ชีวิต นิคม ไวยรัชพานิช ถูกสั่งพักงานจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาชั่วคราว กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.

กระทู้ข่าว
ชีวิต  นิคม ไวยรัชพานิช ถูกสั่งพักงานจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาชั่วคราว กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.



ชีวิต " นิคม ไวยรัชพานิช " ถูกสั่งพักงานจากตำแหน่งประธานวุฒิสภาชั่วคราว หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูล กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. เปิดใจถึงต้นตอที่ทำให้เขาถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เขาบอกว่าเป็นแผนของ ส.ว.สรรหา กรุยทางสู่การขอมาตรา 7แต่แผนของกลุ่ม ส.ว.ลากตั้ง จะลากมาถึงจุดสุญญากาศเช่นในปัจจุบันไม่ได้ ถ้าเขา-พวก-เพื่อน ส.ว. และพรรคเพื่อไทย ประเมินสถานการณ์ถูก ไม่หลงกลก้าวพลาดอย่างร้ายแรง...

เป็น ส.ว.เลือกตั้งคนแรกที่ได้เป็นประธานวุฒิสภา แต่ทำไมจบไม่สวย

คือ มีใครบ้างที่คิดว่าจะจบแบบ...แทนที่จะลงสบาย ๆ กลับมาตกตึก ตกยอดเขาแบบนี้ แต่ความจริงถามว่าก้าวพลาดหรือเปล่า ประมาทหรือเปล่า คิดว่าไม่ใช่ บังเอิญมันเป็นช่วงจังหวะของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญ การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการแย่งอำนาจ แสวงหาอำนาจที่เขาสู้กัน แล้วไปอยู่ในเส้นทางที่เราต้องผ่าน กลายเป็นหลีกไม่ได้ หลบไม่ได้ ก็ต้องฟันฝ่า ถ้าเราไม่ยืนบนหลักที่ถูกต้อง เราก็จะล้มไปนานแล้ว ถูกสังคมประณาม แต่ ณ วันนี้ ด้วยความที่ยึดอยู่บนหลักความถูกต้อง ผมจึงตอบสังคมได้ว่าทำอะไร

ยืนอยู่บนหลักความถูกต้อง แต่ทำไมยังถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

ด้วย ความที่ผมยึดหลักความถูกต้อง เวลาจะเอาเรื่องผมก็หาเหตุไม่ได้ กรณีผมไม่เป็นกลางไปลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็กฎหมายไม่ได้ห้าม ถูกไหม กรณีผมไม่ให้ ส.ส. และ ส.ว. 57 คนพูดในสภา แต่ผมเป็นคนให้พูด แต่เพราะคุณไปคัดข้อความที่ไม่ถูกต้องมา คุณคัดเอาข้อความที่ผมพูด แต่ข้อความที่พวกคุณได้พูดไม่พูดถึงเลย เมื่อผมชี้แจงพร้อมหลักฐาน ป.ป.ช.เขาก็ไม่แจ้งข้อกล่าวหาผม คุณกล่าวหาผมว่าพอแก้รัฐธรรมนูญได้ ถ้าประชาชนเรียกร้องให้ผมลงสมัคร ผมก็จะลงสมัคร แต่ใจผมไม่อยากลง คุณก็เอาอย่างนี้มาฟ้องผม ป.ป.ช.ก็รับคำร้อง แต่จริง ๆ รับไม่ได้ มันเป็นความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ฉะนั้น ป.ป.ช.จึงทำอะไรไม่ได้ มันจึงเหลือเรื่องเดียวที่ ป.ป.ช.เล่นผมได้คือ ว่าผมรับญัตติให้ปิดอภิปรายทั้ง ๆที่ มีคนจะอภิปรายเยอะ ถ้าคุณอยู่ในเหตุการณ์ เห็นลูกเล่นทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ คุณจะไม่พูดอย่างนี้ ผมพูดเสมอว่าขอใช้หลักของกรรมาธิการในการขานชื่อผู้ขออภิปรายได้ไหม ก็ไม่เอา เพราะถ้าเอาอย่างนั้น คุณต้องนั่งอยู่ในที่ประชุมทุกคน ถึงเวลาไม่อยู่ปุ๊บ ไม่อยู่ถือว่าคุณไม่อภิปราย ก็ตัดออก จะลงชื่อขออภิปรายกี่ร้อยคนก็แป๊บเดียวหมด แต่เวลาประชุมคุณก็ไม่ค่อยอยู่ในที่ประชุม แต่คุณกลับพูดทีละคนสองคน และ เวลาคุณอภิปรายต้องอภิปรายในประเด็นที่คุณขอแปรญัตติ หรือประเด็นที่กรรมาธิการแก้ไขแต่คุณไม่เอา จะอภิปรายเหมือนวาระที่ 1 คนละชั่วโมง ผมก็ท้วงแล้วว่ามันซ้ำ จึงมีคนฝ่ายรัฐบาลเสนอญัตติขอปิดการอภิปราย ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ ป.ป.ช.บอกว่าไม่รับญัตติก็ได้...ไม่มีทางครับ เพราะในข้อบังคับการประชุมไม่ได้บอกให้ประธานมีอำนาจไม่รับ เพียงแต่ขอร้องสองสามหนแต่เขาไม่ยอม เขาเอาประเด็นนี้มาฟ้องผม โดยบอกว่าเหลืออีก 90 กว่าคนไม่ได้อภิปราย ถามว่าที่แปรญัตติเป็น ร้อย ๆ คน เขาประสงค์จะอภิปรายไหม...ไม่ประสงค์ เช่น มาตรา 9 มีคนขอแปรญัตติ 54 คน แต่พออภิปราย 6 คน บอกไม่อภิปรายแล้ว หรือมาตราที่ 6 ขออภิปราย 114 คน แต่อภิปราย 17 คน แค่นี้ ถ้าบอกว่าเป็นความผิด ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะผมปฏิบัติตามข้อบังคับ

