.....สว้สดีค่ะ.....
หลังจากที่แฝงตัวขโมยสูตร ตามกินอาหารอร่อยในพันทิปที่เพื่อนๆพี่ๆนำมารีวิวให้ดูอยู่นาน
ถึงเวลาที่ปิ๊กขอเข้าครัวโชว์ฝีมือการทำไข่พะโล้ครั้งแรกในชีวิต ตลอด22ปีที่ผ่านมาไม่คิดเลยว่าจะได้ทำเมนูนี้
มันคงไม่เกิดขึ้น ถ้า...วันหนึ่งคุณแม่ที่กำลังไม่สบายไม่หันมาบอกกับปิ๊กว่า ปิ๊กแม่อยากกินไข่พะโล้ วันนั้นกินกับพี่(สาวปิ๊กค่ะ)แล้วหอมมากแม่อยากกิน
เอาล่ะสิคะ ในเมื่อคุณแม่ขอมาอย่างนั้นจะไปซื้อให้กินก็ไม่ได้(แม่ไม่ทานผงชูรสค่ะเพราะเป็นมะเร็งอยู่ในช่วงฟื้นตัว)เลยตัดสินใจลองทำดู
ค้นๆสูตรดูทั้งในพันทิป และหลายๆบล็อค จนมาเจอสูตร ไข่พะโล้โบราณของคุณหมูแดง ครัวไกลบ้าน ดูแล้วน่าทานมากค่ะ แล้วปรุงแต่งรสชาติด้วยเครื่องปรุงน้อยมาก ไม่ใช้ซีอิ๋วดำ ไม่ใส่ผงพะโล้ เลยตัดสินใจใช้สูตรนี้
แล้วไข่มันจะดำได้ยังไง??? ถ้าอยากรู้ มาชมกันเลยค่ะ.....
เครื่องปรุง
ไข่ 10ฟอง
สามเกลอตำละเอียด(พริกไทย รากผักชี กนะเทียม)
หมูสันใน(ใครจะใช้สามชั้น ขาหมู ปีกไก่ หรือเนื้ออะไรก็ได้ไม่ผิดค่ะ แม่ปิ๊กทานมันไม่ได้เลยใช้เนื้อสันแทน)
น้ำตาลปี๊ป
ซีอิ๋วขาว
โป๊ยกั๊ก
อบเชย
น้ำมันพืช(สำหรับผัด)
หน้าตาเครื่องปรุงเป็นแบบนี้ค่ะ ปิ๊กใช้กล้อง ipad นะคะ เลยอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่
1 ขั้นตอนแรกนะคะนำสามเกลอมาตำให้ละเอียด ย้ำนะคะ ว่าต้องละเอียดจริงๆ เวลาต้มจะได้ไม่ลอยขึ้นบนหน้าหม้อพะโล้ไม่สวยคะ เวลาตำใส่เกลือลงไปเล็กน้อยก็ได้ค่ะจะทำให้ตำได้ง่าย(อาจารย์เค้าบอกมาค่ะ) แต่..!! เนื่องจากเป็นครั้งแรกของปิ๊กเลยขอโกงข้อสอบด้วยการเปลี่ยนจากพริกไทยเม็ดขาวเป็นพริกไทยผงค่ะ รสชาติไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับค่ะ รากผักชีมีเท่าไหร่ใส่ไปเยอะๆจะทำให้พะโล้มีกลิ่นหอมน่าทานมากค่ะ กระเทียมใช้พระเทียมบ้านกลีบเล็ก ปิ๊กใช้กระเทียมจากศรีสะเกษค่ะ กระเทียมที่นี้ขึ้นชื่อมาก แถมอยู่ใกล้จังหวัดที่ปิ๊กอยู่ด้วย แต่ก็ใช้กระเทียมกลีบเล็กได้ค่ะ ไม่ต้องมาซื้อไกลถึงศรีสะเกษนะคะ ฮ่าๆๆ สังเกตุดูว่าขนาดโขลกอยู่หลายนาทียังไม่ละเอียดเลยค่ะ (ตามภาพเเรกซ้ายมือ)ไม่เป็นไรครั้งแรกให้อภัย(ตัวเอง)ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ
ช่วงเวลาที่เราโขลกสามเกลออยู่นั้นปิ๊กก็ต้มไข่ทิ้งไว้ เป็นไข่ไก่นะคะ ใครมีไข่เป็ดยิ่งดีเลยค่ะ จัดไป10ฟองค่ะ ใส่เกลือเล็กน้อยจะได้ปลอกง่าย ต้มไว้สัก10นาทีให้ไข่สุกๆเลยนะคะ ต้มเสร็จก็ตักขึ้นมาเเช่น้ำพักไว้ค่ะ
2.
