ตอนที่ 35: เทวะที่สาบสูญ (ส่วนกลาง 2/3)
http://ppantip.com/topic/30178160
คุยกันก่อนนะคะ
คุณน้องอัญญ์: เจ้าอารมันหายไปบทสองบท เริ่มมีนักอ่านตาม รัศมีดาราท่าจะจับละคราวนี้ (เตรียมขึ้นค่าตัวได้ ^^)
คุณ Psycho man: เรื่องมาถึงตอนนี้ละไม่มีใครได้บทสบายๆ แล้วค่ะ สภารัตติกาลยังมีบทต่ออีกในช่วงหลังค่ะ
ตอนบุกรังไมยราญจะยิ่งสยองกว่านี้ (เอ๊ะ แอบโฆษณา)
คุณ ซาลาสซา: ใช่ละ เราก็ชอบตัวร้ายแบบฉลาดๆ เหมือนกัน
คุณ kiikifon: ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
คุณ ลูนาติก: มุตติร้ายดีใช่มะ? (แต่รู้น่าว่าคุณแอบสะใจ อิ อิ)
คุณ zoi: ใช่แล้วค่ะ ความเห็นของนักอ่านเป็นสิ่งที่เราอยากรู้เหมือนกัน
และขอขอบคุณ ผู้ให้ give นะคะ และบางท่านให้เกือบทุกตอนเลยขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ: คุณ zoi , คุณ ลูนาติก , คุณ Phoenixorus, คุณ ซาลาสซา, คุณ ชัดเจนน้องนาง, คุณ lovereason, และ คุณ Mareeraya ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
สภารัตติกาลเดินทางไปเร่งรัดมุตติถึงในเกาะแห่งความตาย ด้วยแคลงใจในความสามารถและไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ พวกเขาจึงบังคับให้มุตตินำตัวประกันคนสำคัญมาให้พวกเขาดูแลแทนโดยขู่ว่าจะทำร้ายมาลา เมื่อนั้นมุตติจึงยอมจำนนทำให้สภารัตติกาลเกิดความประมาทจนในที่สุดก็หลงกลเจ้าเกาะแห่งความตาย
35. เทวะที่สาบสูญ (3/3)
มุตติลืมตาขึ้นในห้องของตนเองโดยมีมาลากำลังคอยเฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ในทันใดนั้นมุตติกลับไอออกมาอย่างรุนแรงจนตัวโยน นางนาคาเห็นดังนั้นจึงรีบส่งถ้วยโอสถให้เจ้านายหนุ่มทันที มุตติดื่มยาสีเข้มเข้าไปหมดถ้วยภายในครั้งเดียวหลังจากนั้นอาการเขาจึงพอทุเลาลง
“ท่านไม่ควรใช้พลังโดยไม่จำเป็น” มาลากล่าวพลางวางถ้วยโอสถลงข้างตัว
“พวกมันก็ไม่ควรทำร้ายเจ้า” มุตติเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
มาลาส่ายศีรษะ
“ทนอีกหน่อยนะมาลา เมื่อทุกอย่างพร้อม...เราจะออกไปจากที่นี่ เป็นอิสระจากทุกสิ่ง ข้าจะพาเจ้าไปที่ทะเลสาบคันฉาย สถานที่ที่ข้าเติบโต ที่นั่นสวยมาก เจ้าต้องชอบแน่”
นางนาคาจ้องมองไปที่เทวะหนุ่มพลางนึกสงสัยในวาจาของเขาว่ากำลังใช้คำลวง ดั่งที่ไมยราญเคยเตือนไว้หรือไม่ แต่อีกใจหนึ่งมาลาคิดว่าแม้จะเป็นคำโกหกหากเธอรู้สึกยินดีนัก
ห้องนั้นเจาะทะลุหินผาเข้าไปเป็นโพรงขนาดใหญ่