คุณนิคมกลายเป็นเหยื่อของเรื่องนี้

เป็น เหยื่อ มีทางเดียวคือเอาผมออกจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้รองประธานวุฒิสภาขึ้นมาทำหน้าที่แทนผม เพราะเขามีเป้าหมายต่อไปคือการถอดถอน ขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ซึ่งผมบอกแล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจรองประธานวุฒิสภาไปทำหน้าที่ ประธานรัฐสภา หรือรองประธานรัฐสภา เวลานี้เหตุการณ์จะเป็นจริง คุณจะมานั่งเขียนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเองเหรอ โดยอนุโลมให้ ส.ว.ทำหน้าที่แทน ส.ส.ได้ ผมเพิ่งเคยเห็นเนี่ย

รัฐธรรมนูญบอกว่าถ้าไม่มีนายกฯ ก็ให้ ส.ส.เลือกนายกฯขึ้นไป กลับไปใช้มาตรา 172 173 โดยอนุโลม หรือแม้กระทั่งเอามาตรา 128 วรรค 3 มาเสนอให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญ กรณีเมื่อมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ การถอดถอนผมเป็นประโยชน์แห่งรัฐเหรอ... ไม่ใช่ ของผมต้องใช้มาตรา 273 ในกรณีที่ ป.ป.ช.ส่งรายงานการถอดถอนนอกสมัยประชุม ให้ประธานวุฒิสภาแจ้งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรรับทราบเพื่อนำความกราบบังคม ทูล เพื่อมีพระบรมราชโองการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ นี่ใช้ข้อนี้ คุณวางแผนกันมากไปจนล็อกตัวเอง ถ้ารองประธานวุฒิสภาทำหน้าที่แทน ประธานรัฐสภาได้ คุณก็ทำหน้าที่ช่วยผม กับคุณสมศักดิ์ (เกียรติสุรนนท์) ตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว แต่มันทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ให้ ฝ่ายตรงข้ามวางแผนมากไปจนสถานการณ์เข้าสู่ Deadlock ของจริง แม้แต่เปิดประชุมถอดถอน หรือโหวตนายกฯมาตรา 7 ตามแผนก็ไม่ได้ เวลา นี้คุณต้องกลับสู่ระบบ กลับมาสู่ลู่ทาง ตราบใดที่คุณยังไม่ฉีกรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่คุณยังไม่มีปฏิวัติ ควรจะต้องถือตรงนี้ ทางที่จะทำให้กลับมาสู่ภาวะปกติคือจัดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.

