บทที่ 7 เผชิญหน้า
เช้าวันรุ่งขึ้น อาจารย์บุญลือ เรียกประชุมเหล่าลูกศิษย์ชายหญิงที่เขาอุปการะไว้ ที่เขาตั้งชื่อ
สถานที่แห่งนี้ว่า สำนักปฏิบัติธรรมบุญส่ง เพราะที่ดินแห่งนี้เป็นของบิดาของอาจารย์บุญลือ เขาจึงใช้
ชื่อของบิดา เป็นสถานที่รับเด็กจรจัดไร้ครอบครัว หรือเด็กที่ถูกทอดทิ้ง รายได้ส่วนใหญ่ก็มาจาก
การที่อาจารย์บุญลือ รักษาชาวบ้านในแถบนี้ ด้วยสมุนไพร บางคนโดนคุณไสยก็มาหา ให้เขาช่วยถอน
มนต์ดำออก ก็จะได้เงินเล็กๆน้อยๆ และรายได้อีกทางคือเพาะปลูก ทั้งข้าวสายพันธ์ุต่างๆ ทั้งผัก เห็ด
เลี้ยงโคนม ไก่ไข่ โดยส่วนใหญ่จะเหลือไปขายเพียงเล็กน้อย เพราะโดยมากจะนำมาเลี้ยงดูคนใน
สถานที่แห่งนี้....ตอนนี้ภัยร้ายได้มาเยือนถึงถิ่น อ.บุญลือเอง ก็ไม่มั่นใจว่า จะรับมือปีศาจตนนี้ได้
หรือไม่ เพราะจากพลังที่ส่งมานั้น ถึงแม้จะทำให้พอทราบถึงระดับพลังอาคม แต่เขาจะประมาท ปีศาจ
ตนนี้ไม่ได้ เขาทราบดีว่า อิทธฤทธิ์ของเธอดี ทั้งตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ หรือในขณะนี้ ในเวลา 8 โมงเช้า
ลูกศิษย์ของเขารวมทั้ง ผู้ช่วยที่อาสามาช่วย อ.บุญลือมาตั้งแต่เริ่มเปิดสำนัก มาเพื่อรับฟัง คำสั่ง...
"ที่อาจารย์อยากจะแจ้ง ก็คือให้พวกเราแยกย้ายกันไปหาที่ ที่ปลอดภัย กว่าที่แห่งนี้
อาจารย์ไม่สามารถจะบอกอะไรได้ เพราะเรื่องนี้ มันซับซ้อน
เกินกว่าที่อาจารย์ จะบอกให้ทุกคนรู้... ว่าเกิดอะไรขึ้น''
อาจารย์บุญลือ ถอนลมหาย ก่อนจะกล่าวต่อ ด้วยน้ำเสียงเศร้า
''นี่คือความปลอดภัยของทุกคน เมื่อจากที่แห่งนี้ไปแล้ว จงอย่ากลับมาที่นี่อีก
ถ้าไม่มีข่าวจากอาจารย์ที่ส่งให้ เพราะการกลับมาที่นี่อีก อาจเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเธอ"
ทุกคนในที่นั้น ต่างหันหน้ามองกันไปมา จนศิษย์ที่อายุมากที่สุด. ก็เอ่ยออกมา
"อาจารย์ครับ. ในเมื่อมีภัยมาเยือน พวกเราที่เป็นลูกศิษย์จะไม่ขอไปไหน. เราจะขออยู่เพื่อช่วย
อาจารย์แบ่งเบาภัยในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ไปไหน ถ้าอาจารย์ไม่ไปด้วย"
อาจารย์บุญลือ ใช้สายตาที่เปี่ยมด้วยอำนาจ. ตวาดกลับมาด้วยเสียงดัง
"เหลวไหล เดี๊ยวนี้คำสั่งของอาจารย์ ไม่ศักดิ์สิทธิ์พอแล้วใช่ไหม. พวกแกถึงไม่ยอมฟัง
ถ้าอยากแบ่งเบา. ก็ให้รีบทำตามที่อาจารย์บอก. เพราะการที่พวกแกยังอยู่ที่นี่
นอกจากจะไม่ได้ช่วยแล้ว. ยังทำให้อาจารย์ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ถ้าอยากช่วยละก็ ต้องทำตามที่บอก....คำสั่งไม่ใช่คำร้องขอ.
