เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 3/1
ลัลลลิตต์ก้าวมาหยุดยืนหน้าห้องทำงานตรีภพ มองไปยังเลขาที่นั่งแหมะอยู่ บอกย้ำจุดประสงค์
“ดิฉันมาพบคุณธีภพ”
“นัดไว้หรือเปล่าคะ” เลขาถามตามธรรมเนียม
บิวตี้ไม่ตอบคำถาม แต่พูดบอกไปด้วยเสียงเย็นเยียบ “ฉันชื่อ ลัลน์ลลิต”
เลขารู้ทันทีว่าเป็นใคร สีหน้าตื่นเต้นนิดหนึ่ง แล้วไหว้ “กรุณารอสักครู่ค่ะ” จากนั้นพาหล่อนเข้าไปรอในห้องธีภพ
พอเข้าห้องมา บิวตี้เดินนวยนาดสำรวจตรวจตรา ปรายตามองสิ่งต่างๆ ในห้องอย่างจะจับผิด
เลขากลับออกมาจากห้องทำงานด้านใน “ท่านประธาน กำลังติดประชุมสำคัญ กรุณารอสักครู่ค่ะ”
บิวตี้ถอนใจ นั่งรอที่โซฟาตรงมุมรับรอง หน้าเชิด วางท่าดุจนางพญา เหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือ
นาฬิกา บอกตัวเลขว่าผ่านไปประมาณ 10 นาทีแล้ว บิวตี้เคาะนิ้วดูนาฬิกา เลขาเอากาแฟ และน้ำมาเสิร์ฟ
บิวตี้ไม่สนใจกาแฟ เริ่มหงุดหงิด เพราะไม่เคยรอใคร “ประชุมยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
บิวตี้ถอนใจ นั่งหน้าเชิดดุจนางพญาต่อ
เวลาเคลื่อนคล้อย นาฬิกาบอกตัวเลขว่าผ่านไปประมาณ 20 นาที บิวตี้หงุดหงิดมากขึ้น
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
“พูดอย่างอื่นเป็นไหม โปรแกรมมาแค่กรุณารอสักครู่ หรือไง”
“ขอโทษค่ะ” เลขาก้มหน้าทำงานไป ไม่ตอบโต้
บิวตี้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด
เวลาผ่านไปอีกช่วงเวลาสั้นๆ บิวตี้หงุดหงิด อยู่ไม่นิ่ง หากิจกรรมทำฆ่าเวลา ทั้ง ถ่ายรูป เล่นเกม ส่องกระจก เปลี่ยนท่านั่ง ลุกเดินไปมา และในที่สุด บิวตี้ก็สุดทน ลุกขึ้น ฮึดฮัด เดินไปที่ประตูห้องประชุม จะเปิดประตู
เลขารีบลุกไปกั้น “เข้าไปไม่ได้นะคะ กรุณารอสักครู่”
บิวตี้ดุใส่ “ไม่รอ เกิดมาไม่เคยรอใครนานอย่างนี้เลย ฉันก็ประธานเหมือนกันนะหลีกไป”
เลขาถูกกวาดออก ตกใจ สุดจะห้ามปราม หลบอย่างเกรงๆ
บิวตี้เปิดประตูห้องทำงานธีภพอย่างแรง เดินฉับๆเข้าไป
บิวตี้เปิดประตูผลัวะเข้ามา ทุกคนในห้องนิ่งอึ้งด้วยความตกใจเพราะนี่เป็นการประชุมลับ บนจอโปรเจ็คเตอร์มีภาพของเสื้อผ้าตัวอย่างที่กำลังนำเสนออดิศักดิ์ เพื่อลงจำหน่ายที่ห้าง
กรเทพตกใจ “บิวตี้ มาทำอะไร”
“ก็มามารับตำแหน่งประธานร่วมของธนบวร” บิวตี้เชิดหน้าผยอง “ตามสิทธิของบิวตี้ไงคะอาชวนเองไม่ใช่เหรอ”
ธีภพข่มอารมณ์ “เรากำลังประชุมเป็นการภายใน เชิญออกไปรอข้างนอกก่อน”
“มีความลับกับว่าที่ประธานร่วมของบริษัทด้วยเหรอ” บิวตี้จ้องหน้าเขา
อดิศักดิ์ฉุน ลุกยืน “ถ้าจะมีการเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ผมคงต้องขอตัวไปทบทวนข้อเสนอก่อน”
กรเทพตกใจ “เดี๋ยวครับคุณอดิศักดิ์”
อดิศักดิ์ไม่ฟังเสียง เดินออกไปทันที
กรเทพบอกกับธีภพ “อาคุยเอง เดี๋ยวมา” แล้วรีบตามอดิศักดิ์ไปอย่างร้อนใจ
ธีภพหันมาเอาเรื่อง “นี่ รู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังจะทำยอดขายกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทหายไป”
บิวตี้ตกใจ แต่ยังดื้อดึง “ฉันรออยู่ชั่วโมงนึงแล้วนะ ฉันก็มีเรื่องสำคัญเหมือนกัน”
“เรื่องอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะมารับตำแหน่งประธานร่วม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ธีภพเยาะ “งานบริษัท ไม่ได้ง่ายเหมือนเล่นขายของนะครับคุณลัลน์ลลิต”
บิวตี้ตอบไม่ได้ หน้างอ คอแข็ง “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นหน้าที่ของนาย ที่จะต้องสอนฉัน”
“ผมงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาสอนคุณหรอก”