เมื่อโขลก3เกลอละเอียดแล้ว เราก็ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางน้ำมันนิดหน่อย นำสามเกลอลงไปผัดค่ะ อย่าใช้ไฟแรงนะคะ เดี๋ยวจะไหม้เอา
ผัดไปซักพักกลิ่นเครื่องแกงจะลอยเข้าจมูก ตอนนี้เราจะเห็นความดีของรากผักชีที่เราใส่ไปค่ะ เพราะยิ่งใส่มาก ยิ่งหอมค่ะ ห้ามไหม้นะคะ เราต้องคนเรื่อยๆไม่อย่างนั้นรสชาติอาจเพี้ยนค่ะ
3. เครื่องแกงเราหอมได้ที่แล้วเราก็เอาน้ำตาลปี๊ปใส่ลงไปประมาณ2ทัพพี ปิ๊กขอแนะนำว่าคนที่ทำครั้งแรกให้ใช้ไฟอ่อนสุดเลยนะคะ เพราะกลัวว่าน้ำตาลจะไหม้ ถ้าน้ำตาลไหม้รสชาติจะเพี้ยนเลยค่ะ ต้องคนตลอดเวลาห้ามหยุด ใครไม่มีน้ำตาลปี๊ปก็ใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาวได้ค่ะ ปิ๊กใช้น้ำตาลปี๊ปเพราะรสชาติมันจะละมุนกว่า หอมกว่าด้วยค่ะ
คนไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ ก็จะได้ตามภาพขวามือค่ะ น้ำตาลจะเดือดปุดๆมีควันลอยขึ้นมาไม่ต้องตกใจนะคะ เคี่ยวไปเรื่อยๆอย่าให้ไหม้อย่าให้ติดกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใจเย็นๆ
*ขอย้ำ* ห้ามเผลอนะคะ ต้องคนเรื่อยๆ นี้ปิ๊กแอบวางตะหลิวถ่ายรูปยังกลัวจะไหม้ ipad จะตกกระทะเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
4.เมื่อน้ำตาลได้ที่เป็นสีคาราเมลอย่างที่ต้องการแล้วก็เอาหมูที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดให้น้ำตาลในกระทะเคลือบหมูให้ทั่ว ตามด้วยไข่ต้มปลอกเปลือกเทลงไปคนให้ทั่วค่ะ ไม่ต้องผัดนานแค่ให้น้ำตาลเคลือบให้ทั่วก็พอ ใครเคี่ยวน้ำตาลจนเป็นก้อนก็ไม่เป็นไรนะคะ ไปทำวิธีต่อไปเลยค่ะ
5.จากนั้นเราก็เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมไข่ ท่วมหมูในกระทะเลยนะคะเพราะเราต้องใช้เวลาเคี่ยวอีกนาน หรือใครจะเอาไข่ หมูในกระทะไปเทใส่หม้อแล้วเติมน้ำก็ได้ค่ะ แต่ปิ๊กแนะนำว่าใช้กระทะดีกว่าค่ะ เพราะมันติ้น เราดูแลง่าย คนง่ายกว่าค่ะ ไข่จะไม่แตกด้วยจ้า (แตกของปิ๊กแอบแตกตั้งแต่ต้มแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ)
