[[ปลาต้มบ๊วย]] ง่ายๆ รับลมหนาว

กระทู้สนทนา
จริงๆแล้วอยู่กทม. ก็ยังไม่ได้สัมผัสความหนาวเหมือนภาคอื่นเค้านอกจากเวลาเปิดแอร์ พาพันเศร้า
เรื่องของเรื่องมีโจทย์อยู่ว่า อยากกินบ๊วย อยากกินขิง แล้วอยากซดน้ำด้วย ก็เลยมาลงเอยที่เมนูต้มบ๊วยๆ นี่แหละจ้า
วัตถุดิบก็หยิบๆ เอาที่มีในตู้เย็น สำหรับคนที่ไม่ชอบกินปลา จะเปลี่ยนเป็นซี่โครงหมู หรือน่องไก่ ตีนไก่ ก็อร่อยเหมือนกันนะ
ในบางวันที่ไม่มีเนื้อสัตว์ติดตู้เย็นแล้วดันอยากกิน เรายังค้นพบว่า ฟักต้มบ๊วย ก็อร่อยไม่แพ้กัน แถมยังถือเป็นมังสวิรัตน์ได้อีก 555

ส่วนประกอบที่ใช้ มีไม่เยอะ
1. ปลา - วันนี้มีปลาทรายแดง แช่แข็งอยู่หลายวันแล้ว
2. ขิง - เราใช้ 1 ท่อนใหญ่ๆ เอามาซอยเอง ใครขี้เกียจก็ซื้อที่เค้าซอยสำเร็จไม่ว่ากัน
3. บ๊วยดอง - เราใช้ 5 เม็ด + น้ำดองบ๊วยด้วย
4. หอมแดง - ของเราเป็นหอมแขกลูกใหญ่ ใส่ไป 1 ลูก ถ้าใช้หอมไทยก็ 3-5 ละกันตามขนาด
5. ต้นหอมผักชี - หั่นท่อนสั้นๆ เอาไว้โรย
6. ซีอิ้วขาว
7. เกลือ

เริ่มจากถ่ายรูปหมู่ตามธรรมเนียม


ขั้นแรก ต้มน้ำพอเดือด ใส่ขิงกับหอมแดงลงไปก่อน


ตามด้วยบ๊วยและน้ำดองบ๊วย แล้วทิ้งให้เดือดซัก 5 นาที ปรุงรสในขั้นตอนนี้เลยจ้ะ
ใส่ซีอิ้วขาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ชิมดู ถ้าไม่เค็มใส่เกลือ หรือเพิ่มน้ำบ๊วยทีละนิด จนได้รสที่พอใจ
รสชาติจะเปรี้ยวบ๊วยนิดๆ เค็มหน่อยๆ เผ็ดขิงเล็กน้อย ไม่ต้องใส่เค็มมากนะเพราะเราเอาไว้ซดน้ำ


ใส่ปลาลงไป กดให้จมแล้วห้ามคนจนกว่าปลาจะสุก


จัดใส่ถ้วยโรยต้นหอมผักชี แค่เนี๊ยะะะ...


ง่ายไปป่าว ลองทำดูนะคร๊าาา



แถมท้ายอีกนิดสำหรับคนที่ต้องการใส่อย่างอื่นที่ไม่ใช่ปลา ก็จะต้องสลับขั้นตอนเล็กน้อย
คือต้มหมู หรือไก่ จนเปื่อยก่อนเปนอันดับแรก แล้วค่อยใส่เครื่องปรุงอย่างอื่นตามลำดับ
เพราะว่าปลานั้นสุกง่ายและถ้าคนมากๆ จะทำให้เหม็นคาวนั่นเองจ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่