ธารทิพย์ บทที่ 20

กระทู้สนทนา
ธารทิพย์

โดย อัศวรักษ์


ธารทิพย์ บทที่ 19 http://ppantip.com/topic/33071067

            สิบเอ็ดวันของการเร่งฝีเท้ากลับมาจากถ้ำตโมหร ทั้งหกชีวิตและเจ้าพรีโม่เข้าเขตบ้านพรานโละเมื่อตะวันเริ่มจะบ่าย แสงแดดวันนี้กล้านัก แผดเผาความเย็นของฤดูหนาวให้อากาศรอบตัวอุ่นขึ้นมาก
    
            เหมียวปลดเครื่องหลังและข้าวของนั่งลงบนก้อนหินริมลำธาร ถอดรองเท้าเดินป่าแล้วแช่เท้าที่ระบมลงในน้ำ เธอหลับตาเอนตัวหงายหน้าใช้แขนสองข้างค้ำยันไว้ด้านหลังอยากผ่อนคลายความกดดันให้ไปกับสายน้ำเย็น เวลานี้เธอหยุดคิดเรื่องอื่นใดทั้งหมดปล่อยให้ร่างกายจิตใจเบาลงแล้วค่อยเริ่มตั้งหลักสู้ใหม่

                พรานโละกับโจเดินมาวางข้าวของบนแคร่ใหญ่แล้วนั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรงบนขอนไม้กลางลานหน้าบ้าน เพราะเจ็ดวันหลังจากที่พีหายไปคณะต้องเร่งฝีเท้ากันอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลาหรืออะไรสักอย่างที่พวกเขาไม่รู้

                พรานแงซาขึ้นไปบนเรือนของตัวเองที่อยู่ใกล้กัน วางข้าวของแล้วเดินลงมาหาพรานโละ

                “ข้าไปดูอีน่อเซิ่งก่อนนะอ้ายโละ” แงซาเดินมาบอก

                พรานโละพยักหน้ารับไม่พูดอะไร

                แคร่ไม้เล็กๆมุมห้องบนเรือนที่สร้อยแก้ววางกระดูกแม่ซึ่งห่อไว้ด้วยผ้าขาวบูชาอยู่  ไกรศักดิ์คุกเข่าลงยกมือไหว้แล้ววางมือเบาๆลงบนห่อกระดูกเพื่อบอกกล่าว สร้อยแก้วก้มลงกราบแล้วนั่งข้างๆพ่อของเธอ จากนั้นทั้งสองจึงกลับลงมายังลานหน้าบ้านที่พรานโละกับโจนั่งพักอยู่

                สร้อยแก้วหอบฟืนเดินไปที่ริมลำธาร เธอตั้งใจจะก่อกองไฟที่มุมหนึ่งไม่ห่างตัวบ้านนักซึ่งถูกจัดไว้เป็นที่อาบน้ำประจำ มีก้อนหินใหญ่กับพุ่มไม้ที่ตั้งใจปลูกไว้เพื่อเป็นฉากกั้นสายตา ลานก่อไฟเพื่อช่วยให้อบอุ่นระหว่างอาบน้ำอยู่ติดกับแอ่งธารธรรมชาติเล็กๆเหมาะเป็นอ่างอาบน้ำพอดี เมื่อกองไฟถูกก่อขึ้นเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินมาหาเหมียว

                “พี่จ๊ะ ฉันจุดไฟให้แล้ว พี่ล้างตัวก่อนจ๊ะ” เธอบอกเหมียว

                เหมียวยิ้มจับมือสร้อยแก้วเป็นเชิงขอบใจ ขยับตัวหยิบของใช้ส่วนตัวเสื้อผ้าสำรองลุกเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์นั้น