ต้องทำตาม อย่าขัดคำสั่งเด็ดขาด"
แล้วอาจารย์บุญลือ ก็เดินขึ้นห้องพัก. แล้วให้นายปัญญา ที่เป็นผู้ช่วยในทุกด้านของเขา. แจ้งเรื่อง
สถานที่พวกเขาที่จะไปพักต่อไป. โดยแบ่งออกเป็น สี่ทิศทางที่ต้องไปใช้ชีวิตเป็นการชั่วคราว. เพียง
ครึ่งวัน. ลูกศิษย์และเด็กในอุปการะ ก็แยกย้ายไปตามสถานที่ ที่อาจารย์บุญลือเตรียมไว้ เพราะเรื่องนี้
เขาได้เตรียมการไว้แล้ว ถ้าเกิดมีเหตุไม่คาดฝันขึ้น แล้ววันนี้..... ก็มาถึง......
............................
วรรณออกมาจากห้องพัก ในตอน 8 โมงเช้า เพื่อคืนกุญแจห้องพัก. แล้วเธอก็เริ่มทำตามความตั้งใจ
คือ... ล่าคนที่รู้จักอาจารย์บุญลือ. เมื่อเธอได้รับเงินมัดจำค่ากุญแจคืน. วรรณสอบถามทันที
"คุณป้ารู้จัก สำนักปฏิบัติของอาจารย์บุญลือหรือเปล่าคะ..."
"อืม!!... ถ้าหนูหมายถึงสำนักบุญส่ง. ก็เคยได้ยิน. แต่ป้าไม่แน่ใจว่าเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า...
เดี๊ยวป้าจะลองถาม. แม่บ้านดูก่อนนะ!!..."
แล้วคุณป้าเจ้าของโรงแรมก็ร้องถาม แม่บ้านของเธอ. แล้วคำตอบก็เป็นที่พอใจกับ วรรณ แม่บ้านเดิน
ออกมาบอกกับเธอ อย่างชัดเจน. ส่วนเจ้าของโรงแรม เดินเข้าไปทำงานในห้อง
"สำนักบุญส่ง เป็นของอาจารย์บุญลือจะหนู ท่านชอบช่วยเหลือคนยากคนจน.
แล้วยังรับเด็กกำพร้ามารับเป็นเด็กในอุปการะ. รวมทั้งคนที่ไม่มีที่พักพิง. ท่านเป็นคนดีมากเลย
เออ!... แล้วหนูมีธุระอะไรกับท่านละ. แล้วหนูจะไปถูกหรือ. เพราะจะไปที่นั่นก็ยากเหมือนกัน
ถ้าหนูไม่เคยไป คือทางเข้ามันค่อนข้าง ซับซ้อน... "
วรรณแย้มยิ้มอย่างประหลาด เอ่ยออกมาอย่างปกติ
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ... หนูไปถูก เพราะถ้าป้ารู้จักว่าไปยังไง. หนูก็ไปได้...
ความจริงคุณป้า ทั้งสอง. เป็นคนใจดีมากเลยนะคะ แต่หนูตั้งใจจะทำอะไรแล้ว
หนูจะไม่เปลี่ยนใจหนูจำเป็นต้อง...ทำ..."
แล้วสายตาของวรรณก็แปรเป็นสีแดงวาบขึ้น. แม่บ้านสะดุ้งเฮือก!.. ก่อนจะนั่งที่เก้าอี้หลังเคาน์เตอร์
คอพับไปด้านข้าง. ซึ่งคุณป้าที่นั่งในห้องทำงาน ก็ฟุบหน้าไปที่โต๊ะทำงาน ในขณะที่เธอตรวจบัญชี
ทั้งสองสิ้นใจด้วย เวทย์ปลิดชีพ ของปีศาจฝน เธอมองไปยังห้องที่เก็บฮาร์ดดีส ทำลายข้อมูลในการ
เก็บข้อมูลคนเข้าพักเมื่อวานนี้ และภาพในกล้องวงจรปิด ตั้งแต่เมื่อวานนี้....ทั้งหมด....แล้ว วรรณก็หิ้ว
กระเป๋าเดินทางออกไปจากโรงแรม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....
ร.ต.ท.พัฒนะ. ได้ข้อมูลจากบิดาของวรรณ ว่าโทรศัพท์มือถือของบุตรสาวถูกตัดดับ ก่อนจะปิดเครื่อง.
