ตอนที่ 38: บุกป้อมนักล่า (2/3)
http://ppantip.com/topic/31282569
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ kiikifon (709113): ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ ^^
คุณ ลูนาติก: นั่นสิ มันเป็นยังไงกัน
คุณ ตะวันรัตติกาล: เดี๋ยวก็จะได้รู้กันละ
คุณ Psycho man: เย้ ในที่สุดคุณก็ปรากฏตัว
ขอบคุณสำหรับการถูกใจค่ะ คุณ ตะวันรัตติกาล , คุณ Phoenixorus, คุณ ลูนาติก, คุณ เขมปัณณ์, คุณ zoi และ คุณ Psycho man ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
เหล่าทหารน้ำเข้ามาโจมตีป้อมนักล่าระหว่างการแข่งขันปัญจยุทธที่ทุ่งพยุอัศดร จ้าวแดนตะวันออกและบาเยนทร์จึงพักรบกันชั่วคราว หัสรังสีได้ปะทะกับไมยราญที่หอเวชศาสตร์เพราะเข้าใจว่าแม่ทัพใต้พิภพเข้ามาทำร้ายมัสลิน แต่ไมยราญก็ใช้จังหวะหนีไปได้ในตอนนั้นเองที่หัสรังสีรู้ว่าผู้ที่ไมยราญเอาตัวไปไม่ใช่มัสลิน
38. บุกป้อมนักล่า (3/3)
จนกระทั่งบัดนี้มัสลินเองยังรู้สึกแปลกใจในการมาเยือนกลางดึกของเพื่อนสาว
เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เองบุษบามินตรามาขอพบเธอกลางราตรีแล้วบอกให้มัสลินย้ายไปอยู่ในป้อมนักล่า
“มีใครไม่สบายงั้นหรือ” มัสลินถามย้ำอย่างแปลกใจพลางกระชับผ้าคลุมไหล่เข้ามาแนบกายมากขึ้นเพื่อบรรเทาอากาศที่หนาวเย็น บุษบรรณนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกความตั้งใจตรงๆ
“มัส...หากมีเรื่องใดที่เจ้าสามารถช่วย...รามิตได้ล่ะก็ เจ้ายินดีทำหรือไม่”
มัสลินเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาอย่างแคลงใจ “เจ้าพูดอะไรน่ะ”
“นี่...ข้ารู้หรอกนา...ไม่ต้องมาปิดบังเลย เจ้าเก็บเหรียญครึ่งเสี้ยวนั้นไม่เคยห่างตัว จะให้ข้าเข้าใจผิดได้อย่างไร”
ฝ่ายเจ้าของห้องหันไปทางโต๊ะข้างหน้าต่าง ในกล่องไม้มีเหรียญครึ่งเสี้ยวที่เจ้าตัวมักจะสวมอยู่เป็นประจำ ทว่ามีเพียงไม่กี่คนจะรู้ที่มาของเหรียญที่หักครึ่งนี้
“เจ้าเข้าใจผิดแล้วบุษบรรณ นี่เป็นของที่ท่านจอมเทพอุตส่าห์มีน้ำใจให้ข้าเก็บรักษาเอาไว้ มันจึงสำคัญกับข้ามากต่างหาก”
บุษบรรณโบกมือไปมาคล้ายไม่อยากโต้เถียงด้วย “เออ...ช่างเถอะ...ว่าแต่...ว่าอย่างไรเล่า หากมีเรื่องใดที่เจ้าสามารถช่วยรามิตได้ เจ้ายินดีทำหรือไม่”
มัสลินพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล เมื่อเห็นดังนั้นบุษบรรณจึงกล่าวต่อโดยไม่อ้อมค้อม
“เช่นนั้นเราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมากที่สุด ห้ามบอกใครแม้แต่พี่ชายของข้า เอ...อย่าขัดสิ” บุษบรรณดักคอเมื่อเห็นมัสลินทำท่าจะอ้าปากถาม
“ข้ารู้แล้วว่ารามิตอยู่ที่ไหน และไม่ว่าจะอย่างไร ข้าจะต้องช่วยเขาออกมาให้ได้” ท่านมือปราบพูดอย่างมั่นใจ