เมื่อใส่น้ำลงไปแล้วก็ตามด้วยอบเชย โป๊ยกั๊ก คุณหมูแดงใช้ใส่ในถุงชา หรือใครจะห่อผ้าขาวก็ได้ค่ะ แต่ที่พูดมาทั้งหมดปิ๊กไม่มีค่ะ OTL เลยต้องใส่ลงไปทั้งอย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะพอเสร็จตั้งทิ้งได้ หรือปล่อยโชว์ประดับถ้วยก็ได้ค่ะ พอใส่ลงไปแล้วก็กดๆให้จมลงไปใต้กระทะ
6. รูปแรกคือ5นาทีผ่านไปนะคะ สังเกตุว่าไข่ยังขาวอยู่เลย ใจหายเลยค่ะ กลัวทำไม่สำเร็จ ไข่ไม่เป้นสีเข้มนี้ไม่น่าทานเลย แต่สีน้ำก็เข้ม(จากน้ำตาลที่เราเคี่ยว)ใช้ได้ อดทนค่ะ ยังต้องใช้เวลาอีกนานบอกกับตัวเอง ฮ่าๆๆ
อีกสักพักเราก็ปรุ่งรสด้วยซีอิ๋วขาว กับเกลือค่ะ ใครจะไม่ใส่ซีอิ๋ว หรือไม่ชอบกลิ่นซีอิ๋วก็ได้นะคะ แต่ปิ๊กชอบค่ะ ฮ่าๆรู้สึกว่าหอมดี ซีอิ๋วที่ใช้เป็นซีอิ๋วเห็ดหอมของต้ากี่ค่ะ ใส่ไปสัก2ทัพพี รสชาติพะโล้สูตรนี้จะเค็มๆ หวานๆค่ะ ค่อยๆปรุงนะคะ อย่าใส่เกลือลงไปเยอะ ค่อยๆชิมไปเรื่อยๆ
7.ผ่านไป20นาทีหน้าตาพะโล้จะเป้นเหมือนรูปแรกค่ะ ไข่เริ่มเป็นสีน้ำตาลให้คนทำได้ใจชื่น รอต่อไปค่ะ คนเป็นพักๆ อย่าคนบ่อยเดี่ยวไข่จะไม่สวยค่ะ ถ้าน้ำของใครเริ่มแห้ง(สำหรับคนชอบน้ำเยอะๆ)ก็ใส่เพิ่มได้นะคะ แต่อย่ามากเดี๋ยวสีไม่สวยค่ะ
รูปที่2คือผ่านไป40นาที ไข่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลสวยแล้วค่ะ ตอนนี้ปิ๊กก็ชิมรสชาติอีกครั้ง อื้ออ หืออ หวานนำเลยค่ะ -*- เลยต้องจัดการเทซีอิ๋วขาวลงไปอีก ตามด้วยเกลืออีก3หยิบ เติมน้ำลงไปอีกนิดโอเคแล้วค่ะ(เพราะปิ๊กใส่น้ำตาลค่อนข้างเยอะสีถึงไม่จืดมากค่ะ)
8.แล้วเวลาก็ผ่านไป1ชั่วโมง พะโล้หม้อนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ ภาพนี้คือตอนที่ปิ๊กปิดไฟแล้ว สังเกตุว่าถึงจะไม่ได้ใส่ซีอิ๋วดำแต่ไข่ก็สีสวยน่าทานค่ะ นั้นคือผลจากการที่เราหมั่นเคี่ยวน้ำตาล ถึงจะใช้เวลานานไปบ้างแต่ผลก็คุ้มค่ามากค่ะ กลิ่นพะโล้หอมกระจายเต็มบ้าน แต่ประโยคแรกที่คุณพ่อเข้ามาในบ้านคือ
"ปิ๊กทำอะไร ทำไมเหม็นจัง"
คือแบบ...พ่อคะ มันคือไข่พะโล้หม้อแรกของหนูนะคะ ฮ่าๆๆๆ
ที่บ้านจะไม่ชินกับกลิ่นพะโล้ค่ะ เพราะเราไม่เคยทำพะโล้เลย นี้เป็นครั้งแรงของปิ๊กและครอบครัวเลยค่ะ แอบภูมิใจเล็กๆ ฮ่าๆๆ