ถ้ายังไม่มีการเลือกตั้ง ส.ส. กระบวนการในสภาไปต่อไม่ได้

ไปไม่ได้เลย ติดหมดเลย แม้แต่คุณจะเปิดสภาเพื่อโหวตนายกฯ มาตรา 7 ก็ยังทำไม่ได้ จุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด เกิดจาก ส.ว.เลือกตั้ง เดินไปหาพรรคเพื่อไทย ขอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผม ว่ามันไม่ใช่ประเด็น คุณเอาข้ออ้างของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นต้นเหตุของปัญหา แต่บังเอิญการแก้ครั้งนี้ไปทำให้กลุ่มหนึ่ง คือ ส.ว.สรรหา เสียอำนาจ ซึ่ง ส.ว.สรรหามีคอนเน็กชั่นกับคนที่แต่งตั้งตัวเองมาอยู่แล้ว ถ้ามองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องให้ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดเป็นปัญหา ทำให้เกิดการได้อำนาจมาซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย มันจะไม่เป็นยังไงในเมื่อคืนอำนาจประชาชนให้ประชาชนเลือก แต่คุณก็สร้างภาพว่ามันจะเป็นสภาผัว สภาเมีย สภาทาส ก็ไปคิดเอง คุณบอกว่าเป็นเหตุของปัญหา แต่ผมบอกไม่ใช่ปัญหา ทำไมพรรคประชาธิปัตย์แก้ไขเขตเลือกตั้งจากเขตใหญ่เป็นเขตเล็กได้ จาก 400 เขต เป็น 375 เขตได้

ที่แก้ได้เพราะการแก้ไขเขตเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ไปแตะมาตราที่เป็นเครื่องมือที่ใช้เล่นงานทางการเมืองของฝ่าย อำมาตย์ แต่ ส.ว.เลือกตั้งไปแตะต้องจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

ก็ อาจเป็นไปได้ ก็จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วความเป็นมาเป็นไปเป็นอย่างไร ที่ออกมา 2 ระบบ เลือกตั้งกับสรรหา เพื่อมาคานกัน มาตรวจสอบรัฐบาล แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่หรอก กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่ง...ชัดเจน ตอนที่เราไปขอให้พรรคเพื่อไทยผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. คาดการณ์หรือไม่ว่าจุดจบจะเป็นเช่นนี้ คิดไม่ถึง เพราะพวกคุณพยายามแปรญัตติ พวกคุณเออออห่อหมกด้วย คุณบอก ส.ว.เลือกตั้งดี แต่วันนี้พอคุณแพ้ในที่ประชุมรัฐสภา คุณก็ไม่เอา ทั้ง ๆ ที่พวกคุณเป็นทั้งกรรมาธิการ เป็นทั้งผู้แปรญัตติ บางคนอภิปราย แต่พอโหวตสู้ไม่ได้ คุณก็ไปใช้อำนาจอีกอำนาจหนึ่งในการประหัตประหารกัน