“อะไรนะ จริงหรือ แล้วเขาอยู่ที่ไหนกัน”
แต่บุษบรรณกลับไม่เล่าขยายความต่อ ทว่าจัดแจงให้มัสลินย้ายไปพักในห้องที่หอโอสถแทนห้องพักเดิม
“ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ นะมัส ในนี้หนาวกว่าห้องที่อยู่ในหอนอนของอาคารเวชศาสตร์ เพียงแต่...อดทนแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้ไปหากมีอะไรเกิดขึ้น พี่ชายข้าจะอยู่ดูแลเจ้าเอง เจ้าคลั่งนั่นถึงจะคลั่งอย่างไรก็ไม่กล้าบุกป้อมนักล่าหรอก”
“เจ้าจะทำอะไรหรือบุษบรรณ แล้วพรุ่งนี้จะมีเกิดขึ้นหรือ ข้าสับสนไปหมดแล้ว”
“ความจริงข้าก็อยากจะบอกเจ้ามากกว่านี้ แต่...อืม...ข้าขอยืมชุดพวกนี้ของเจ้าได้ไหม” จู่ๆ บุษบรรณก็เปลี่ยนเรื่องสนทนา ชี้นิ้วไปยังชุดคลุมสีทึมของเทพเวชรักษ์ที่แขวนอยู่บนผนัง แม้จะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกแต่มัสลินก็เอ่ยอนุญาตอย่างใจดี บุษบรรณจึงถือติดมือไปชุดหนึ่ง บอกลาเพื่อนสาวและสาวเท้าออกไปจากห้องโอสถ
ตั้งแต่รู้ว่าถูกบุษบรรณร่ายเวทขังไว้ในห้อง มัสลินก็พยายามจะออกไปจากห้องโอสถ ทว่าเธอไม่ได้ฝึกเวทมนตราจึงไม่สามารถทำลายพละเวทออกไปได้ เธอตระหนักดีว่าบุษบรรณทำเช่นนี้เพื่อต้องการป้องกันเธอให้ห่างจากอันตรายแน่ ที่เธอวิตกกังวลจึงไม่ใช่ห่วงตัวเองเลยทว่าเป็นห่วงการตัดสินใจที่ชอบเสี่ยงภัยของบุษบรรณต่างหาก
จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา ตอนที่ 38: บุกป้อมนักล่า (3/3)
คุยกันก่อนนะคะ
คุณ kiikifon (709113): ขอบคุณมากอีกครั้งค่ะ ^^
คุณ ลูนาติก: นั่นสิ มันเป็นยังไงกัน
คุณ ตะวันรัตติกาล: เดี๋ยวก็จะได้รู้กันละ
คุณ Psycho man: เย้ ในที่สุดคุณก็ปรากฏตัว
ขอบคุณสำหรับการถูกใจค่ะ คุณ ตะวันรัตติกาล , คุณ Phoenixorus, คุณ ลูนาติก, คุณ เขมปัณณ์, คุณ zoi และ คุณ Psycho man ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
เหล่าทหารน้ำเข้ามาโจมตีป้อมนักล่าระหว่างการแข่งขันปัญจยุทธที่ทุ่งพยุอัศดร จ้าวแดนตะวันออกและบาเยนทร์จึงพักรบกันชั่วคราว หัสรังสีได้ปะทะกับไมยราญที่หอเวชศาสตร์เพราะเข้าใจว่าแม่ทัพใต้พิภพเข้ามาทำร้ายมัสลิน แต่ไมยราญก็ใช้จังหวะหนีไปได้ในตอนนั้นเองที่หัสรังสีรู้ว่าผู้ที่ไมยราญเอาตัวไปไม่ใช่มัสลิน
38. บุกป้อมนักล่า (3/3)
จนกระทั่งบัดนี้มัสลินเองยังรู้สึกแปลกใจในการมาเยือนกลางดึกของเพื่อนสาว
เมื่อคืนที่ผ่านมานี้เองบุษบามินตรามาขอพบเธอกลางราตรีแล้วบอกให้มัสลินย้ายไปอยู่ในป้อมนักล่า
“มีใครไม่สบายงั้นหรือ” มัสลินถามย้ำอย่างแปลกใจพลางกระชับผ้าคลุมไหล่เข้ามาแนบกายมากขึ้นเพื่อบรรเทาอากาศที่หนาวเย็น บุษบรรณนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกความตั้งใจตรงๆ