                ไกรศักดิ์เดินมาหยุดยืนมองโจ เขาเงยหน้ามองลุงยิ้มแห้งๆอย่างหมดแรง

                “ไหวมั้ย” ลุงไกรยิ้มถาม

                “ตอนนี้หมดเลยครับคุณลุง ขอพักเดี๋ยว” โจตอบเสียงอ่อย

                “หยุดคิดถึงเวลาได้แล้วนะ ตั้งมั่น เตรียมร่างกาย มีสติแล้วเดินหน้าต่อ เข้าใจที่ลุงพูดนะ” ไกรศักดิ์พูด
    
            “ครับ ผมเข้าใจครับ” โจตอบลุง

                “พี่โจไปล้างตัวพักแรงก่อนไหมจ๊ะ” สร้อยแก้วบอกโจ

               “เดี๋ยวเหมียวเค้าอาบเสร็จน้องสร้อยอาบก่อนเลย พี่เป็นผู้ชายพอคอยได้ ขอบใจนะ” โจยิ้มบอกสร้อยแก้ว

                เป็นครั้งแรกหลังจากเรื่องของฝากที่โจกับสร้อยแก้วพูดกันได้อย่างสนิทใจอีกครั้ง สร้อยแก้วเธอเป็นหญิงสาวที่เกิดโตในป่าเขา ความรู้สึกนึกคิดของเธอจึงจริงใจเรียบง่ายไม่สลับซับซ้อนเหมือนคนเมือง ความปฏิพัทธ์ที่เคยมีอยู่ในตัวโจเริ่มเบาบางลงเพราะเวลานี้ใจของเธอวางเอาไว้ที่เรื่องเดียวคือแม่ลอยา

                “ท่านพ่อเห็นเยี่ยงไรเรื่องพี่พีจ๊ะ” สร้อยแก้วถามพ่อไกรศักดิ์

                “พ่อคิดว่าเรายังไม่ได้เสียพีไป เขาต้องอยู่ที่ไหนสักที่ แล้วเราจะได้รู้เองนะ” ไกรศักดิ์ตอบลูกลูบหัวปลอบ

                “ตอนนี้ผมก็คิดเหมือนคุณลุง ปัญหาคือเราจะรอให้มันกลับมาก่อนหรือจะเอาเครื่องขึ้นเลยดี” โจพูด

                “คุณลุงเห็นว่ายังไงดีครับ” โจถาม

                “เราไปกันเลย” ไกรศักดิ์ตอบ
    
            “เราควรไปเลยหรือพักก่อนคืนนี้ดีครับ” โจขอความเห็น

                “พักเสียก่อนจะได้มีเวลาไตร่ตรองให้รอบคอบ พรุ่งนี้เช้าเราไปต่อ” ไกรศักดิ์บอก

                “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่โละไปช่วยผมเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเอาไว้ให้เสร็จก่อนนะครับ” โจหันไปพูดกับพรานโละ

                “ได้จ้ะ” พรานโละรับคำ

                “เอ้า ตกลงตามนั้น” ไกรศักดิ์พูด

                โจและพรานโละนั่งกินน้ำและผลไม้ เมื่อมีเรี่ยวแรงหายเหนื่อยแล้วทั้งสองจึงลุกขึ้นออกเดินมุ่งหน้าไปยังสะพานเทียบที่คุณเป็ดน้ำจอดอยู่ ระหว่างทางที่พบปะทักทายกับชาวบ้านพรานโละบอกขอแรงไปช่วยกันขนน้ำมันเชื้อเพลิงที่โจและพีสำรองไว้ คนเหล่านั้นก็กุลีกุจอมาช่วยกันมากมายหลายคน

            ด้วยเวลาที่มีน้อยพรานโละจึงต้องออกปากกับพวกผู้ชายให้ช่วยหาปลาหาไก่ป่ามาให้นายท่านได้กินมื้อเย็นนี้

                ถังยี่สิบลิตรที่บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเรือบินกว่าห้าสิบถังถูกขนมาวางที่สะพานเทียบในไม่นาน โจปีนขึ้นไปบนหลังปีกเพื่อทำการเติมน้ำมันโดยมีพรานโละกับอีกหลายคนคอยส่งให้ โจใช้สายยางสั้นๆดูดเชื้อเพลิงเติมลงในถังด้วยวิธีกาลักน้ำ

