูประหนึ่งว่าต้นไม้เหล่านั้นจะรวมใจกันปกป้องมิให้แสงอาทิตย์ตกต้องลงบีฑาพื้นดินภายใต้พวกมันได้ง่ายๆ  แตกต่างจากผืนป่านอกเขตซึ่งผลัดใบลงเกลื่อนกราดในฤดูหนาวเช่นนี้ ภูมิประเทศสลับซับซ้อนเต็มไปด้วยโตรกผาชันและลำธารคดเคี้ยวไปมาดูน่ากลัวเหมือนอสุรกายมหึมาทอดกายรอเหยื่ออยู่อย่างเงียบเชียบ

                คนทั้งหมดแม้กระทั่งท่านไกรศักดิ์เองยังขนลุกเกลียวเมื่อนึกถึงเวลาที่จะต้องก้าวเท้าเข้าไป

                ลุงไกรศักดิ์ใช้หลังมือตบไหล่ โจแล้วชี้มือให้ดูพื้นราบกว้างเพียงผืนเดียวของภูยมที่พวกเขากล่าวถึงจากการดูในแผนที่ พื้นราบที่พวกเขาวางแผนจะนำคุณเป็ดน้ำลงจอด

                “ไหวมั้ย” ลุงไกรศักดิ์ถาม ตายังจ้องมองพื้นราบนั้นเพื่อประเมินขนาดเทียบกับต้นไม้ที่ขึ้นอยู่

                “บอกยากครับคุณลุง” โจตอบ

                “มองสภาพพื้นดินไม่ชัด ความลาดเอียงด้วย” เขาพูดต่อ

                “แต่ก็ยังดีครับ ตรงตามพิกัดแผนที่บอก มีพื้นราบอยู่จริง”

                “เราค่อยไปตัดสินใจกันอีกที กลับกันเถอะ” ลุงไกรศักดิ์พูด

                สี่คนข้างหลังฟังทั้งสองลุงหลานพูดคุยกัน สลับกับหันไปมองพื้นราบนั้นช่วยจดจำรายละเอียดไว้ให้มากที่สุด

                “ทุกคนเห็นกันแล้วนะ เรากลับไปคุยกันที่บ้าน” ไกรศักดิ์หันมาบอก

                โจบินตรงกลับไปหาทะเลสาบอีกครั้งเพื่อร่อนลง ทิ้งเทือกภูยมอันน่าสะพรึงกลัวไว้เบื้องหลังก่อน

                คุณเป็ดน้ำลงแตะผิวน้ำเรียบร้อยนุ่มนวล พุ่งตรงไปยังริมฝั่งที่โส่ยเคยไปนอนรออยู่ โจถีบรัดเด้อร์เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปหาท่าเทียบ

                “สนุกมั้ยน่อเซิ่ง” เหมียวลูบหัวเด็กหญิงแล้วยิ้มถาม

                “จ้ะ” น่อเซิ่งพยักหน้ายิ้มพูดตอบ

                เหมียวพูดเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้ทุกคนปรับความรู้สึกกลับมาเป็นปกติจากสภาพป่าภูยมที่เพิ่งจะได้เห็น

                “โจคะ น้ำมันพอมั้ยคะ พาวนรอบทะเลสาบอีกรอบซิคะ” เธอบอกโจให้วิ่งเล่นบนผิวน้ำ

                “ได้ครับ” โจรับคำ

                คุณเป็ดน้ำลอยลำบนผิวน้ำไปข้างหน้าด้วยรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ ทุกคนที่นั่งอยู่ชี้ชวนกันชมภูมิทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบ ซอกมุมที่เดินเท้าเข้าไปลำบากโจก็คัดหางเสือเลี้ยวลัดเฉียดเข้าไปให้ได้ดูใกล้ๆ

                “ชอบมั้ยครับพี่โละ แงซา” โจถาม

                “จ้ะจ้ะ” พรานทั้งสองพยักหน้ายิ้มตอบรับ

                “น่อเซิ่งล่ะ สร้อยแก้วสนุกดีมั้ย” โจหันมายิ้มถาม

                “จ้ะ สร้อยแก้วชอบจ้ะ” สร้อยแก้วยิ้มตอบ น่อเซิ่งก็ยิ้มพยักหน้ารับไปด้วย

                “เอาล่ะ ทุกคนสนุกสนานกันดีแล้วก็กลับเทียบท่ากันเถอะ เดี๋ยวน้ำมันจะไม่พอซะ” ท่านไกรศักดิ์พูด

                โจบังคับเรือบินเลี้ยวกลับเตรียมมุ่งหน้าไปท่าเทียบ

                “โฮ้ง โฮ้ง โฮ้งโฮ้ง” เสียงเจ้าพรีโม่เห่าดังไม่ยอมหยุด

                เหมียวหันมาจับตัวมันไว้แล้วมองผ่านหน้าต่างเรือบินตามมันไป

            โจเหลียวกลับมาของข้ามพนักเก้าอี้อีกครั้งเมื่อมือของเหมียวสะกิดที่ไหล่แรงๆให้เขาหันมา สายตาเธอจับจ้องมองไปยังสิ่งหนึ่งที่เคลื่อนไหวอยู่บนฝั่งห่างออกไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่