MGR Online - ศาลสั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน "ร.ต.ท.เชาวรินธร์" อดีต ส.ส.เพื่อไทย ยักยอกเงิน 11 ล้านกว่าบาท ของบริษัทสัญชาติกัมพูชาที่โอนผิดบัญชี สั่งคืนเงินทั้งหมดให้โจทก์ด้วย ส่วนข้อหาฉ้อโกง โจทก์ไม่มีหลักฐานว่าจำเลยแอบแก้ไขบัญชี จึงยังไม่มีความผิด
วันนี้( 27 ก.ย.) ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์หมายเลขดำ อ.638/2558 ที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 10 และบริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชา เป็นโจทก์และโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อายุ 70 ปี อดีต รมช.ศึกษา และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 6 - 9 พ.ค.2557 จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบสำคัญเก็บสินค้าเสียใหม่เป็นว่า ให้บริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชาโอนเงินค่าซื้อปูนซิเมนต์ ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน พับลิก จำกัดประเทศไทย จำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 11,428,308 บาทผ่านเข้า บช.เงินฝาก ธ.กรุงไทย ฯ สาขารัฐสภา ของพวกจำเลยโดยทุจริต จำเลยปฏิเสธสู้คดี
ศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า ลักษณะการกระทำของจำเลยตามฟ้อง โจทก์ไม่มีพยาน มาเบิกความยืนยันว่าจำเลยแก้ไขหรือสั่งการให้มีการแก้ไขข้อมูลทางบัญชี จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย การกระทำของจำเลยยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง แต่พฤติการณ์ที่จำเลยเบิกเงินจำนวน 11 ล้านกว่าบาทจากบัญชีที่บริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชา โจทก์ร่วมโอนผิด โดยไม่ยอมคืนเงิน แต่โอนเงินเข้าบัญชีให้ตัวเองและเจ้าหนี้แสดงให้เห็นเจตนาไม่สุจริต ซึ่งการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และให้คืนเงินทั้งหมดแก่โจทก์ร่วมด้วย
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000097141
จำคุก 1 ปี 6 เดือน"เชาวรินธร์"อดีต ส.ส.เพื่อไทย ยักยอกเงิน บ.กัมพูชา 11 ล้านบาท
วันนี้( 27 ก.ย.) ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์หมายเลขดำ อ.638/2558 ที่ พนักงานอัยการคดีอาญา 10 และบริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชา เป็นโจทก์และโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.เชาวรินธร์ ลัทธศักดิ์ศิริ อายุ 70 ปี อดีต รมช.ศึกษา และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 6 - 9 พ.ค.2557 จำเลยกับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันเข้าไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใบสำคัญเก็บสินค้าเสียใหม่เป็นว่า ให้บริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชาโอนเงินค่าซื้อปูนซิเมนต์ ของบริษัท ทีพีไอ โพลีน พับลิก จำกัดประเทศไทย จำนวน 352,781 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทย 11,428,308 บาทผ่านเข้า บช.เงินฝาก ธ.กรุงไทย ฯ สาขารัฐสภา ของพวกจำเลยโดยทุจริต จำเลยปฏิเสธสู้คดี
ศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่า ลักษณะการกระทำของจำเลยตามฟ้อง โจทก์ไม่มีพยาน มาเบิกความยืนยันว่าจำเลยแก้ไขหรือสั่งการให้มีการแก้ไขข้อมูลทางบัญชี จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย การกระทำของจำเลยยังไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกง แต่พฤติการณ์ที่จำเลยเบิกเงินจำนวน 11 ล้านกว่าบาทจากบัญชีที่บริษัท บีพีซี เทรดดิ้ง จำกัด ประเทศกัมพูชา โจทก์ร่วมโอนผิด โดยไม่ยอมคืนเงิน แต่โอนเงินเข้าบัญชีให้ตัวเองและเจ้าหนี้แสดงให้เห็นเจตนาไม่สุจริต ซึ่งการกระทำนั้นเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และให้คืนเงินทั้งหมดแก่โจทก์ร่วมด้วย
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9590000097141