                เสิ่งปาเดินเข้ามาหาพรานโละแล้วพูดขึ้น

                “อ้ายโละ ข้าให้มันเอาปลากับไก่ป่าไปเรือนอ้ายโละแล้ว” เสิ่งปารายงาน

                “นายท่านไปหนใดหลายวันอ้ายโละ” เสิ่งปาถาม

                “นายท่านอยากแรมป่า” พรานโละตอบสั้นๆ

                “นายท่านจะกลับรึไรอ้ายโละ” เสิ่งปาถามอีก

                “ยังดอก อีกหลายวัน วันรุ่งนายท่านจะขึ้นนกสวรรค์ออกชม” พรานโละพูดให้เป็นเรื่องปกติ

                “จ้ะจ้ะ” เสิ่งปายิ้มรับคำ

                เมื่ออยู่บนหลังปีกคุณเป็ดน้ำ โจรู้สึกว่ามีบางสิ่งหายไป พีเพื่อนเกลอที่เคยช่วยกัน เคยพูดจาเย้าแหย่สนุกสนาน เวลานี้ไม่มีคนชื่อพีอยู่ตรงนี้

            “ไอ้พี อยู่ที่ไหนวะ กูไม่ยอมเชื่อว่าจากไปแล้ว” เขาพูดกับตัวเองเมื่อคิดถึงเพื่อนขณะที่มือยังถือสายยางเติมน้ำมันอยู่ เขาใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น เกือบสองชั่วโมงผ่านไปน้ำมันจึงเติมเสร็จ โจเเข้าไปในห้องนักบินเปิดสวิทช์แบตเตอรรี่ตรวจสอบระบบอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพพร้อมเขาจึงปิดสวิทช์แล้วล็อกประตูเครื่องลงมา

                “เสร็จแล้วพี่โละ ไปกันเถอะ” โจบอกพรานโละ

                “ขอบใจทุกคนเลยนะครับ” เขาหันไปฝืนยิ้มบอกแล้วยกมือไหว้ไปรอบๆ
    
            ทั้งสองกลับมาถึงบ้านเมื่อเย็นมากแล้ว แงซากำลังก่อกองไฟไว้ที่ลานบ้านโดยมีนายท่านไกรศักดิ์นั่งดูแผนที่อยู่สร้อยแก้วกับเหมียวช่วยกันทำต้มยำไก่ป่าที่ครัวบนชานบ้านมีน่อเซิ่งนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆ เหมียวขยับตัวลุกขึ้นเดินลงบันไดมาหาเมื่อโจเดินมาถึง

                “ไปอาบน้ำก่อนค่ะ เหมียววางเสื้อผ้าไว้ให้ที่นั่นแล้ว เดี๋ยวจะหนาวมากกว่านี้” เธอพูดยิ้มให้

                “ขอบคุณครับ” โจบอกขอบคุณแล้วเดินไปยังมุมอาบน้ำ
    
            ปลาตัวใหญ่สี่ตัวห่อใบตองเผาวางไว้กลางวง ต้มยำไก่ป่าตักใส่ชามกระเบื้องที่โจกับพีนำมาให้ตั้งแต่ครั้งก่อนๆอีกสามชามวางอยู่ใกล้กันกับผักสดน้ำพริกพื้นบ้าน เหมียวประมาณว่ากับข้าวที่วางอยู่น่าจะมากเกินกว่าคนเจ็ดคนรวมทั้งน่อเซิ่งจะกินหมด เธอจึงขอเจียดปลาเผาหนึ่งตัวกันไว้ให้เจ้าพรีโม่

                ทั้งหมดล้อมวงอยู่ที่ชานบ้าน น่อเซิ่งนั่งเคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อยด้วยมีพี่โส่ยนั่งกินอยู่ด้วย สำหรับเหมียวถึงเวลานี้เธอหมดปัญหาเรื่องกินด้วยมือแล้วหลังจากผ่านเส้นทางถ้ำตโมหรมา

