ฉันไม่เคยคาดหวังว่าฉันจะผอม ฉันได้แต่ฝันว่าฉันจะผอมและดูดี ฉันได้แต่คิดว่าฉันจะต้องคุมอาหาร ฉันไม่เคยทำได้จริงเลยสักครั้ง ฉันเคยผอมและฉันก็อ้วน และฉันก็ผอม และฉันก็อ้วนแบบฉุดไม่อยู่ ฉันเป็นคนชอบกิน ฉันกินได้ทั้งวัน และฉันก็กินแต่ของอร่อย ๆ หวาน ๆ ทอด ๆ มัน ๆ และผักน้อย ๆ ฉันกินผักสดไม่เป็น ฉันไม่ชอบกินสลัด ฉันไม่ชอบกินผักดิบ ๆ ฉันกินแต่พวกอาหารกลวงโบ๋ (พี่หมอผิงเรียกอาหารที่กินแล้วอิ่มอย่างเดียวแต่ไม่มีประโยชน์หรือไม่มีคุณค่าทางโภชนาการมากพอ กินมาก ๆ ร่างกายก็เก็บสะสมไปเรื่อย ๆ ก็อ้วนเอา ๆ แบบฉุดไม่อยู่ ว่าอาหารกลวงโบ๋) ฉันได้แต่คิดว่าฉันต้องออกกำลังกาย แต่ฉันไม่มีเวลาเลย ฉันต้องเรียน ต้องทำงาน แค่นี้ก็เหนื่อยสุด ๆ แล้ว ฉันอยากออกกำลังกายนะ แต่ฉันไม่รู้จะออกยังไง ออกมากแค่ไหน และจะเอาเวลาที่ไหนไปออก แต่ฉันอยากผอมและดูดี ฉันไม่อยากมีพุงกะทิ ฉันอึดอัด ฉันไม่ชอบเลย แต่ฉันก็ใจอ่อนทุกครั้ง เฮ้อ...! แล้วฉันจะผอมเมื่อไหร่เนีย ฉันคงต้องยอมรับสภาพและกลายเป็นคนอ้วนที่อุดมไปด้วยไขมัน ฉันคงต้องรับสภาพนี้ให้ได้ และฉันคงต้องอยู่แบบนี้ไปจนแก่ ฉันคงจะเป็นเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด และมีความเสี่ยงที่จะเป็นสูงมาก แต่ไม่เป็นไรตอนนี้ฉันรับได้ ฉันมีปัญหาแค่หาเสื้อผ้าใส่ยากหน่อย ปวดเข่าเวลาเดินเยอะ ๆ และทำอะไรชักช้า แต่ฉันรับได้มันไม่ได้ลำบากเลย มีเงินก็ต้องเตรียมไว้เป็นค่ารักษาตัวตอนแก่ ฉันต้องเก็บเงินไว้เพราะฉันคงอยู่เป็นโสด ซึ่งค่ารักษาพยายาบาลและค่าดูแลตัวเองตอนแก่คงต้องมีค่าใช้จ่ายสูง และคงไม่มีใครสนใจผู้หญิงอ้วน ๆ แบบฉัน แต่ฉันรับได้ มันไม่ใช่อะไรที่ทำให้ฉันลำบากใจเลย ฉันชอบกินนิหน่า ฉันขอเลือกการใช้ชีวิตแบบนี้และฉันทนได้
นี่คือความคิดก่อนหน้าที่ฉันจะปฏิวัติตัวเอง ฉันคิดแบบนี้จริง ๆ แล้วฉันก็อ้วนขึ้น ๆ เรื่อย ๆ แต่ฉันมีความสุขที่ได้กิน ถามว่ามันคือความสุขจริง หรือฉันกำลังหลอกตัวเองอยู่?
ฉันกำลังจะทิ้งความหวัง ที่จะกลับไปผอมอีกครั้งหรอ หรือว่าฉันจะลองสู้ดูอีกสักครั้ง สู้ในวิธีที่ถูกต้อง?