บิวตี้ขึ้นเสียงใส่ อย่างเด็กเอาแต่ใจ “นายต้องสอน”
“ไม่”
บิวตี้จ้องหน้าธีภพพูดอย่างดุเดือด “นายไม่มีสิทธิปฏิเสธฉัน นายอ้วนแว่น”
ธีภพดึงลากข้อมือบิวตี้ออกมาจากห้องทำงาน เลขาตกใจหลบตัวลีบ
บิวตี้โวยลั่น ขืนตัว “ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นประธานของที่นี่เหมือนกันนะ”
“อยากเป็นก็เชิญไปหาห้องทำงานที่อื่น นี่ห้องผม ผมไม่ให้คุณเข้า”
“ไม่ให้เข้า ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่านายจะยอมสอนงานให้ฉัน”
“เกี่ยวอะไรกับผมด้วย ทำไมไม่ไปฝึกงานกับอากรของคุณ”
“ไม่ ประธานต้องฝึกงานจากประธานเท่านั้น”
“ผมดูแลเรื่องการตลาด ส่วนพ่อคุณเคยดูแลเรื่องการผลิตซี่งตอนนี้อากรเป็นคนรับผิดชอบ อากรน่าจะสอนคุณได้ดีกว่าผม”
“แต่ฉันต้องการให้คุณสอน คุณคนเดียวเท่านั้น!”
“คุณต้องบอกผมว่าทำไม แล้วผมจะสอนคุณ”
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลของฉัน แค่ฉันอยากทำงานอย่างจริงจัง และพ่อคงดีใจที่ฉันสานต่อความฝันของท่าน ถ้าคุณนับถือพ่อก็ช่วยสอนฉันซึ่งเป็นลูกของท่าน นะคะ”
ธีภพสบตาบิวตี้อย่างชั่งใจ แล้วก็ตัดสินใจ
“ผมไม่ว่าง” ธีภพหันตัวจะเข้าห้อง
บิวตี้ถลามาขวางประตู พูดขู่ “ก็ได้ ถ้างั้นฉันจะบริหารงานธนบวรตามแบบของฉัน แต่ ถ้าพลาด เจ๊งขึ้นมา ห้ามโทษฉันนะ ก็อยากไม่สอนเองนี่”
ธีภพจ้องบิวตี้ หน้าเครียด “ตามใจคุณสิ” ชายหนุ่มเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าบิวตี้ โดยไม่แยแส
บิวตี้งง โกรธแค้น ทุบประตูไม่ยั้ง “นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ”
บิวตี้โมโหฮึดฮัดโมโหธีภพออกมาหน้าตึก
“ฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างนายหรอก งานแค่นี้ ฉันทำได้” หันไปมองบริษัทใหญ่โตแล้วชักจะท้อถอย ชะงักเมื่อเห็นกรเทพอยู่ตรงที่จอดรถ วี ไอ พี กรเทพ ยังพูดกับอดิศักดิ์นอบน้อม ดูประจบเอาใจ ก่อนอดิศักดิ์จะขึ้นรถไป
บิวตี้พาลโมโหขึ้นมาอีก “ก็แค่ประจบประแจง ไม่มีความจริงใจ”
กรเทพหันมา เห็นบิวตี้ แต่บิวตี้เดินหนี
กรเทพรีบเดินมาหา “บิวตี้ บิวตี้”
บิวตี้หยุดเดิน โกรธ เตรียมจะว่าใส่หน้าอา
กรเทพเดินมาถึง “หลานจะมาทำงานจริงหรือเปล่า”
บิวตี้ประชด “ค่ะ ได้เวลาทำหน้าที่แทนพ่อเสียที”
กรเทพไม่รู้เรื่องว่าถูกเข้าใจผิด ปลื้มใจ “อารอวันนี้มานานแล้ว พี่บวรคงดีใจ” ผู้เป็นอาดีใจจนน้ำตาคลอ
บิวตี้เมินหน้าหนี “ค่ะ จะได้รู้เสียทีว่าใครหมกเม็ดอะไรไว้ บิวตี้จะแฉให้หมด”
กรเทพหัวเราะ “ใจเย็นๆ ค่อยๆเรียนงานไปก่อน อาจะสอนบิวตี้ทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องรบกวนอาหรอกค่ะ”
กรเทพตกใจ “บิวตี้ อยู่ๆหลานจะมาบริหารงานบริษัทเลย มันเป็นไปไม่ได้ บิวตี้ไม่ได้ทำงานคนเดียวนะ บิวตี้ต้องได้รับความเชื่อใจทั้งจากคนในบริษัทและลูกค้า”
บิวตี้ชักหวั่นไหว ตัดสินใจโกหก “นายธี เขารับปากแล้วว่าจะสอนบิวตี้”
กรเทพแปลกใจ “ธี รับปากเหรอ ...ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
บิวตี้หันหลังกลับเข้าออฟฟิศ
“บิวตี้จะไปไหน”
“ก็ไปเรียนน่ะสิคะ”
ธีภพกำลังเซ็นเอกสารให้เลขา บิวตี้เปิดประตูเข้ามา เลขาตกใจ
ธีภพทำหน้าเบื่อหน่าย “อะไรอีกล่ะ” แล้วเซ็นงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“ฉันอยากเป็นประธานบริษัทที่ทุกคนยอมรับ เหมือนกับที่พวกเขายอมรับพ่อ”
ธีภพอึ้งไปชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมามองบิวตี้ เหมือนจะหยั่งลึกไปในใจ เลขา รู้งาน รีบชิ่งออกไป
“แน่ใจหรือ”
“แน่ ฉันพร้อมจะทำทุกอย่าง”
“ถ้างั้นก็ต้องมีข้อตกลง”
บิวตี้ดีใจ “ตกลง รับสอนฉันแล้วใช่ไหม” รู้สึกเป็นผู้ชนะ “เย้ เยส!”
