"เหงื่อแตกผลักขนาดนั้นแสดงว่าตอนที่ไปสำรวจไม่ได้สำรวจให้ดีสินะ คงจะคิดว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นแข้งแกร่งแค่อยากเดียวเลยมาขอความช่วยเหลือจากข้าตอนที่ข้าลงมาถึงอาณาจักเบื้องล่าง"
เยว่ หง คิดพลางหัวเราะในใจด้วยความเบื่อหน่ายและประมาทของเจ้าสำนักวิญญาณเหล็ก
"ถ้าข้าสำรวจดีๆก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากนายน้อยเยว่ หง ล่ะก็ตอนนั้นข้าเล่าไปแบบลวกๆด้วยว่าพวกมันแค่จำนวนเยอะและทรงพลังกว่าข้า แต่ข้าไม่ได้รู้สึกถึงปราณหยินเลยตอนที่ข้าไปตรวจสอบพวกมัน แล้วถ้านายน้อยเยว่ หง ขอให้ข้าอธิบายข้าจะอธิบายยังไงดี?"
เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กคิดด้วยความกลัวที่โถมเข้ามาในใจของเขา ครั้งที่แล้วเขาแค่หลอกให้อวี้เหวินไปประลองกับเยว่ หง เพื่อที่จะได้รู้ระดับการบ่มเพาะของเยว่ หง แต่ก็ไม่ได้รู้แถมตอนกลางคืนยังโดนเยว่ หง บุกเข้ามาเตะถึงห้องแค่ทีเดียวเขายังเกลือบตายเลยแล้วนี่บอกข้อมูลผิดๆคงไม่เหลือแม้แต่วิญญาณ
เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กรู้สึกสินหวังมากกว่าเดิมหลังคิดแบบนั้นตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ซีดออกต่อไปแล้ว แต่มันกลับเต็มไปด้วยความสินหวังที่มากกว่าตอนที่ได้ยินว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นอยู่ในสถานที่ที่มีปราณหยิน
เขาเหลือบมองไปที่เยว่ หง และดวงตาของเขาก็สบเข้ากับเยว่ หง ที่กำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม
ดวงตาของเขาหดเล็กลงอย่างลวดเร็วหลังสบตากับเยว่ หง ที่กำลังยิ้มอยู่ และหลบหน้าอย่างรวดเร็วปาดสายฟ้าและคิดถึงสิ่งที่เยว่ หง จะทำกับตนด้วยความกลัว
เยว่ หง มองเจ้าสำนักวิญญาณเหล็กที่พึ่งสบตาของเขาและหลบหน้าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
"ฮ่าฮ่าฮ่า กลัวข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?"เยว่ หง หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจและเกลือบจะกั้นขำไว้ไม่อยู่
จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กจะกลัวเยว่ หง ตอนที่เขาเจอเยว่ หง ครั้งแรกเขาคิดด้วยความเห็นแก่ตัวของตนเพียงแค่ว่าจะขอให้เยว่ หง ช่วยอาณาจักรเสียนเหยาของตน จึงได้แสดงท่าทีเคารพเยว่ หง ไปแบบปลอมๆด้วยความไม่จริงใจเพราะคิดว่าเยว่ หง เป็นเพียงเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาจากตระกูลที่ไม่ค่อยยิ่งใหญ่จากอาณาจักรเบื้องบน ต่อมาเขาได้หลอกล่อให้อวี้เหวินไปท้าประลองกับเยว่ หง เพราะต้องการทดสอบเขา แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือการที่ไม่รู้ระดับพลังของเขาแถมเขายังมาทะลวงระดับการบ่มเพาะหลังการประลองอีก ลูกศิษย์สำนักวิญญาณเหล็กคนอื่นๆอาจจะไม่รู้ว่าตอนที่เยว่ หง ทะลวงระดับนั้น บรรยากาศในสำนักวิญญาณเหล็กในคืนนั้นก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าเยว่ เพราะบรรยากาศในตอนนั้นเต็มไปด้วยความหนาวเย็นที่เย็นไปถึงกระดูก เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กตอนที่เขากำลังนั่งรักษาตัวจากบาดแผลที่เยว่หง เตะมาเขาได้เปิดหน้าต่างไว้ด้วยและสิ่งที่เขาเห็นคือสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่สามารถทนต่อบรรยากาศตอนที่เยว่ หง ทะลวงขั้นได้พวกมันเลยแข็งตาย แม้กระทั้งนกบนฟ้าที่กำลังบินอยู่ในคืนนั้นยังล่วงหล่นลงมาหลายพันตัวในป่าของสำนักวิญญาณเหล็กราวกับสายฝนที่สาดมาจากไหนก็ไม่รู้ แถมตอนที่เยว่ หง มาประชุมเกี่ยวกับเรื่องสัตว์ร้ายเขายังเพลอไปวางท่าใส่เยว่ หง อีก
ผมบรรยายยาวเกินไปมั้ยครับส่วนเรื่องที่อบากถามคือ
ผมคิดพล็อตนิยายไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเดินเรื่องยังไงให้ไปถึงและไม่รู้ว่าก่อนจะถึงพล็อตที่ตั้งไว้ควรใส่Eventเล็กอะไรดีหรือควรใส่ตัวละครหรือเนื้อหาที่เชื่อมไปถึงพล็อตที่ตั้งไว้
ถ้าผมใช้คำว่าพล็อตผิดบอกด้วยนะครับอ่อนิยายผมเป็นนิยายแนวบ่มเพาะนะครับ