แล้วความคิดในสมองฉันก็บอกว่า ให้ฉันลองสู้ดูอีกสักครั้ง ฉันไม่ได้อยากเป็นคนอ้วนสักหน่อย ฉันอยากเป็นคนผอมที่สุขภาพดี ดูดีและสดใส ฉันอยากเป็นคนมีความสุขที่เห็นตัวเองดูดี ฉันฝันไว้แบบนั้นนิ ฉันไม่ได้อยากเป็นคนอ้วนที่ต้องหลอกตัวเองว่าเรามีความสุขที่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แต่ไม่มีประโยชน์ทางโภชนการเลย เอาวะ..! ฉันจะลองดูอีกสักครั้ง ว่าแต่ฉันจะเริ่มยังไงดี ? ฉันคงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น ฉันอยากออกกำลังกายใกล้ ๆ บ้าน หรือฉันจะไปสมัครพวกสถาบันความงามที่สลายไขมันด้วยเทคโนลียีชั้นสูงดี แต่มันคงแพงน่าดูและมันจะได้ผลหรอ? งันลองไปถามราคาดูดีกว่า ฉันเลือกไปถามราคาทั้งฟิตเน็ต และสถาบันความงามว่าค่าใช้จ่ายมันต่างกันมากไหม? มันต่างกันไม่มากหรอก ถ้าเป็นฟิตเน็ตก็จะมีค่าแรกเข้า ค่าเทรนเนอร์ 3 ครั้ง ค่ารายเดือนที่ต้องจ่ายทุกเดือน เดือนละ สองพันกว่าบาท ก็ตกปีละ 2หมื่นกว่าบาท ส่วนสถาบันความงามก็แล้วแต่เราจะเลือกซื้อแพคเก็จไหน ราคาก็ประมาณหมื่นกว่าขึ้นไป แล้วแต่เราจะเลือก
แต่ฉันคิดนะ ฉันว่า ฉันเลือกออกกำลังกายดีกว่า ถ้าจะลงทุนเพื่อสุขภาพฉันเอง ฉันยอมเสียเงินให้ฟิตเน็ต ส่วนสถาบันความงามถึงมันได้ผลจริง แต่ถ้าพฤติกรรมการกินเราไม่เปลี่ยน เรากินแบบเดิมเราก็อ้วนอยู่ดี เมื่อฉันคิดได้แบบนี้ เอาวะ..! ฟิตเน็ตมันใกล้บ้านนิ ฉันไม่มีเวลาไปไหนไกล ๆ แล้วมันคงเป็นทางเลือกที่ดีลองดูสักตั้ง ขอเวลา 1 ปี ฉันจะตั้งใจ ฉันจะเอาให้คุ้มกับเงินที่ฉันเสียไป
แล้วฉันก็สมัครฟิตเน็ตแถวบ้าน เทรนเนอร์แนะนำอะไรฉันก็ทำ เดินบนลู่วิ่ง 20 นาที และมาเล่นเครื่อง แล้วเข้าคลาสจักรยาน หรือคลาสพีราตีส แต่อาหารฉันก็ยังกินเหมือนเดิม ผลคือ มันก็ลดนะ แต่มันลดช้าจัง ฉันเข้าฟิตเน็ตผ่านไป 8 เดือน น้ำหนักฉันลดไป5-6 โลเอง จาก 73 กก. ลดเหลือ 68 กก. มันก็ยังอ้วนอยู่ แต่ฉันมาถูกทางแล้ว เพราะน้ำหนักค่อย ๆ ลดลง แต่มันช้า
และวันหนึ่งพี่ที่รู้จักกัน ก็มาชวนฉันไปงานวิ่ง ฉันเลยลองชวนเพื่อนฉันไปดู ฉันกับเพื่อนชอบบรรยากาศงานวิ่งมาก มันสนุก ฉันไม่เคยตื่นเช้าได้เลย และฉันก็ไม่เคยวิ่งต่อเนื่องได้ ฉันวิ่งแค่ 5 นาทีฉันก็หอบแล้ว แต่ฉันชอบงานวิ่ง ฉันอยากได้ถ้วยสักครั้ง ฉันไม่อยากสมัครงานวิ่งแบบฟันรันอีกแล้ว ฟันรันคือวิ่ง ๆ เดิน ๆ แค่ 1-4 กม. แล้วได้รับเหรียญแต่ไม่ได้ลุ้นถ้วยรางวัล มันมีความสุข และฉันชอบ ที่งานวิ่งส่วนใหญ่จัดขึ้นเพื่อเอาเงินไปทำบุญตามมูลนิธิต่าง ๆ และบรรยากาศดีมาก เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ นักวิ่งก็คุยสนุก ทุกคนไม่คิดอะไร มาเจอกันเพื่อวิ่งแล้วก็แยกย้ายกันไป มันเป็นความสุขเล็ก ๆ ของฉัน ฉันอยากวิ่งเป็น ใจฉันบอกแบบนี้ ฉันก็เลยไปปรึกษาเพื่อนฉันที่เป็นนักวิ่ง เพื่อนฉันวิ่งเก่งมาก เพื่อนแนะนำให้ฉันวิ่งช้า ๆ นาน ๆ แต่พยายามวิ่งให้ต่อเนือง เพื่อนบอกว่าวิ่งแล้วผอมนะ ลองดู ๆ พอรู้แบบนี้ฉันก็ทำ ฉันก็วิ่งของฉันเอง วิ่งช้าๆ วิ่งมันทุกเช้า วิ่งไปนาน ๆ วิ่งช้า ๆ ฉันวิ่งช้ากว่าเดินอีก ฉันก็ฝึกวิ่งของฉันเองมาเรื่อย ๆ จนฉันสามารถวิ่ง 10 กม.ได้ด้วยตัวฉันเอง
ฉันไม่เคยคิดเรื่องท่าวิ่งเลย จนกระทั้งฉันได้เจอพี่สาวคนหนึ่งที่งานวิ่ง ฉันไม่ได้รู้จักพี่สาวคนนี้มาก่อน ฉันก็วิ่งวอมของฉันคนเดียว แล้วพี่สาวก็มาชวนฉันคุย เราก็คุยกันถูกคอ ฉันให้พี่สาวช่วยถ่ายรูปก่อนออกสตาร์ท และพอวิ่งเสร็จฉันก็มาเจอพี่สาวอีก แล้วก็ไปกินข้าวกัน แล้วพี่สาวก็ชวนฉันมาฝึกกับครูดิน (อ.สถาวร จันทร์ผ่องศรี) แล้วฉันก็ไป ^O^
ตอนฝึกวันแรกฉันต้องเรียนรู้ใหม่หมด เพราะฉันวิ่งแย่มาก ฉันวิ่งตัวบิด วิ่งกระแทกเสียงดัง วิ่งกระโดด วิ่งลากเท้า สรุปคือท่าวิ่งฉันจัดว่าอุบาทก์มาก ฉันต้องปรับเยอะมาก มันเป็นเรื่องยากสุด ๆ เลย แต่ฉันสนุก และน้ำหนักตัวฉันตอนนั้นฉันหนัก 64-65 กก. ซึ่งถือว่าอวบระยะสุดท้าย ครูดินท้าฉัน ให้ฉันลดพุงภายใน 2 เดือน ใครจะไปคิดว่าฉันจะทำได้จริง แต่ฉันก็ทำได้สำเร็จ และลดพุงได้ก่อน 2 เดือนด้วยซ้ำ แต่ช่วงล่างฉันยังใหญ่อยู่ ครูดินให้ฉันฝึกเซอร์กิตทุกวันพุธ มันสนุกและเหนื่อยสุด ๆ เลย
เวลาเรียนกับครูดินเราไม่รู้ว่าครูจะสอนอะไรบ้าง จะต้องฝึกหนักแค่ไหน แต่พอฝึกเสร็จ ฉันหลับเป็นตายแทบทุกครั้ง บางอาทิตย์ครูดินจะให้การบ้านมาฝึกเอง ใครจะไม่ฝึกก็ได้ครูไม่บังคับ แต่ฉันทำการบ้านครูทุกครั้ง
การวิ่งของฉันก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ฉันยังวิ่งไม่เร็วหรอก เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ฝึกด้วยกันวิ่งเร็วกว่าฉันเยอะ ฉันดีใจกับพวกเขาด้วยจริง ๆ นะ เพราะฉันรู้ว่า กว่าจะวิ่งเร็วขนาดนั้น เขาต้องฝึกมาหนักมาก ฉันก็หวังว่าสักวันฉันจะวิ่งได้ต่ำกว่า 40 นาที แต่ตอนนี้ฉันขอให้ได้ต่ำกว่า 1 ชม. ฉันก็ดีใจสุด ๆ แล้ว
มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อน ๆ มหาบัณฑิต ที่ร่วมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมฉัน เพราะวันซ้อมเมื่อ 9 พย. 56 ก่อนเข้ารับพระราชทานฯ ฉันยังตัวใหญ่อยู่เลย แต่ในวันรับพระราชทานฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 57 ฉันตัวเล็กลงมาก ฉันเอากระโปรงไปแก้ใหม่ เอวหายไป 3 นิ้วเอง คือ จากคนที่รูปร่างอ้วน กรายเป็นคนผอมได้นี่ ก็คงไม่แปลก แต่นี่เอวหายไป 3 นิ้ว ในเวลา 5 เดือน ถือว่าเร็วนะ พุงหายไปเลยจริง ๆ นะ ^O^
