http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=591549
เจ้าหน้าที่ รวบตัว "เชาวรินทร์" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย คดีแฮกข้อมูลการโอนเงิน จำนวน 11 ล้านบาทได้แล้ว
ขณะจะเดินทางไปญี่ปุ่น
นายพิทักษ์ ศรีนวกุล ตัวแทน บริษัท บีพีซี ของประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นบริษัทค้าปูนซีเมนซ์ ผู้เสียหายจากกรณีที่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ได้มีการแฮกข้อมูลการโอนเงินของบริษัท เข้าบัญชีของ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีชื่อเป็นกรรมการ เป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวที่ สน.ดุสิต
โดย นายพิทักษ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากที่บริษัทเป็นคู่ค้ากับบริษัททีพีไอมานานมาก และมีการสั่งซื้อปูนซีเมนต์ผ่านทางอีเมล์ของบริษัทเป็นประจำ แต่ในวันที่เกิดเหตุมีการตรวจสอบพบว่าข้อมูลในอีเมล์ของบริษัทถูกแฮกเปลี่ยนข้อมูลให้มีการโอนเงินเข้าไปในบัญชีของสมาคมที่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ เป็นกรรมการอยู่ และจากการทวงถาม ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ให้การว่ามีเงินจำนวนดังกล่าวโอนเข้ามาจริง แต่คิดว่าเป็นเงินที่มีผู้บริจาคให้กับทางสมาคมจึงได้ทำการกดออกไปใช้จ่ายแล้ว ซึ่งทางบริษัทก็ได้นำหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันจน ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ยินยอมที่จะคืนเงินให้ พร้อมจะมีการไกล่เกลี่ยกัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ยังให้การบ่ายเบี่ยงที่จะเข้ามาให้ปากคำ อ้างว่าติดหาเสียงบ้าง ติดธุระบ้างจนเป็นเหตุให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่มาจับได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวมาที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
รรวบตัวเชาวรินธร์ อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทยแฮกข้อมูลการเงิน
เจ้าหน้าที่ รวบตัว "เชาวรินทร์" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย คดีแฮกข้อมูลการโอนเงิน จำนวน 11 ล้านบาทได้แล้ว
ขณะจะเดินทางไปญี่ปุ่น
นายพิทักษ์ ศรีนวกุล ตัวแทน บริษัท บีพีซี ของประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นบริษัทค้าปูนซีเมนซ์ ผู้เสียหายจากกรณีที่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ข้อหาฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ได้มีการแฮกข้อมูลการโอนเงินของบริษัท เข้าบัญชีของ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ที่มีชื่อเป็นกรรมการ เป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวที่ สน.ดุสิต
โดย นายพิทักษ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากที่บริษัทเป็นคู่ค้ากับบริษัททีพีไอมานานมาก และมีการสั่งซื้อปูนซีเมนต์ผ่านทางอีเมล์ของบริษัทเป็นประจำ แต่ในวันที่เกิดเหตุมีการตรวจสอบพบว่าข้อมูลในอีเมล์ของบริษัทถูกแฮกเปลี่ยนข้อมูลให้มีการโอนเงินเข้าไปในบัญชีของสมาคมที่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ เป็นกรรมการอยู่ และจากการทวงถาม ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ให้การว่ามีเงินจำนวนดังกล่าวโอนเข้ามาจริง แต่คิดว่าเป็นเงินที่มีผู้บริจาคให้กับทางสมาคมจึงได้ทำการกดออกไปใช้จ่ายแล้ว ซึ่งทางบริษัทก็ได้นำหลักฐานต่าง ๆ มายืนยันจน ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ยินยอมที่จะคืนเงินให้ พร้อมจะมีการไกล่เกลี่ยกัน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีการออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ยังให้การบ่ายเบี่ยงที่จะเข้ามาให้ปากคำ อ้างว่าติดหาเสียงบ้าง ติดธุระบ้างจนเป็นเหตุให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับไปเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา จนเจ้าหน้าที่มาจับได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวมาที่ สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
#ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย