สืบเนื่องมาจากต้นเดือนช่วงชิงโอกาสตอนที่แฟนแวะซื้อลูกชิ้นเนื้อที่แม็คโครถอยเตาอบและเครื่องตีมาคะ
(สิงห้องก้นครัวมาตั้งแต่สมัยมัธยมคะ แต่ไม่มีตังค์ซื้ออุปกรณ์มาทำ ยันมหาลัยก็ทำขนมกล้วย ทำขนมชั้นไปตามประสา ประสบการณ์การอบเค้กเท่าที่มีคือการทำพายครีมชีส แบบไม่ใช้เตาอบ, 2 minute microwave chocolate mug cakeซึ่งมีแต่คนเข้าใจว่ามันคือบราว์นี่ และmicrowave chocolate chip cookiesจากyoutube)
หลังจากนั้นมหากาพย์การทำเค้กก็เริ่มต้นขึ้นคะ
ผลงานชิ้นแรกถือกำเนิดขึ้นในคืนที่สองหลงจากที่ต้อนรับเตาอบกับเครื่องตีเข้าบ้านได้เพียงสองคืนคะ
นั่นก็คือ
แต่น แตน แต๊น!!!
โกโก้บราว์นี่ สูตรคุณอ้วนดำปื๊ดปื้อคะ
เรื่องรสชาติเข้มข้นถึงใจมากคะ นั่งแทะบราว์นี่ร้อนๆชิ้นโตตอนเที่ยงคืนอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว(รอบเอวววว!!! ม่ายยยยย!!!)
เพื่อนร่วมงาน(แหล่งปล่อยของชั้นดี)ติว่าเนื้อบราวนี่มันควรจะมีเนื้อเค้กมากกว่านี้คะ อันนี้พอกัดข้างในเหมือนช็อกโกแลตมูสไปหน่อย มันไม่นุ่มนวลเท่าที่ควรจะเป็น
ต่อมาก็เริ่มทำเค้กเนยสูตรคุณJumJeeคะ
หน้าตาออกมาดีกว่าที่คิดไว้คะ ที่ทำเป็นคัพเค้กแทนเพราะไม่มีพิมพ์สำหรับบัทเตอร์เค้กคะ เลยจัดการตามมีตามเกิด ยังไม่กล้าบีบครีมแต่งหน้าเพราะตอนนั้นยังหัดบีบครีมด้วยดินญี่ปุ่นจากไดโสะอยู่คะ ยังไม่กล้า
เพื่อนร่วมงานต่างบอกว่ารสดี ไม่หวานไป แต่อยากให้เนื้อเค้กฟู นุ่มเบากว่านี้ บางคนบอกว่าถ้าทำให้หน้าเค้กแตก มันจะนุ่มเบากว่านี้(จริงหรือเปล่าคะ)
หลังจากเค้กเนยประสบความสำเร็จ(กินได้+ไม่ไหม้) ทีนี้ก็ฮึกเหิมใหญ่เลยคะ
จัดการชวนอาอี้(ผู้ซึ่งไม่มีประสบการณ์อบเค้กมาก่อนเหมือนกัน) มาอบเค้กชิ้นถัดไปกัน
นั่นก็คือ เค้กเรดเวลเวท สูตรแม่ปูขาเกคะ
ปรากฎว่าเค้กนี้ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร(สำหรับคนที่พึ่งอบเค้กได้สองครั้ง) เลยทำแบบตกๆหล่นๆคะ เช่นหาเบคกิ้งโซดาไม่ได้ เลยเปลี่ยนสูตรเป็นแป้งเค้กกับผงฟูแทน ช่วงที่ใส่แป้งในแบทเทอร์ก็ตีด้วยเครื่องสปีดต่ำ แทนที่จะตะล่อมเบาๆด้วยตะกร้อมือ(ขี้เกียจดีนัก!!!) แต่ครีมชีสนี่ทำตามสูตรเป๊ะเยนะคะ แต่ทำไมมันเหลวจังไม่รู้คะ เกี่ยวกับการบีบน้ำมะนาวเพิ่มลงไปรึเปล่าไม่รู้ เพราะอยากให้ครีมชีสเปรี้ยงกว่านี้พอ บีบครีมลงบนเค้กได้สักพักก็เหลวแหมะออกมานอกถ้วยเลย ต้องอยู่ในตู้เย็นตลอดเวลา
เค้กนี้ใช้เลาทำร่วมสามชั่วโมงได้เลยคะ อาอี้ทิ้งร่างเลยหลังทำเสร็จ(รังแกอาอี้5555)
แฟนและเพื่อนร่วมงานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสดี แต่ติดที่เนื้อเค้กหนักและมีฟองอากาศเบ้อเริ่มอยู่ในเนื้อเค้กคะ(คงเป็นเพราะไม่ตะล่อมแป้งเบาๆๆใช่ไหมคะ) ผลงานชุดนี้หมดช้ามากคะ รอบนี้ได้ข้อคิดมาว่าถ้าไม่ชัวร์ อย่าพึ่บอบเค้กเยอะๆ(ทำตามสูตรเป๊ะ ได้เค้กมา27ถ้วยได้คะ เกินกว่าที่สูตรได้) ภัยจะมาสู้รอบเอวของคนทำซะเอง555
หลังจากปิดงานเค้กโกโก้สีแดงฉานไปก็สงบเสงียมอยู่หลายวันคะ จนพี่สาวชวนทำเค้กส้มในตำนาน
โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างกลัวเค้กส้มอยู่มากคะ เพราะอ่านจากในก้นครัวมามากว่าสปัจน์เค้กถือเป็นเค้กปราบเซียน ส่วนใหญ่จะทำแล้วเค้กเป็นไตบ้าง เค้กไม่ฟูบ้าง ยุบกลางบ้าง บลาๆๆ จิตตกเลยคะ
แต่ไหนๆพี่สาวก็ชวนแล้ว ตานเป็นตายคะ งานนี้!!!