ที่ฉันเล่ามาทั้งหมดนี้ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครเลือกออกกำลังกายด้วยการวิ่งแบบฉัน แต่ฉันแค่ต้องการจะบอกว่า เราสามารถผอมได้นะ และผอมแบบมีความสุขด้วย ลองหากีฬาที่ตัวเองชอบแล้วลองทำจริง ๆ กับมันดูสักครั้ง สนุกให้เต็มที่ ไม่ต้องคิดว่าจะทำได้หรือไม่ เอาแค่เราสนุกที่ได้ทำ ทำไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะเห็นผลเอง แต่ฉันวิ่งแล้วผอมเร็วจริง ๆ นะ และก็ไม่ได้ปวดเข่าหรือขาใหญ่ด้วย ถ้าวิ่งอย่างถูกวิธีนะ มันลดการบาดเจ็บลงเยอะ ก็ไม่รู้สินะ ฉันชอบวิ่ง และฉันมีความสุขที่ฉันวิ่งได้ มันก็แค่นั้นเอง ^O^
ปล. ถ้าใครอ่านจนจบขอให้มีความสุขมาก ๆ และสนุกกับการออกกำลังกาย หากีฬาที่ตัวเองชอบเจอ ผอม ๆ และดูดีกันทุกคนน้าา ^O^
Norarat jeab
1-07-57
ลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย มันอยู่ที่ใจ ^O^
นี่คือความคิดก่อนหน้าที่ฉันจะปฏิวัติตัวเอง ฉันคิดแบบนี้จริง ๆ แล้วฉันก็อ้วนขึ้น ๆ เรื่อย ๆ แต่ฉันมีความสุขที่ได้กิน ถามว่ามันคือความสุขจริง หรือฉันกำลังหลอกตัวเองอยู่?
ฉันกำลังจะทิ้งความหวัง ที่จะกลับไปผอมอีกครั้งหรอ หรือว่าฉันจะลองสู้ดูอีกสักครั้ง สู้ในวิธีที่ถูกต้อง?
แล้วความคิดในสมองฉันก็บอกว่า ให้ฉันลองสู้ดูอีกสักครั้ง ฉันไม่ได้อยากเป็นคนอ้วนสักหน่อย ฉันอยากเป็นคนผอมที่สุขภาพดี ดูดีและสดใส ฉันอยากเป็นคนมีความสุขที่เห็นตัวเองดูดี ฉันฝันไว้แบบนั้นนิ ฉันไม่ได้อยากเป็นคนอ้วนที่ต้องหลอกตัวเองว่าเรามีความสุขที่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แต่ไม่มีประโยชน์ทางโภชนการเลย เอาวะ..! ฉันจะลองดูอีกสักครั้ง ว่าแต่ฉันจะเริ่มยังไงดี ? ฉันคงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น ฉันอยากออกกำลังกายใกล้ ๆ บ้าน หรือฉันจะไปสมัครพวกสถาบันความงามที่สลายไขมันด้วยเทคโนลียีชั้นสูงดี แต่มันคงแพงน่าดูและมันจะได้ผลหรอ? งันลองไปถามราคาดูดีกว่า ฉันเลือกไปถามราคาทั้งฟิตเน็ต และสถาบันความงามว่าค่าใช้จ่ายมันต่างกันมากไหม? มันต่างกันไม่มากหรอก ถ้าเป็นฟิตเน็ตก็จะมีค่าแรกเข้า ค่าเทรนเนอร์ 3 ครั้ง ค่ารายเดือนที่ต้องจ่ายทุกเดือน เดือนละ สองพันกว่าบาท ก็ตกปีละ 2หมื่นกว่าบาท ส่วนสถาบันความงามก็แล้วแต่เราจะเลือกซื้อแพคเก็จไหน ราคาก็ประมาณหมื่นกว่าขึ้นไป แล้วแต่เราจะเลือก