ธีภพรำคาญ “คุณต้องเชื่อฟังคำแนะนำของผม ทำตามวิธีของผม” เขาเน้นคำในตอนนี้ “ทุกอย่างโดยไม่มีข้อโต้แย้ง”
“ให้ไปตายก็ต้องไปเหรอ”
ธีภพย้ำ “ไม่มีข้อโต้แย้ง ผมไม่สั่งให้คุณทำอะไรโง่ๆอย่างงั้นหรอก รับรองว่าทุกข้อจะมีประโยชน์กับการเป็นประธานบริษัท ตามแนวทางที่คุณบวรวางไว้”
บิวตี้คิดแล้ว ยอมรับ “ตกลง ฉันจะทำตามวิธีของพ่อ ทุกอย่าง”
ที่แดนสรวง นางฟ้าลลิตา มองจอภาพฉายอย่างตื่นเต้น ปิติ ปรมะเทวี เฉยๆ ไม่ตื่นเต้น
“พ่อของลูกคงได้รับรู้และปีติเป็นอย่างมาก”
“ไม่มีอะไรดีขึ้น แม้แต่น้อย” ปรมะเทวีชี้ให้ดูมาตรวัดความสัมฤทธิ์ของบิวตี้ ข้างจอฉายภาพ สีทองไม่เพิ่มขึ้นเลย
“แต่ลูกพยายามแล้วนะคะ อย่างน้อยก็รู้จักทำงาน”
“นางทำไปด้วยความโกรธแค้น โทสจริตเข้าครอบงำ อาจทำให้เกิดผลร้ายด้วยซ้ำ”
ขาดคำ มาตรวัดความสัมฤทธิ์ ควันดำพลุ่งออกมา มีสีดำเพิ่มขึ้นอีกหน่อย นางฟ้าลลิตา ร้อนใจ
ธีภพโยนชุดสาวโรงงานให้บิวตี้ตรงหน้า บิวตี้หยิบขึ้นมาดู
“คุณจะให้ฉันใส่ชุดนี้น่ะเหรอ ผ้าหยาบแบบนี้ผิวฉันก็เป็นรอยหมดน่ะสิ แบบก็เชย พวกสาวโรงงานใส่เข้าไปได้ยังไง”
“เครื่องแบบถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการทำงานในโรงงาน ไม่รุ่มร่าม และปลอดภัยเมื่อต้องใช้เครื่องจักร เนื้อผ้าแบบนี้ระบายความร้อนได้ดี และเส้นใยก็ไม่ลงไปปลอมปนกับผลิตภัณฑ์ของเรา”
“แต่ชุดของฉันก็ดีอยู่แล้วนิ”
ธีภพดึงชุดคืน “กลับไป”
“ทำไมล่ะ ไหนคุณบอกจะสอนฉัน”
“ถ้าคุณยังมีข้อโต้แย้ง ก็จะไม่มีการสอนงาน กลับไป”
ธีภพเดินออกจากห้องไป
“คุณธี อย่าไปนะ ฉันใส่ก็ได้”
ไม่นานต่อมาบิวตี้ ออกมาจากห้องน้ำในห้องทำงานธีภพด้วยมาดสาวโรงงานแผนกโกดังสินค้าสีเทา เป็นชุดที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด ชุดเสื้อกางเกงติดกัน มีหมวกนิรภัย ถุงมือหนาป้องกันนิ้ว แว่นตาและผ้าปิดจมูกกันฝุ่น
บิวตี้มองตัวเอง น่าจะเป็นครั้งที่ 40 แล้ว ตั้งแต่เปลี่ยนชุดเสร็จ ธีภพตาวาว กลั้นยิ้ม ด้วยความขบขันและสะใจ บิวตี้ ถอดหมวก ถอดถุงมือ โยนลงบนโต๊ะของธีภพอย่างรังเกียจ
“ไม่ ฉันไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้เด็ดขาด”
“แค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ขัดคำสั่งแล้ว เลิกเถอะ”
“แต่ฉันจะฝึกงานออฟฟิศ”
“คุณต้องไปเริ่มมาจากพื้นฐาน ไล่ขึ้นมา”
“ฉันเป็นถึงประธาน คุณจะให้ฉันไปเป็นสาวโรงงานได้ยังไง”
“กฎข้อที่ 1 คุณต้องไม่ดูถูกพนักงานของคุณเอง สาวโรงงานเป็นพนักงานที่มีค่าของบริษัทเรา ถ้าไม่มีพวกเธอเราก็ไม่มีผลิตภัณฑ์ดีๆที่จะทำเงินให้บริษัท”
“ฉันไม่ได้ดูถูกสาวโรงงาน แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงต้องไปทำงานแบบพวกเธอด้วยในเมื่อฉันเป็นถึงประธาน”