8. เรียบร้อยตักใส่ชาม พร้อมเสริฟค่ะ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินตัวลอยเลยค่ะ
**สรุป***
รสชาติคุณแม่ให้ผ่านค่ะ บอกว่าอร่อยมาก ไม่หวานเกิน ไม่เค็มเกินไป พี่เขยก็บอกรสชาติใช้ได้พอดีกินคนเดียวไป3ฟองเลยค่ะ
คุณแม่ทานไป2ฟอง พี่เคย3 ให้คุณน้าที่เดินมาทักตอนเย็นว่าทำอะไรหอมจังไปอีก3 (รอฟังคอมเม้นพรุ่งนี้ค่ะ 55)
เหลืออีก2ฟองคุณแม่จะเอาใส่ปิ่นโตไปทานที่โรงพยาบาลด้วยตอนเช้า (โรงพยาบาลอยู่ต่างจังหวัดค่ะเลยต้องห่อข้าวไปกินด้วย)
สรุปไข่พะโล้หม้อนี้ปิ๊กไม่ได้ทานเลยค่ะ แอบเศร้า สงสัยต้องทำใหม่อาทิตย์หน้า แต่ไม่เป้นไรค่ะ ได้ยินคำชมแค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ 555
คะแนนเต็ม10 ปิ๊กให้พะโล้หม้อนี้ 8/10 ค่ะ รสชาติขอบอกว่าสูตรนี้อร่อยจริงๆ ต้องขอบคุณคุณหม้อแดงไว้ตรงนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ
หัก2คะแนนเรื่องตำสามเกลอไม่ละเอียดค่ะ และโกงพริกไทย ครั้งหน้าจะแก้ตัวใหม่นะคะ
****ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ*******
[CR] รีวิว ครั้งแรก!! กับไข่พะโล้สูตรโบราณ ไม่ง้อซีอิ๋วดำ ไม่พึ่งผงพะโล้ เมนูนี้คุณแม่ขอ!!
หลังจากที่แฝงตัวขโมยสูตร ตามกินอาหารอร่อยในพันทิปที่เพื่อนๆพี่ๆนำมารีวิวให้ดูอยู่นาน
ถึงเวลาที่ปิ๊กขอเข้าครัวโชว์ฝีมือการทำไข่พะโล้ครั้งแรกในชีวิต ตลอด22ปีที่ผ่านมาไม่คิดเลยว่าจะได้ทำเมนูนี้
มันคงไม่เกิดขึ้น ถ้า...วันหนึ่งคุณแม่ที่กำลังไม่สบายไม่หันมาบอกกับปิ๊กว่า ปิ๊กแม่อยากกินไข่พะโล้ วันนั้นกินกับพี่(สาวปิ๊กค่ะ)แล้วหอมมากแม่อยากกิน
เอาล่ะสิคะ ในเมื่อคุณแม่ขอมาอย่างนั้นจะไปซื้อให้กินก็ไม่ได้(แม่ไม่ทานผงชูรสค่ะเพราะเป็นมะเร็งอยู่ในช่วงฟื้นตัว)เลยตัดสินใจลองทำดู
ค้นๆสูตรดูทั้งในพันทิป และหลายๆบล็อค จนมาเจอสูตร ไข่พะโล้โบราณของคุณหมูแดง ครัวไกลบ้าน ดูแล้วน่าทานมากค่ะ แล้วปรุงแต่งรสชาติด้วยเครื่องปรุงน้อยมาก ไม่ใช้ซีอิ๋วดำ ไม่ใส่ผงพะโล้ เลยตัดสินใจใช้สูตรนี้
แล้วไข่มันจะดำได้ยังไง??? ถ้าอยากรู้ มาชมกันเลยค่ะ.....