                “วันรุ่งเราจะไปกันยามไหนนายท่าน” พรานโละเอ่ยถามขึ้น
    
            ไกรศักดิ์เงยหน้าขึ้นมองโจกับสร้อยแก้ว
                “คนบินพร้อมเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงเรื่องสภาพอากาศที่จะบินได้ด้วยนะ” เขาถามแล้วมองไปที่โจ

                “หน้าหนาวนี่เป็นห่วงก็แต่เรื่องหมอกครับ” โจตอบ

                “นั่นซิ” ไกรศักดิ์พูด

                “เรามีเชื้อเพลิงบินวนได้นานซักเท่าไหร่ถ้าอากาศปิด” เขาถามต่อ

                “ได้ถึงสองชั่วโมงครับ นี่หมายถึงมีน้ำมันพอกลับบ้านหากโชคดี” โจบอกลุงไกร

                “หนูเหมียว” ไกรศักดิ์หันมาเรียกชื่อ

                เหมียวทำการบ้านไว้ในใจรออยู่แล้วเธอจึงพูดตอบทันที
    
            “หนูจะเข้าภูยม ไม่ต้องคิดเรื่องบินไปส่งเหมียวในเขตไทยแล้วบินกลับเลยนะคะ” เหมียวมองโจและลุงไกร

                “คุณลำบากมาเกือบเดือนแล้วนะที่ไปหาปู่ผา ผมซาบซึ้งอยู่แล้ว แต่เที่ยวนี้โอกาสตายสูงมาก” โจบอกเธอตรงๆ

                “ชั้นไม่ได้จะไปให้คุณซาบซึ้งนะ คราวนี้ฉันไปเพื่อตัวเองกับพี่พี” เหมียวจ้องหน้าพูดกับโจแล้วหันไปมองลุงไกร

                “ยังไงครับ” โจถามเสียงไม่ค่อยดี

                “ชั้นคบหาสนิทกันกับเงาะเหมือนพี่น้องมานานมากแล้วที่คุณไม่เคยรู้” เหมียวพูดแล้วเริ่มน้ำตาไหล

                “คุณนึกว่าชั้นไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไงที่เสียเงาะไป” เธอพูดต่อ

                “แล้วนี่คนที่เงาะรักที่สุดก็หายไปไม่รู้ชะตากรรม ชั้นไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดหรอกนะ”เธอพูดเสียงเข้ม

                “ชั้นกลับไปเคารพศพเงาะไม่ได้ กลับไปมองหน้าตัวเองในกระจกไม่ได้”

                “ชั้นต้องอยู่รับรู้เรื่องพี่พี และถ้าชั้นรอดออกไปได้ อย่างที่บอกแล้วว่าชั้นเชื่อ” เหมียวพูดทั้งน้ำตา

                “ชีวิตที่เหลือของชั้นก็ถือว่าคุ้มแล้วกับประสบการณ์ที่หายากเหลือเกินแบบนี้” เธอยืนกราน

                “การที่จะไปหรือไม่ไปหนูมีสิทธิตัดสินใจเองและหนูตัดสินใจของหนูแล้ว” เหมียวหันไปพูดกับลุงไกร

                โจไม่พูดอะไรออกมาอีกเมื่อได้ยินการประกาศจุดยืนของเหมียว เขาหันไปมองหน้าลุงไกรศักดิ์

                “ตามนั้น” ไกรศักดิ์พูดขึ้นแล้วหันไปยิ้มกับเธอ

                “สร้อยแก้ว” ไกรศักดิ์เรียกชื่อขาน

                “สร้อยแก้วไปหาแม่จ้ะ” สร้อยแก้วบอกการตัดสินใจ
    
            “ฉันจะไปจ้ะ” พรานโละบอกโดยไม่ต้องรอให้ถาม

                “โละคิดดีแล้วหรือ” ไกรศักดิ์หันไปถามพรานโละ

                “ชีวิตฉันมีอยู่สี่คน พ่อครู ลอยา โส่ย นายท่าน” พรานโละก้มหน้าพูด

                “สองคนตายไป ลูกโส่ยกับนายท่านจะไป ฉันไม่มีผู้ใดแล้วจ้ะ” เขาเงยหน้ามาพูดเสียงเศร้า