“เพราะเป็นประธาน คุณถึงต้องรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัทอย่างลึกซึ้ง ยิ่งคุณดูแลฝ่ายการผลิต คุณยิ่งต้องเข้าใจกระบวนการในโรงงานอย่างละเอียด รู้ทุกปัญหา คุณถึงควบคุมงานได้”
“คุณพ่อตั้งกฎ อย่างนั้นจริงๆเหรอ พ่อฉันไม่เห็นต้องไปเป็นสาวโรงงานเลยนี่”
ธีภพหยิบโบรชัวร์กฎของบริษัทจากลิ้นชัก วางกึ่งโยนให้บิวตี้ “เอาไปดูเอง พ่อคุณกับพ่อผมช่วยกันก่อตั้งธนบวรมาตั้งแต่ยังเป็นร้านตัดเสื้อผ้าห้องแถว กว่าจะเป็นทุกวันนี้ ไม่ว่าจะตัดเย็บ เก็บกวาดผ้า ท่านทำมาหมดแล้ว”
บิวตี้ท้วง “แต่ฉันจบแฟชั่นดีไซน์มาจากลอนดอน คุณลืมไปแล้วหรือไง”
“กฎข้อที่ 2 คุณต้องทิ้งปริญญาทุกใบไว้ที่บ้าน แล้วเรียนรู้บริษัทของเราในสภาพที่มันเป็น พนักงานทุกคนต้องฝึกงานอย่างคุณเหมือนกัน”
“คุณด้วยเหรอ”
“ครับ ผมเองก็ต้องฝึกเหมือนกัน”
“ได้ งั้นฉันจะฝึก”
“เริ่มฝึกพรุ่งนี้ แต่งเครื่องแบบนี้ มาทำงาน”
“ไม่มีทาง จะให้ฉันใส่ชุดนี้ออกจากบ้านเนี่ยนะ”
“กฎข้อที่ 3 ผู้บริหารระดับสูงของธนบวร ต้องผ่านการฝึกงานทุกแผนก และต้องไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร”
“นี่คุณ ในเมื่อเริ่มฝึกพรุ่งนี้แล้วจะให้ฉันใส่ชุดนี้ตอนนี้ทำไมเล่า”
“ผมไม่ได้บอกให้คุณใส่ตอนนี้ซะหน่อย” บิวตี้แค้น ค้อนลมแล้ง “คุณฝึกกะบ่ายก็แล้วกัน อย่างคุณคงตื่นเช้าไม่ไหว”
“ดี” บิวตี้นึกได้เรื่องแปลงกาย “กะบ่าย กี่โมง”
“หกโมงเย็น ถึงตีสอง”
บิวตี้ยิ่งตกใจ “ไม่ได้นะ คือ... ฉัน มีนัด”
ธีภพยิ้มเยาะ “ห่วงเที่ยวกลางคืน”
“เรื่องของฉัน ขอทำกะเช้าแต่มาสายหน่อยแล้วเลิกเร็วหน่อย ได้ไหม”
“ไม่ได้ กะเช้า แปดโมงครึ่งถึงห้าโมงครึ่ง ตามนั้น”
บิวตี้ต่อรอง “ฝึกงานไม่ต้องเต็มเวลาขนาดนั้นมั้ง”
“ทำไม่ได้ก็อย่าทำ กฎข้อ 4 ผู้บริหาร ต้องตรงต่อเวลา”
“โอ๊ย กฎจะจุกจิกเกินไปแล้ว”
“งานแรก ท่องจำกฎของบริษัทให้ได้ ทุกข้อ”
เรื่องเต็ม เล่ห์นางฟ้าตอนที่ 3/1
เล่ห์นางฟ้า ตอนที่ 3/1
ลัลลลิตต์ก้าวมาหยุดยืนหน้าห้องทำงานตรีภพ มองไปยังเลขาที่นั่งแหมะอยู่ บอกย้ำจุดประสงค์
“ดิฉันมาพบคุณธีภพ”
“นัดไว้หรือเปล่าคะ” เลขาถามตามธรรมเนียม
บิวตี้ไม่ตอบคำถาม แต่พูดบอกไปด้วยเสียงเย็นเยียบ “ฉันชื่อ ลัลน์ลลิต”
เลขารู้ทันทีว่าเป็นใคร สีหน้าตื่นเต้นนิดหนึ่ง แล้วไหว้ “กรุณารอสักครู่ค่ะ” จากนั้นพาหล่อนเข้าไปรอในห้องธีภพ
พอเข้าห้องมา บิวตี้เดินนวยนาดสำรวจตรวจตรา ปรายตามองสิ่งต่างๆ ในห้องอย่างจะจับผิด
เลขากลับออกมาจากห้องทำงานด้านใน “ท่านประธาน กำลังติดประชุมสำคัญ กรุณารอสักครู่ค่ะ”
บิวตี้ถอนใจ นั่งรอที่โซฟาตรงมุมรับรอง หน้าเชิด วางท่าดุจนางพญา เหลือบตาดูนาฬิกาข้อมือ