เขาเดินทางมาที่ สน. ด้วยตนเอง. เพราะเขาคิดว่าบุตรสาวยังมีชีวิตอยู่.
"ผมจะลองเช็คสถานที่สุดท้ายที่โทรศัพท์ปิดเครื่อง ก็น่าจะได้เบาะแสของน้อง
คุณเกียรติไม่ต้องห่วง ผมเองก็อยากรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วคุณอย่าเพิ่งตัดเบอร์โทร
ของน้องในช่วงนี้นะครับ... เออ! แล้วน้องเรียนอยู่ห้องไหนครับ"
"แน่นอนครับ ผมจะไม่ตัดเบอร์นี้อย่างเด็ดขาด... แล้วลูกสาวของผม อยู่ชั้น
ม. 2 ห้อง 3 เธอชื่อ. วรรณ ครับหมวด"
พัฒนะแปลกใจมากขึ้น. เพราะนีรนุช. ก็อยู่ในห้อง. ม. 2 ห้อง 3 เช่นเดียวกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็น
เบาะแสของคดีนี้ หลังจากที่ เกียรติยศ บิดาของวรรณกลับไปแล้ว เขานำรายชื่อของคนเสียชีวิตที่ทาง
นิติเวชส่งรายชื่อแยกเป็นชั้นเรียน เพราะศพที่พบโดยมาก จะอยู่รวมเป็นห้องอย่างระเบียบ. ดังนั้นการ
พิสูจน์เอกลักษณ์จึงทำได้ง่าย รายชื่อโดยสังเขปจึงมาถึงเขาอย่างรวดเร็ว พัฒนะค่อยๆ หาแฟ้มรายชื่อ
ของคนเสียชีวิตไปที่ห้อง 2/3. แล้วนำมาเปรียบเทียบกับรายชื่อของนักเรียนห้อง 2/3 ในเครื่องคอม.
แล้วสิ่งที่เขาคิดก็ถูกต้อง ในห้องเรียนมีทั้งหมด.32 คน. พบศพ 30 คน. มีคนที่ไม่มีรายชื่อก็คือ นีรนุช
และ วรรณ เขาเหลือบตาขึ้นมอง ไปข้างหน้า เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด.
"นีรนุช กับวรรณ คือคนที่เหลือรอด หรือเรื่องนี้ ทั้งสอง จะมีส่วนเกี่ยวข้อง
เพราะทั้งสอง เรียนในห้อง ม.2/3... เหมือนกัน..."
พัฒนะยกโทรศัพท์ไปที่ฝ่ายสืบสวนกลาง เพื่อขอให้เช็คการใช้โทรศัพท์มือถือของวรรณ.เพื่อดูสถานที่
สุดท้ายที่วรรณตัดสายทิ้ง.... เพียงครึ่งชั่วโมง. ข้อมูลก็มาถึงเขาให้ทราบว่า. เป็นโรงแรมมวลหมู่ไม้
จังหวัดสุพรรณ. อำเภอ ดอนเจดีย์ แล้วเขาก็เดินเข้าไป ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา. เพื่อเดินทาง
ไปหาเบาะแสของคดีนี้ แล้วเมื่อได้รับอนุญาต. เขาก็รีบเดินทางไปที่นั่นทันที.....
นีรนุช. มาพักที่โรงแรมในอำเภอเมือง. เมื่อทั้งสองนอนหลับ. นีรนุชสะกดด้วยคาถาหลับข้ามคืน. เพื่อ
ความปลอดภัยของทั้งสอง. นีรนุชออกเดินทางด้วยตัวคนเดียวทันทีในเช้าวันใหม่มาถึง. เธอทิ้งจดหมาย
ไว้ให้ทั้งสองทราบเมื่อตื่นขึ้นในตอนเที่ยง..... น้อยในร่างของ นีรนุช. นั่งรถประจำทาง เพื่อต่อรถไปยัง
อำเภอดอนเจดีย์..... เด็กชายทราบได้ทันที เรื่องร้ายทั้งหมดจะยุติ เมื่อทำลายวิญญาณร้ายที่ชื่อฝน
ลงได้... แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย. ไม่ง่ายอย่างแน่นอน
....................................
ศาสตรา... มหาเวทย์ ตอนที่ 7
เช้าวันรุ่งขึ้น อาจารย์บุญลือ เรียกประชุมเหล่าลูกศิษย์ชายหญิงที่เขาอุปการะไว้ ที่เขาตั้งชื่อ
สถานที่แห่งนี้ว่า สำนักปฏิบัติธรรมบุญส่ง เพราะที่ดินแห่งนี้เป็นของบิดาของอาจารย์บุญลือ เขาจึงใช้
ชื่อของบิดา เป็นสถานที่รับเด็กจรจัดไร้ครอบครัว หรือเด็กที่ถูกทอดทิ้ง รายได้ส่วนใหญ่ก็มาจาก
การที่อาจารย์บุญลือ รักษาชาวบ้านในแถบนี้ ด้วยสมุนไพร บางคนโดนคุณไสยก็มาหา ให้เขาช่วยถอน
มนต์ดำออก ก็จะได้เงินเล็กๆน้อยๆ และรายได้อีกทางคือเพาะปลูก ทั้งข้าวสายพันธ์ุต่างๆ ทั้งผัก เห็ด
เลี้ยงโคนม ไก่ไข่ โดยส่วนใหญ่จะเหลือไปขายเพียงเล็กน้อย เพราะโดยมากจะนำมาเลี้ยงดูคนใน
สถานที่แห่งนี้....ตอนนี้ภัยร้ายได้มาเยือนถึงถิ่น อ.บุญลือเอง ก็ไม่มั่นใจว่า จะรับมือปีศาจตนนี้ได้
หรือไม่ เพราะจากพลังที่ส่งมานั้น ถึงแม้จะทำให้พอทราบถึงระดับพลังอาคม แต่เขาจะประมาท ปีศาจ
ตนนี้ไม่ได้ เขาทราบดีว่า อิทธฤทธิ์ของเธอดี ทั้งตอนที่เธอมีชีวิตอยู่ หรือในขณะนี้ ในเวลา 8 โมงเช้า
ลูกศิษย์ของเขารวมทั้ง ผู้ช่วยที่อาสามาช่วย อ.บุญลือมาตั้งแต่เริ่มเปิดสำนัก มาเพื่อรับฟัง คำสั่ง...
"ที่อาจารย์อยากจะแจ้ง ก็คือให้พวกเราแยกย้ายกันไปหาที่ ที่ปลอดภัย กว่าที่แห่งนี้
อาจารย์ไม่สามารถจะบอกอะไรได้ เพราะเรื่องนี้ มันซับซ้อน
เกินกว่าที่อาจารย์ จะบอกให้ทุกคนรู้... ว่าเกิดอะไรขึ้น''
อาจารย์บุญลือ ถอนลมหาย ก่อนจะกล่าวต่อ ด้วยน้ำเสียงเศร้า
''นี่คือความปลอดภัยของทุกคน เมื่อจากที่แห่งนี้ไปแล้ว จงอย่ากลับมาที่นี่อีก
ถ้าไม่มีข่าวจากอาจารย์ที่ส่งให้ เพราะการกลับมาที่นี่อีก อาจเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเธอ"
ทุกคนในที่นั้น ต่างหันหน้ามองกันไปมา จนศิษย์ที่อายุมากที่สุด. ก็เอ่ยออกมา
"อาจารย์ครับ. ในเมื่อมีภัยมาเยือน พวกเราที่เป็นลูกศิษย์จะไม่ขอไปไหน. เราจะขออยู่เพื่อช่วย
อาจารย์แบ่งเบาภัยในครั้งนี้ พวกเราจะไม่ไปไหน ถ้าอาจารย์ไม่ไปด้วย"
อาจารย์บุญลือ ใช้สายตาที่เปี่ยมด้วยอำนาจ. ตวาดกลับมาด้วยเสียงดัง
"เหลวไหล เดี๊ยวนี้คำสั่งของอาจารย์ ไม่ศักดิ์สิทธิ์พอแล้วใช่ไหม. พวกแกถึงไม่ยอมฟัง
ถ้าอยากแบ่งเบา. ก็ให้รีบทำตามที่อาจารย์บอก. เพราะการที่พวกแกยังอยู่ที่นี่
นอกจากจะไม่ได้ช่วยแล้ว. ยังทำให้อาจารย์ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ถ้าอยากช่วยละก็ ต้องทำตามที่บอก....คำสั่งไม่ใช่คำร้องขอ.