                สร้อยแก้วกุมมือพ่อโละไว้ ไกรศักดิ์ตบไหล่เขาเบาๆ

                “ขอบใจนะ เราเป็นครอบครัวเดียวกันมานานแล้ว” ไกรศักดิ์ยิ้มพูดกับพรานโละ

                “ข้าอยากจะไปกับพวกท่านจ้ะ” แงซาพูดขึ้น

                ทุกคนมองมาที่เขา

                “แงซา ฉันรู้ว่าแงซาอยากช่วย แต่แงซาเห็นแล้วนะว่ามันอันตรายมากแค่ไหน” ไกรศักดิ์พูดกับพรานแงซา

                “ฉันยอมให้แงซาไปด้วยไม่ได้ครั้งนี้ แงซาช่วยมามากพอแล้วนะ” เขาพูดต่อ

                แงซานั่งสีหน้าลังเลไม่สบายใจ เขาเหลียวมองน่อเซิ่งลูกสาวสลับกับมองทุกคน

                “แงซา ข้าเห็น เจ้าอยากช่วย เจ้ามองอีน่อเซิ่งไว้ รู้รึเจ้า” พรานโละบอกแงซาเบาๆ

                แงซาพยักหน้ารับทั้งที่ยังคงก้มหน้าอยู่

                “อ้ายแงซาดูน่อเซิ่งมันให้จงดีแล้วกัน” สร้อยแก้วบอกแงซา

                พรานแงซาก้มหน้าน้ำตาหยดลงพื้น ใจหนึ่งก็ห่วงน่อเซิ่งลูกสาวอีกใจหนึ่งก็รู้ว่าการเข้าภูยมนั้นโอกาสที่จะได้กลับมาพบกันอีกแทบจะไม่มี สร้อยแก้วลุกขึ้นจูงมือน่อเซิ่งมาหาแงซาที่นั่งอยู่ตรงข้ามวง ทุกคนเข้าใจดีว่าพรานแงซารู้สึกอะไร เขารับน่อเซิ่งมานั่งลงบนตักลูบหัวลูบหลังลูกสาวอยู่ไปมา

                “พวกเรารู้ว่าแงซาเป็นห่วง ขอบใจแงซามากนะสำหรับทุกอย่าง” ไกรศักดิ์ยิ้มพูดกับพรานแงซา

                “จ้ะ” แงซารับคำอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

                “นี่ก็มืดมากแล้ว อ้ายแงซาเอาน่อเซิ่งไปนอนเถอะจ้ะ” สร้อยแก้วบอกพรานแงซา

            “เจ้าเข้านอนนะน่อเซิ่ง ตอนสางพี่ยังอยู่พบหน้าเจ้า” สร้อยแก้วยิ้มบอกน่อเซิ่ง

                “จ้ะพี่โส่ย” น่อเซิ่งรับคำ

                แงซาขยับอุ้มลูกสาวเดินลงบันไดกลับไปยังเรือนของเขาที่ย้ายมาอยู่ติดๆกับเรือนพรานโละ จัดแจงก่อเตาไฟกลางบ้านเพื่อช่วยให้ความอบอุ่นภายในแล้วจึงพาลูกสาวเข้านอน

                สร้อยแก้ว เหมียวและโจช่วยกันเก็บสำรับทำความสะอาดชานเรือน ไกรศักดิ์กับพรานโละเดินลงจากเรือนมานั่งพูดคุยกันอยู่ที่กองไฟกลางลานหน้าบ้าน

                “นายท่านเห็นสมจะสั่งความเยี่ยงไรกัน ครานี้” พรานโละพูด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่