เครื่องปรุง
ไข่ 10ฟอง
สามเกลอตำละเอียด(พริกไทย รากผักชี กนะเทียม)
หมูสันใน(ใครจะใช้สามชั้น ขาหมู ปีกไก่ หรือเนื้ออะไรก็ได้ไม่ผิดค่ะ แม่ปิ๊กทานมันไม่ได้เลยใช้เนื้อสันแทน)
น้ำตาลปี๊ป
ซีอิ๋วขาว
โป๊ยกั๊ก
อบเชย
น้ำมันพืช(สำหรับผัด)
หน้าตาเครื่องปรุงเป็นแบบนี้ค่ะ ปิ๊กใช้กล้อง ipad นะคะ เลยอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่
1 ขั้นตอนแรกนะคะนำสามเกลอมาตำให้ละเอียด ย้ำนะคะ ว่าต้องละเอียดจริงๆ เวลาต้มจะได้ไม่ลอยขึ้นบนหน้าหม้อพะโล้ไม่สวยคะ เวลาตำใส่เกลือลงไปเล็กน้อยก็ได้ค่ะจะทำให้ตำได้ง่าย(อาจารย์เค้าบอกมาค่ะ) แต่..!! เนื่องจากเป็นครั้งแรกของปิ๊กเลยขอโกงข้อสอบด้วยการเปลี่ยนจากพริกไทยเม็ดขาวเป็นพริกไทยผงค่ะ รสชาติไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับค่ะ รากผักชีมีเท่าไหร่ใส่ไปเยอะๆจะทำให้พะโล้มีกลิ่นหอมน่าทานมากค่ะ กระเทียมใช้พระเทียมบ้านกลีบเล็ก ปิ๊กใช้กระเทียมจากศรีสะเกษค่ะ กระเทียมที่นี้ขึ้นชื่อมาก แถมอยู่ใกล้จังหวัดที่ปิ๊กอยู่ด้วย แต่ก็ใช้กระเทียมกลีบเล็กได้ค่ะ ไม่ต้องมาซื้อไกลถึงศรีสะเกษนะคะ ฮ่าๆๆ สังเกตุดูว่าขนาดโขลกอยู่หลายนาทียังไม่ละเอียดเลยค่ะ (ตามภาพเเรกซ้ายมือ)ไม่เป็นไรครั้งแรกให้อภัย(ตัวเอง)ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ
ช่วงเวลาที่เราโขลกสามเกลออยู่นั้นปิ๊กก็ต้มไข่ทิ้งไว้ เป็นไข่ไก่นะคะ ใครมีไข่เป็ดยิ่งดีเลยค่ะ จัดไป10ฟองค่ะ ใส่เกลือเล็กน้อยจะได้ปลอกง่าย ต้มไว้สัก10นาทีให้ไข่สุกๆเลยนะคะ ต้มเสร็จก็ตักขึ้นมาเเช่น้ำพักไว้ค่ะ
2.
เมื่อโขลก3เกลอละเอียดแล้ว เราก็ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางน้ำมันนิดหน่อย นำสามเกลอลงไปผัดค่ะ อย่าใช้ไฟแรงนะคะ เดี๋ยวจะไหม้เอา
ผัดไปซักพักกลิ่นเครื่องแกงจะลอยเข้าจมูก ตอนนี้เราจะเห็นความดีของรากผักชีที่เราใส่ไปค่ะ เพราะยิ่งใส่มาก ยิ่งหอมค่ะ ห้ามไหม้นะคะ เราต้องคนเรื่อยๆไม่อย่างนั้นรสชาติอาจเพี้ยนค่ะ
3. เครื่องแกงเราหอมได้ที่แล้วเราก็เอาน้ำตาลปี๊ปใส่ลงไปประมาณ2ทัพพี ปิ๊กขอแนะนำว่าคนที่ทำครั้งแรกให้ใช้ไฟอ่อนสุดเลยนะคะ เพราะกลัวว่าน้ำตาลจะไหม้ ถ้าน้ำตาลไหม้รสชาติจะเพี้ยนเลยค่ะ ต้องคนตลอดเวลาห้ามหยุด ใครไม่มีน้ำตาลปี๊ปก็ใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาวได้ค่ะ ปิ๊กใช้น้ำตาลปี๊ปเพราะรสชาติมันจะละมุนกว่า หอมกว่าด้วยค่ะ