ต้องทำตาม อย่าขัดคำสั่งเด็ดขาด"
แล้วอาจารย์บุญลือ ก็เดินขึ้นห้องพัก. แล้วให้นายปัญญา ที่เป็นผู้ช่วยในทุกด้านของเขา. แจ้งเรื่อง
สถานที่พวกเขาที่จะไปพักต่อไป. โดยแบ่งออกเป็น สี่ทิศทางที่ต้องไปใช้ชีวิตเป็นการชั่วคราว. เพียง
ครึ่งวัน. ลูกศิษย์และเด็กในอุปการะ ก็แยกย้ายไปตามสถานที่ ที่อาจารย์บุญลือเตรียมไว้ เพราะเรื่องนี้
เขาได้เตรียมการไว้แล้ว ถ้าเกิดมีเหตุไม่คาดฝันขึ้น แล้ววันนี้..... ก็มาถึง......
............................
วรรณออกมาจากห้องพัก ในตอน 8 โมงเช้า เพื่อคืนกุญแจห้องพัก. แล้วเธอก็เริ่มทำตามความตั้งใจ
คือ... ล่าคนที่รู้จักอาจารย์บุญลือ. เมื่อเธอได้รับเงินมัดจำค่ากุญแจคืน. วรรณสอบถามทันที
"คุณป้ารู้จัก สำนักปฏิบัติของอาจารย์บุญลือหรือเปล่าคะ..."
"อืม!!... ถ้าหนูหมายถึงสำนักบุญส่ง. ก็เคยได้ยิน. แต่ป้าไม่แน่ใจว่าเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า...
เดี๊ยวป้าจะลองถาม. แม่บ้านดูก่อนนะ!!..."
แล้วคุณป้าเจ้าของโรงแรมก็ร้องถาม แม่บ้านของเธอ. แล้วคำตอบก็เป็นที่พอใจกับ วรรณ แม่บ้านเดิน
ออกมาบอกกับเธอ อย่างชัดเจน. ส่วนเจ้าของโรงแรม เดินเข้าไปทำงานในห้อง
"สำนักบุญส่ง เป็นของอาจารย์บุญลือจะหนู ท่านชอบช่วยเหลือคนยากคนจน.
แล้วยังรับเด็กกำพร้ามารับเป็นเด็กในอุปการะ. รวมทั้งคนที่ไม่มีที่พักพิง. ท่านเป็นคนดีมากเลย
เออ!... แล้วหนูมีธุระอะไรกับท่านละ. แล้วหนูจะไปถูกหรือ. เพราะจะไปที่นั่นก็ยากเหมือนกัน
ถ้าหนูไม่เคยไป คือทางเข้ามันค่อนข้าง ซับซ้อน... "
วรรณแย้มยิ้มอย่างประหลาด เอ่ยออกมาอย่างปกติ
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ... หนูไปถูก เพราะถ้าป้ารู้จักว่าไปยังไง. หนูก็ไปได้...
ความจริงคุณป้า ทั้งสอง. เป็นคนใจดีมากเลยนะคะ แต่หนูตั้งใจจะทำอะไรแล้ว
หนูจะไม่เปลี่ยนใจหนูจำเป็นต้อง...ทำ..."
แล้วสายตาของวรรณก็แปรเป็นสีแดงวาบขึ้น. แม่บ้านสะดุ้งเฮือก!.. ก่อนจะนั่งที่เก้าอี้หลังเคาน์เตอร์
คอพับไปด้านข้าง. ซึ่งคุณป้าที่นั่งในห้องทำงาน ก็ฟุบหน้าไปที่โต๊ะทำงาน ในขณะที่เธอตรวจบัญชี
ทั้งสองสิ้นใจด้วย เวทย์ปลิดชีพ ของปีศาจฝน เธอมองไปยังห้องที่เก็บฮาร์ดดีส ทำลายข้อมูลในการ
เก็บข้อมูลคนเข้าพักเมื่อวานนี้ และภาพในกล้องวงจรปิด ตั้งแต่เมื่อวานนี้....ทั้งหมด....แล้ว วรรณก็หิ้ว
กระเป๋าเดินทางออกไปจากโรงแรม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....