แต่ฉันคิดนะ ฉันว่า ฉันเลือกออกกำลังกายดีกว่า ถ้าจะลงทุนเพื่อสุขภาพฉันเอง ฉันยอมเสียเงินให้ฟิตเน็ต ส่วนสถาบันความงามถึงมันได้ผลจริง แต่ถ้าพฤติกรรมการกินเราไม่เปลี่ยน เรากินแบบเดิมเราก็อ้วนอยู่ดี เมื่อฉันคิดได้แบบนี้ เอาวะ..! ฟิตเน็ตมันใกล้บ้านนิ ฉันไม่มีเวลาไปไหนไกล ๆ แล้วมันคงเป็นทางเลือกที่ดีลองดูสักตั้ง ขอเวลา 1 ปี ฉันจะตั้งใจ ฉันจะเอาให้คุ้มกับเงินที่ฉันเสียไป
แล้วฉันก็สมัครฟิตเน็ตแถวบ้าน เทรนเนอร์แนะนำอะไรฉันก็ทำ เดินบนลู่วิ่ง 20 นาที และมาเล่นเครื่อง แล้วเข้าคลาสจักรยาน หรือคลาสพีราตีส แต่อาหารฉันก็ยังกินเหมือนเดิม ผลคือ มันก็ลดนะ แต่มันลดช้าจัง ฉันเข้าฟิตเน็ตผ่านไป 8 เดือน น้ำหนักฉันลดไป5-6 โลเอง จาก 73 กก. ลดเหลือ 68 กก. มันก็ยังอ้วนอยู่ แต่ฉันมาถูกทางแล้ว เพราะน้ำหนักค่อย ๆ ลดลง แต่มันช้า
และวันหนึ่งพี่ที่รู้จักกัน ก็มาชวนฉันไปงานวิ่ง ฉันเลยลองชวนเพื่อนฉันไปดู ฉันกับเพื่อนชอบบรรยากาศงานวิ่งมาก มันสนุก ฉันไม่เคยตื่นเช้าได้เลย และฉันก็ไม่เคยวิ่งต่อเนื่องได้ ฉันวิ่งแค่ 5 นาทีฉันก็หอบแล้ว แต่ฉันชอบงานวิ่ง ฉันอยากได้ถ้วยสักครั้ง ฉันไม่อยากสมัครงานวิ่งแบบฟันรันอีกแล้ว ฟันรันคือวิ่ง ๆ เดิน ๆ แค่ 1-4 กม. แล้วได้รับเหรียญแต่ไม่ได้ลุ้นถ้วยรางวัล มันมีความสุข และฉันชอบ ที่งานวิ่งส่วนใหญ่จัดขึ้นเพื่อเอาเงินไปทำบุญตามมูลนิธิต่าง ๆ และบรรยากาศดีมาก เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ นักวิ่งก็คุยสนุก ทุกคนไม่คิดอะไร มาเจอกันเพื่อวิ่งแล้วก็แยกย้ายกันไป มันเป็นความสุขเล็ก ๆ ของฉัน ฉันอยากวิ่งเป็น ใจฉันบอกแบบนี้ ฉันก็เลยไปปรึกษาเพื่อนฉันที่เป็นนักวิ่ง เพื่อนฉันวิ่งเก่งมาก เพื่อนแนะนำให้ฉันวิ่งช้า ๆ นาน ๆ แต่พยายามวิ่งให้ต่อเนือง เพื่อนบอกว่าวิ่งแล้วผอมนะ ลองดู ๆ พอรู้แบบนี้ฉันก็ทำ ฉันก็วิ่งของฉันเอง วิ่งช้าๆ วิ่งมันทุกเช้า วิ่งไปนาน ๆ วิ่งช้า ๆ ฉันวิ่งช้ากว่าเดินอีก ฉันก็ฝึกวิ่งของฉันเองมาเรื่อย ๆ จนฉันสามารถวิ่ง 10 กม.ได้ด้วยตัวฉันเอง
ฉันไม่เคยคิดเรื่องท่าวิ่งเลย จนกระทั้งฉันได้เจอพี่สาวคนหนึ่งที่งานวิ่ง ฉันไม่ได้รู้จักพี่สาวคนนี้มาก่อน ฉันก็วิ่งวอมของฉันคนเดียว แล้วพี่สาวก็มาชวนฉันคุย เราก็คุยกันถูกคอ ฉันให้พี่สาวช่วยถ่ายรูปก่อนออกสตาร์ท และพอวิ่งเสร็จฉันก็มาเจอพี่สาวอีก แล้วก็ไปกินข้าวกัน แล้วพี่สาวก็ชวนฉันมาฝึกกับครูดิน (อ.สถาวร จันทร์ผ่องศรี) แล้วฉันก็ไป ^O^
