รวบอดีตส.ส.ดัง ‘รตท.เชาวรินธร์’

จับ “เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ” อดีต ส.ส.ราชบุรี คนดัง หลังแฮกอีเมล เปลี่ยนเลขบัญชี ตุ๋นให้บริษัทในประเทศกัมพูชาจ่ายค่าปูนซีเมนต์ 11 ล้านบาท เข้าบัญชีสมาคมวัฒนธรรมไทยจีนที่เจ้าตัวเป็นกรรมการ ก่อนเบิกไปใช้จ่ายเกลี้ยง เบื้องต้นรับว่าได้เงินมาจริงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินของใคร นำไปทำบุญสร้างเจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลกหมดแล้ว เตรียมฟ้อง กลับผู้เสียหาย ก่อนถูกคุมตัวไปฝากขัง ลูกชายยื่น ตำแหน่งและเงินสดขอประกัน ศาลอนุมัติตีราคาประกัน 1 ล้านบาท

อดีต ส.ส.ราชบุรี คนดังจนมุมคาสนามบิน เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 12 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.สุวรรณภูมิ ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต จับกุมตัว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/2-3-4 ถนนเพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีฉายาว่า “ส.ส.สากกะเบือ” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 10/2558 ลงวันที่ 6 ม.ค.58 ข้อหา ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ กำลังขึ้นเครื่องบินเดินทางไปต่างประเทศ ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สน.ดุสิต

ต่อมานายพิทักษ์ ศรีนวกุล อายุ 57 ปี ตัวแทนบริษัทบี.พี.ซี. เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ในฐานะผู้เสียหาย เดินทางมาสอบถามความคืบหน้าทางคดี โดยเปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวเป็นการแฮกอีเมลแล้วเปลี่ยนแบบฟอร์ม ชื่อ เลขบัญชีธนาคารที่จะโอนเงินค่าซื้อปูนซีเมนต์ ที่บริษัทบี.พี.ซี. เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) ติดต่อซื้อปูนซีเมนต์จากบริษัททีพีไอโพลิน พลับบลิค จำกัด (ประเทศไทย) เป็นประจำ กระทั่งมีการส่งอีเมลให้เปลี่ยนเลขบัญชีเกิดขึ้น โดยเปลี่ยนเลขบัญชีปลายทางเป็นธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา ทางบริษัทได้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวจำนวน 11 ล้านบาท เป็นค่าซื้อปูนซีเมนต์ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อที่ประเทศกัมพูชาในวันที่ 7 พ.ค.57 ก่อนเงินเข้าบัญชีวันที่ 8 พ.ค.57 แต่ทางบริษัทไม่ได้รับสินค้า

นายพิทักษ์กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังบริษัททราบเรื่องว่าโอนเงินเข้าผิดบัญชี จึงเดินทางมาแจ้ง ความที่ สน.ดุสิต เจ้าของพื้นที่ ตรวจสอบทราบว่า บัญชีที่โอนเงินเข้าไปเป็นบัญชีของสมาคมวัฒนธรรมไทยจีนที่มี ร.ต.ท.เชาวรินธร์เป็นกรรมการ มีการเบิกถอนเงินทั้งหมดในวันที่ 9 พ.ค.57 โดย ร.ต.ท.เชาวรินธร์แจ้งว่าได้รับเงินจริง แต่ไม่ทราบว่าเงินมาจากไหน เพราะมีคนมาทำบุญกับสมาคมจำนวนมาก ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้แล้ว มีการเจรจาคืนเงินกันตั้งแต่ช่วงแรก โดยนำเอกสารมาชี้แจง เช่น สลิปโอนเงิน แต่ ร.ต.ท.เชาวรินธร์บ่ายเบี่ยงว่าเอกสารไม่ชัดเจนเลยยังไม่คืนเงิน กระทั่งพนักงานสอบสวนเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนตามขั้นตอน กระทั่งออกหมายเรียก 2 ครั้ง ให้ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ มาสอบปากคำ แต่กลับหลบเลี่ยงไม่ยอมมา อ้างติดภารกิจตำรวจจึงออกหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดุสิต คุมตัว ร.ต.ท.เชาวรินธร์จากสนามบินสุวรรณภูมิมาทำการสอบสวนที่ สน.ดุสิต โดยสารมาในรถเก๋งมาสด้า 3 ทะเบียน สม 918 กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางเข้าห้องพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.เชาวรินธร์ได้พูดด้วยน้ำเสียงดังพร้อมรอยยิ้มว่า “ปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหาและจะฟ้องกลับผู้เสียหายด้วย” ก่อนให้ตำรวจพิมพ์ลายนิ้วมือทำประวัติและสอบสวนนานครึ่งชั่วโมง ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง เบื้องต้น ร.ต.ท.เชาวรินธร์ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่าได้เงินมาจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินของใคร ส่วนเงินที่ได้มาตนนำไปทำบุญสร้างเจ้าแม่กวนอิมใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ ผบก.น.1 เผยว่า คดีดังกล่าวทางตำรวจดำเนินไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย โดยนำตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง พนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว แต่ให้เป็นไปตามดุลพินิจของศาล