นาฬิกา บอกตัวเลขว่าผ่านไปประมาณ 10 นาทีแล้ว บิวตี้เคาะนิ้วดูนาฬิกา เลขาเอากาแฟ และน้ำมาเสิร์ฟ
บิวตี้ไม่สนใจกาแฟ เริ่มหงุดหงิด เพราะไม่เคยรอใคร “ประชุมยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
บิวตี้ถอนใจ นั่งหน้าเชิดดุจนางพญาต่อ
เวลาเคลื่อนคล้อย นาฬิกาบอกตัวเลขว่าผ่านไปประมาณ 20 นาที บิวตี้หงุดหงิดมากขึ้น
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ”
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
“พูดอย่างอื่นเป็นไหม โปรแกรมมาแค่กรุณารอสักครู่ หรือไง”
“ขอโทษค่ะ” เลขาก้มหน้าทำงานไป ไม่ตอบโต้
บิวตี้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด
เวลาผ่านไปอีกช่วงเวลาสั้นๆ บิวตี้หงุดหงิด อยู่ไม่นิ่ง หากิจกรรมทำฆ่าเวลา ทั้ง ถ่ายรูป เล่นเกม ส่องกระจก เปลี่ยนท่านั่ง ลุกเดินไปมา และในที่สุด บิวตี้ก็สุดทน ลุกขึ้น ฮึดฮัด เดินไปที่ประตูห้องประชุม จะเปิดประตู
เลขารีบลุกไปกั้น “เข้าไปไม่ได้นะคะ กรุณารอสักครู่”
บิวตี้ดุใส่ “ไม่รอ เกิดมาไม่เคยรอใครนานอย่างนี้เลย ฉันก็ประธานเหมือนกันนะหลีกไป”
เลขาถูกกวาดออก ตกใจ สุดจะห้ามปราม หลบอย่างเกรงๆ
บิวตี้เปิดประตูห้องทำงานธีภพอย่างแรง เดินฉับๆเข้าไป
บิวตี้เปิดประตูผลัวะเข้ามา ทุกคนในห้องนิ่งอึ้งด้วยความตกใจเพราะนี่เป็นการประชุมลับ บนจอโปรเจ็คเตอร์มีภาพของเสื้อผ้าตัวอย่างที่กำลังนำเสนออดิศักดิ์ เพื่อลงจำหน่ายที่ห้าง
กรเทพตกใจ “บิวตี้ มาทำอะไร”
“ก็มามารับตำแหน่งประธานร่วมของธนบวร” บิวตี้เชิดหน้าผยอง “ตามสิทธิของบิวตี้ไงคะอาชวนเองไม่ใช่เหรอ”
ธีภพข่มอารมณ์ “เรากำลังประชุมเป็นการภายใน เชิญออกไปรอข้างนอกก่อน”
“มีความลับกับว่าที่ประธานร่วมของบริษัทด้วยเหรอ” บิวตี้จ้องหน้าเขา
อดิศักดิ์ฉุน ลุกยืน “ถ้าจะมีการเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ผมคงต้องขอตัวไปทบทวนข้อเสนอก่อน”
กรเทพตกใจ “เดี๋ยวครับคุณอดิศักดิ์”
อดิศักดิ์ไม่ฟังเสียง เดินออกไปทันที
กรเทพบอกกับธีภพ “อาคุยเอง เดี๋ยวมา” แล้วรีบตามอดิศักดิ์ไปอย่างร้อนใจ
ธีภพหันมาเอาเรื่อง “นี่ รู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังจะทำยอดขายกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทหายไป”
บิวตี้ตกใจ แต่ยังดื้อดึง “ฉันรออยู่ชั่วโมงนึงแล้วนะ ฉันก็มีเรื่องสำคัญเหมือนกัน”
“เรื่องอะไร”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะมารับตำแหน่งประธานร่วม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ธีภพเยาะ “งานบริษัท ไม่ได้ง่ายเหมือนเล่นขายของนะครับคุณลัลน์ลลิต”
บิวตี้ตอบไม่ได้ หน้างอ คอแข็ง “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นหน้าที่ของนาย ที่จะต้องสอนฉัน”
“ผมงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาสอนคุณหรอก”
บิวตี้ขึ้นเสียงใส่ อย่างเด็กเอาแต่ใจ “นายต้องสอน”
“ไม่”
บิวตี้จ้องหน้าธีภพพูดอย่างดุเดือด “นายไม่มีสิทธิปฏิเสธฉัน นายอ้วนแว่น”
ธีภพดึงลากข้อมือบิวตี้ออกมาจากห้องทำงาน เลขาตกใจหลบตัวลีบ
บิวตี้โวยลั่น ขืนตัว “ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นประธานของที่นี่เหมือนกันนะ”
“อยากเป็นก็เชิญไปหาห้องทำงานที่อื่น นี่ห้องผม ผมไม่ให้คุณเข้า”
“ไม่ให้เข้า ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่านายจะยอมสอนงานให้ฉัน”
“เกี่ยวอะไรกับผมด้วย ทำไมไม่ไปฝึกงานกับอากรของคุณ”
“ไม่ ประธานต้องฝึกงานจากประธานเท่านั้น”
“ผมดูแลเรื่องการตลาด ส่วนพ่อคุณเคยดูแลเรื่องการผลิตซี่งตอนนี้อากรเป็นคนรับผิดชอบ อากรน่าจะสอนคุณได้ดีกว่าผม”
“แต่ฉันต้องการให้คุณสอน คุณคนเดียวเท่านั้น!”
“คุณต้องบอกผมว่าทำไม แล้วผมจะสอนคุณ”
“คุณไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลของฉัน แค่ฉันอยากทำงานอย่างจริงจัง และพ่อคงดีใจที่ฉันสานต่อความฝันของท่าน ถ้าคุณนับถือพ่อก็ช่วยสอนฉันซึ่งเป็นลูกของท่าน นะคะ”
ธีภพสบตาบิวตี้อย่างชั่งใจ แล้วก็ตัดสินใจ
“ผมไม่ว่าง” ธีภพหันตัวจะเข้าห้อง
บิวตี้ถลามาขวางประตู พูดขู่ “ก็ได้ ถ้างั้นฉันจะบริหารงานธนบวรตามแบบของฉัน แต่ ถ้าพลาด เจ๊งขึ้นมา ห้ามโทษฉันนะ ก็อยากไม่สอนเองนี่”
ธีภพจ้องบิวตี้ หน้าเครียด “ตามใจคุณสิ” ชายหนุ่มเข้าห้องปิดประตูใส่หน้าบิวตี้ โดยไม่แยแส
บิวตี้งง โกรธแค้น ทุบประตูไม่ยั้ง “นายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ”
บิวตี้โมโหฮึดฮัดโมโหธีภพออกมาหน้าตึก
“ฉันไม่จำเป็นต้องพึ่งคนอย่างนายหรอก งานแค่นี้ ฉันทำได้” หันไปมองบริษัทใหญ่โตแล้วชักจะท้อถอย ชะงักเมื่อเห็นกรเทพอยู่ตรงที่จอดรถ วี ไอ พี กรเทพ ยังพูดกับอดิศักดิ์นอบน้อม ดูประจบเอาใจ ก่อนอดิศักดิ์จะขึ้นรถไป
บิวตี้พาลโมโหขึ้นมาอีก “ก็แค่ประจบประแจง ไม่มีความจริงใจ”
กรเทพหันมา เห็นบิวตี้ แต่บิวตี้เดินหนี
กรเทพรีบเดินมาหา “บิวตี้ บิวตี้”
บิวตี้หยุดเดิน โกรธ เตรียมจะว่าใส่หน้าอา
กรเทพเดินมาถึง “หลานจะมาทำงานจริงหรือเปล่า”
บิวตี้ประชด “ค่ะ ได้เวลาทำหน้าที่แทนพ่อเสียที”
กรเทพไม่รู้เรื่องว่าถูกเข้าใจผิด ปลื้มใจ “อารอวันนี้มานานแล้ว พี่บวรคงดีใจ” ผู้เป็นอาดีใจจนน้ำตาคลอ
บิวตี้เมินหน้าหนี “ค่ะ จะได้รู้เสียทีว่าใครหมกเม็ดอะไรไว้ บิวตี้จะแฉให้หมด”
กรเทพหัวเราะ “ใจเย็นๆ ค่อยๆเรียนงานไปก่อน อาจะสอนบิวตี้ทุกอย่างเลย”
“ไม่ต้องรบกวนอาหรอกค่ะ”