และนี่ก็คือผลที่ได้คะ
เวอร์ชั่นเค้ก1ปอน์ดคะ ปาดหน้าไม่เรียบจริงๆด้วย เลยแอ๊บเป็นศิลปะไปซะ แหะๆ
นี่คือเวอร์ชั่นยังไม่ได้ราดซอสคะ สูตรมาสามปอนด์ ตีจริงได้สองปอนด์คะ(ยังตีได้ไม่ดีพอจริงๆ) เทลงพิมพ์ปอนด์หนึ่งแล้วมันเหลือ เลยเทลงพิมพ์บราวน์นี่ซะเลย แต่แบทเทอร์ดันไม่พอ เลยออกมาเป็นเหมือนขนมปังแผ่นโตๆแทนคะ พี่สาวแก้ทางด้วยการหั่นสี่ ปาดซอสส้มให้เป็นเค้กส้มสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆดูหรูหราไปเลยคะ
เค้กชิ้นนี้ปล่อยของได้เร็วมากคะ อบมาสองปอนด์กับทำเป็นคัพเค้กอีกสิบกว่าชิ้น เพื่อนร่วมงานชอบกันมาก แต่พี่สาวคนโต(ผู้พิถีพิถันเรื่องการกินพอสมควร เห็นได้จากที่นาวตะเวรชิมเค้กร้านดังๆมานักต่อนัก)บอกว่า ถ้าจะให้นางซื้อเค้กชิ้นนี้ เค้กจะต้องหวานน้อยกว่านี้ และซอสส้มจะต้องเปรี้ยวกว่านี้อีกนิด(รีบจดข้อมูลไว้แก้มือรอบถัดไปคะ)
จนมาถึงผลงานชิ้นล่าสุดคะ
เค้กมาม่อนท็อปปิ้งด้วยโกโก้วิปครีมคะ
เค้กนี้จู่ๆกุกขึ้นมานั่งทำ หลังจากที่เห็นสูตรมาม่อนในห้องก้นครัวแว๊บๆ(ไม่แน่ใจว่าของใครคะ แหะๆ) ของมี อินเนอร์มา!!! 555 ประกอบกับยังติดใจในเค้กเนื้อฟูๆ นุ่มๆอยู่
แต่ดันไม่มีชีสขูดโรยหน้ามาม่อนคะ แล้วก็ทำลังร้อนวิชาอยากลองบีบครีมลงเค้กจริง เลยมโนเอาว่าโกโก้ตีกับวิปครีมและไอซิ่ง จะได้วิปครีมโกโก้รสเลิศ
แต่คงตีนานไปคะ มันเลยเหมือนโกโก้มูสในซิสเลอร์มากกว่าโกโกวิปครีมแต่งหน้าเค้ก
ผลงานรอบนี้เพื่อร่วมงานบอกว่าเนือเค้กเบาและเด้งดี มูสโกโก้หนักไป แต่เข้มข้นดีนักแล
หมดแล้วคะ ผลงานเค้กทั้งหมดที่ทำมาภายในเวลาสามอาทิตย์ที่ถอยเตาอบมา ตั้งใจและสนุกกับมันมากคะ วาดฝันไว้ว่าอยากทำร้านเค้กออนไลน์ ส่งในแถบที่ทำงานเป็นรายได้เสริม ตั้งชื่อร้านไว้เสร็จสรรพ แต่หนทางของเรายังอีกยาวไกลนัก กว่าจะมีฝีมือพอจะขายได้
ไว้ผลิตผลงานใหม่ออกมาเมื่อไหร่จะมารีวิวให้เพื่อนๆก้นครัวได้ดูกันอีกนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
มือใหม่หัดอบเค้กมาได้หนึ่งเดือน มาขอส่งการบ้านคุณครูห้องก้นครัวค่า
(สิงห้องก้นครัวมาตั้งแต่สมัยมัธยมคะ แต่ไม่มีตังค์ซื้ออุปกรณ์มาทำ ยันมหาลัยก็ทำขนมกล้วย ทำขนมชั้นไปตามประสา ประสบการณ์การอบเค้กเท่าที่มีคือการทำพายครีมชีส แบบไม่ใช้เตาอบ, 2 minute microwave chocolate mug cakeซึ่งมีแต่คนเข้าใจว่ามันคือบราว์นี่ และmicrowave chocolate chip cookiesจากyoutube)
หลังจากนั้นมหากาพย์การทำเค้กก็เริ่มต้นขึ้นคะ
ผลงานชิ้นแรกถือกำเนิดขึ้นในคืนที่สองหลงจากที่ต้อนรับเตาอบกับเครื่องตีเข้าบ้านได้เพียงสองคืนคะ
นั่นก็คือ
แต่น แตน แต๊น!!!