คนไปเรื่อยๆ ใจเย็นๆ ก็จะได้ตามภาพขวามือค่ะ น้ำตาลจะเดือดปุดๆมีควันลอยขึ้นมาไม่ต้องตกใจนะคะ เคี่ยวไปเรื่อยๆอย่าให้ไหม้อย่าให้ติดกระทะ ใช้ไฟอ่อน ใจเย็นๆ
*ขอย้ำ* ห้ามเผลอนะคะ ต้องคนเรื่อยๆ นี้ปิ๊กแอบวางตะหลิวถ่ายรูปยังกลัวจะไหม้ ipad จะตกกระทะเลยค่ะ ฮ่าๆๆ
4.เมื่อน้ำตาลได้ที่เป็นสีคาราเมลอย่างที่ต้องการแล้วก็เอาหมูที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดให้น้ำตาลในกระทะเคลือบหมูให้ทั่ว ตามด้วยไข่ต้มปลอกเปลือกเทลงไปคนให้ทั่วค่ะ ไม่ต้องผัดนานแค่ให้น้ำตาลเคลือบให้ทั่วก็พอ ใครเคี่ยวน้ำตาลจนเป็นก้อนก็ไม่เป็นไรนะคะ ไปทำวิธีต่อไปเลยค่ะ
5.จากนั้นเราก็เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมไข่ ท่วมหมูในกระทะเลยนะคะเพราะเราต้องใช้เวลาเคี่ยวอีกนาน หรือใครจะเอาไข่ หมูในกระทะไปเทใส่หม้อแล้วเติมน้ำก็ได้ค่ะ แต่ปิ๊กแนะนำว่าใช้กระทะดีกว่าค่ะ เพราะมันติ้น เราดูแลง่าย คนง่ายกว่าค่ะ ไข่จะไม่แตกด้วยจ้า (แตกของปิ๊กแอบแตกตั้งแต่ต้มแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ)
เมื่อใส่น้ำลงไปแล้วก็ตามด้วยอบเชย โป๊ยกั๊ก คุณหมูแดงใช้ใส่ในถุงชา หรือใครจะห่อผ้าขาวก็ได้ค่ะ แต่ที่พูดมาทั้งหมดปิ๊กไม่มีค่ะ OTL เลยต้องใส่ลงไปทั้งอย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะพอเสร็จตั้งทิ้งได้ หรือปล่อยโชว์ประดับถ้วยก็ได้ค่ะ พอใส่ลงไปแล้วก็กดๆให้จมลงไปใต้กระทะ
6. รูปแรกคือ5นาทีผ่านไปนะคะ สังเกตุว่าไข่ยังขาวอยู่เลย ใจหายเลยค่ะ กลัวทำไม่สำเร็จ ไข่ไม่เป้นสีเข้มนี้ไม่น่าทานเลย แต่สีน้ำก็เข้ม(จากน้ำตาลที่เราเคี่ยว)ใช้ได้ อดทนค่ะ ยังต้องใช้เวลาอีกนานบอกกับตัวเอง ฮ่าๆๆ
อีกสักพักเราก็ปรุ่งรสด้วยซีอิ๋วขาว กับเกลือค่ะ ใครจะไม่ใส่ซีอิ๋ว หรือไม่ชอบกลิ่นซีอิ๋วก็ได้นะคะ แต่ปิ๊กชอบค่ะ ฮ่าๆรู้สึกว่าหอมดี ซีอิ๋วที่ใช้เป็นซีอิ๋วเห็ดหอมของต้ากี่ค่ะ ใส่ไปสัก2ทัพพี รสชาติพะโล้สูตรนี้จะเค็มๆ หวานๆค่ะ ค่อยๆปรุงนะคะ อย่าใส่เกลือลงไปเยอะ ค่อยๆชิมไปเรื่อยๆ