ตอนนั้นประเมินสถานการณ์เลวร้ายสุดไว้แค่ไหน

คิดว่าไม่ผ่าน ก็คือจบ ไม่เคยคิดว่าแพ้จะมาไล่ฆ่ากันอีก ซึ่งเราดูท่าทีตั้งแต่ต้นแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ผ่าน แต่เราไม่นึกว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีตกแล้ว จะมีการยื่นต่อ ป.ป.ช.ทันที ดูเหมือนเป็นการแก้แค้นกัน ไปหั่นวาระของ ส.ว.สรรหา ให้สิ้นสุดทันทีที่รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.มีผลบังคับใช้ เป็นเหมือนเราไปทำเขาก่อนหรือไม่ อาจจะเป็นความรู้สึกนั้น ซึ่งจุดที่คิดว่าเราพลาดที่สุด ก็คือจุดที่ให้ ส.ว.สรรหา หมดไปพร้อมกับ ส.ว.เลือกตั้ง วันนั้นท่านสมศักดิ์นั่งทำหน้าที่ประธาน แล้วผมนั่งคู่ด้วย ผมเห็นสีหน้า ส.ว.สรรหาแล้ว เอ๋อเลย นั่นคือจุดแตกหัก เขานึกไม่ถึง ถ้าเขาอยู่ในตำแหน่งต่ออีก 3 ปีจนหมดวาระ เขายังทำใจได้ ถูกไหม อันนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่เราพลาดไป ส.ว.เลือกตั้ง เคยปรึกษากับฝ่าย พรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าไม่ควรใช้วิธีแตกหักแบบนี้ผมว่ามันเกิดขึ้นในชั่วพริบตานะ ตามร่างเดิมให้ ส.ว.สรรหาอยู่จนครบวาระ 3 ปี แต่พออภิปรายไปแล้ว การดูถูกเหยียดหยามกัน การท้าทายกัน มันทำให้อารมณ์มันเปลี่ยนไป การที่คุณสมชาย (แสวงการ ส.ว.สรรหา) และอีกหลาย ๆ คนบอกว่า เอาเลย เอาให้สุดซอย ก็สมควร เลยตอบสนองให้ (หัวเราะ) มันเลยเป็นจุดแตกหักถึงทุกวันนี้ ฝ่ายเราก็เลยต้องถอยสุดซอยเหมือนกัน ก็ต้องถอย (หัวเราะ)

เมื่อ ส.ว.เลือกตั้ง ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ จึงถูก ส.ว.สรรหา ฝ่ายชนะ รุกต่อแบบถอนรากถอนโคน

ก็ นั่นน่ะสิ ไม่เป็นไร เป็นการโต้กันทางยุทธศาสตร์ในการรบ เมื่อเราชนะในเบื้องต้น แต่เรามาแพ้ เขาก็รุกกลับทันที เพื่อจะได้ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เดิมเราคิดว่า เราชนะเขาก็จะได้รับการต่อต้านจากเขา และกลุ่มอำมาตย์ แต่เวลานี้เมื่อเขารู้ว่าได้เปรียบแล้วจะตีกลับ คิดว่าจะเข่นฆ่าพวกนี้ให้หมดไปเลย มันไม่หมดหรอก พวกผมมีตัวตายตัวแทน วันนี้ ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าไปแล้วเยอะแยะ ก็ตัวแทนประชาชนไงครับ

ในอนาคต ส.ว.สรรหา จะอยู่ได้ค้ำฟ้าหรือไม่

ไม่ อะไรที่ไม่อยู่บนหลักการ หรือพื้นฐานความถูกต้อง มักอยู่ไม่นาน เวลาคุณได้นายกฯมาตรา 7 มา คุณก็อยู่ได้ไม่นาน

ส.ว.เลือกตั้งที่เข้ามาใหม่จะแตะต้อง ส.ว.สรรหาได้ไหม

แตะต้องยาก เพราะทุกองคาพยพมันช่วยกัน ยาก.. ถ้าตราบใดที่มีการเอื้อประโยชน์อย่างนี้ ในโครงสร้างรัฐธรรมนูญ ให้ 7 คน จากองค์กรอิสระเป็นคนเลือก ส.ว.สรรหา ส.ว.สรรหาก็เป็นคนแต่งตั้งเขา ถ้าเป็นอย่างนี้คุณไม่มีทาง

เกมการต่อสู้ระหว่าง ส.ว.เลือกตั้ง

ชุดใหม่ กับ ส.ว.สรรหา ในอนาคตเป็นอย่างไรจะแรงขึ้น ต่อไปนี้เริ่มรู้แล้ว ไอ้ที่คุณมานั่งเป็นอีแอบ แต่งหน้าแต่งตาสวย ผมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ใช่หรอก ไอ้ที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย เพราะนอกจากคุณไม่มีความสัมพันธ์กับประชาชนแล้ว คุณยังไม่ยืนเคียงข้างประชาชนด้วย เพราะฉะนั้นเริ่มรู้แล้วใครมายังไง ไอ้พวกฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย แต่ไม่ใช่ทุกคน จะยิ่งกว่าการต่อสู้ในสภาล่างระหว่างเพื่อไทย กับประชาธิปัตย์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่