ภายในห้องที่ปิดทึบและมืดสนิทนั้นปรากฏแสงสว่างที่ส่องเป็นลำมาจากช่องเปิดแคบๆ ราวกับผู้สร้างจงใจให้มันส่องตรงไปยังตำแหน่งเสาหินคู่กลางห้อง แม้ลำแสงนั้นจะไม่อาจมองเห็นร่างทั้งหมดของใครบางคนที่ถูกพันธนาการทั้งมือเท้าอยู่ระหว่างเสาหินทั้งสองต้น แต่บุษบรรณจำได้ในทันใดเพราะอีกฝ่ายดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเด็กหนุ่มเมื่อห้าปีก่อนเลย
“รามิต!” เธอใจหายพลันเรียกชื่อเขาอย่างลืมตัว ในตอนนั้นเองที่เธอเพิ่งรู้ว่าในห้องที่มืดมิดนั้นยังมีคนอื่นอยู่ด้วยและเป็นผู้ร่ายพละมนตราจู่โจมผู้ที่บุกรุกเข้ามา เสียงตะโกนของอารมันที่ยืนอยู่ข้างๆ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอได้ยิน
บุษบรรณรู้สึกตัว ลืมตาตื่น สิ่งแรกที่เห็นคือ กริชของเทพเวนไตยในปลอกหนังสีน้ำตาลบนผนังที่ดารดาษไปด้วยสารพันอาวุธคุ้นตาและคุ้นมือ...จากนั้นจึงตระหนักว่าเธออยู่ในห้องนั่งเล่นของตนเองในหอเบญจคารของป้อมนักล่า เทพีแห่งอุตราทิศขยับตัวลุกนั่งบนตั่งยาวหันไปมองรอบกายอีกครั้งอย่างพิศวง
ข้ากลับมาที่นี่ได้อย่างไรกัน? บุษบรรณวางมือทั้งสองของตนเองบนหน้าผากอย่างนึกแคลงใจพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมา ไม่...จริงสิ จตุบรรพ์ของอารมันเอาชนะผู้ทักษ์เขตไปสู่สถานที่แห่งหนึ่ง ณ ที่นั้น เธอคิดว่าเธอพบสหายเก่าในสภาพที่แปลกประหลาดมาก แล้วหลังจากนั้น...หลังจากนั้น ข้าก็อยู่ในห้องตนเองงั้นหรือ?
จ้าวจตุรทิศ ภาคจัณฑวาตา: ตอนที่ 35 เทวะที่สาบสูญ - (ส่วนปลาย 3/3)
คุยกันก่อนนะคะ
คุณน้องอัญญ์: เจ้าอารมันหายไปบทสองบท เริ่มมีนักอ่านตาม รัศมีดาราท่าจะจับละคราวนี้ (เตรียมขึ้นค่าตัวได้ ^^)
คุณ Psycho man: เรื่องมาถึงตอนนี้ละไม่มีใครได้บทสบายๆ แล้วค่ะ สภารัตติกาลยังมีบทต่ออีกในช่วงหลังค่ะ
ตอนบุกรังไมยราญจะยิ่งสยองกว่านี้ (เอ๊ะ แอบโฆษณา)
คุณ ซาลาสซา: ใช่ละ เราก็ชอบตัวร้ายแบบฉลาดๆ เหมือนกัน
คุณ kiikifon: ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
คุณ ลูนาติก: มุตติร้ายดีใช่มะ? (แต่รู้น่าว่าคุณแอบสะใจ อิ อิ)
คุณ zoi: ใช่แล้วค่ะ ความเห็นของนักอ่านเป็นสิ่งที่เราอยากรู้เหมือนกัน
และขอขอบคุณ ผู้ให้ give นะคะ และบางท่านให้เกือบทุกตอนเลยขอบคุณมากๆ อีกครั้งค่ะ: คุณ zoi , คุณ ลูนาติก , คุณ Phoenixorus, คุณ ซาลาสซา, คุณ ชัดเจนน้องนาง, คุณ lovereason, และ คุณ Mareeraya ค่ะ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
สภารัตติกาลเดินทางไปเร่งรัดมุตติถึงในเกาะแห่งความตาย ด้วยแคลงใจในความสามารถและไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ พวกเขาจึงบังคับให้มุตตินำตัวประกันคนสำคัญมาให้พวกเขาดูแลแทนโดยขู่ว่าจะทำร้ายมาลา เมื่อนั้นมุตติจึงยอมจำนนทำให้สภารัตติกาลเกิดความประมาทจนในที่สุดก็หลงกลเจ้าเกาะแห่งความตาย