“มัส...หากมีเรื่องใดที่เจ้าสามารถช่วย...รามิตได้ล่ะก็ เจ้ายินดีทำหรือไม่”
มัสลินเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาอย่างแคลงใจ “เจ้าพูดอะไรน่ะ”
“นี่...ข้ารู้หรอกนา...ไม่ต้องมาปิดบังเลย เจ้าเก็บเหรียญครึ่งเสี้ยวนั้นไม่เคยห่างตัว จะให้ข้าเข้าใจผิดได้อย่างไร”
ฝ่ายเจ้าของห้องหันไปทางโต๊ะข้างหน้าต่าง ในกล่องไม้มีเหรียญครึ่งเสี้ยวที่เจ้าตัวมักจะสวมอยู่เป็นประจำ ทว่ามีเพียงไม่กี่คนจะรู้ที่มาของเหรียญที่หักครึ่งนี้
“เจ้าเข้าใจผิดแล้วบุษบรรณ นี่เป็นของที่ท่านจอมเทพอุตส่าห์มีน้ำใจให้ข้าเก็บรักษาเอาไว้ มันจึงสำคัญกับข้ามากต่างหาก”
บุษบรรณโบกมือไปมาคล้ายไม่อยากโต้เถียงด้วย “เออ...ช่างเถอะ...ว่าแต่...ว่าอย่างไรเล่า หากมีเรื่องใดที่เจ้าสามารถช่วยรามิตได้ เจ้ายินดีทำหรือไม่”
มัสลินพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล เมื่อเห็นดังนั้นบุษบรรณจึงกล่าวต่อโดยไม่อ้อมค้อม
“เช่นนั้นเราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมากที่สุด ห้ามบอกใครแม้แต่พี่ชายของข้า เอ...อย่าขัดสิ” บุษบรรณดักคอเมื่อเห็นมัสลินทำท่าจะอ้าปากถาม
“ข้ารู้แล้วว่ารามิตอยู่ที่ไหน และไม่ว่าจะอย่างไร ข้าจะต้องช่วยเขาออกมาให้ได้” ท่านมือปราบพูดอย่างมั่นใจ
“อะไรนะ จริงหรือ แล้วเขาอยู่ที่ไหนกัน”
แต่บุษบรรณกลับไม่เล่าขยายความต่อ ทว่าจัดแจงให้มัสลินย้ายไปพักในห้องที่หอโอสถแทนห้องพักเดิม
“ข้าต้องขอโทษเจ้าจริงๆ นะมัส ในนี้หนาวกว่าห้องที่อยู่ในหอนอนของอาคารเวชศาสตร์ เพียงแต่...อดทนแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น พรุ่งนี้ไปหากมีอะไรเกิดขึ้น พี่ชายข้าจะอยู่ดูแลเจ้าเอง เจ้าคลั่งนั่นถึงจะคลั่งอย่างไรก็ไม่กล้าบุกป้อมนักล่าหรอก”
“เจ้าจะทำอะไรหรือบุษบรรณ แล้วพรุ่งนี้จะมีเกิดขึ้นหรือ ข้าสับสนไปหมดแล้ว”
“ความจริงข้าก็อยากจะบอกเจ้ามากกว่านี้ แต่...อืม...ข้าขอยืมชุดพวกนี้ของเจ้าได้ไหม” จู่ๆ บุษบรรณก็เปลี่ยนเรื่องสนทนา ชี้นิ้วไปยังชุดคลุมสีทึมของเทพเวชรักษ์ที่แขวนอยู่บนผนัง แม้จะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกแต่มัสลินก็เอ่ยอนุญาตอย่างใจดี บุษบรรณจึงถือติดมือไปชุดหนึ่ง บอกลาเพื่อนสาวและสาวเท้าออกไปจากห้องโอสถ
ตั้งแต่รู้ว่าถูกบุษบรรณร่ายเวทขังไว้ในห้อง มัสลินก็พยายามจะออกไปจากห้องโอสถ ทว่าเธอไม่ได้ฝึกเวทมนตราจึงไม่สามารถทำลายพละเวทออกไปได้ เธอตระหนักดีว่าบุษบรรณทำเช่นนี้เพื่อต้องการป้องกันเธอให้ห่างจากอันตรายแน่ ที่เธอวิตกกังวลจึงไม่ใช่ห่วงตัวเองเลยทว่าเป็นห่วงการตัดสินใจที่ชอบเสี่ยงภัยของบุษบรรณต่างหาก