7.ผ่านไป20นาทีหน้าตาพะโล้จะเป้นเหมือนรูปแรกค่ะ ไข่เริ่มเป็นสีน้ำตาลให้คนทำได้ใจชื่น รอต่อไปค่ะ คนเป็นพักๆ อย่าคนบ่อยเดี่ยวไข่จะไม่สวยค่ะ ถ้าน้ำของใครเริ่มแห้ง(สำหรับคนชอบน้ำเยอะๆ)ก็ใส่เพิ่มได้นะคะ แต่อย่ามากเดี๋ยวสีไม่สวยค่ะ
รูปที่2คือผ่านไป40นาที ไข่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลสวยแล้วค่ะ ตอนนี้ปิ๊กก็ชิมรสชาติอีกครั้ง อื้ออ หืออ หวานนำเลยค่ะ -*- เลยต้องจัดการเทซีอิ๋วขาวลงไปอีก ตามด้วยเกลืออีก3หยิบ เติมน้ำลงไปอีกนิดโอเคแล้วค่ะ(เพราะปิ๊กใส่น้ำตาลค่อนข้างเยอะสีถึงไม่จืดมากค่ะ)
8.แล้วเวลาก็ผ่านไป1ชั่วโมง พะโล้หม้อนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ ภาพนี้คือตอนที่ปิ๊กปิดไฟแล้ว สังเกตุว่าถึงจะไม่ได้ใส่ซีอิ๋วดำแต่ไข่ก็สีสวยน่าทานค่ะ นั้นคือผลจากการที่เราหมั่นเคี่ยวน้ำตาล ถึงจะใช้เวลานานไปบ้างแต่ผลก็คุ้มค่ามากค่ะ กลิ่นพะโล้หอมกระจายเต็มบ้าน แต่ประโยคแรกที่คุณพ่อเข้ามาในบ้านคือ
"ปิ๊กทำอะไร ทำไมเหม็นจัง"
คือแบบ...พ่อคะ มันคือไข่พะโล้หม้อแรกของหนูนะคะ ฮ่าๆๆๆ
ที่บ้านจะไม่ชินกับกลิ่นพะโล้ค่ะ เพราะเราไม่เคยทำพะโล้เลย นี้เป็นครั้งแรงของปิ๊กและครอบครัวเลยค่ะ แอบภูมิใจเล็กๆ ฮ่าๆๆ
8. เรียบร้อยตักใส่ชาม พร้อมเสริฟค่ะ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินตัวลอยเลยค่ะ
**สรุป***
รสชาติคุณแม่ให้ผ่านค่ะ บอกว่าอร่อยมาก ไม่หวานเกิน ไม่เค็มเกินไป พี่เขยก็บอกรสชาติใช้ได้พอดีกินคนเดียวไป3ฟองเลยค่ะ
คุณแม่ทานไป2ฟอง พี่เคย3 ให้คุณน้าที่เดินมาทักตอนเย็นว่าทำอะไรหอมจังไปอีก3 (รอฟังคอมเม้นพรุ่งนี้ค่ะ 55)
เหลืออีก2ฟองคุณแม่จะเอาใส่ปิ่นโตไปทานที่โรงพยาบาลด้วยตอนเช้า (โรงพยาบาลอยู่ต่างจังหวัดค่ะเลยต้องห่อข้าวไปกินด้วย)
สรุปไข่พะโล้หม้อนี้ปิ๊กไม่ได้ทานเลยค่ะ แอบเศร้า สงสัยต้องทำใหม่อาทิตย์หน้า แต่ไม่เป้นไรค่ะ ได้ยินคำชมแค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ 555
คะแนนเต็ม10 ปิ๊กให้พะโล้หม้อนี้ 8/10 ค่ะ รสชาติขอบอกว่าสูตรนี้อร่อยจริงๆ ต้องขอบคุณคุณหม้อแดงไว้ตรงนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ
หัก2คะแนนเรื่องตำสามเกลอไม่ละเอียดค่ะ และโกงพริกไทย ครั้งหน้าจะแก้ตัวใหม่นะคะ
****ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ*******