35. เทวะที่สาบสูญ (3/3)
มุตติลืมตาขึ้นในห้องของตนเองโดยมีมาลากำลังคอยเฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ในทันใดนั้นมุตติกลับไอออกมาอย่างรุนแรงจนตัวโยน นางนาคาเห็นดังนั้นจึงรีบส่งถ้วยโอสถให้เจ้านายหนุ่มทันที มุตติดื่มยาสีเข้มเข้าไปหมดถ้วยภายในครั้งเดียวหลังจากนั้นอาการเขาจึงพอทุเลาลง
“ท่านไม่ควรใช้พลังโดยไม่จำเป็น” มาลากล่าวพลางวางถ้วยโอสถลงข้างตัว
“พวกมันก็ไม่ควรทำร้ายเจ้า” มุตติเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
มาลาส่ายศีรษะ
“ทนอีกหน่อยนะมาลา เมื่อทุกอย่างพร้อม...เราจะออกไปจากที่นี่ เป็นอิสระจากทุกสิ่ง ข้าจะพาเจ้าไปที่ทะเลสาบคันฉาย สถานที่ที่ข้าเติบโต ที่นั่นสวยมาก เจ้าต้องชอบแน่”
นางนาคาจ้องมองไปที่เทวะหนุ่มพลางนึกสงสัยในวาจาของเขาว่ากำลังใช้คำลวง ดั่งที่ไมยราญเคยเตือนไว้หรือไม่ แต่อีกใจหนึ่งมาลาคิดว่าแม้จะเป็นคำโกหกหากเธอรู้สึกยินดีนัก
ห้องนั้นเจาะทะลุหินผาเข้าไปเป็นโพรงขนาดใหญ่
ภายในห้องที่ปิดทึบและมืดสนิทนั้นปรากฏแสงสว่างที่ส่องเป็นลำมาจากช่องเปิดแคบๆ ราวกับผู้สร้างจงใจให้มันส่องตรงไปยังตำแหน่งเสาหินคู่กลางห้อง แม้ลำแสงนั้นจะไม่อาจมองเห็นร่างทั้งหมดของใครบางคนที่ถูกพันธนาการทั้งมือเท้าอยู่ระหว่างเสาหินทั้งสองต้น แต่บุษบรรณจำได้ในทันใดเพราะอีกฝ่ายดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเด็กหนุ่มเมื่อห้าปีก่อนเลย
“รามิต!” เธอใจหายพลันเรียกชื่อเขาอย่างลืมตัว ในตอนนั้นเองที่เธอเพิ่งรู้ว่าในห้องที่มืดมิดนั้นยังมีคนอื่นอยู่ด้วยและเป็นผู้ร่ายพละมนตราจู่โจมผู้ที่บุกรุกเข้ามา เสียงตะโกนของอารมันที่ยืนอยู่ข้างๆ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอได้ยิน
บุษบรรณรู้สึกตัว ลืมตาตื่น สิ่งแรกที่เห็นคือ กริชของเทพเวนไตยในปลอกหนังสีน้ำตาลบนผนังที่ดารดาษไปด้วยสารพันอาวุธคุ้นตาและคุ้นมือ...จากนั้นจึงตระหนักว่าเธออยู่ในห้องนั่งเล่นของตนเองในหอเบญจคารของป้อมนักล่า เทพีแห่งอุตราทิศขยับตัวลุกนั่งบนตั่งยาวหันไปมองรอบกายอีกครั้งอย่างพิศวง
ข้ากลับมาที่นี่ได้อย่างไรกัน? บุษบรรณวางมือทั้งสองของตนเองบนหน้าผากอย่างนึกแคลงใจพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมา ไม่...จริงสิ จตุบรรพ์ของอารมันเอาชนะผู้ทักษ์เขตไปสู่สถานที่แห่งหนึ่ง ณ ที่นั้น เธอคิดว่าเธอพบสหายเก่าในสภาพที่แปลกประหลาดมาก แล้วหลังจากนั้น...หลังจากนั้น ข้าก็อยู่ในห้องตนเองงั้นหรือ?