ที่ศาลอาญา พ.ต.ท.อัครชัย แช่มช้อย พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ควบคุมตัว ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักย์ศิริ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกง มายื่นคำร้องขอฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 12-23 ม.ค.58 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ มีพยานต้องสอบเพิ่มอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจลายนิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

โดยคำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.57 บริษัทบี.พี.ซี.เทรดดิ้ง จำกัด (ประเทศกัมพูชา) สั่งซื้อสินค้าจำพวกปูนซีเมนต์จากบริษัททีพีไอโพลีนพลับบลิค จำกัด (ประเทศไทย) ผ่านทางอีเมลในชื่อ thongn@ksc.th.com โดยบริษัททีพีไอโพลีน ได้ออกหลักฐานใบสำคัญเก็บเงินค่าสินค้า เป็นเงินจำนวน 352,781 ยูเอสดอลลาร์ (11,428,308.40 บาท) โดยให้บริษัท บี.พี.ซี.โอนเงินชำระค่าสินค้า เข้าบัญชีชื่อบริษัททีพีไอโพลีน ธนาคารทหารไทยจำกัด มหาชน ต่อมาคนร้ายเปลี่ยนแปลงแก้ไขใบ สำคัญเก็บเงินค่าสินค้าของบริษัททีพีไอโพลีน โดยให้บริษัท บี.พี.ซี.โอนเงินค่าสินค้าตามใบสั่งซื้อสินค้าเข้าบัญชีของบริษัท ที.ซี.บี.เอ.แอนด์โพลีนพลับบลิค จำกัด ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน สาขารัฐสภา ชื่อบัญชีไทยแอนด์ไชนีส บุดดิส คัลเจอร์ แอสโซซิเอชั่น ทำให้บริษัท บี.พี.ซี.หลงเชื่อ โอนเงินค่าสินค้าจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีที่ถูกปลอมแปลงขึ้น เมื่อวันที่ 8 พ.ค.57 จากการสอบสวนทราบว่า บัญชีดังกล่าวมีชื่อ ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ผู้ต้องหากับพวกเป็นผู้ขอเปิดบัญชี ต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค.57 ผู้ต้องหากับพวกได้เบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าวจากบัญชีไป โดยทำการโอนเงินจำนวน 10,742,600.00 บาท เข้าไปบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน สาขาสีลม ชื่อบัญชีนายอานนท์ นิลศรี และโอนเงินจำนวน 685,708.40 บาท เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน สาขารัฐสภา ชื่อบัญชีของผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาและนายอานนท์ ได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวไปโดยทุจริต การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ผู้อื่นหรือประชาชน ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยศาลพิจารณาคำร้องพร้อมสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลัง พ.ต.อรรคริน ลักธศักย์ศิริ บุตรชาย ร.ต.ท.เชาวรินธร์ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นตำแหน่งของพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมเงินสดอีก 4 แสนบาท รวมมูลค่า 1 ล้านบาทเศษ ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตำแหน่งของบุตรชายผู้ต้องหามีความมั่นคง จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.thairath.co.th/content/474427

อนึ่ง โกโบริน เคยแหกตาคนไทยมาแล้ว 2 ครั้ง เรื่องทองที่ถ้ำลิเจีย กับเรื่องจตุคาม[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ http://news.spokedark.tv/2013/12/20/imprison_chuawarin/

พี่น้องเสื้อแดงว่าไงครับ