โกโก้บราว์นี่ สูตรคุณอ้วนดำปื๊ดปื้อคะ
เรื่องรสชาติเข้มข้นถึงใจมากคะ นั่งแทะบราว์นี่ร้อนๆชิ้นโตตอนเที่ยงคืนอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว(รอบเอวววว!!! ม่ายยยยย!!!)
เพื่อนร่วมงาน(แหล่งปล่อยของชั้นดี)ติว่าเนื้อบราวนี่มันควรจะมีเนื้อเค้กมากกว่านี้คะ อันนี้พอกัดข้างในเหมือนช็อกโกแลตมูสไปหน่อย มันไม่นุ่มนวลเท่าที่ควรจะเป็น
ต่อมาก็เริ่มทำเค้กเนยสูตรคุณJumJeeคะ
หน้าตาออกมาดีกว่าที่คิดไว้คะ ที่ทำเป็นคัพเค้กแทนเพราะไม่มีพิมพ์สำหรับบัทเตอร์เค้กคะ เลยจัดการตามมีตามเกิด ยังไม่กล้าบีบครีมแต่งหน้าเพราะตอนนั้นยังหัดบีบครีมด้วยดินญี่ปุ่นจากไดโสะอยู่คะ ยังไม่กล้า
เพื่อนร่วมงานต่างบอกว่ารสดี ไม่หวานไป แต่อยากให้เนื้อเค้กฟู นุ่มเบากว่านี้ บางคนบอกว่าถ้าทำให้หน้าเค้กแตก มันจะนุ่มเบากว่านี้(จริงหรือเปล่าคะ)
หลังจากเค้กเนยประสบความสำเร็จ(กินได้+ไม่ไหม้) ทีนี้ก็ฮึกเหิมใหญ่เลยคะ
จัดการชวนอาอี้(ผู้ซึ่งไม่มีประสบการณ์อบเค้กมาก่อนเหมือนกัน) มาอบเค้กชิ้นถัดไปกัน
นั่นก็คือ เค้กเรดเวลเวท สูตรแม่ปูขาเกคะ
ปรากฎว่าเค้กนี้ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร(สำหรับคนที่พึ่งอบเค้กได้สองครั้ง) เลยทำแบบตกๆหล่นๆคะ เช่นหาเบคกิ้งโซดาไม่ได้ เลยเปลี่ยนสูตรเป็นแป้งเค้กกับผงฟูแทน ช่วงที่ใส่แป้งในแบทเทอร์ก็ตีด้วยเครื่องสปีดต่ำ แทนที่จะตะล่อมเบาๆด้วยตะกร้อมือ(ขี้เกียจดีนัก!!!) แต่ครีมชีสนี่ทำตามสูตรเป๊ะเยนะคะ แต่ทำไมมันเหลวจังไม่รู้คะ เกี่ยวกับการบีบน้ำมะนาวเพิ่มลงไปรึเปล่าไม่รู้ เพราะอยากให้ครีมชีสเปรี้ยงกว่านี้พอ บีบครีมลงบนเค้กได้สักพักก็เหลวแหมะออกมานอกถ้วยเลย ต้องอยู่ในตู้เย็นตลอดเวลา
เค้กนี้ใช้เลาทำร่วมสามชั่วโมงได้เลยคะ อาอี้ทิ้งร่างเลยหลังทำเสร็จ(รังแกอาอี้5555)
แฟนและเพื่อนร่วมงานพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสดี แต่ติดที่เนื้อเค้กหนักและมีฟองอากาศเบ้อเริ่มอยู่ในเนื้อเค้กคะ(คงเป็นเพราะไม่ตะล่อมแป้งเบาๆๆใช่ไหมคะ) ผลงานชุดนี้หมดช้ามากคะ รอบนี้ได้ข้อคิดมาว่าถ้าไม่ชัวร์ อย่าพึ่บอบเค้กเยอะๆ(ทำตามสูตรเป๊ะ ได้เค้กมา27ถ้วยได้คะ เกินกว่าที่สูตรได้) ภัยจะมาสู้รอบเอวของคนทำซะเอง555
หลังจากปิดงานเค้กโกโก้สีแดงฉานไปก็สงบเสงียมอยู่หลายวันคะ จนพี่สาวชวนทำเค้กส้มในตำนาน
โดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างกลัวเค้กส้มอยู่มากคะ เพราะอ่านจากในก้นครัวมามากว่าสปัจน์เค้กถือเป็นเค้กปราบเซียน ส่วนใหญ่จะทำแล้วเค้กเป็นไตบ้าง เค้กไม่ฟูบ้าง ยุบกลางบ้าง บลาๆๆ จิตตกเลยคะ
แต่ไหนๆพี่สาวก็ชวนแล้ว ตานเป็นตายคะ งานนี้!!!