ตอนฝึกวันแรกฉันต้องเรียนรู้ใหม่หมด เพราะฉันวิ่งแย่มาก ฉันวิ่งตัวบิด วิ่งกระแทกเสียงดัง วิ่งกระโดด วิ่งลากเท้า สรุปคือท่าวิ่งฉันจัดว่าอุบาทก์มาก ฉันต้องปรับเยอะมาก มันเป็นเรื่องยากสุด ๆ เลย แต่ฉันสนุก และน้ำหนักตัวฉันตอนนั้นฉันหนัก 64-65 กก. ซึ่งถือว่าอวบระยะสุดท้าย ครูดินท้าฉัน ให้ฉันลดพุงภายใน 2 เดือน ใครจะไปคิดว่าฉันจะทำได้จริง แต่ฉันก็ทำได้สำเร็จ และลดพุงได้ก่อน 2 เดือนด้วยซ้ำ แต่ช่วงล่างฉันยังใหญ่อยู่ ครูดินให้ฉันฝึกเซอร์กิตทุกวันพุธ มันสนุกและเหนื่อยสุด ๆ เลย
เวลาเรียนกับครูดินเราไม่รู้ว่าครูจะสอนอะไรบ้าง จะต้องฝึกหนักแค่ไหน แต่พอฝึกเสร็จ ฉันหลับเป็นตายแทบทุกครั้ง บางอาทิตย์ครูดินจะให้การบ้านมาฝึกเอง ใครจะไม่ฝึกก็ได้ครูไม่บังคับ แต่ฉันทำการบ้านครูทุกครั้ง
การวิ่งของฉันก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่ฉันยังวิ่งไม่เร็วหรอก เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ฝึกด้วยกันวิ่งเร็วกว่าฉันเยอะ ฉันดีใจกับพวกเขาด้วยจริง ๆ นะ เพราะฉันรู้ว่า กว่าจะวิ่งเร็วขนาดนั้น เขาต้องฝึกมาหนักมาก ฉันก็หวังว่าสักวันฉันจะวิ่งได้ต่ำกว่า 40 นาที แต่ตอนนี้ฉันขอให้ได้ต่ำกว่า 1 ชม. ฉันก็ดีใจสุด ๆ แล้ว
มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันสร้างความประหลาดใจให้กับเพื่อน ๆ มหาบัณฑิต ที่ร่วมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรพร้อมฉัน เพราะวันซ้อมเมื่อ 9 พย. 56 ก่อนเข้ารับพระราชทานฯ ฉันยังตัวใหญ่อยู่เลย แต่ในวันรับพระราชทานฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 57 ฉันตัวเล็กลงมาก ฉันเอากระโปรงไปแก้ใหม่ เอวหายไป 3 นิ้วเอง คือ จากคนที่รูปร่างอ้วน กรายเป็นคนผอมได้นี่ ก็คงไม่แปลก แต่นี่เอวหายไป 3 นิ้ว ในเวลา 5 เดือน ถือว่าเร็วนะ พุงหายไปเลยจริง ๆ นะ ^O^
ที่ฉันเล่ามาทั้งหมดนี้ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครเลือกออกกำลังกายด้วยการวิ่งแบบฉัน แต่ฉันแค่ต้องการจะบอกว่า เราสามารถผอมได้นะ และผอมแบบมีความสุขด้วย ลองหากีฬาที่ตัวเองชอบแล้วลองทำจริง ๆ กับมันดูสักครั้ง สนุกให้เต็มที่ ไม่ต้องคิดว่าจะทำได้หรือไม่ เอาแค่เราสนุกที่ได้ทำ ทำไปเรื่อย ๆ แล้วเราจะเห็นผลเอง แต่ฉันวิ่งแล้วผอมเร็วจริง ๆ นะ และก็ไม่ได้ปวดเข่าหรือขาใหญ่ด้วย ถ้าวิ่งอย่างถูกวิธีนะ มันลดการบาดเจ็บลงเยอะ ก็ไม่รู้สินะ ฉันชอบวิ่ง และฉันมีความสุขที่ฉันวิ่งได้ มันก็แค่นั้นเอง ^O^
ปล. ถ้าใครอ่านจนจบขอให้มีความสุขมาก ๆ และสนุกกับการออกกำลังกาย หากีฬาที่ตัวเองชอบเจอ ผอม ๆ และดูดีกันทุกคนน้าา ^O^
Norarat jeab
1-07-57