กรเทพตกใจ “บิวตี้ อยู่ๆหลานจะมาบริหารงานบริษัทเลย มันเป็นไปไม่ได้ บิวตี้ไม่ได้ทำงานคนเดียวนะ บิวตี้ต้องได้รับความเชื่อใจทั้งจากคนในบริษัทและลูกค้า”
บิวตี้ชักหวั่นไหว ตัดสินใจโกหก “นายธี เขารับปากแล้วว่าจะสอนบิวตี้”
กรเทพแปลกใจ “ธี รับปากเหรอ ...ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
บิวตี้หันหลังกลับเข้าออฟฟิศ
“บิวตี้จะไปไหน”
“ก็ไปเรียนน่ะสิคะ”
ธีภพกำลังเซ็นเอกสารให้เลขา บิวตี้เปิดประตูเข้ามา เลขาตกใจ
ธีภพทำหน้าเบื่อหน่าย “อะไรอีกล่ะ” แล้วเซ็นงานต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“ฉันอยากเป็นประธานบริษัทที่ทุกคนยอมรับ เหมือนกับที่พวกเขายอมรับพ่อ”
ธีภพอึ้งไปชั่วขณะ เงยหน้าขึ้นมามองบิวตี้ เหมือนจะหยั่งลึกไปในใจ เลขา รู้งาน รีบชิ่งออกไป
“แน่ใจหรือ”
“แน่ ฉันพร้อมจะทำทุกอย่าง”
“ถ้างั้นก็ต้องมีข้อตกลง”
บิวตี้ดีใจ “ตกลง รับสอนฉันแล้วใช่ไหม” รู้สึกเป็นผู้ชนะ “เย้ เยส!”
ธีภพรำคาญ “คุณต้องเชื่อฟังคำแนะนำของผม ทำตามวิธีของผม” เขาเน้นคำในตอนนี้ “ทุกอย่างโดยไม่มีข้อโต้แย้ง”
“ให้ไปตายก็ต้องไปเหรอ”
ธีภพย้ำ “ไม่มีข้อโต้แย้ง ผมไม่สั่งให้คุณทำอะไรโง่ๆอย่างงั้นหรอก รับรองว่าทุกข้อจะมีประโยชน์กับการเป็นประธานบริษัท ตามแนวทางที่คุณบวรวางไว้”
บิวตี้คิดแล้ว ยอมรับ “ตกลง ฉันจะทำตามวิธีของพ่อ ทุกอย่าง”
ที่แดนสรวง นางฟ้าลลิตา มองจอภาพฉายอย่างตื่นเต้น ปิติ ปรมะเทวี เฉยๆ ไม่ตื่นเต้น
“พ่อของลูกคงได้รับรู้และปีติเป็นอย่างมาก”
“ไม่มีอะไรดีขึ้น แม้แต่น้อย” ปรมะเทวีชี้ให้ดูมาตรวัดความสัมฤทธิ์ของบิวตี้ ข้างจอฉายภาพ สีทองไม่เพิ่มขึ้นเลย
“แต่ลูกพยายามแล้วนะคะ อย่างน้อยก็รู้จักทำงาน”
“นางทำไปด้วยความโกรธแค้น โทสจริตเข้าครอบงำ อาจทำให้เกิดผลร้ายด้วยซ้ำ”
ขาดคำ มาตรวัดความสัมฤทธิ์ ควันดำพลุ่งออกมา มีสีดำเพิ่มขึ้นอีกหน่อย นางฟ้าลลิตา ร้อนใจ
ธีภพโยนชุดสาวโรงงานให้บิวตี้ตรงหน้า บิวตี้หยิบขึ้นมาดู
“คุณจะให้ฉันใส่ชุดนี้น่ะเหรอ ผ้าหยาบแบบนี้ผิวฉันก็เป็นรอยหมดน่ะสิ แบบก็เชย พวกสาวโรงงานใส่เข้าไปได้ยังไง”
“เครื่องแบบถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับการทำงานในโรงงาน ไม่รุ่มร่าม และปลอดภัยเมื่อต้องใช้เครื่องจักร เนื้อผ้าแบบนี้ระบายความร้อนได้ดี และเส้นใยก็ไม่ลงไปปลอมปนกับผลิตภัณฑ์ของเรา”
“แต่ชุดของฉันก็ดีอยู่แล้วนิ”
ธีภพดึงชุดคืน “กลับไป”
“ทำไมล่ะ ไหนคุณบอกจะสอนฉัน”
“ถ้าคุณยังมีข้อโต้แย้ง ก็จะไม่มีการสอนงาน กลับไป”
ธีภพเดินออกจากห้องไป
“คุณธี อย่าไปนะ ฉันใส่ก็ได้”
ไม่นานต่อมาบิวตี้ ออกมาจากห้องน้ำในห้องทำงานธีภพด้วยมาดสาวโรงงานแผนกโกดังสินค้าสีเทา เป็นชุดที่เน้นความปลอดภัยสูงสุด ชุดเสื้อกางเกงติดกัน มีหมวกนิรภัย ถุงมือหนาป้องกันนิ้ว แว่นตาและผ้าปิดจมูกกันฝุ่น