และนี่ก็คือผลที่ได้คะ
เวอร์ชั่นเค้ก1ปอน์ดคะ ปาดหน้าไม่เรียบจริงๆด้วย เลยแอ๊บเป็นศิลปะไปซะ แหะๆ
นี่คือเวอร์ชั่นยังไม่ได้ราดซอสคะ สูตรมาสามปอนด์ ตีจริงได้สองปอนด์คะ(ยังตีได้ไม่ดีพอจริงๆ) เทลงพิมพ์ปอนด์หนึ่งแล้วมันเหลือ เลยเทลงพิมพ์บราวน์นี่ซะเลย แต่แบทเทอร์ดันไม่พอ เลยออกมาเป็นเหมือนขนมปังแผ่นโตๆแทนคะ พี่สาวแก้ทางด้วยการหั่นสี่ ปาดซอสส้มให้เป็นเค้กส้มสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆดูหรูหราไปเลยคะ
เค้กชิ้นนี้ปล่อยของได้เร็วมากคะ อบมาสองปอนด์กับทำเป็นคัพเค้กอีกสิบกว่าชิ้น เพื่อนร่วมงานชอบกันมาก แต่พี่สาวคนโต(ผู้พิถีพิถันเรื่องการกินพอสมควร เห็นได้จากที่นาวตะเวรชิมเค้กร้านดังๆมานักต่อนัก)บอกว่า ถ้าจะให้นางซื้อเค้กชิ้นนี้ เค้กจะต้องหวานน้อยกว่านี้ และซอสส้มจะต้องเปรี้ยวกว่านี้อีกนิด(รีบจดข้อมูลไว้แก้มือรอบถัดไปคะ)
จนมาถึงผลงานชิ้นล่าสุดคะ
เค้กมาม่อนท็อปปิ้งด้วยโกโก้วิปครีมคะ
เค้กนี้จู่ๆกุกขึ้นมานั่งทำ หลังจากที่เห็นสูตรมาม่อนในห้องก้นครัวแว๊บๆ(ไม่แน่ใจว่าของใครคะ แหะๆ) ของมี อินเนอร์มา!!! 555 ประกอบกับยังติดใจในเค้กเนื้อฟูๆ นุ่มๆอยู่
แต่ดันไม่มีชีสขูดโรยหน้ามาม่อนคะ แล้วก็ทำลังร้อนวิชาอยากลองบีบครีมลงเค้กจริง เลยมโนเอาว่าโกโก้ตีกับวิปครีมและไอซิ่ง จะได้วิปครีมโกโก้รสเลิศ
แต่คงตีนานไปคะ มันเลยเหมือนโกโก้มูสในซิสเลอร์มากกว่าโกโกวิปครีมแต่งหน้าเค้ก
ผลงานรอบนี้เพื่อร่วมงานบอกว่าเนือเค้กเบาและเด้งดี มูสโกโก้หนักไป แต่เข้มข้นดีนักแล
หมดแล้วคะ ผลงานเค้กทั้งหมดที่ทำมาภายในเวลาสามอาทิตย์ที่ถอยเตาอบมา ตั้งใจและสนุกกับมันมากคะ วาดฝันไว้ว่าอยากทำร้านเค้กออนไลน์ ส่งในแถบที่ทำงานเป็นรายได้เสริม ตั้งชื่อร้านไว้เสร็จสรรพ แต่หนทางของเรายังอีกยาวไกลนัก กว่าจะมีฝีมือพอจะขายได้
ไว้ผลิตผลงานใหม่ออกมาเมื่อไหร่จะมารีวิวให้เพื่อนๆก้นครัวได้ดูกันอีกนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