ร.ต.ท.พัฒนะ. ได้ข้อมูลจากบิดาของวรรณ ว่าโทรศัพท์มือถือของบุตรสาวถูกตัดดับ ก่อนจะปิดเครื่อง.
เขาเดินทางมาที่ สน. ด้วยตนเอง. เพราะเขาคิดว่าบุตรสาวยังมีชีวิตอยู่.
"ผมจะลองเช็คสถานที่สุดท้ายที่โทรศัพท์ปิดเครื่อง ก็น่าจะได้เบาะแสของน้อง
คุณเกียรติไม่ต้องห่วง ผมเองก็อยากรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วคุณอย่าเพิ่งตัดเบอร์โทร
ของน้องในช่วงนี้นะครับ... เออ! แล้วน้องเรียนอยู่ห้องไหนครับ"
"แน่นอนครับ ผมจะไม่ตัดเบอร์นี้อย่างเด็ดขาด... แล้วลูกสาวของผม อยู่ชั้น
ม. 2 ห้อง 3 เธอชื่อ. วรรณ ครับหมวด"
พัฒนะแปลกใจมากขึ้น. เพราะนีรนุช. ก็อยู่ในห้อง. ม. 2 ห้อง 3 เช่นเดียวกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็น
เบาะแสของคดีนี้ หลังจากที่ เกียรติยศ บิดาของวรรณกลับไปแล้ว เขานำรายชื่อของคนเสียชีวิตที่ทาง
นิติเวชส่งรายชื่อแยกเป็นชั้นเรียน เพราะศพที่พบโดยมาก จะอยู่รวมเป็นห้องอย่างระเบียบ. ดังนั้นการ
พิสูจน์เอกลักษณ์จึงทำได้ง่าย รายชื่อโดยสังเขปจึงมาถึงเขาอย่างรวดเร็ว พัฒนะค่อยๆ หาแฟ้มรายชื่อ
ของคนเสียชีวิตไปที่ห้อง 2/3. แล้วนำมาเปรียบเทียบกับรายชื่อของนักเรียนห้อง 2/3 ในเครื่องคอม.
แล้วสิ่งที่เขาคิดก็ถูกต้อง ในห้องเรียนมีทั้งหมด.32 คน. พบศพ 30 คน. มีคนที่ไม่มีรายชื่อก็คือ นีรนุช
และ วรรณ เขาเหลือบตาขึ้นมอง ไปข้างหน้า เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด.
"นีรนุช กับวรรณ คือคนที่เหลือรอด หรือเรื่องนี้ ทั้งสอง จะมีส่วนเกี่ยวข้อง
เพราะทั้งสอง เรียนในห้อง ม.2/3... เหมือนกัน..."
พัฒนะยกโทรศัพท์ไปที่ฝ่ายสืบสวนกลาง เพื่อขอให้เช็คการใช้โทรศัพท์มือถือของวรรณ.เพื่อดูสถานที่
สุดท้ายที่วรรณตัดสายทิ้ง.... เพียงครึ่งชั่วโมง. ข้อมูลก็มาถึงเขาให้ทราบว่า. เป็นโรงแรมมวลหมู่ไม้
จังหวัดสุพรรณ. อำเภอ ดอนเจดีย์ แล้วเขาก็เดินเข้าไป ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา. เพื่อเดินทาง
ไปหาเบาะแสของคดีนี้ แล้วเมื่อได้รับอนุญาต. เขาก็รีบเดินทางไปที่นั่นทันที.....
นีรนุช. มาพักที่โรงแรมในอำเภอเมือง. เมื่อทั้งสองนอนหลับ. นีรนุชสะกดด้วยคาถาหลับข้ามคืน. เพื่อ
ความปลอดภัยของทั้งสอง. นีรนุชออกเดินทางด้วยตัวคนเดียวทันทีในเช้าวันใหม่มาถึง. เธอทิ้งจดหมาย
ไว้ให้ทั้งสองทราบเมื่อตื่นขึ้นในตอนเที่ยง..... น้อยในร่างของ นีรนุช. นั่งรถประจำทาง เพื่อต่อรถไปยัง
อำเภอดอนเจดีย์..... เด็กชายทราบได้ทันที เรื่องร้ายทั้งหมดจะยุติ เมื่อทำลายวิญญาณร้ายที่ชื่อฝน
ลงได้... แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย. ไม่ง่ายอย่างแน่นอน
....................................