บิวตี้มองตัวเอง น่าจะเป็นครั้งที่ 40 แล้ว ตั้งแต่เปลี่ยนชุดเสร็จ ธีภพตาวาว กลั้นยิ้ม ด้วยความขบขันและสะใจ บิวตี้ ถอดหมวก ถอดถุงมือ โยนลงบนโต๊ะของธีภพอย่างรังเกียจ
“ไม่ ฉันไม่ใส่เสื้อผ้าแบบนี้เด็ดขาด”
“แค่ไม่ถึงชั่วโมงก็ขัดคำสั่งแล้ว เลิกเถอะ”
“แต่ฉันจะฝึกงานออฟฟิศ”
“คุณต้องไปเริ่มมาจากพื้นฐาน ไล่ขึ้นมา”
“ฉันเป็นถึงประธาน คุณจะให้ฉันไปเป็นสาวโรงงานได้ยังไง”
“กฎข้อที่ 1 คุณต้องไม่ดูถูกพนักงานของคุณเอง สาวโรงงานเป็นพนักงานที่มีค่าของบริษัทเรา ถ้าไม่มีพวกเธอเราก็ไม่มีผลิตภัณฑ์ดีๆที่จะทำเงินให้บริษัท”
“ฉันไม่ได้ดูถูกสาวโรงงาน แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงต้องไปทำงานแบบพวกเธอด้วยในเมื่อฉันเป็นถึงประธาน”
“เพราะเป็นประธาน คุณถึงต้องรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในบริษัทอย่างลึกซึ้ง ยิ่งคุณดูแลฝ่ายการผลิต คุณยิ่งต้องเข้าใจกระบวนการในโรงงานอย่างละเอียด รู้ทุกปัญหา คุณถึงควบคุมงานได้”
“คุณพ่อตั้งกฎ อย่างนั้นจริงๆเหรอ พ่อฉันไม่เห็นต้องไปเป็นสาวโรงงานเลยนี่”
ธีภพหยิบโบรชัวร์กฎของบริษัทจากลิ้นชัก วางกึ่งโยนให้บิวตี้ “เอาไปดูเอง พ่อคุณกับพ่อผมช่วยกันก่อตั้งธนบวรมาตั้งแต่ยังเป็นร้านตัดเสื้อผ้าห้องแถว กว่าจะเป็นทุกวันนี้ ไม่ว่าจะตัดเย็บ เก็บกวาดผ้า ท่านทำมาหมดแล้ว”
บิวตี้ท้วง “แต่ฉันจบแฟชั่นดีไซน์มาจากลอนดอน คุณลืมไปแล้วหรือไง”
“กฎข้อที่ 2 คุณต้องทิ้งปริญญาทุกใบไว้ที่บ้าน แล้วเรียนรู้บริษัทของเราในสภาพที่มันเป็น พนักงานทุกคนต้องฝึกงานอย่างคุณเหมือนกัน”
“คุณด้วยเหรอ”
“ครับ ผมเองก็ต้องฝึกเหมือนกัน”
“ได้ งั้นฉันจะฝึก”
“เริ่มฝึกพรุ่งนี้ แต่งเครื่องแบบนี้ มาทำงาน”
“ไม่มีทาง จะให้ฉันใส่ชุดนี้ออกจากบ้านเนี่ยนะ”
“กฎข้อที่ 3 ผู้บริหารระดับสูงของธนบวร ต้องผ่านการฝึกงานทุกแผนก และต้องไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร”
“นี่คุณ ในเมื่อเริ่มฝึกพรุ่งนี้แล้วจะให้ฉันใส่ชุดนี้ตอนนี้ทำไมเล่า”
“ผมไม่ได้บอกให้คุณใส่ตอนนี้ซะหน่อย” บิวตี้แค้น ค้อนลมแล้ง “คุณฝึกกะบ่ายก็แล้วกัน อย่างคุณคงตื่นเช้าไม่ไหว”
“ดี” บิวตี้นึกได้เรื่องแปลงกาย “กะบ่าย กี่โมง”
“หกโมงเย็น ถึงตีสอง”
บิวตี้ยิ่งตกใจ “ไม่ได้นะ คือ... ฉัน มีนัด”
ธีภพยิ้มเยาะ “ห่วงเที่ยวกลางคืน”
“เรื่องของฉัน ขอทำกะเช้าแต่มาสายหน่อยแล้วเลิกเร็วหน่อย ได้ไหม”
“ไม่ได้ กะเช้า แปดโมงครึ่งถึงห้าโมงครึ่ง ตามนั้น”
บิวตี้ต่อรอง “ฝึกงานไม่ต้องเต็มเวลาขนาดนั้นมั้ง”
“ทำไม่ได้ก็อย่าทำ กฎข้อ 4 ผู้บริหาร ต้องตรงต่อเวลา”
“โอ๊ย กฎจะจุกจิกเกินไปแล้ว”
“งานแรก ท่องจำกฎของบริษัทให้ได้ ทุกข้อ”