ผมบรรยายนิยายของผมยาวเกินไปไหมครับและอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆที่เขียนนิยายกันด้วยครับ
"เหงื่อแตกผลักขนาดนั้นแสดงว่าตอนที่ไปสำรวจไม่ได้สำรวจให้ดีสินะ คงจะคิดว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นแข้งแกร่งแค่อยากเดียวเลยมาขอความช่วยเหลือจากข้าตอนที่ข้าลงมาถึงอาณาจักเบื้องล่าง"เยว่ หง คิดพลางหัวเราะในใจด้วยความเบื่อหน่ายและประมาทของเจ้าสำนักวิญญาณเหล็ก"ถ้าข้าสำรวจดีๆก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากนายน้อยเยว่ หง ล่ะก็ตอนนั้นข้าเล่าไปแบบลวกๆด้วยว่าพวกมันแค่จำนวนเยอะและทรงพลังกว่าข้า แต่ข้าไม่ได้รู้สึกถึงปราณหยินเลยตอนที่ข้าไปตรวจสอบพวกมัน แล้วถ้านายน้อยเยว่ หง ขอให้ข้าอธิบายข้าจะอธิบายยังไงดี?"เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กคิดด้วยความกลัวที่โถมเข้ามาในใจของเขา ครั้งที่แล้วเขาแค่หลอกให้อวี้เหวินไปประลองกับเยว่ หง เพื่อที่จะได้รู้ระดับการบ่มเพาะของเยว่ หง แต่ก็ไม่ได้รู้แถมตอนกลางคืนยังโดนเยว่ หง บุกเข้ามาเตะถึงห้องแค่ทีเดียวเขายังเกลือบตายเลยแล้วนี่บอกข้อมูลผิดๆคงไม่เหลือแม้แต่วิญญาณเจ้าสำนักวิญญาณเหล็กรู้สึกสินหวังมากกว่าเดิมหลังคิดแบบนั้นตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่ซีดออกต่อไปแล้ว แต่มันกลับเต็มไปด้วยความสินหวังที่มากกว่าตอนที่ได้ยินว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นอยู่ในสถานที่ที่มีปราณหยินเขาเหลือบมองไปที่เยว่ หง และดวงตาของเขาก็สบเข้ากับเยว่ หง ที่กำลังมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มดวงตาของเขาหดเล็กลงอย่างลวดเร็วหลังสบตากับเยว่ หง ที่กำลังยิ้มอยู่ และหลบหน้าอย่างรวดเร็วปาดสายฟ้าและคิดถึงสิ่งที่เยว่ หง จะทำกับตนด้วยความกลัวเยว่ หง มองเจ้าสำนักวิญญาณเหล็กที่พึ่งสบตาของเขาและหลบหน้าอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า"ฮ่าฮ่าฮ่า กลัวข้าขนาดนั้นเลยเหรอ?"เยว่ หง หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในใจและเกลือบจะกั้นขำไว้ไม่อยู่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กจะกลัวเยว่ หง ตอนที่เขาเจอเยว่ หง ครั้งแรกเขาคิดด้วยความเห็นแก่ตัวของตนเพียงแค่ว่าจะขอให้เยว่ หง ช่วยอาณาจักรเสียนเหยาของตน จึงได้แสดงท่าทีเคารพเยว่ หง ไปแบบปลอมๆด้วยความไม่จริงใจเพราะคิดว่าเยว่ หง เป็นเพียงเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาจากตระกูลที่ไม่ค่อยยิ่งใหญ่จากอาณาจักรเบื้องบน ต่อมาเขาได้หลอกล่อให้อวี้เหวินไปท้าประลองกับเยว่ หง เพราะต้องการทดสอบเขา แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคือการที่ไม่รู้ระดับพลังของเขาแถมเขายังมาทะลวงระดับการบ่มเพาะหลังการประลองอีก ลูกศิษย์สำนักวิญญาณเหล็กคนอื่นๆอาจจะไม่รู้ว่าตอนที่เยว่ หง ทะลวงระดับนั้น บรรยากาศในสำนักวิญญาณเหล็กในคืนนั้นก็เปลี่ยนไปทันทีราวกับว่าเยว่ เพราะบรรยากาศในตอนนั้นเต็มไปด้วยความหนาวเย็นที่เย็นไปถึงกระดูก เจ้าสำนักวิญญาณเหล็กตอนที่เขากำลังนั่งรักษาตัวจากบาดแผลที่เยว่หง เตะมาเขาได้เปิดหน้าต่างไว้ด้วยและสิ่งที่เขาเห็นคือสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่สามารถทนต่อบรรยากาศตอนที่เยว่ หง ทะลวงขั้นได้พวกมันเลยแข็งตาย แม้กระทั้งนกบนฟ้าที่กำลังบินอยู่ในคืนนั้นยังล่วงหล่นลงมาหลายพันตัวในป่าของสำนักวิญญาณเหล็กราวกับสายฝนที่สาดมาจากไหนก็ไม่รู้ แถมตอนที่เยว่ หง มาประชุมเกี่ยวกับเรื่องสัตว์ร้ายเขายังเพลอไปวางท่าใส่เยว่ หง อีกผมบรรยายยาวเกินไปมั้ยครับส่วนเรื่องที่อบากถามคือผมคิดพล็อตนิยายไว้แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะเดินเรื่องยังไงให้ไปถึงและไม่รู้ว่าก่อนจะถึงพล็อตที่ตั้งไว้ควรใส่Eventเล็กอะไรดีหรือควรใส่ตัวละครหรือเนื้อหาที่เชื่อมไปถึงพล็อตที่ตั้งไว้ถ้าผมใช้คำว่าพล็อตผิดบอกด้วยนะครับอ่อนิยายผมเป็นนิยายแนวบ่มเพาะนะครับ